CF:บทที่ 733 ความโหดร้ายของความจริง

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 733 ความโหดร้ายของความจริง

 

เหล่ากบฏมองดูยานบินที่กำลังลงมาและหยิ่งผยองมากขึ้นไปอีก

 

"ตอนนี้มันสายไปแล้วที่จะคุกเข่าขอร้อง, แล้วก็เจ้าพวกโง่สองคนที่ใช้การไม่ได้นั่น, พวกแกทั้งสองคนจะต้องตายต่อให้คุกเข่าขอร้องก็ตาม"

 

"ดูโร่, ไม่ใช่ว่าคุณตกลงกับพวกโครน่าไว้ว่าให้เก็บพวกผู้หญิงเอาไว้ไม่ใช่เหรอ?" ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

 

"อืม, หลิงเมิ่งเสวี่ยน่าจะไม่ได้, แต่คนอื่นอาจจะได้อยู่"

 

"ฮ่าๆ, ไม่เลว, ไม่เลว, ผู้หญิงน่ะจะต้องเร่าร้อนอย่างนั้นแหละ, ช่างเหมาะแก่การเล่นด้วยยิ่งนัก"

 

"จะรีบร้อนไปทำไม? มีสาวงามมากมายอยู่ในฟิวเจอร์กรุ๊ปเต็มไปหมด, คุณจะเลือกเล่นกับคนไหนก็ได้ทั้งนั้น"

 

เมื่อได้ยินที่กลุ่มคนเหล่านั้นคุยกัน, เว่ยหมิงก็หันไปมองที่หลิวหมิงเยี่ยด้วยสายตาแปลกๆ, เขาคิดอยู่สักพักแล้วว่าคนพวกนั้นช่างน่าเวทนายิ่งนัก

 

มองไปที่ยานบินที่กำลังจะลงจอด

 

ตรงลานกว้างที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา, เหล่าคนที่กำลังประท้วงต่างก็เงียบกริบและมองดูยานบินที่กำลังลงมา

 

"เอาล่ะไปพบกับพวกเขากันเถอะ"

 

หลิวหมิงเยี่ยมองไปที่กลุ่มคนที่กำลังไปที่ยานบิน, ด้วยรอยยิ้มที่มุมปากของเธอและสายตาอาฆาต

 

"แล้วพวกเราต้องไปที่นั่นบ้างไหม?" ลู่เปงเฟยถามขึ้นมา

 

"ไม่ต้องหรอก, รออยู่ที่นี่แหละและปล่อยให้คนพวกนั้นผยองกันไปก่อน, ก่อนที่พวกเขาจะตาย ก็ปล่อยให้คนพวกนั้นได้มีความสุขกันไปก่อน"

 

ทั้ง 100 กว่าคนเดินมุ่งหน้าไปที่ยานบินของโครน่า, ซึ่งดึงดูดสายตาของผู้ประท้วงที่อยู่ในลานกว้าง

 

"คนพวกนั้นเป็นใครกัน? ทำไมพวกเขาถึงกล้าเดินไปที่ยานบินกัน? หรือพวกเขาต้องการที่จะโจมตียานบินกัน?"

 

"ไม่น่าเป็นไปได้, ดูจากสถานการณ์เมื่อสักครู่แล้ว, พวกเขาน่าจะเป็นกลุ่มกบฏการปกครองของฟิวเจอร์กรุ๊ป"

 

"หรือพวกเขาจะยอมศิโรราบต่อชาวโครน่ากัน!"

 

"ก็เป็นไปได้นะ, หนทางเดียวที่จะรอดตอนนี้คือการยอมแพ้ต่อชาวโครน่าเท่านั้น"

 

มีหลายคนที่เริ่มลังเลเมื่อพวกเขาได้ยินเรื่องนี้, และคิดว่าพวกเขาควรที่จะเข้าร่วมกับชาวโครน่าอย่างพวกเขาดีไหม?"

 

ครัมกับลอดจ์เดินท่ามกลางฝูงชน, และพยายามติดต่อกับชาวโครน่า

 

"แปลก, ทำไมพวกเราถึงติดต่อพวกเขาไม่ได้เลยนะ, เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ไม่ใช่ว่าพวกชาวโครน่าคิดที่จะข้ามแม่น้ำแล้วทำลายสะพานนะ"

 

"ไม่ใช่หรอก, ในเมื่อพวกเขาต้องการให้พวกเราปกครองมนุษย์ให้พวกเขา, พวกเขาก็ไม่น่าที่จะทำแบบนั้นหรอก"

 

"แต่ควรที่จะระวังตัวไว้จะดีกว่า, ถ้าเกิดมีอะไรผิดปกติขึ้นมา, จำทางหนีเอาไว้ให้ดี"

 

ทั้งสองคนเริ่มที่จะระวังตัว, และพวกเขาก็ไม่ได้แจ้งให้คนอื่นทราบ

 

เมื่อมองดูประตูยานบินเปิดออก, เหล่าผู้นำของกลุ่มนั้นก็เดินนำหน้าขึ้นมาและพูดด้วยน้ำเสียงให้ความเคารพ "ชาวโครน่าผู้ยิ่งใหญ่, ขอยินดีต้อนรับสู่โลก, พวกเราคือมิตรสหายที่จริงใจของพวกคุณบนโลกนี้ และพวกเรายินดีที่จะให้การสนับสนุนชาวโครน่าในการปกครองโลก, ผม..."

 

คนเหล่านี้ที่กำลังมองดูอยู่, ก็พบว่าคำพูดของคนๆนี้จู่ๆขาดหายไป, ทำให้คนเหล่านี้รู้สึกแปลกใจ

 

และเมื่อคนเหล่านี้มองมาที่เหล่าคนที่กำลังลงมาก็ต่างพูดอะไรไม่ออก, ซึ่งดูเหมือนว่าจะแตกต่างจากชาวโครน่าที่พวกเขาเคยเห็นนัก

 

โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เดินนำหน้าขบวนมานั้น, กล้ามเนื้อสีดำนั่น ทำให้คนเหล่านั้นยืนนิ่งอยู่กับที่, และไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไร

 

ไม่นานนัก, ทั้ง 100 คนนั้นก็ถูกล้อมด้วยทหารชาวซีซาร์

 

ซึ่งสถานการณ์นี้ไม่เพียงแต่กลุ่มคนเหล่านี้ที่ถูกล้อม, แต่รวมถึงผู้คนที่เฝ้าดูสถานการณ์อยู่ที่ลานกว้างด้วย

 

พวกเขาคิดในใจว่า, ไม่เพียงแต่ชาวโครน่าจะไม่ยอมรับการยอมแพ้แล้ว, แต่ยังจะต้องการฆ่าคนพวกนั้นเพื่อเป็นตัวอย่างด้วยอย่างงั้นเหรอ?

 

"เกิดอะไรขึ้น? คนพวกนี้ไม่ใช่ชาวโครน่านี่?"

 

"ใครจะรู้, บางทีคนพวกนี้อาจจะเป็นคนของชาวโครน่าก็ได้, ก็ได้เคยได้ยินอยู่ไม่ใช่เหรอว่าชาวโครน่านั้นทำลายมาหลายอารยธรรมแล้วน่ะ"

 

"แล้วทำไมพวกเขาถึงได้มาล้อมพวกเราด้วยล่ะ? พวกเขาต้องการที่จะข้ามแม่น้ำแล้วทำลายสะพานอย่างงั้นเหรอ?"

 

"ดูนั่นสิ, ดูนั่น, ชาวโครน่าตัวจริงลงมาแล้ว, ข้าเคยเห็นในวิดีโอ, ดูนั่นสิคนทางซ้ายนั่นน่ะ นายพลของชาวโครน่าซึ่งเป็นคนที่เจรจากับพวกเราในตอนนั้น"

 

ครัมกับลอดจ์, มองดูชาวโครน่าตัวจริงที่เดินลง, และในที่สุดความกังวลของพวกเขาก็หายไป

 

"ท่านผู้ยิ่งใหญ่ที่น่าเกรงขาม, พวกเราเป็นผู้ร่วมงานของท่านบนโลก, ทำไมท่านถึงได้สั่งให้ลูกน้องของท่านล้อมพวกเราเอาไว้ด้วย?"

 

เหล่าเจ้าหน้าที่ชาวโครน่านั้นไม่ได้สนใจเขา, แต่กลับมาที่คนเหล่านี้ด้วยสายตาเคียดแค้น

 

ในความคิดของท่านนายพล, คนพวกนี้ต้องได้ไม่ตายดีแน่

 

อย่างน่อย, ถ้าพวกเขาไม่ตกอยู่ในวงล้อมเช่นนี้, พวกเขาสามารถอาศัยยานแม่และหาทางหลบหนีไปได้

 

ไม่นานนัก, คนเหล่านี้ก็พบว่ามีอะไรผิดปกติ, นายพลชาวโครน่าซึ่งเดินลงมานั้นกลับไม่ได้เดินมาหาพวกเขาแต่กลับยืนอยู่อีกฝั่ง

 

ยิ่งไปกว่านั้น, ยังมีทหารเดินตามหลังพวกเขามาด้วยซึ่งกำลังจับตาดูพวกเขาอยู่

 

และพบว่าเหล่าทหารที่ลงมาจากยานบินนั้น, เช่นเดียวกับนายพลชาวโครน่า ต่างก็จ้องมองมาที่ยานบินราวกับว่ากำลังรออะไรบางอย่างอยู่, กลุ่มกบฏเหล่านี้ก็เริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมาแล้ว

 

"หัวหน้าครับ, นี่เป็นดาวแม่ของคุณจริงๆเหรอครับ?"

 

"ไปไหนก็ไป, ถามคำถามเดิมๆอยู่นั้นแหละ, น่ารำคาญจริง เดี๋ยวปั๊ดส่งคุณกลับไปฝึกทหารชุดเกราะรุ่นใหม่พวกนั้นซะหรอก, ออกจากที่นี่ไปตั้ง 1 ปี, ได้กลับมาที่นี่ซักที"

 

ถึงแม้ว่าอู๋ฮ่าวเหรินกับโม่เก๋อนั้นจะใช้ภาษาสากลของสหพันธรัฐ, แต่ผู้คนบนโลกก็ได้ถูกฝึกโดยฟิวเจอร์กรุ๊ปจึงสามารถเข้าใจได้

 

เหล่ากบฏทั้ง 100 คนนั้นต่างก็รู้สึกได้ถึงลางร้ายที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆในเวลานี้แล้ว

 

เมื่อรูปร่างของอู๋ฮ่าวเหรินปรากฏตัวออกมาจากยานบิน, เหล่ากบฏทั้ง 100 คนนั้นก็หันไปมองที่ผู้ชายที่อยู่ตรงทางออกด้วยความหวาดกลัว

 

ในใจของผู้คนจำนวนมากนั้น, คนๆนั้นถือได้ว่าเป็นฝันร้าย

 

เพราะพวกเขารู้ดีมากว่า, ที่โลกนั้นสามารถมีความสำเร็จต่างๆได้ในปัจจุบันนั้น, ล้วนแล้วถูกสร้างด้วยมือของคนๆนั้น

 

เทคโนโลยีไฮเทคที่พวกเขาใช้และบริการเพื่อความสะดวกสบายของพวกเขานั้นล้วนมาจากคนๆนี้

 

แล้วในตอนที่ฝันร้ายนั้นได้ออกจากโลกไปแล้วนั้น, และพวกเขาก็ได้เริ่้มแผนการต่อต้านฟิวเจอร์กรุ๊ปขึ้นมา

 

แล้วในตอนที่ชาวโครน่ามาที่รุกรานโลกนั้น, พวกเขาจึงได้กลัว, แต่ก็ได้พบโอกาสที่จะล้มล้างอำนาจการปกครองของฟิวเจอร์กรุ๊ป, ดังนั้นพวกเขาจึงได้เลือกที่จะร่วมมือกับชาวโครน่า

 

อย่างไรก็ตาม, พวกเขาไม่คิดว่าในยานอวกาศที่ทรงพลังของชาวโครน่านั้น, กลับไม่ใช่เป็นชาวโครน่าที่ออกมา แต่กลับเป็นฝันร้ายของพวกเขา

 

อู๋อ่าวเหรินจ้องมองมาที่พวกเขาและทำเป็นไม่สนใจคนเหล่านี้, พวกหมาข้างถนนที่ต้องการจะร่วมมือกับชาวโครน่า

 

"ดีจริงๆเลยน้าที่ได้กลับมา, ดีจริงๆ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินสูดหายใจอากาศบนโลก, และมองไปที่ตึกอาคารรอบๆ เช่นเดียวกันกับเหล่าผู้ประท้วงที่อยู่ไกลๆ ,เช่นเดียวกับอาคารของฟิวเจอร์กรุ๊ปที่อยู่ไกลๆ

 

ความคิดถึงในใจของเขานั้น, ราวกับปีกที่กำลังสยาย, ทำให้เขาอยากที่จะพบกับหลิงเมิ่งเสวี่ย ครอบครัวของเขาและผู้คนที่เขารู้จัก

 

ดังนั้น, เขาจึงได้หันไปมองโม่เก๋อแล้วพูดขึ้น "คนพวกนี้อยู่ในมือของคุณแล้ว, ผมขอตัวก่อนล่ะ"

 

ร่างของอู๋ฮ่าวเหรินนั้นได้บินมุ่งตรงไปยังอาคารของฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

จี้ได้ช่วยอู๋ฮ่าวเหรินในการยืนยันตำแหน่งของพวกเขา, ดังนั้นอู๋ฮ่าวเหรินจึงได้บินไปหาพวกเขาเป็นเส้นตรง

 

ต้านหลังของเขา, ในหมู่กบฏทั้ง 100 คนนั้น, มีบางคนที่นั่งลงไปบนพื้น, และบางคนที่สีหน้าซีดเผือด

 

1 นาทีก่อนหน้านี้, พวกเขายังได้หารือกันถึงการแบ่งผลประโยชน์จากชัยชนะกันอยู่, แต่ใครจะรู้ว่านาทีถัดมา, พวกเขาจะต้องตกนรก

 

"ไม่, ไม่, เป็นไปไม่ได้, พวกโครน่าแข็งแกร่งไม่ใช่เหรอ, พวกเขาทำพลาดได้อย่างไร? ไม่อยากจะเชื่อเลย"

 

ไม่มีใครที่สนใจคนบ้าคนนี้เลย, พวกเขาต่างก็คิดหาทางเอาชีวิตรอด

 

ครัมกับลอดจ์นั้นก็ต้องการที่จะหนีไป, แต่ไม่นานพวกเขาก็พบว่ามันเป็นได้แค่ความฝันเท่านั้น

 

เพราะมนุษย์ต่างดาวเหล่านั้นพร้อมด้วยอาวุธแปลกตานั้นทรงพลังมากว่าคนหลายคนที่พยายามจะหนีจากวงล้อมของพวกเขา, แล้วลงไปนอนกองกับพื้นด้วยความเจ็บปวดได้

 

"ใจเย็นๆ, ท่านหัวหน้ายังไม่ได้ออกคำสั่งมาให้ฆ่าพวกเขา"

 

โม่เก๋อนั้นเกรงว่าทหารชาวซีซาร์นั้นจะเผลอพลังมือฆ่าพวกเขาตายไปเสียก่อน, เขาจึงได้บอกให้พวกทหารจับคนเหล่านี้เอาไว้



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น