CF:บทที่ 797 การทานอาหารที่ไม่คาดฝัน
มองมาที่หลิวหมิงเยี่ยและอู๋ฮ่าวเหรินที่กำลังสนิทสนม, ใบหน้ายิ้มของฉางเจี๋ยก็กลายเป็นไปหน้าอึดอัดขึ้นมาในเวลานี้
อย่างไรก็ตาม, ในฐานะที่เป็นลูกชายคนโตของตระกูลฉาง, ฉางเจี๋ย ชนชั้นเศรษฐีใหม่แห่งสหภาพมนุษย์, ไม่นานนักก็ได้กักเก็บความโกรธไว้ในหัวใจเขา
"เขาคือ?"
ถึงแม้เขาจะพอคุ้นหน้าอู๋ฮ่าวเหรินอยู่บ้าง, แต่ฉางเจี๋ยนั้นกลับไม่สามารถจดเอกลักษณ์เฉพาะของเขาได้
เหตุผลหลักๆคือใครๆต่างก็รู้ว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นมีภรรยาที่สวยมาก
สายตาของหลิวหมิงเยี่ยขยับ, ก่อนที่้อู๋ฮ่าวเหรินจะได้พูดอะไร เธอก็พูดขึ้นมาก่อน "นี่คืออู๋ซิง, เป็นลูกพี่ลูกน้องของหัวหน้าของพวกเรา
ราวกับว่ากำลังกลัวอู๋ฮ่าวเหรินจะทำความแตก, หลิวหมิงเยี่ยจึงได้หยิกเอวของอู๋ฮ่าวเหริน
"สวัสดีครับ, ชื่อของผมคืออู๋ซิงครับ"
ฉางเจี๋ยนั้นตกใจ, เพราะพูดถึงหัวหน้าของหลิวหมิงเยี่ย, แน่นอนว่าใครก็รู้จัก เพราะเขาคือตำนานผู้ที่เปลี่ยนโลกทั้งใบ
"สวัสดีครับ, สวัสดี"
ฉางเจี๋ยรู้สึกท้อขึ้นมา, เพราะถ้าเป็นคนอื่น, ด้วยอิทธิพลของเขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร
แต่เมื่อต้องเผชิญกับบุคคลในตำนานนั้น, อย่าว่าแต่เขาเลย, แม้แต่ลูกของสภาสหภาพก็ยังไม่กล้ายุ่ง
ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า, ทำไมพวกคนที่เหมือนจะเป็นพวกชนชั้นสูงถึงได้ชอบทำตัวดื้อรั้นและเห็นเหล่าพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นเป็นเหมือนเป้าหมายให้จับนักก็ไม่รู้
หลังจากที่ทั้งสามคนนั่งลง, ฉางเจี๋ยก็ได้ให้หลิวหมิงเยี่ยสั่งอาหาร แล้วจากนั้นก็หันมาคุยกับอู๋ฮ่าวเหริน
อย่างที่หลิวหมิงเยี่ยว่าเอาไว้, เขาไม่รู้จริงๆ
เดิมที, การไล่ตามจีบหลิวหมิงเยี่ยนั้นมีความหมายกับตระกูลของเขา, นอกจากนี้ หลังจากที่เขาได้พบกับหลิวหมิงเยี่ย เขามีความรู้สึกดีๆให้กับหลิวหมิงเยี่ยจริงๆขึ้นมา
แต่ในเวลานี้ก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะหาทางติดต่อกับคนในตระกูลของอู๋ฮ่าวเหรินผ่านทางหลิวหมิงเยี่ย
ตระกูลฉางของพวกเขาที่ต้องการจะพัฒนาและเติบโต, ย่อมไม่พลาดที่จะต้องติดต่อกับฟิวเจอร์กรุ๊ป
ในปัจจุบัน, การอพยพของมนุษยชาตินั้นขึ้นอยู่กับฟิวเจอร์กรุ๊ป, แม้แต่การบุกเบิกอวกาศก็ยังจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากฟิวเจอร์กรุ๊ป
และถ้าพวกเขาต้องการที่จะขับเคลื่อนโรงแรมของเขาไปในอวกาศ, พวกเขาจำเป็นต้องพึ่งพาฟิวเจอร์กรุ๊ป
"คุณอู๋ครับ, ผมได้ยินมาว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นได้ทำการบุกเบิกดาวมากมายที่เหมาะสมแก่การอยู่อาศัยมนุษย์อยู่
อู๋ฮ่าวเหรินไม่คาดคิดว่าคนๆนี้ไม่รบกวนอะไรเขา, แต่กลับคุยกับเขาอย่างดี
เขาคิดว่าฉางเจี๋ยนั้นจำเขาได้แล้ว, แต่ทว่าดูจากท่าทีของฉางเจี๋ยแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้สึกตัว
"มันจริงอยู่ที่ว่าดวงดาวมากมายนั้นถูกพัฒนาขึ้นมาสำหรับการอาศัยอยู่, แต่ทว่า มนุษยชาติของพวกเรานั้นยังน้อยมากเกินไป, และมีดาวอีกมากมายที่พัฒนาไปก็ไร้ประโยชน์"
"มันก็จริงเพราะจักรวาลนั้นกว้างใหญ่เกินไป, แต่ประชากรมนุษย์ถึงแม้จะดูเหมือนแออัด, แต่หากเทียบกับจักรวาลแล้ว, มันดูน้อยเกินไปจริงๆ"
ในเวลานี้, หลิวหมิงเยี่ยได้วางเมนูลง, และมองดูฉางเจี๋ยที่ไม่รบกวนอะไรเธอ, แต่คุยกับอู๋ฮ่าวเหรินแทน เธอจึงรู้ว่าปัญหาของเธอได้ถูกสะสางแล้ว
"พวกคุณทั้งสองคนกำลังคุยอะไรกันอยู่เหรอ?"
ฉางเจี๋ยจึงได้หันมามองที่หลิวหมิงเยี่ยและพูดด้วยรอยยิ้ม "ผมก็กำลังคุยถึงคุณนั้นแหละ, คุณอู๋บอกว่าคุณเป็นคนดีมากและเขาก็รักคุณมากเช่นกัน"
ได้ยินที่ฉางเจี๋ยพูด, อู๋ฮ่าวเหรินก็ตกใจ, เขาไม่คิดว่าคนๆนี้จะพูดอย่างนี้ออกมา
แม้แต่หลิวหมิงเยี่ยก็ยังยิ้มรับและกระพริบตาให้กับอู๋ฮ่าวเหรินแล้วพูดขึ้น "แน่นอน, ก็ฉันน่ะเป็นผู้หญิงที่สวยขนาดนี้, มีเพียงแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่ไม่สน"
อู๋ฮ่าวเหรินมองดูสีหน้าของเธอและรู้ว่าเธอกำลังใช้โอกาสนั้นหลอกว่าเขาอยู่
คิดว่านี่เป็นอะไรที่น่าสังเวชที่สุดแล้ว, ที่ยอมมาเป็นโล่ห์ให้เธอ, แล้วยังโดนว่าโดยที่ตอบโต้ไม่ได้อีก
"ใช่แล้ว, ใช่แล้ว, มีเพียงคนโง่เท่านั้นที่ไม่สน, คุณและคุณอู๋ดูเป็นคู่ที่เหมาะสมดีมาก"
เมื่อได้ยินที่ฉางเจี๋ยพูด, สีหน้าของอู๋ฮ่าวเหรินก็มืดขึ้นมาทันที, เขาทำได้แค่ยิ้มแบบแห้งๆเท่านั้น
หลิวหมิงเยี่ยพบว่าฉางเจี๋ยนั้นค่อยน่าคบหาขึ้นมา, และพูดในใจ
"พูดได้ดีมาก, ดูเหมือนว่าคุณจะไม่น่ารำคาญอย่างที่คิด, ถ้าเป็นเช่นนี้ในอนาคต, ถ้าเกิดว่าคุณปิ๊งสาวสวยที่ไหนเข้า, อาเจ๊คนนี้จะช่วยคุณเอง"
เธอไม่คิดว่าฉางเจี๋ยนั้นจะชมหลิวหมิงเยี่ยและอู๋ฮ่าวเหรินโดยที่ไม่มีอะไรการเหน็บแนมอะไรเช่นนี้
บรรยากาศก็ได้เปลี่ยนจากความน่าอึดอัดกลายเป็นบรรยากาศชื่นมื่น
"ปัง, ปัง, ปัง"
มีเสียงเคาะประตูอย่างหนักดังขึ้นมาจากข้างนอก, ราวกับว่ามีคนที่กำลังคนกำลังทุบประตูอยู่ด้านนอก
แต่ด้วยความทนทานของวัสดุที่ใช้ทำที่นี่ทำให้ทั้งสามคนไม่ค่อยได้ยินเสียงจากข้างนอก
หลิวเฟย, ผู้จัดการโรงแรมได้พูดกับชายหนุ่มที่เย่อหยิ่งคนนี้ด้วยสีหน้าที่ใจดี "คุณเฉียนครับ, มีแขกท่านอื่นอยู่ในห้องนี้จริงๆครับ, ถ้าไม่มีคนโรงแรมก็ไม่ได้เงินนะครับ, โรงแรมของเราเสกเงินขึ้นมาเองไม่ได้หรอกครับ"
มีอยู่ 4 คนที่ยืนอยู่ข้างกับนายน้อยเฉียน, โดยอีกสองคนเป็นชาวต่างชาติผมบลอนด์, ซึ่งคนหนึ่งเป็นผู้หญิงที่สวย
และอีกสองคนเป็นชาวจีน, มองมาที่นายน้อยเฉียนอย่างสนใจ, พวกเขาไม่มีความคิดที่จะเข้ามายุ่งอะไรด้วย
"ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะข้า, เฉียนเผิงไว้หน้าผู้จัดการหลิวล่ะก็, ข้าคงไม่มาใช้ห้องส่วนตัวของที่นี่หรอก"
"คุณเฉียนครับ, ถึงคุณจะพูดอย่างนั้นก็ตาม, แต่คุณก็ไม่ได้จองห้องผ่านทางโรงแรมของเราก่อน, นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมห้องนี้ถึงถูกจองโดยคนอื่นไปแล้วครับ"
"คุณหมายความว่ายังไง, คิดว่าผมไม่มีปัญญาจ่ายรึไง!"
เสียงของนายน้อยเฉียนดังขึ้นไปอีกและมองมาที่หลิวเฟยด้วยความโกรธ
สีหน้าของหลิวเฟยนั้นหดหู่มากกว่าเดิมอีก, คนๆนี้ไม่เคยจ่ายเงินเลย, เอาแต่จดบัญชีเชื่อซ้ำแล้วซ้ำอีก
"คุณเฉียนครับ, คุณเฉียน ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นครับ"
"เฮอะ, ผมไม่สนใจหรอกนะว่าคุณจะหมายความว่าอย่างไหน, แต่ผมจะเอาห้องนี้, คุณต้องให้คนในห้องนี้ย้ายออกไป"
"ปัง!"
แล้วประตูห้องนั้นก็เปิดออกมาจากข้างใน, ฉางเจี๋ยยืนมองดูข้างนอกด้วยความสงสัย
"ผู้จัดการหลิว, เกิดอะไรขึ้นที่นี่?"
หลิวเฟยนั้นไม่คิดว่าคนที่ใช้ห้องส่วนตัวห้องนี้นั้นจะเป็นบุตรคนโตของตระกูลฉาง
คนที่ตามมาด้วยนั้นก็ไม่ได้บอกเขาเรื่องนี้เลย ซึ่งทำให้เขาโมโหมาก, ไม่อย่างนั้นเหตุการณ์ในวันนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
ฉางเจี๋ยนั้นเคยพบกับเฉียนเผิงมาก่อน, และจึงพอจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
คนๆนี้, เขาเคยพบมาแล้วหลายครั้ง, แต่เขาไม่เคยคิดที่จะสานสัมพันธ์ด้วย, ฟังจากที่พ่อของเขาว่า พ่อของคนๆนี้เป็นคนที่ปล่อยให้เช่ายานอวกาศของฟิวเจอร์กรุ๊ปในราคาที่ถูก
"เฉียนเผิง, นี่มันอะไรกัน?"
"เป็นคุณเองหรอกเหรอที่ใช้ห้องส่วนตัวนี้อยู่, ผู้จัดการหลิวทำไมคุณไม่บอกล่ะว่าเป็นฉางเจี๋ย? งั้นผมใช้ห้องร่วมกับเขาก็ได้, ฉางเจี๋ยวันนี้ผมมีเพื่อนคนสำคัญมาด้วย, และผมอยากที่จะแนะนำให้คุณได้รู้จัก"
มองดูเฉียนเผิงที่พยายามจะพาคนเข้ามาในห้องส่วนตัว, ฉางเจี๋ยจึงได้หยุดเขาก่อน
พ่อของเฉียนเผิงจะมีความสัมพันธ์กับตระกูลของเขาอยู่, เพราะตระกูลของเขาจำเป็นต้องใช้พ่อของคนๆนี้ในการช่วยเขาหายานบินให้
อย่างไรก็ตาม, แขกทั้งสองคนในห้องก็สำคัญมากเช่นกัน, เขาจึงไม่สามารถปล่อยให้เข้าไปรบกวนพวกเขาได้
ไม่ว่าจะเป็นหลิวหมิงเยี่ยที่มีตำแหน่งที่สำคัญในฟิวเจอร์กรุ๊ปก็ดี หรืออู๋ซิงซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของบุคคลในตำนานก็ดี
"ฉางเจี๋ย, นี่มันหมายความว่าอย่างไร?"
การถูกหยุดโดยฉางเจี๋ย, ทำให้เฉียนเผิงรู้สึกเสียหน้ามาก, ในความคิดของเขานั้น มันเป็นเกียรติมากแท้ๆที่เขาอุตส่าห์จะแนะนำเพื่อนที่เขาพามากับฉางเจี๋ย
"ขอโทษด้วย, แต่ยังมีแขกอยู่ในห้อง, ถ้ามีธุระเอาไว้ค่อยคุยกันวันหลังนะ"
"ขอข้าดูแขกคนที่ว่าหน่อยสิ"
เขายืดหัวเข้ามาดูในห้อง, ก็พบกับหลิวหมิงเยี่ย, ส่วนอู๋ฮ่าวเหรินนั้นเขามองไม่เห็นว่าเขานั่งอยู่ข้างในด้วย
"ฮ่าๆ, เหมือนจะมีสาวงามอยู่ซะด้วย, ผมอยากที่จะรู้จักคุณจัง"
ด้วยเหตุนั้น เขาจึงได้เดินเข้าไปข้างใน
2 ความคิดเห็น
ตอนต่อไป(798)เข้าไม่ได้...หรือไม่มี ก็แจ้งด้วยนะครับ
ตอบลบไม่มีครับ
ลบ