CF:บทที่ 734 ปราบปราม

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 734 ปราบปราม

 

กลุ่มของหลิงเมิ่งเสวี่ยนั้นกำลังมองคนที่กำลังบินในท้องฟ้า, ซึ่งสามารถรู้ได้ทันทีว่าเป็นใครต่อให้เห็นแค่แวบเดียว คนๆนั้นคืออู๋ฮ่าวเหรินนั่นเอง

 

"คนๆนี้เป็นคนชอบทำอะไรที่มันเตะตาเสียจริงๆ, บินมาโน่นแล้ว" เว่ยหมิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอิจฉา

 

ลู่เปงเฟยผงกหัวแล้วพูดขึ้น "จริงด้วย"

 

ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีของพวกเขานั้นจะสามารถทำให้คนบินได้ก็ตาม, แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะทำให้บินได้อย่างอิสระเหมือนของอู๋ฮ่าวเหริน

 

หลิวหมิงเยี่ยและโจ้วหลานนั้นก็อาศัยจังหวะนั้นถอยหลบออกมา, เพราะพวกเธอนั้นรู้ดีมากว่าช่วงเวลานี้มีเป็นของหลิงเมิ่งเสวี่ย

 

อู๋ฮ่าวเหรินยืนอยู่ตรงหน้าของหลิงเมิ่งเสวี่ยและมองดูหลิงเมิ่งเสวี่ยอย่างตั้งใจตั้งแต่หัวจรดเท้า

 

จากนั้นก็ก้าวออกมาข้างหน้า แล้วเขาก็กอดเธอไว้ในอ้อมกอดของเขา, และกระซิบข้างๆหูของเธอว่า "พยายามได้ดีมาก"

 

น้ำตาของหลิงเมิ่งเสวี่ยเหมือนควบคุมไม่ได้พรั่งพรูออกมา, แต่เธอก็ยิ้มด้วยความยินดี

 

มือของเธอทุบลงบนอกของอู๋ฮ่าวเหรินเบาๆ แล้วกระซิบกับเธอ "ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน, ฉันจะตามคุณไปด้วย, ฉันจะไม่ยอมปล่อยคุณไปอีกแล้ว, จะไม่ยอมปล่อยคุณไปอีกแล้ว"

 

อู๋ฮ่าวเหรินเสยผมที่บังหูของเธอและพูดสัญญากับเธอที่ข้างหู "จ๊ะ, ต่อไปนี้ไม่ว่าผมจะไปที่ไหน, ผมจะพาคุณไปด้วย"

 

มองดูทั้งสองคนที่กำลังแสดงความรักต่อกัน, เว่ยหมิงและลู่เปงเฟยไม่มีท่าทีอะไร, แต่หลิวหมิงเยี่ยและโจ้วหลานนั้นต่างออกไป

 

โจ้วหลานมองดูหลิงเมิ่งเสวี่ยด้วยสายตาที่อิจฉา, หลิวหมิงเยี่ยจึงพูดอย่างอิจฉาว่า "ถ้าพวกคุณอยากจะพลอดรักกันนักล่ะก็, จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยกลับไปที่บ้านไปพลอดรักกันทีหลังก็ได้ย่ะ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินปล่อยหลิงเมิ่งเสวี่ยที่กำลังเขินออายออกแล้วพูดอย่างเบาๆ "คุณจะปล่อยให้ผมได้รับไออุ่นจากที่รักสักหน่อยไม่ได้รึไง"

 

"ฮึ่ม"

 

"คุณกลับไปก่อนก็ได้นะ, ไปบอกครอบครัวของพวกเราว่าผมกลับมาแล้ว, ขอผมไปจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก่อนนะ"

 

"ได้ค่ะ, ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ"

 

จากเดิมที่เป็นราชินีน้ำแข็ง, ในเวลานี้เธอได้กลับกลายเป็นคนเดิมแล้ว, กลับกลายหญิงสาวที่อ่อนแอและนุ่มนวลทำให้ใครหลายคนที่อยู่ใกล้ๆเธอรู้สึกแปลกๆ

 

"พวกคนที่อยู่ตรงนั้นน่ะ, ฉันปล่อยให้เป็นหน้าที่คุณละกันนะคะ, และฉันไม่ขอยุ่งเกี่ยวแล้ว"

 

อู๋ฮ่าวเหรินรู้ดีว่าคนเหล่านี้กำลังกลั้นหายใจในใจของพวกเขากันอยู่, แต่ถ้าพวกเขาจะไม่หายใจออกมาเลยก็ไม่สามารถทำได้

 

"ไปเถอะ ไปคุยกับคนพวกนั้นหน่อย, พวกเขาบอกว่าต้องการให้พวกเราทุกคนคุกเข่าขอร้องพวกเขาน่ะ"

 

หลิวหมิงเยี่ยและโจ้วหลายไม่ได้พูดอะไร, แต่จากสีหน้าของพวกเธอแล้ว, พวกเขาก็พอจะเดาได้ว่าพวกเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในเวลานี้

 

อู๋ฮ่าวเหรินส่ายหัว, ดูเหมือนว่าคนเหล่านั้นไม่ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่แล้ว

 

"จี้ ปล่อยข่าวเรื่องที่ผมกลับมาแล้วออกไป"

 

"รับทราบค่ะ"

 

ตรงลานกว้างหน้าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น, เหล่าคนที่เคลื่อนขบวนประท้วงนั้น ถึงแม้พวกเขาจะเห็นการเปลี่ยนแปลงแปลกๆตรงยานบินก็ตาม

 

อย่างไรก็ตาม, มนุษย์ต่างดาวเหล่านั้น พวกเขาคิดว่าเป็นชาวโครน่า, ดังนั้นพวกเขาจึงได้กลัวกันอย่างมาก

 

ในเวลานี้, ทุกคนต่างก็กำลังรอ, รอการมาถึงของการปกครองโดยชาวโครน่า

 

แต่เมื่อมองบนท้องฟ้า, ยานแม่ขนาดมหึมานั้นกลับไม่ได้บินลงมา

 

ในโลกอินเตอร์เน็ท, ผู้คนต่างก็กำลังการมาถึงของข่าวล่าสุด, และการจัดการกับมนุษยชาติของชาวโครน่า

 

ซึ่งมีบางคนที่ได้เตรียมตัวและเตรียมที่จะออกไปประท้วง

 

"โอ้! พระเจ้า, ดูนี่สิ ดูข่าวในอินเตอร์เน็ทนี่สิ"

 

"เกิดอะไรขึ้น, ชาวโครน่ากำลังทำลายมนุษยชาติงั้นเหรอ?"

 

"ไม่, ไม่ใช่ ลองมาดูเองสิ, ฮ่าๆๆ"

 

"นี่มัน, เรื่องจริงเหรอเนี่ย! ฮ่าๆๆ, สุดยอด, นี่มันสุดเยอะไปเลย"

 

"อู๋ฮ่าวเหรินกลับมาแล้ว! อู๋ฮ่าวเหรินกลับมาแล้ว! แถมเขายังจัดการกับชาวโครน่าได้ด้วย, พวกเราไม่ต้องกังวลเรื่องนี้กันแล้ว"

 

ในชั่วขณะนั้น, ผู้คนทั้งหมดที่ได้ข่าวนี้ต่างก็ร้อนรน

 

อู๋ฮ่าวเหรินออกจากโลกไป 1 ปีนั้น, ชื่อของเขาได้กลายเป็นตำนานของมนุษยชาติ, เป็นที่รู้กันดีว่าเทคโนโลยีทั้งหมดของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นล้วนเป็นของเขา

 

ถึงแม้ว่าคนจำนวนมากกำลังสับสนกันอยู่, แต่เขาก็ได้มาที่นี่พร้อมกับเทคโนโลยีไฮเทค

 

อย่างไรก็ตามด้วยนโยบายและกฏที่ตั้งขึ้นมาโดยฟิวเจอร์กรุ๊ป, เช่นเดียวกับรูปแบบของสหภาพมนุษย์, ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นไม่ใช่เผด็จการ

 

เป้าหมายของพวกเขาคือนำพามนุษยชาติไปที่สหพันธรัฐ

 

ดังนั้นจึงได้มี 99% ของมนุษยชาติที่สนับสนุนฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

และมีเพียง 1% เท่านั้นที่มีความคิดเห็นต่างจากของฟิวเจอร์กรุ๊ป, และมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่เป็นกบฏต่อฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

ใครบางคนเหล่านั้น, พวกเขาคิดว่าการตัดสินใจทำแบบนี้ของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นทำให้พวกเขาเสียสิทธิบางอย่างไป, พวกเขาจึงไม่พอใจที่จะทำเช่นนั้น, แต่พวกเขาก็ต้องยอมก้มหน้ารับและทำตามฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

พอรู้ว่าชาวโครน่านั้นต้องการที่จะรุกรานโลก, มนุษยชาติส่วนใหญ่ที่อยู่ฝ่ายฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น, ต่างก็หวังว่าพวกเขานั้นจะหยุดการรุกรานของชาวโครน่าได้

 

แต่จากเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น, ทำให้พวกเขาเข้าใจฟิวเจอร์กรุ๊ปผิดและจึงได้มาเข้าร่วมกับการประท้วงครั้งใหญ่นี้

 

แต่พอเมื่อข่าวการกลับมาของอู๋ฮ่าวเหรินนั้นได้เผยแพร่ออกไปทั่วอินเตอร์เน็ทแล้ว, ก็ตามมาด้วยข่าวการจับกุมชาวโครน่าของอู๋ฮ่าวเหริน, ก็ได้ถูกเผยแพร่ตามมา ทำให้มนุษยชาติเปลี่ยนท่าทีไปเข้าหาฟิวเจอร์กรุ๊ปในทันที

 

องค์กรต่างๆที่ต่อต้านฟิวเจอร์กรุ๊ปทั่วโลกต่างก็ละทิ้งความคิดของตนเองและรู้สึกผิดในสิ่งที่พวกเขาทำ

 

จากนั้น, คนเหล่านี้ก็ได้เริ่มแก้ไขในสิ่งผิดพลาดที่พวกเขาได้ทำลงไป

 

โดยเฉพาะพวกคนที่รนหาที่ตายในครั้งนี้ ในตอนที่พวกเขาได้พูดโจมตีขนานใหญ่ใส่ฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

และคนเหล่าคนที่แสดงความคิดเห็นในแง่ลบในอินเตอร์เน็ทนั้นต่างก็รู้สึกผิดอย่างมากเช่นกัน

 

เดิมที, คนกลุ่มนี้ก็สนับสนุนฟิวเจอร์กรุ๊ปมาโดยตลอด, แต่ภายหลังเพราะวิดีโอที่เผยแพร่ออกมาทำให้พวกเขาเงียบสนิท, แต่ในเวลานี้พวกเขารู้สึกดีใจกันแบบเหลือล้น

 

พวกเขาจึงได้เริ่มปรากฏตัวในอินเตอร์เน็ทและเชียร์ให้กับชัยชนะของพวกเขา   

 

สิ่งเหล่านี้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วมากเพราะข่าวการกลับมาของอู๋ฮ่าวเหรินที่ได้เผยแพร่ออกไปทั่วโลกในเวลา 5 นาที

 

บรรยากาศที่กดดันก็ได้หายไปเช่นกัน, มีหลายคนที่เริ่มออกจากบ้าน, และมีบางคนที่รับจับกลุ่มกันเพื่อคุยกันถึงเรื่องของการกลับมาของอู๋ฮ่าวเหรินอย่างมีความสุข, ไม่ว่าพวกเขาจะได้ย้านไปที่สหพันธรัฐหรือไม่ก็ตาม

 

แน่นอนว่า, มีอยู่เพียงไม่กี่คนที่คิดหาทางหลบหนีในเวลานี้, และพวกเขาก็พร้อมที่จะเล่นอัปยศในเรื่องของชาวโครน่านี้

 

ในเวลานี้พวกเขาได้ยินว่าอู๋ฮ่าวเหรินได้กลับมาแล้วนั้น สำหรับพวกเขาเปรียบเสมือนกับสายฟ้าฟาด, ที่ทำให้พวกเขารู้สึกสิ้นหวัง

 

ในฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น, พนักงานของฟิงเจอร์กรุ๊ปนั้นต่างก็กรีดร้อง, เมื่อพวกเขาได้ทราบว่าอู๋ฮ่าวเหรินกลับมาแล้ว, พวกเขาต่างก็ตกใจและเริ่มการจัดงานเลี้ยงฉลอง

 

หลังจากที่อู๋ฮ่าวเหรินกลับมา, ปัญหาเรื่องของชาวโครน่าก็ได้รับการแก้ไข, และไม่นานโลกกับสู่สภาวะสงบสุข, และทุกคนก็ได้เริ่มออกมาทำงานและใช้ชีวิตปกติ

 

ส่วนเรื่องของคนทั่วโลกที่พวกเขาต้องจัดการนั้น, อู๋ฮ่าวเหรินได้ให้รายชื่อแก่ลู่เปงเฟยและเว่ยหมิง

 

โม่เก๋อที่ยืนอยู่ตรงหน้าของอู๋ฮ่าวเหรินนั้น "หัวหน้าครับ, ได้รับข่าวยืนยันมาว่าคนพวกนี้ได้ทำการส่งข้อความพิเศษออกไปทุกๆเดือนเพื่อที่จะรายงานสถานการณ์ครับ"

 

"พวกเราสามารถปลอมแปลงรายงานได้ไหม?"

 

"ไม่ได้ครับ, เพราะพวกเขาจะใช้รหัสลับเฉพาะครับ

 

อู๋ฮ่าวเหรินหันมองดูคำตอบที่ได้รับมาจากในระบบซองแดง, ซึ่งก็พบว่าเหมือนกัน, พวกเขาไม่มีวิธีอะไรที่จะจัดการเรื่องนี้ได้

 

"พวกชาวโครน่าไม่ต้องการที่จะบอกใช่มั๊ย?"

 

"ใช่ครับ, พวกเขารู้ว่าพวกเขาก็จะตายอยู่ดีถ้าพวกเขาพูดออกมา, ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องการที่จะพูดออกมาครับ"

 

"พวกคุณไปจัดการเรื่องของยานอวกาศกันก่อน, ปล่อยให้ผมคิดหาหนทางในเรื่องนี้ก่อน"

 

อู๋ฮ่าวเหรินยังไม่ต้องการที่จะจัดการกับชาวโครน่าในเวลานี้, เพราะเขาไม่มั่นใจว่าในเวลานี้ จะสามารถสู้กับชาวโครน่าได้

 

แต่จากสถานการณ์ในปัจจุบัน, เขาจะต้องแก้ปัญหาเรื่องของชาวโครน่าให้ได้ก่อน, ไม่อย่างนั้นชาวโครน่าจะต้องมาที่นี่แน่

 

ในระบบซองแดง, สุดหล่อโคตรเจ๋งก็ได้กล่าวขึ้นมาว่า "ถึงแม้ว่าคุณต้องการที่จะสู้กับชาวโครน่า, แต่คุณก็ไม่สามารถอยู่ในกาแลคซี่นี้ได้อีกแล้ว, ไม่อย่างนั้นเมื่อใดที่สงครามอวกาศเริ่มขึ้น, คุณจะต้องย้ายไปมนุษย์โลกออกจากทางช้างเผือก"

 

"ผมรู้ถึงปัญหาในเวลานี้ดีอยู่แล้ว ที่ว่าผมไม่สามารถจะจัดการกับชาวโครน่าได้"

 

พ่อค้าพลังงานพูดขึ้นมาด้วยวาจาดูถูก "หัวของคุณเป็นอะไรไปแล้วรึไง? ใครเขาบอกให้คุณไปสู้กับพวกโครน่ากันเล่า, คุณแก้ปัญหาเรื่องของอารยธรรมในสหพันธรัฐได้อย่างไร? ทำไมคุณถึงไม่จัดการกับชาวโครน่าด้วยวิธีการเดียวกันเล่า"

 

อู๋ฮ่าวเหรินก็เข้าใจได้ในทันที, ใช่แล้ว, เขาในตอนนี้มีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับเขตดาวที่ชาวโครน่าอาศัยอยู่นี่่นา, ซึ่้งสามารถใช้แก้ปัญหาเรื่องของชาวโครน่าได้ด้วย

 

หากว่าเขาได้ปล่อยเรื่องของการค้นพบชาวโครน่าให้สหพันธรัฐได้รับทราบแล้วล่ะก็, พวกเขาย่อมที่จะไปปล่อยให้พวกเขารอดไปแน่



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น