CF:บทที่ 783 หายนะที่ฝังรากลึก
ณ เขตดาวหนึ่งของชาวทายะล่า, ในตอนนี้อารยธรรมระดับสูงมากมายได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่
หนึ่งในนั้นคืออารยธรรมซาทาต, ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับฟิวเจอร์กรุ๊ป
หลังจากที่ได้ทราบถึงคำเตือนของลู่เปงเฟย, พวกเขาได้บอกเล่าเรื่องนี้ในทำนองดูหมิ่นต่อฝูงชน
"พวกคุณเคยได้ยินชื่อของฟิวเจอร์กรุ๊ปมั๊ย, ผู้ซึ่งไม่รู้ว่ามาจากที่ไหนน่ะ พวกเขาบอกว่าเจ้าตัวเขมือบเนี่ยมันไร้ค่าล่ะ, ฟังดูน่าตลกชะมัด"
"หมายถึงคนที่ชื่ออู๋ฮ่าวเหรินที่ก่อตั้งบริษัทที่เป็นข่าวใหญ่โตเร็วๆนี้สินะ, ข้าคิดว่าพวกเขาต้องการที่จะหวังฮุบไว้คนเดียวมากกว่า, เจ้าตัวเขมือบนี่มันสะดวกสบายมากสำหรับการขุดแร่จะตายไป, พวกเขาต่างหากที่ไร้ค่าน่ะ"
"หมอนั่นมันก็แค่ตัวตลกล่ะน่า, ถ้าพวกเขาไม่มีเทคโนโลยีชุดเกราะล่ะก็พวกกองทัพคงทิ้งพวกเขาไปนานแล้ว และพวกนั้นก็คงจะจบเห่ไปแล้ว"
"นั่นสิ, น่าสงสารคนพวกนั้นนะ ที่ถลำลึกเกินไปเพื่อค้นหาเรื่องพวกนั้น"
"ฮ่าๆ, สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรกลับมา, คนพวกนั้นมันกลัวปัญหากันมากเกินไปและไม่กล้าที่จะไปสร้างปัญหาให้กับเขา"
"........"
อู๋ฮ่าวเหรินนั้นถูกดูแคลนโดยคนเหล่านี้, มีบางคนที่แม้แต่ดูถูกเขาด้วยซ้ำ
แม้แต่บางคนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับฟิวเจอร์กรุ๊ปของอู๋ฮ่าวเหรินก็เลือกที่จะเงียบในเวลานี้
มันจะไม่กลายเป็นการยั่วโมโหส่วนรวมเช่นนี้ถ้าเกิดว่ามีความแข็งแกร่งที่แท้จริง
การจับเจ้าตัวเขมือบในเขตดาวนี้ยังคงเป็นประเด็นร้อนต่อไป
ตลอดทั้งวันนั้น, หากว่าพบเจ้าตัวเขมือบ อารยธรรมต่างๆก็จะตรงเข้าไปจับพวกมันราวกับโจรปล้น
และเจ้าตัวเขมือบขนาดยักษ์นั้น, เมื่อมันรู้ว่ากำลังอยู่ในอันตราย ก็ได้พยายามหนีออกไปจากเขตดาวนี้
ท้ายที่สุด, นอกจากเจ้าตัวเขมือบที่หนีออกมาตั้งแต่แรก, ส่วนใหญ่ถูกอารยธรรมต่างๆจับไว้หมดแล้ว, ไม่ว่าดาวไหนๆหรือในอวกาศก็ตามทีแล้วแล้วแต่ถูกขับไล่จนกระเจิงหนีออกไปหมด
หลังจากที่พบว่าไม่มีเจ้าตัวเขมือบเหลืออยู่แล้ว, อารยธรรมเหล่านี้ก็ได้พากันกลับในทันที
พวกเขาไม่ได้เพื่อช่วยเหลืออารยธรรมทายะล่าอยู่แล้ว, พวกเขาแค่ต้องการที่จะจับเจ้าตัวเขมือบเอาไว้เพื่อนำไปใช้ขุดแร่เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม, ปฏิบัติการนี้ได้ทำให้หลายๆอารยธรรมอยากได้เกราะของฟิวเจอร์กรุ๊ปขึ้นมา
อย่างที่รู้กัน, ในปฏิบัติการนี้ ได้มีบางอารยธรรมที่สั่งซื้อชุดเกราะรบเป็นจำนวนมากเพื่อที่จะจับเจ้าตัวเขมือบมาให้ได้มากขึ้น, ซึ่งทำให้ฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นทำเงินได้อย่างมากมาย
จำนวนเงินนี้, แม้แต่ทางกองทัพร่วมก็ยังต้องมองด้วยความอิจฉา แต่ศูนย์วิจัยชุดเกราะนั้นได้ตกเป็นของอู๋ฮ่าวเหรินไปแล้ว มันจึงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาอีก
มีบางอารยธรรมที่คิดจะซื้อตัวนักวิจัยชุดเกราะของฟิวเจอร์กรุ๊ปไป แต่น่าเสียดายที่นักวิจัยชุดเกราะหลักของฟิวเจอร์กรุ๊ปเองก็รู้ดีว่าเทคโนโลยีชุดเกราะที่พวกเขามีนั้นได้มาจากไหนกัน
และบอสสุดลึกลับของบริษัทของพวกเขานั้นยังมีเทคโนโลยีชุดเกราะที่ทรงพลังอีกเป็นจำนวนมาก
ยกตัวอย่างเช่น, ชุดเกราะที่หน่วยรบเกราะเฉพาะกิจใช้นั้นก็ไม่ใช่อะไรที่พวกเขาจะสามารถผลิตขึ้นมาเองได้เลย
และชุดเกราะของท่านหัวหน้าเองก็ไม่ใช่อะไรที่พวกเขาจะสามารถผลิตได้เช่นกัน
มันเป็นอะไรที่น่าทึ่งมากที่ของเหลวแปลกๆนั่นจะสามารถกลายมาเป็นชุดเกราะที่ไม่มีวันพังได้
จากข้อมูลที่พวกเขาได้เรียนรู้มาจากอู๋ฮ่าวเหรินนั้น, ชุดเกราะนี้อาศัยเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย
เช่น เทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงของแข็ง-ของเหลวแบบฉับพลัน และเทคโนโลยีการเก็บเข้าช่องมิติที่เหมือนเวทมนตร์, การนำเอามิติอื่นมาใช้เพื่อเก็บของนั้น, พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าสิ่งแบบนั้นจะสามารถนำมาใช้ได้จริง
จริงๆแล้ว, ตัวตนของลู่เปงเฟยและพรรคพวกนั้น, ได้ทำให้หลายๆอารยธรรม ได้เริ่มมองหาข้อมูลของอู๋ฮ่าวเหรินอีกครั้งจากพวกเขา
แต่น่าเสียดายที่, เขตดาวบลูนั้นเป็นเขตที่อู๋ฮ่าวเหรินพัฒนาขึ้นมาและเป็นเจ้าของ
มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะตามสืบที่มาของอู๋ฮ่าวเหรินได้ในพื้นที่นี้, พวกเขาจึงคิดที่จะจับลู่เปงเฟยและคนอื่นๆ เพื่อเค้นถามจากพวกเขา
และผลคือ, พวกคนที่ถูกส่งมานั้นถูกสังหารทิ้งเสียก่อนที่พวกเขาจะได้ลงมือ
อารยธรรมเหล่านี้ไม่ได้รู้เลยว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นได้ร่วมมือกับอารยธรรมมืดและตระกูลเงาอยู่
ผู้คนที่ถูกส่งมาที่เขตดาวบลูนั้นไม่สามารถที่จะหลบซ่อนตัวได้เมื่อต้องเผชิญกับผู้คนที่ชำนาญในโลกมืด
เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินได้ทราบว่าอารยธรรมต่างๆนั้นไม่ได้ฟังคำแนะนำของเขา, ทำให้หลายๆอารยธรรมได้เริ่มปล่อยให้เจ้าสิ่งมีชีวิตนี้ขยายพันธุ์เป็นจำนวนมาก
แต่จากนั้นหลังจากที่ใช้พวกมันขุดแร่แล้ว, คงได้มียิ้มแห้งๆกันบ้างล่ะ
ในขณะเดียวกัน, เขาก็ได้กังวลว่าถ้าเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้ไปอยู่กับอารยธรรมที่มีการควบคุมที่ไม่ดี, คงได้เกิดหายนะขึ้นตามมาแน่
จากตอนแรกที่เจ้าสิ่งมีชีวิตนี้สามารถพบได้แค่ในอารยธรรมทายะล่าเท่านั้น, ในตอนนี้พวกมันสามารถหาพบได้ในทุกๆเขตดาวในสหพันธรัฐจักรวาลแล้ว
ด้วยการขยายพันธุ์ที่ทรงพลังของพวกมันนั้นจะต้องทำให้เกิดเรื่องน่ากลัวขึ้นอย่างแน่นอน, โดยเฉพาะการแย่งเอาสินแร่จำนวนมากไปนั้นจะต้องสร้างความเสียหายให้อย่างมากกับสหพันธรัฐแน่
แต่น่าเสียดายที่, เขานั้นไม่สามารถควบคุมอารยธรรมเหล่านั้นได้เลย, เขาทำได้เพียงแค่หวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเท่านั้น
ไม่นานนักเรื่องนี้ก็ได้ผ่านไป, โดยที่อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้ให้ความสนใจกับมันอีก
---------------------------------------------------------------------------
เมื่อตูตูอายุได้ 2 เดือน, เธอก็ได้มาปรากฏตัวในสำนักงานใหญ่ของฟิวเจอร์กรุ๊ปในโลก
การปรากฏตัวของสาวน้อยได้ทำให้ผู้คนในฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นรู้สึกประหลาดใจ
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีในตอนนี้จะล้ำสมัยมาก, และตัวเสริมยีนส์นั้นก็ได้เริ่มทำการใช้กับทารกแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น,การเจริญเติบโตของทารกคนอื่นๆก็ยังไม่รวดเร็วเท่ากับตูตู
สาวน้อยนั้นทั้งจ้ำม่ำและน่ารักและตากลมโตสดใส, ซึ่งเอาชนะหัวใจของทุกคนได้ไม่ยาก
ยิ่งไปกว่านั้น, เธอสามารถที่จะเริ่มเดินด้วยตัวเองได้แล้วและเริ่มที่จะหัดพูดด้วย, ความฉลาดของเธอนั้นทำให้ผู้คนรู้สึกน่ากลัว
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีในปัจจุบัน, จะทำให้ผู้คนรู้ว่ายีนส์นั้นส่งผลกับปัญญาของมนุษย์
อย่างไรก็ตาม, ด้วยศักยภาพของสาวน้อยคนนี้ได้ทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนเจอปีศาจ
แน่นอนว่าหากเทียบกับอู๋ฮ่าวเหรินแล้ว, ศักยภาพของปีศาจตัวน้อยนี้ทำให้ผู้คนยอมรับได้
ในเวลานี้ทุกคนรู้ดีว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นเต็มไปด้วยความลับมากมาย, ถ้าพวกเขาสามารถไขความลับเหล่านี้ให้กระจ่างได้, บางทีพวกเขาอาจจะสามารถเป็นเจ้าของเทคโนโลยีทีทรงพลังได้เช่นกัน
มีบางคนที่สงสัยว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นอาจจะใช้เทคโนโลยีต่างๆทำให้ตูตูนั้นฉลาดมากก็เป็นได้
จริงๆแล้ว, สิ่งที่พวกเขาไม่รู้นั้นแม้แต่ตัวอู๋ฮ่าวเหรินเองก็ยังสงสัยเกี่ยวกับศักยภาพที่น่ากลัวของสาวน้อยคนนี้เช่นกัน
มันอาจจะมีอะไรก็ได้, เพราะก่อนที่เขาจะได้ระบบซองแดงนั้น เขาก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดามาก่อน, หลิงเมิ่งเสวี่ยนั้นถึงจะพิเศษกว่าคนอื่นเล็กน้อย แต่ก็ไม่น่าที่จะแสดงปัญญาที่น่ากลัวเช่นนั้นได้
ถ้าไม่ใช่เพราะผลของการทดสอบพบว่าตูตูนั้นแข็งแรงดีมากล่ะก็ ครอบครัวคงได้กังวลมากแน่ๆ
เพื่อตูตูแล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินจึงได้ถามทั้งนักวิจัยและผู้ชำนาญการแพทย์ในกลุ่มซองแดง
ทั้งสองคนเมื่อได้ทราบถึงสถานการณ์ คำอธิบายเดียวที่ได้รับกลับมาคือเป็นเพราะอู๋ฮ่าวเหรินได้ใช้ยาเสริมแกร่งและได้ระบบซองแดงไป, จึงทำให้มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นในตัวเขา
และมันก็อาจจะส่งผลกับทายาทของเขาในบางอย่างก็ได้
เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินทราบถึงสถานการณ์, ก็รู้สึกกลัวอย่างมากขึ้นมา, แต่ก็ยังโชคดี ที่มันยังเป็นแค่ความเร็วในการเจริญเติบโตและปัญญาที่เหมือนกับปีศาจ, ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นอีกคงได้เป็นเรื่องไม่ดีแน่
สาวน้อยที่น่ารักคนนี้นั้นเติบโตอย่างรวดเร็วมากเกินไปและซุกซนมาก, ทุกๆวันจะต้องมีอะไรที่เหมือนกันไก่บินและหมากระโจนไปมาตลอดเวลา
และเพราะสาวน้อยคนนี้มีทั้งครอบครับและผู้คนใกล้ชิดที่รักเธอ, สาวน้อยคนนี้จึงได้เริ่มที่จะซุกซนเป็นปีศาจตัวน้อย
อู๋ฮ่าวเหรินจึงได้เริ่มกังวลว่าจะไม่มีใครที่จะสามารถควบคุมเธอได้ในตอนที่สาวน้อยคนนี้โตขึ้นมา
เขานั้นต้องการที่จะควบคุมมัน, แต่ก็ถูกห้ามโดยปู่ย่าและพ่อแม่ของเขา, เขาจึงไม่สามารถทำอะไรได้อีก
0 ความคิดเห็น