CF:บทที่ 796 โล่ห์

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 796 โล่ห์

 

คนที่ติดต่อเขามานั้นไม่ใช่ใครอื่น, แต่เป็นทร็อด หัวหน้าของชาวซีซาร์ที่ไปทำงายบุกเบิกเขตดาวจงหัว

 

มีปัญหาเกิดขึ้นที่นั่นอีกแล้ว, จริงๆแล้วหลังจากที่สงครามเกิดขึ้น อารยธรรมรอบๆนั้นต่างก็ยังคงจริงใจและสงบสุขดีอยู่

 

โดยเฉพาะหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ของอารยธรรมคานส์, อารยธรรมต่างๆโดยรอบก็ไม่กล้าที่จะมาทำอะไรเขตดาวนี้อีก

 

แต่ในเวลานี้, สหพันธรัฐต่างก็เต็มไปด้วยสงคราม, อารยธรรมมากมายก็ได้เริ่มทำสงครามรุกราน, แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่อาจอยู่เฉยได้

 

"นายพลทร็อด, เกิดอะไรขึ้นที่นั่นอย่างงั้นเหรอ?"

 

"จากข้อมูลที่ได้รับมา, พวกเขาจะต้องบุกเข้ามาเขตดาวนี้แน่นอนครับ, ยิ่งไปกว่านั้นยังมีอารยธรรมมากมายที่เคยร่วมมือกันเพราะเรื่องในครั้งก่อน, พวกเราไม่สามารถที่จะต่อกรกับอารยธรรมร่วมพวกนี้ได้แน่ครับ"

 

"พวกเขาประกาศทำสงครามรึยัง?"

 

"ยังครับ, อารยธรรมทั้งหมดโดยรอบต่างก็ระวังเรื่องนี้และยังเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ครับ, ไม่มีอารยธรรมไหนที่กล้าเปิดก่อนแน่นอนครับจากสถานการณ์ในปัจจุบัน, แต่สถานการณ์เช่นนี้คงอยู่ต่อไปได้ไม่นานมากนักครับ"

 

"ทำไมรึ?"

 

"ตอนนี้อารยธรรมส่วนใหญ่กำลังรวมตัวกันอยู่, และเมื่อได้ที่การรวมตัวนี้จบลง, อารยธรรมที่ไม่ได้เข้าร่วมก็จะถูกยึดครองไปอย่างแน่นอนครับ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินไม่คิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นได้, ในสถานการณ์เช่นนี้การที่อารยธรรมทั้งหมดรวมตัวกันสู้ด้วยกัน, แทบจะไม่เกิดขึ้นบ่อยนักในเมื่อก่อน

 

บางทีอาจเป็นเพราะการเข้ามาแทรกแซงของเขา, ทำให้สหพันธรัฐได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

 

ในปัจจุบัน, มีอารยธรรมที่อ่อนแอมากมายในสหพันธรัฐที่เริ่มที่จะก่อตังพันธมิตรชั่วคราวขึ้นมา

 

"แล้วทางอารยธรรมซีซาร์ล่ะ, พวกเราสามารถขอให้ส่งกองทัพมาช่วยได้มั๊ย?"

 

"ไม่ได้ครับ, มีสงครามทางฝั่งอารยธรรมซีซาร์เหมือนกัน, เป็นไปไม่ได้ที่ทางสภาจะส่งกองทัพมาช่วยในคราวนี้ได้ครับ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกปวดหัวขึ้นมา, เขานั้นมีกองกำลังที่จำกัดที่นี่, ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนส่งกองกำลังมาช่วยเขาแน่

 

และเขตดาวนั้นก็สำคัญมากเสียด้วย, จะปล่อยให้ตกเป็นของอารยธรรมอื่นไปไม่ได้

 

"คุณส่งคำเตือนออกไปยังอารยธรรมใกล้เคียง, หากพวกคุณจะสู้กับใคร พวกเราจะไม่สนใจ, แต่ถ้าหากมีใครคิดจะมาทำอะไรกับเขตดาวนี้, ผมจะทำให้พวกเขากลายเป็นแบบอารยธรรมคานส์เป็นรายต่อไป

 

"เข้าใจแล้วครับ, ผมจะรีบดำเนินการเดี๋ยวนี้"

 

เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินเดินออกมา, เขาก็คิดถึงสถานการณ์ในปัจจุบันของกองกำลังของเขา

 

และก็พบว่าเขาไม่มีกองกำลังที่จะส่งไปช่วยได้นอกจากยานรบที่ประจำการอยู่ที่เขตดาวบลู

 

และจากสภาพของมนุษยชาติในปัจจุบัน, ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้เข้าร่วมในสงครามเช่นนี้ได้

 

"ปวดหัวว้อย!"

 

จากสถานการณ์ในปัจจุบันของมนุษยชาติ, การป้องกันสามารถพึ่งพาได้แค่ป้อมปืนที่ทรงพลังที่ใช้ยิงเปิดเท่านั้น, ไม่มีหนทางอื่นเลย

 

ยิ่งไปกว่านั้น, เมื่อใดที่ตัวตนของเขาถูกเปิดเผย, คนพวกนั้นคงได้ตัดสินใจลงมือแน่ เมื่อพวกเขารู้ว่าไม่มีกองกำลังไหนที่หนุนหลังเขาอยู่

 

ในเวลานี้มีอารยธรรมมากมายที่อยากจะฆ่าเขา, ถ้าเขารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้, เขาไม่น่าขายข้อมูลพวกนั้นเลย         

 

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นรู้ดีว่ามันคือความเป็นจริงที่เขาต้องแบกรับ, เดิมทีเขาก็เป็นแค่คนตัวเล็กๆ ที่ไม่มีใครสนใจเขาแท้ๆ

 

แต่ด้วยปัญหาในเวลานี้, เขานั้นมีชื่อเสียงมากในสหพันธรัฐ, และอารยธรรมเหล่านั้นต่างก็อยากที่จะรู้ว่าเขานั้นไปได้ข้อมูลมาจากที่ไหนกันแน่

 

"เฮ้อ! ดูเหมือนพอมีได้ก็จะต้องมีเสียจริงๆนะ!"

 

"อ้าว ท่านหัวหน้า, ทำไมถึงมานั่งถอนหายอยู่ที่นี่ได้ล่ะ? หรือไปทำอะไรให้เมิ่งเสวี่ยโกรธอีกแล้วล่ะสิ?"

 

"อืม, หลิวหมิงเยี่ยเองหรอกเหรอ, คุณยังไม่ได้กลับไปอีกรึ?"

 

มองดูหลิวหมิงเยี่ยที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา, สวมชุดกระโปรงยาวสีฟ้าสุดเซ็กซี่ และยืนกอดอกด้วยแขนทั้งสองข้าง, เพื่อเค้นหน้าอกให้ออกมามากขึ้นพร้อมกับยิ้ม

 

"หืม, ฉันก็กำลังรอคุณอยู่ที่นี่แหละ, ฉันโทรไปหาเมิ่งเสวี่ยแล้ว, ว่าจะขอยืมตัวคุณซักวันน่ะ" หลิงหมิงเยี่ยทำเป็นพูดขึ้นมาอย่างลึกลับ

 

"หา! คุณหมายความว่ายังไงที่บอกว่าจะยืมตัวผมน่ะ?"

 

อู๋ฮ่าวเหรินมีสีหน้ากำลังสับสน, ไม่คิดว่าความต้องการของหลิวหมิงเยี่ยนั้นจะแรงกล้าขนาดนี้

 

เขาได้ยินมาจากเซี่ยเสวี่ยว่า, ในหมู่พวกเธอกำลังวางแผนอะไรบางอย่างอยู่

 

"มัวแต่มองอะไรอยู่, ตามฉันมา, เวลาไม่คอยท่าแล้วนะ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินถูกดึงแขนและให้เดินตามออกไปข้างนอก

 

"ถ้าคุณจะพาผมไป ก็ช่วยบอกมาด้วยว่าจะไปทำอะไร?"

 

"ทำไมถึงช่างทำตัวน่าเบื่อแบบนี้, คุณไม่อยากที่จะไปกับฉันรึยังไง?"

 

อู๋ฮ่าวเหรินก็อยากที่จะพูดอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้พูดออกไปจริงๆ, แต่เขารู้ดีว่าถ้าเกิดเขาพูดออกไปแบบนั้น, เขาคงจะได้กลายเป็นคนที่โชคร้ายแน่ๆ

 

ในเมื่อหลิวหมิงเยี่ยไม่ยอมบอกอะไรกับเขา,

เขาจึงทำได้แค่ส่ายหัวแล้วเดินตามหลิวหมิงเยี่ยไป

 

"ขึ้นรถ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองดูประตูรถลอยฟ้าสีแดงที่เปิดออกมาแล้วขึ้นไปนั่ง, แล้วหลิวหมิงเยี่ยก็ขึ้นรถนั่งข้างกับเขา

 

หลิวหมิงเยี่ยเปิดตู้เย็นออกมาแล้วถาม "อยากจะดื่มอะไรไหม?"

 

"ขอชาละกัน, ตอนนี้คุณพอจะบอกผมได้หรือยัง, ว่าจะพาผมไปที่ไหน? ไปทำอะไร?"

 

"ก็แค่อยากจะพาไปเจอกับใครบางคนแล้วช่วยฉันแก้ปัญหาให้หน่อยน่ะ"

 

"คุณจะเอาผมไปเป็นโล่ห์อย่างงั้นเหรอ?"

 

หลิวหมิงเยี่ยจ้องมาที่อู๋ฮ่าวเหรินแล้วพูดขึ้น "ก็แค่เป็นโล่ห์เท่านั้นแหละน่า, หรือว่าคุณจะไม่ทำ"

 

"ดะ, ได้ครับ, ผมอยากทำครับ, ผมจะเป็นโล่ห์ให้ครับ"

 

ไม่นานนักรถลอยฟ้าก็มาถึงศูนย์ธุรกิจที่หรูหรา

 

อู๋ฮ่าวเหรินเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก

 

เมื่อเขามาถึงลานจอดรถที่โรงแรมแล้วลงออกมา, หลิวหมิงเยี่ยก็พูดขึ้น "อย่าทำพลาดล่ะ"

 

"ผมสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุดครับ, แต่คุณมั่นใจนะว่าคนที่พวกเราจะพบเนี่ยจะไม่รู้จักผมน่ะ?"

 

จากสถานการณ์ของเขาในปัจจุบัน, ถ้าจะมีคนบนโลกที่ไม่รู้จักเขา ก็คงจะมีแต่เด็กแรกเกิดเท่านั้น

 

"ไม่เป็นไรหรอกน่า, ต่อให้รู้จักก็ไม่เป็นไร"

 

ในเมื่อคนที่จะไปพบไม่สนใจ, อู๋ฮ่าวเหรินก็ทำได้แค่ยักไหล่แล้วเดินตามเธอเข้าไปข้างใน

 

มีหุ่นสมองกลสองตัวอยู่ที่ประตู, ในเวลานี้งานง่ายๆส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องใช้ผู้คนอีกแล้ว

 

ยิ่งไปกว่านั้น, ด้วยการเพิ่มอายุขัยของมนุษย์, ผู้คนจำนวนมากจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาเพื่อร่ำเรียนหาความรู้ใหม่ๆ เพื่อที่จะปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยนี้ได้

 

ฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นจะต้องทำให้มั่นใจว่าต่อให้มนุษยชาติไม่มีงานทำ, ก็จะต้องไม่มีปัญหาอะไรในการใช้ชีวิตขั้นพื้นฐาน

 

แน่นอนว่า, ระยะเวลาว่างงานนั้นมีขีดจำกัด, ถ้าไม่ใช่กรณีพิเศษจริงๆ, หลังจากที่ผ่านไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง, คนเหล่านั้นก็จะต้องออกมาทำงานเพื่อเลี้ยงดูตัวเอง

 

ทั้งสองคนเดินเข้ามาในโรงแรม, โดยที่ไม่มีใครสนใจอะไร, คงไม่มีใครที่คิดว่าคนอย่างอู๋ฮ่าวเหรินนั้นจะมาที่นี่เพื่อทานอาหารค่ำแน่, ถึงแม้ว่าจะเป็นโรงแรมที่สุดหรูก็ตาม

 

"ห้องที่ 6 "

 

หุ่นยนต์ต้อนรับ, เดินนำทั้งสองมาที่ห้องที่ 6

 

"บอกผมเกี่ยวกับชายคนนั้นมา, แล้วผมจะช่วยคุณ"

 

หลิวหมิงเยี่ยกอดแขนของอู๋ฮ่าวเหรินเอาไว้แล้วดึงให้อู๋ฮ่าวเหรินเข้ามาใกล้ๆ

 

"อย่าขัดขืนนักเลยน่า, คุณบอกว่าจะช่วยฉันแล้ว, คนๆนั้นน่ะคือลูกพี่ลูกน้องฉันเอง, หลังจากที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงเพราะคุณ, ครอบครัวของเขาก็ได้ส่งให้ลูกๆออกไปหาความรู้ใหม่ๆ, แต่ในเวลานี้ด้านการจัดทำอาหาร, อย่างที่คุณรู้ เทคโนโลยีที่มีนั้นส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมด้านการจัดทำอาหารน้อยมาก"

 

อู๋ฮ่าวเหรินผงกหัว, ผลกระทบจากวิทยาการและเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมจัดทำอาหารนั้นเล็กน้อยจริงๆ, เหล่าเชฟนั้นมีการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุดในทุกๆอาชีพ

 

นอกจากการอุบัติของอุปกรณ์ทำอาหารใหม่ๆสำหรับการทำอาหาร และวัตถุดิบใหม่ๆที่ได้มาจากดาวดวงอื่นๆ, แต่โดยพื้นฐานก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน

 

ทันทีที่พวกเขาเข้ามาให้ห้องที่ 6, เขาก็พบกับหนุ่มหล่อที่กำลังลุกขึ้นยืน

 

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นยอมรับว่าคนๆนั้นหล่อกว่ากว่าเขามาก, โดยเฉพาะใบหน้าที่อยากทำให้เขาอยากจะต่อยขึ้นมา

 

ก่อนที่ประตูจะเปิดนั้น, ฉางเจี๋ยผู้ซึ่งกำลังยิ้มอยู่และเตรียมพร้อมที่จะพบกับหลิวหมิงเยี่ย, และเมื่อพบว่าหลิวหมิงเยี่ยและอู๋ฮ่าวเหรินเข้ามา เขาก็ลุกขึ้นยืนอย่างเก้ๆกังๆ

 

"หมิงเยี่ยคุณมาแล้วเหรอ? แล้วคนๆนี้คือ?"

 

ฉางเจี๋ยรู้สึกว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นดูสนิทกับเธอมาก, และทำให้เขานั้นนึกหน้าของอู๋ฮ่าวเหรินไม่ออกไปสักระยะ

 

"นี่แฟนหนุ่มของฉันเอง, คุณบอกไม่อยากพบเขา, ฉันก็เลยพาเขามาหาเอง" หลิวหมิงเยี่ยกล่าว



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น