CF:บทที่ 782 สัตว์ประหลาดที่ไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 782 สัตว์ประหลาดที่ไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน

 

ในเวลานี้, สถานการณ์ในเขตดาวที่ๆอารยธรรมทายะล่าอยู่นั้นทำให้ชาวทายะล่านั้นรู้สึกยินดีและหมดหนทาง

 

เดิมที, ด้วยการช่วยเหลือจากทางสภาของสหพันธรัฐถึงแม้ว่าผลการต่อสู้กับเจ้าตัวเขมือบจะออกมาดี, แต่มันก็ยังยากมากเกินไป

 

ด้วยการเพิ่มจำนวนที่น่ากลัวของเจ้าตัวเขมือบ, ได้ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัว

 

ในเวลานี้, อารยธรรมมากมายต่างก็โผล่มา, พวกเขาใช้ทั้งการข่มขู่และการกดดันเพื่อขอมาช่วยเหลืออารยธรรมทายะล่า

 

ยิ่งไปกว่านั้น, อารยธรรมต่างๆจำนวนมากเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ทรงพลังมาก

 

เหล่าผู้นำระดับสูงของอารยธรรมทายะล่านั้นไม่ใช่คนโง่, ซึ่งไม่นานนักพวกเขาก็รู้แน่ชัดว่าอารยธรรมเหล่านี้มาเพื่อเจ้าตัวเขมือบ

 

ด้วยความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของเจ้าตัวเขมือบนั้นได้ดึงดูดความสนใจของอารยธรรมต่างๆ

 

ถึงแม้พวกเขาอยากที่จะปฏิเสธการช่วยเหลือก็ตาม, แต่ก็น่าเสียดายที่จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ทำให้พวกเขาทำแบบนั้นไม่ได้

 

ในสถานการณ์เช่นนี้, ยานรบจากหลายๆอารยธรรมจึงได้บุกเข้ายึดเขตดาวของอารยธรรมทายะล่า

 

ส่วนพวกเจ้าตัวเขมือบนั้น, ราวกับว่ารู้สึกได้ถึงอันตราย พวกมันก็เริ่มที่จะหลบหนีไปยังเขตดาวที่อยู่ใกล้เคียง

 

ปฏิบัติการวิ่งไล่จับกับพวกตัวเขมือบจึงได้เริ่มขึ้น, และก็ได้มีอารยธรรมที่มาเข้าร่วมหลังจากที่ได้ทราบเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

 

ด้วยความสามารถพิเศษในการขุดหาแร่ของพวกมัน, ทำให้พวกมันกลายเป็นนักขุดแร่ที่ยอดเยี่ยม

 

พวกมันสะดวกสบายยิ่งกว่าหุ่นยนต์และอุปกรณ์ขนาดใหญ่เสียอีก, แร่ที่พวกมันรวบรวมขึ้นมานั้นยังถูกสกัดเรียบร้อยแล้วด้วย

 

แน่นอนว่าเพราะสถานการณ์เช่นนี้ทำให้ชุดเกราะรบของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นได้รับยอดสั่งซื้อเป็นจำนวนมากอีกครั้ง

 

เมื่อลู่เปงเฟยได้ทราบข่าวนี้, เขาก็รู้สึกไม่คาดฝัน, เพราะแต่เขายังคงกังวลเรื่องการขาดทุนของอีกสองผลิตภัณฑ์อยู่ดี

 

จากนั้นเขาก็ได้ลงมือตรวจสอบสถานการณ์และไม่นานนักเขาก็รู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่อารยธรรมทายะล่า

 

"คุณจะบอกว่าที่อารยธรรมทายะล่านั้น, มีตัวประหลาดที่สามารถสกัดสินแร่ได้อย่างงั้นรึ?"

 

"ใช่ครับหัวหน้า, ด้วยการปรากฏตัวของเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้ ซึ่งชุดเกราะรบของพวกเรานั้นสามารถทำให้จับพวกมันได้อย่างง่ายดาย, ทำให้พวกเรามียอดสั่งซื้อเข้ามามากมายครับ"

 

"อ้อ, แล้วก็นี่ครับ นี่คือข้อมูลของเจ้าสิ่งมีชีวิตที่ว่าครับ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกไม่อยากเชื่อตอนที่เขาได้เห็นข้อมูลที่ส่งให้โดยลู่เปงเฟย, โดยเฉพาะความสามารถในการเพิ่มจำนวนที่ทรงพลังของเจ้าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้

 

"มันมีสิ่งมีชีวิตเช่นนี้โผล่มาได้อย่างไร? จากที่ข้อมูลเหล่านี้, มันช่างเหมือนกับเซิร์กที่อยู่ในเกมส์มาก, ไม่สิ สิ่งมีชีวิตเหล่านี้มันน่ากลัวยิ่งกว่าเซิร์กเสียอีก"

 

"ใช่ครับหัวหน้า, ในตอนที่ผมเห็นสิ่งมีชีวิตพวกนี้, สิ่งแรกที่ผมคิดถึงก็คือเซิร์กในเกมส์เลยครับ, หัวหน้าพวกเราน่าจะไปจับพวกมันมาใช้ขุดแร่บ้างไหมครับ?"

 

"ถึงจะบอกว่าเอามาใช้ขุดแร่ก็เถอะนะ, คุณไปจับมันมาซักหน่อยละกัน, เอาพวกมันมาศึกษาวิจัยดู ผมคิดว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตพวกนี้มันไม่ใช่อะไรง่ายๆแบบนั้นแน่ๆ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองดูที่ข้อมูลอีกครั้ง, สิ่งมีชีวิตที่สามารถกินแร่และเพิ่มจำนวนตัวเองได้มากขนาดนี้, ยิ่งไปกว่านั้นการที่จู่ๆก็โผล่มาเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยดี

 

"ถ้าเป็นเช่นนั้น, ผมจะรีบส่งทีมไปจับพวกมันนะครับ"

 

หลังจากที่ติดต่อกับลู่เปงเฟยจบ, อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้เข้าระบบซองแดงไป, และส่งข้อมูลเจ้าตัวเขมือบไปให้ในกรุ๊ป

 

"พวกคุณพอจะมีข้อมูลของเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้กันบ้างไหม?"

 

การสอบถามของอู๋ฮ่าวเหรินได้ดึงความสนใจของผู้คนจำนวนมากในทันที

 

เมื่อพวกเขาได้เห็นคำอธิบายข้อมูลของเจ้าตัวเขมือบแล้ว, พวกเขาต่างก็สงสัยกันอย่างมาก

 

"พ่อค้าโบราณ, มันดีมากเลยนะที่มีสิ่งมีชีวิตเช่นนี้อาศัยอยู่ที่นั่นด้วย มันดูเยี่ยมมากสำหรับการขุดแร่เลยล่ะ"

 

"มันดีมากจริงๆนั่นแหละ, มันไม่จำเป็นที่จะต้องผ่านกระบวนการและการสกัดต่างๆเลย, อย่างไรก็ตามเพื่อที่จะเอาแร่ที่สกัดแล้วออกมา ก็จะต้องฆ่าสิ่งมีชีวิตนี้เสียก่อน, มันช่างดูโหดร้ายพิกล"

 

"เอิ่ม, สมองของพวกคุณมีปัญหารึเปล่าเนี่ย? สิ่งมีชีวิตแบบนี้เนี่ยนะดี ใช้พวกมันขุดเหมืองนี่นะ, พวกคุณคงได้ตายในกันหมดแน่"

 

"หืม, พวกเราจะตายได้ยังไงกัน? สามารถสามารถทำการสกัดสินแร่ได้ทันทีอย่างนี้มันยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเครื่องจักรไหนๆอีกนะ, แถมไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานอีกด้วย"

 

"ไม่ต้องใช้พลังงานที่ไหนกันเล่า! ผมไม่รู้หรอกนะว่าพวกคุณคิดอะไรกันอยู่, การขุดแร่ที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายเนี่ยนะ, เจ้าสิ่งนี้น่ะเติบโตด้วยการกินแร่เข้าไป, แน่นอนว่าพลังงานที่พวกใช้น่ะก็คือสินแร่พวกนั้นนั่นแหละ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินตกใจและนิ่งคิดอยู่สักพัก, ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ

 

ไม่อย่างนั้น, พลังงานที่ใช้ในการเพิ่มจำนวนของเจ้าสิ่งมีชีวิตพวกนี้มันจะมาจากไหนกัน, มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะมาโผล่ขึ้นมาจากในอากาศแน่ๆ

 

"อืม, ผมแค่อยากจะถามว่ามันมีสิ่งมีชีวิตเช่นนี้ในอนาคตบ้างไหม? จะว่าไปเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้ปรากฏตัวขึ้นมาอยู่ใกล้ๆกับอารยธรรมทายะล่าน่ะครับ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินได้อัพตำแหน่งของเขตดาวขึ้นมา, และหวังว่าจะได้พบคำตอบจากในอนาคต

 

"อารยธรรมทายะร่าสินะ ผมจะลองไปตรวจสอบดูให้, อารยธรรมนี้ยังไม่ได้ล่มสลาย, น่าจะมีบันทึกเรื่องนี้อยู่"

 

ไม่กี่นาทีต่อมา, คนจากอารยธรรมชั้นสูงก็ได้ให้คำตอบกับอู๋ฮ่าวเหริน

 

สัตว์ประหลาดเช่นนี้ไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาในอารยธรรมทายะล่ามาก่อน, และพวกเขาก็ได้ส่งยานรบไปยังเขตดาวที่ๆอู๋ฮ่าวเหรินได้ระบุตำแหน่งให้แล้ว

 

ซึ่งใช้เวลาไม่นานถึงจะรู้ผล

 

หลังจากที่ทราบว่าทางอารยธรรมทายะล่านั้นไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน, อู๋ฮ่าวเหรินก็เข้าใจได้ว่าเขาได้เปลี่ยนประวัติศาสตร์อีกแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม, ในตอนนี้ประวัติศาสตร์ของทั้งสหพันธรัฐนั้นได้ถูกเปลี่ยนไปแล้ว, เขาจึงไม่ได้กังวลอะไรกับมันอีก

 

หากเขามีกองทัพที่แข็งแกร่งอยู่ในมือเสียอย่าง, ประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนไปนั้นก็จะมีผลกับเขาแค่เล็กน้อยเท่านั้น

 

อู๋ฮ่าวเหรินก็รู้สึกสับสนเมื่อจากการตรวจสอบจากผู้คนในทายะล่า, พบว่าดาวดวงนั้นไม่เคยมีตัวตนมาก่อน และสิ่งมีชีวิตนั้นก็ไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาก่อนด้วย

 

เรื่องนี้ได้ทำให้สมองของอู๋ฮ่าวเหรินเฉื่อยไปชั่วขณะ เมื่อคิดถึงจักรวาลที่เขาอยู่และของในอนาคตนั้นมันอาจจะเป็นมิติคู่ขนานก็ได้

 

แต่ก็อาจไม่ใช่ซะทีเดียว, เพราะถ้ามันเป็นมิติคู่ขนานจริง แล้วเรื่องของอารยธรรมพาลอสและหลิงเมิ่งเสวี่ยล่ะ

 

ในช่วงเวลานี้, เขาได้อยู่ร่วมกับหลิงเมิ่งเสวี่ยและรู้ว่าความทรงจำที่หลิงเมิ่งเสวี่ยได้รับมานั้นมาจากหลิงหยิ่ง

 

ถึงแม้ว่าความทรงจำส่วนใหญ่นั้นดูเหมือนจะหายไปก็ตามที, เหลือเอาไว้เพียงแค่ภาพในอนาคตบางอย่างซึ่งดูเลือนลางมากเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม, อารยธรรมพาลอสที่โผล่มานั้นก็ถือเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ดี

 

อู๋ฮ่าวเหรินส่ายหัวของเขาและพูดกับตัวเอง "บางทีมันอาจจะเป็นมิติคู่ขนานกันจริงๆ แต่มันก็ยากที่จะอธิบายอยู่ดี"

 

อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้คำตอบที่เขาต้องการจากในระบบซองแดง, แต่อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าสิ่งมีชีวิตนี้จะทำให้สูญเสียเงินหากใช้พวกมันในการขุดแร่

 

หลังจากที่คิดอยู่สักพักเขาก็ได้ติดต่อไปหาลู่เปงเฟยเพื่อติดต่อสื่อสาร

 

"หัวหน้า, เกิดอะไรขึ้น?"

 

"จากข้อมูลของเจ้าสิ่งมีชีวิตพิเศษที่คุณได้ให้ผมมาเมื่อซักครู่, คุณน่าจะจับมันมาแค่เพื่อวิจัยเท่านั้น, อย่าได้นำมันไปใช้ขุดแร่ล่ะ"

 

"เอ๋! ทำไมล่ะครับ? เห็นว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตนั้นมันสามารถสกัดแร่ได้ด้วยมันก็น่าจะดีมากสิครับ"

 

"เพราะมันจะทำให้ขาดทุนน่ะสิ, เจ้าสิ่งนี้น่ะมันใช้สินแร่ต่างๆในการเจริญเติบโตน่ะ, แล้วก็จะให้ดีคุณน่าจะไปเตือนอารยธรรมต่างๆที่มีความสัมพันธ์กับพวกเราด้วยว่า, อย่าให้พวกเขาขุดเหมืองด้วยเจ้าสิ่งมีชีวิตพวกนั้น"

 

ลู่เปงเฟยไม่คาดคิดว่าด้วยการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตพิเศษพวกนี้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นแร่ที่พวกมันกินเข้าไป

 

ถ้าเป็นเช่นนี้ มันจะทำให้ขาดทุนได้จริงๆ

 

ถ้าพวกเขาต้องการจะใช้สิ่งมีชีวิตพวกนี้, พวกเขาก็จะต้องทำให้พวกมันทำการเพิ่มจำนวนขึ้นมาเสียก่อน

 

เมื่อเป็นเช่นนี้, ยิ่งพวกมันเพิ่มจำนวนขึ้นมามากเท่าไร ก็จะต้องใช้ทรัพยากรมากขึ้นเท่านั้น

 

ซึ่งมันจะกลายเป็นขาดทุนมากกว่า, ซึ่งเกรงว่าสุดท้ายแล้วแร่ที่ได้จากสกัดมานั้นจะได้มาไม่เท่ากับแร่ที่ต้องใช้ไป

 

เมื่อคิดถึงเรื่องที่อู๋ฮ่าวเหรินได้บอกให้เขาไปบอกกับอารยธรรมต่างๆที่สนิทกับฟิวเจอร์กรุ๊ป, ลู่เปงเฟยก็ได้รีบไปหยิบอุปกรณ์ติดต่อสื่อสารและแจ้งเรื่องนี้ทีละอารยธรรม

 

น่าเสียดายที่, ตัวเอ้ของทางกองทัพทั้ง 2 คนอย่าง, มิสต์และเซาโตร, กลับไม่เชื่อคำของลู่เปงเฟย

 

พวกเขายังคงส่งกองกำลังจำนวนมากออกไปจับเจ้าตัวเขมือบต่อไป

 

ถึงแม้ว่าหลังจากที่อารยธรรมต่างๆได้ทราบถึงสถานการณ์แล้ว, แต่พวกเขาคิดว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นต้องการที่จะให้พวกเขายกเลิกเรื่องการจับเจ้าตัวเขมือบและฮุบเอาไว้เอง

 

เมื่อเผชิญเข้ากับอารยธรรมต่างๆที่ไม่สำนึกเหล่านี้, ลู่เปงเฟยก็ได้แค่ยิ้มแบบแห้งๆเท่านั้น



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น