CF:บทที่ 735 หมดหวังโดยสิ้นเชิง
ในตอนที่อู๋ฮ่าวเหรินได้ออกจากโลกไปนั้น, ครอบครัวและญาติๆของเขาก็ได้ย้ายกลับมาที่หมู่บ้านซุยฉุย
แน่นอนว่า, หมู่บ้านซุยฉุยนั้นได้ย้ายออกจากที่เดิมไปแล้ว, กลายเป็นที่ๆมีทิวทัศน์ที่สวยงามอยู่เต็มไปหมด
ส่วนที่ๆหมู่บ้านซุยฉุยเดิมได้กลายมาเป็นสิ่งก่อสร้างโบราณไปแล้ว
"พวกเราไม่เคยเห็นโลกในยุคนี้มาก่อนเลย, ทรัพยากรมากมายได้ถูกทำลายไปในยุคมืดหมด" นักวิจัยพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น
"ในตอนนั้น, เพื่อที่จะแลกเปลี่ยนรถในยุคนี้, ผมได้ให้ของกับคุณไปมากมายเลย, คุณนี่มันแย่จริงๆเลย" เจ้าแห่งรถบินพูดขึ้นมาอย่างหดหู่
"ในเวลานั้น, พวกเราต่างก็ทึ่งกันมากที่คนๆนี้สามารถเอาของโบราณมากมายจากในยุคนี้มาได้, ผมไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนที่อยู่ในยุคนั้นจริงๆซะได้นี่" พ่อค้าพลังงานพูดอย่างใส่อารมณ์
"จะว่าไป, อย่าลืมเรื่องที่จะช่วยพวกเราหาของโบราณซะล่ะ, พวกเราไม่ต้องการของโบราณพิเศษอย่างหยกโบราณแล้วนะ"
ทันทีที่พ่อค้าพลังงานหยุดพูด, นักวิจัยก็พูดขึ้นมา "ไปคัดลอกเอกสารทั้งหมดในยุคของคุณ, แล้วส่งมาให้ฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ"
"ฮ่าๆๆ, ดีนะว่าที่เจ้าแห่งเรดาร์ไม่อยู่, ถ้าเขารู้เข้าล่ะก็, ทั้งโทรศัพท์มือถือในที่เขาได้รับมาเป็นมรดกตกทอดนั้นสามารถหาซื้อได้มากเท่าที่เขาต้องการล่ะก็, เขาจะรู้สึกยังไงบ้างนะ?" มนุษย์ชุดเกราะพูดขึ้นมา
"พอเลย, คุณคิดว่าคนอื่นเขาจะโง่เหมือนคุณงั้นเหรอ, เขาน่าจะรู้ตัวตนของอู๋ฮ่าวเหรินอยู่แล้ว, คุณคิดว่าเขาจะไม่รู้จากโทรศัพท์มือถือรึไง?"
"อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้เข้าร่วมการถกเถียงของคนเหล่านี้ด้วย, เขาเขาไปในหมู่บ้านซุยฉุยแทน
ในเวลานี้, ถึงแม้ว่าแค่ 1 ปีมันอาจจะฟังดูไม่นาน, แต่ระยะทางนั้นมันไกลมาก, และความรู้สึกที่จะได้พบครอบครัวนั้นมันช่างวิเศษเหลือหลาย
เมื่อเข้ามาในหมู่บ้าน, เขาก็พบกับครอบครัวของเขาที่กำลังยืนรอเขาอยู่, แม้แต่ปู่กับย่าของหลิงเมิ่งเสวี่ยก็อยู่ที่นี่ด้วย
"พ่อครับ แม่ครับ, คุณปู่ คุณย่า, ผมกลับมาแล้วครับ"
"ยินดีต้อนรับกลับจ๊ะ, ยินดีต้อนรับกลับ, ไปกันเถอะ, พวกเราทำอาหารเย็นเอาไว้คอยแล้ว พวกเรากำลังรอลูกกลับมากันอยู่" เฉิงซูเซี่ยพูดพร้อมกับจับมือลูกชายของเขา
ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นจะออกเดินทางท่องไปในอวกาศ, แต่พวกเขาก็ยังเป็นกังวลอยู่ดี
โดยเฉพาะหลังจากที่พวกเขาได้ทำการติดต่อกับฟิวเจอร์กรุ๊ป, พวกเขาก็ยิ่งกังวลมากขึ้นถึงความปลอดภัยของอู๋ฮ่าวเหรินหลังจากที่ได้รับการแนะนำถึงความรู้เกี่ยวกับจักรวาล
"ดีแล้ว, ดีแล้ว, ไม่ได้ผอมลงไปเลย, แถมยังแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนเสียอีก" คุณปู่อู๋ฮงเทียนพูดขึ้นมา
ระหว่างทาง, ทุกคนต่างก็ถามอู๋ฮ่าวเหรินถึงการเดินทางในอวกาศของเขา
อู๋ฮ่าวเหรินเลือกเอาแต่เรื่องที่น่าสนใจมาเล่าให้พวกเขาฟัง
---------------------------------------------------------------
ในขณะที่อู๋ฮ่าวเหรินกำลังกลับไปพบกับครอบครัวของเขาอยู่นั้น, ก็มีปัญหาเกิดขึ้นกับการจับกุม
ลู่เปงเฟยและเว่ยหมิง, กับทีมจับกุมของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น, ได้เข้าจับกุมคนตามรายชื่อที่อู๋ฮ่าวเหรินได้มอบหมายมา
หลังจากที่พบว่าสถานการณ์ทำท่าไม่ดีแล้ว, ก็ได้มีบางคนที่เริ่มหาทางที่จะหลบซ่อน, มีบางคนที่ปฏิเสธและบางคนตะโกนว่าไม่ยุติธรรม, และใส่ร้ายฟิวเจอร์กรุ๊ปที่กำลังจับกุมคนที่ก่อความวุ่นวาย และอาศัยโอกาสนี้ในการปลุกปั่นผู้คนให้ต่อต้านฟิวเจอร์กรุ๊ป
บริเวณใต้ยานบิน, เหล่าคนที่เคยติดต่อกับชาวโครน่านั้น, มีหลายคนที่เริ่มกล่าวหาว่าไม่ยุติธรรม, และบอกว่าพวกเขาจับผิดคน
พวกเขาถูกกดดันโดยมนุษย์ต่างดาวเหล่านี้, ทำให้ผู้คนบนโลกต้องตกอยู่ในอันตราย และทำให้ผู้คนรู้สึกต่อต้านการจับกุมของของฟิวเจอร์กรุ๊ป
"ท่านประธานเว่ยครับ, ผมคิดว่ามันน่าจะจำเป็นที่เราจะต้องใช้มาตรการพิเศษเพื่อให้คนพวกนี้เข้าใจว่าชะตากรรมจะเป็นอย่างไรถ้าต่อต้านฟิวเจอร์กรุ๊ปนะครับ" หัวหน้าทีมจับกุมพูดขึ้นมา
เว่ยหมิงส่ายหัวแล้วพูดขึ้น "ไม่ได้หรอก, หัวหน้าคงไม่ยอมที่จะให้มนุษยชาติคิดว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นเป็นเผด็จการหรอก"
"แล้วพวกเราจะทำอย่างไรดีครับ? คนพวกนี้เก่งเรื่องการปลุกปั่นผู้คนเสียด้วย, ถ้าพวกเราไปจับพวกเขาเลย, พวกเราได้มีปัญหาแน่ครับ"
"รอซักเดี๋ยวนะ, ขอผมรายงานหัวหน้าก่อน, น่าจะมีหลักฐานที่ใช้ยืนยันคนพวกนี้ว่า พวกเขาเป็นกบฏกับฟิวเจอร์กรุ๊ปอยู่"
หลังจากที่รับสายโทรศัพท์, อู๋ฮ่าวเหรินไม่คิดว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นได้
"เดี๋ยวผมจะส่งหลักฐานไปให้คุณ, และจะเผยแพร่ออกไปบางส่วนด้วย"
"เข้าใจแล้วครับ, ผมจะดำเนินการให้เดี๋ยวนี้ครับ"
ด้วยหลักฐานที่เขาได้มาจากอู๋ฮ่าวเหรินนั้น, มันจะทำให้เขาสะดวกมากในการจับกุมคนพวกนี้
ไม่ว่าพวกเขาจะปฏิเสธเสียงแข็งยังไงก็ตาม, ก็ไม่มีทางที่จะปฏิเสธหลักฐานเหล่านี้ได้แน่
"ถึงเวลาที่จะจัดการกับคนที่หลอกพวกเราแล้ว"
"ข้าไปหลอกพวกแกตั้งแต่เมื่อไรกัน? ข้านั้นเป็นคนผิดก็จริง! ข้อเป็นคนส่งข้อความต่อต้านฟิวเจอร์กรุ๊ปมาก่อนก็จริง, แต่มันก็นานมากมาแล้ว"
"คุณยังต้องการจะหลอกพวกเราต่ออีกเหรอ, ดูนี่ซะ, ดูซะให้เต็มตาว่ามันคืออะไร, ความผิดของพวกคุณน่ะได้ถูกเผยแพร่ออกไปทั่วอินเตอร์เน็ทแล้ว"
"ใช่แล้ว, คนพวกนี้มันสมควรตาย, ถ้าไม่ใช่เพราะฟิวเจอร์กรุ๊ปล่ะก็, พวกเรามนุษย์โลกคงกลายเป็นทาสของชาวโครน่าไปแล้ว"
"ใช่, ใช่, ฆ่าพวกเขา"
แล้วสักพักหนึ่งฝูงชนก็เริ่มตื่นเต้น, มีหลายคนที่ถอดรองเท้าออกมาแล้วขว้างใส่ไปที่กลุ่มคนที่ถูกจับอยู่
ถ้าไม่ใช่เพราะมีเหล่าทหารคุมอยู่ล่ะก็, กลุ่มคนเหล่านี้ก็คงจะถูกฆ่าโดยฝูงชนที่กำลังโกรธไปแล้ว
แต่กลุ่มคนเหล่านี้ยังโชคดีอยู่, สิ่งที่พวกเขาทำนั้นคือล้มล้างฟิวเจอร์กรุ๊ป
แล้วยังร่วมมือกับชาวโครน่าให้มารุกรานระบบสุริยะอีก ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีซักเท่าไรนัก
พวกเขาไม่คิดว่าทุกๆสถานที่ที่พวกเขาคิดว่าปลอดภัยและป้องกันจากการตรวจสอบของฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้วนั้น จะยังอยู่ในขอบเขตการตรวจสอบและไม่สามารถป้องกันได้เลย
หลังจากที่วิดีโอหลักฐานเหล่านี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไปโดยฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น, คนเหล่านี้ก็ไม่อาจหลบหนีความผิดได้อีกต่อไป
ส่วนพวกคนที่เคยอยู่กับฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น, และได้เปิดเผยออกมาแล้วนั้น ในเวลานี้ก็ได้กลายเป็นเรื่องเศร้ายิ่งนัก
พวกเขาคิดว่าสิ่งที่พวกเขาได้ทำลงไปนั้นเป็นความลับมากแล้ว, แต่ในเวลานี้พวกเขาได้ถูกเปิดโปงออกมาแล้ว, คนเหล่านี้รู้ตัวดีว่าจบสิ้นแล้ว
ส่วนคนอื่นๆที่ยังไม่ได้เปิดเผยตัวออกมาและยังคงซ่อนตัวอยู่ในฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นต่างก็ถูกเปิดโปงด้วยหลักฐานที่ถูกเผยแพร่ออกมาเหล่านี้เช่นกัน
ในเวลานี้, ทุกคนต่างก็เข้าใจแล้วว่าถ้าฟิวเจอร์กรุ๊ปต้องการที่จะตามหาใครแล้วก็ตาม, ตราบเท่าที่คนๆนั้นยังอยู่บนโลก, ก็จะไม่มีความลับใดๆที่ซ่อนจากฟิวเจอร์กรุ๊ปได้
แน่นอนว่า, เพราะเรื่องแบบนี้ทำให้มีคนที่ทั้งเกลียดชังและต่อต้าน, และผู้คนมายมายที่ยังคงสนับสนุน, และเพราะอย่างนี้, เหล่าคนที่ทำผิดกฏหมายก็จะไม่สามารถที่จากความผิดไปได้
ในสถานที่ๆเหล่ากบฏทั้ง 100 คนถูกจับกุมอยู่นั้น, มีกลุ่มคนที่พยายามเรียกร้องความไม่ยุติธรรม, และเมื่อมองดูวิดีโอหลักฐานที่อยู่บนหน้าจอ แล้วก็ทรุดลงไปกองอยู่ที่พื้นราวกับเป็นคนตาย
"ฮ่าๆๆ, คิดไม่ถึงเลย, คิดไม่ถึงจริงๆว่าปฏิบัติการลับที่พวกเราคิดและดำเนินการนั้นจะอยู่ภายใต้การจับตาดูของคนอื่นเช่นนี้, สนุกสนาน, สนุกสนาน"
ความสิ้นหวังแผ่ไปทั่วทั้งฝูงชน, พวกเขานั้นรู้ดีมากว่า, ต่อหน้าหลักฐานเหล่านี้นั้น, เล่ห์เหลี่ยมของพวกเขานั้นไร้ประโยชน์ยิ่งนัก
ลอดจ์และครัมมองดูวิดีโอการโจมตีของพวกเขาที่หอคอยเกราะป้องกัน, และพบว่าหอคอยป้องกันที่พวกเขาเคยคิดว่าน่าจะพังไปแล้วนั้นเป็นของที่ใช้หลอกพวกเขา
ชาวโครน่าที่อยู่ข้างๆพวกเขานั้น, กำลังมองดูวิดีโอเหล่านี้ แล้วก็หันมาตะโกนใส่คนในกลุ่มนี้ "โง่, โง่ยิ่งนัก, ข้าไปหลงเชื่อคนพวกนี้ได้ไงนะ, ความสามารถต่างกันขนาดนี้ยังจะกล้าก่อกบฏได้อีกนะ"
"ฮ่าๆ, แต่ไม่เป็นไร, โชคยังดีที่พวกเรานั้นยังมีไพ่ตายที่ยังคอยปกป้องชีวิตพวกเราอยู่, มนุษย์โลกอย่างพวกแกฆ่าพวกข้าไม่ได้หรอก
เมื่อคิดถึงทางกองทัพของชาวโครน่าแล้ว, อีกไม่นานพวกเขาคงจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาแล้วจากนั้นก็จะเดินทางมาช่วยพวกเขา, นายพลของโครน่าจึงหัวเราะออกมา
"รอก่อนเถอะ รอก่อน รอให้กองทัพของชาวโครน่ามาถึงก่อนเถอะ, พวกแกจะไม่มีใครที่หนีรอดไปได้"
ในบรรดากบฏนั้น, มีคนๆหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างสบประมาทนายพลของโครน่า "ว่าพวกเราโง่, พวกแกก็เหมือนกันนั่นแหละ, ที่ยังหวังลมๆแล้งๆว่ากองทัพของพวกแกจะมาช่วย, ไม่เห็นรึไงว่าพวกคนที่มาจับกุมพวกเรานั้นไม่ใช่มนุษยชาติซักหน่อย?"
"ไม่ว่าพวกมนุษย์จะทำอะไร, พวกแกก็ต้องตายหากต้องเจอกับกองกำลังที่ทรงพลังของชาวโครน่า"
"ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องถูกแล้วที่ว่าพวกแกนั้นโง่, ข้าลืมบอกพวกแกไปว่าในจักรวาลนี้มีสิ่งที่เรกว่าสหพันธรัฐจักรวาลอยู่, และที่นั่นมีอารยธรรมที่ทรงพลังอยู่มากมายเต็มไปหมด, และนั่นคือที่ๆคนที่จับพวกเรานั้นมายังไงล่ะ"
นายพลชาวโครน่านั้นถึงกับนิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง, พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อของสหพันธรัฐจักรวาลมาก่อนเลย
0 ความคิดเห็น