CF:บทที่ 727 เริงร่ากันต่อไป

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 727 เริงร่ากันต่อไป

 

ที่นอกโลกมียานอวกาศลำหนึ่งที่กำลังบินมาอย่างช้าๆ, บรรยากาศในยานอวกาศลำนั้นตึงเครียดมาก, กลุ่มคนเหล่านี้ต่างก็ให้ความสนใจกับดวงดาวที่อยู่รอบๆ

 

"ครัม, คุณมั่นใจนะว่าในอวกาศพวกเราจะไม่ถูกพบโดยฟิวเจอร์กรุ๊ปน่ะ?" ลอดจ์พูดถามอย่างเป็นกังวล

 

ถ้าเกิดพวกเขาถูกพบโดยฟิวเจอร์กรุ๊ปขึ้นมา, พวกเขาคงได้ถูกฆ่าและกลายเป็นฝุ่นอวกาศอย่างแน่นอน

 

ด้วยผมสีขาวและเสื้อกาวน์ยาว, แบบเดียวกับชุดกาวน์สีขาวที่เหล่าศาสตราจารย์ในห้องแล็บใส่กัน, ครัมผู้ไร้เดียงสากำลังจ้องมองไปที่จอแสงที่อยู่ตรงหน้าเขา

 

"ไม่ต้องกังวลไปหรอกน่า, ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน, ผมทดลองใช้เจ้าเครื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว, แล้วก็ไม่เคยถูกพบโดยฟิวเจอร์กรุ๊ป, ยิ่งไปกว่านั้นก่อนที่ผมจะมาที่นี่ ผมก็ได้ขอให้คนช่วยผมค้นหาให้แล้ว, ว่าตรงนี้คือจุดที่อ่อนแอที่สุดในการตามแกะรอยของฟิวเจอร์กรุ๊ป"

 

เมื่อได้ยินที่ครัมอธิบาย ลอดจ์ก็โล่งใจขึ้นมาบ้าง, น่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นในภารกิจครั้งนี้, ไม่อย่างนั้นพวกเขาได้ตายหมดแน่

 

ไม่ไกลจากพวกเขานั้น, มีคนผมบลอนด์แบบชาวตะวันตกอายุราวๆ 30 พูดขึ้นอย่างตื่นเต้น, "ข้าได้ส่งข้อความออกไปแล้ว, ก็เหลือแต่รอให้พวกเขาส่งข้อความกลับมาหาพวกเราเท่านั้น"

 

"เยี่ยมไปเลย, เมื่อใดที่พวกเราติดต่อกับพวกเขาได้เมื่อไร, พวกเราก็มาได้ครึ่งทางแล้วล่ะนะ"

 

"หากพวกเราได้คุยกับมนุษย์ต่างดาวพวกนั้นแล้ว, พวกเราก็จะสามารถกำจัดฟิวเจอร์กรุ๊ปออกไปจากโลกได้, แล้วเทคโนโลยีของพวกเขาก็จะต้องตกเป็นของพวกเรา, เทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นยังใช้ประโยชน์ได้อยู่"

 

ชาวโครน่า, ที่กำลังโจมตีใส่เกราะป้องกันของระบบสุริยะอยู่นั้น, เมื่อทราบว่ามีคนติดต่อมาจากด้านในของระบบสุริยะและขอความร่วมมือจากพวกเขา, ในตอนแรกพวกเขาก็คิดที่จะไม่สนใจ

 

แต่เมื่อพวกเขาได้อ่านข้อความที่ได้รับมาจากพวกครัม ก็พบว่าเทคโนโลยีที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปพัฒนาขึ้นมานั้นไม่ธรรมดาเลย ทำให้พวกเขาเกิดสนใจขึ้นมา

 

อย่างไรก็ตามพวกเขาก็สนใจเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น

 

เมื่อกลุ่มผู้นำทางพบว่าในโลกนั้น, ยังมีคนที่มีความคิดแบบเดียวกับพวกเขาอยู่, พวกเขาจึงได้เริ่มลงมือและพัฒนาความสามารถในการหลอกลวงของพวกเขาทันที

 

แต่น่าเสียดายที่คนพวกนั้นทั้งสองฝ่ายต่างก็มีความสามารถหลอกลวงที่พอๆกัน, คนที่อยู่ด้านในจึงไม่เชื่อคำพูดของพวกผู้นำทางเลย

 

และพวกผู้นำทางเองก็ไม่เชื่อในสัญญาของพวกคนที่อยู่ดานในระบบสุริยะเช่นกัน

 

ด้วยความกลัวที่ว่าตำแหน่งของพวกเขาในอารยธรรมโครน่าจะถูกพวกเขาแย่งชิงไป, เหล่าผู้นำทางจึงได้เริ่มใส่ร้ายป้ายสีมนุษย์ที่มาขอความร่วมมือกับชาวโครน่า

 

อย่างไรก็ตาม, เพราะข้อมูลที่ให้มานี้ทำให้ชาวโครน่าดูเหมือนจะไม่เชื่อที่พวกเขาพูด, ทำให้ตำแหน่งของพวกเขาถูกลดลงไปอย่างมากจากเหตุการณ์นี้

 

"ทำยังไงดี? คนพวกนั้นคงได้เจรจากับชาวโครน่าในไม่ช้านี้แน่, และตำแหน่งของพวกเราที่นี่ก็จะตกอยู่ในฐานะที่น่าอับอายแน่, แล้วถ้าพวกเขาทำสำเร็จ, แล้วถ้าชาวโครน่ายึดโลกนี้ได้แล้ว คงไม่มีอะไรเหลือให้พวกเราแน่"

 

"อืม, ถ้าอย่างนั้นก็ทำให้พวกเขาทำไม่สำเร็จสิ, ลองคิดดูสิว่าถ้าฟิวเจอร์กรุ๊ปรู้เรื่องนี้จะเป็นอย่างไร, พวกเขาคงจะได้มีชีวิตอยู่ถึงตอนที่ชาวโครน่าโจมตีระบบสุริยะรึเปล่านะ?"

 

"ไม่ดีๆ, หากชาวโครน่ารู้เข้าล่ะก็, พวกเราคงได้จบสิ้นแน่"

 

"ไม่ๆ, ผมไม่คิดแบบนั้นหรอก หากฟิวเจอร์กรุ๊ปฆ่าคนพวกนั้นแล้วล่ะก็, ชาวโครน่าก็จะไม่ลงโทษพวกเราหรอก, เพราะเมื่อถึงตอนนั้น พวกเราก็กลายเป็นคนที่ทำประโยชน์ให้มากที่สุดแก่พวกเขาไป"

 

ไม่นานนักก็กลายเป็นที่แน่ชัดสำหรับคนพวกนี้แล้วว่า พวกเขาจะได้เป็นคนที่สำคัญที่สุดของชาวโครน่าถ้าไม่มีใครอื่นนอกเสียจากพวกเขา

 

แต่หากชาวโครน่ามีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่าพวกเขาแล้วล่ะก็, พวกเขาคงได้ตกอยู่ในอันตรายที่นี่แน่

 

"ถ้าเป็นเช่นนี้, พวกเราก็จำเป็นที่จะต้องหาทางส่งข้อความนี้ออกไปยังฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้ว, ดั่งเช่นที่เคยมีคำกล่าวไว้ว่า: ปล่อยให้คนอื่นตายดีกว่าตายอย่างอนาจ"

 

คนกลุ่มนี้ต้องการที่จะส่งข้อความออกไปฟิวเจอร์กรุ๊ป, ว่าในขณะนี้มีคนที่อยู่ด้านในกำลังทำการเจรจาติดต่ออยู่กับชาวโครน่าอยู่

 

ซึ่งไม่มีปัญหาอะไรในการสื่อสารระหว่างมนุษยชาติกับชาวน่า, ในเวลานี้ชาวโครน่าในทำการเจรจาโดยตรงกับมนุษยชาติที่อยู่ในระบบสุริยะ, โดยไม่ผ่านพวกเขาที่เป็นผู้นำทาง ทำให้พวกเขาอยากที่จะฆ่าพวกคนที่อยู่ในระบบสุริยะมากขึ้นไปอีก

 

ในตอนแรกที่ลอดจ์ได้พบกับชาวโครน่านั้น, ถึงแม้ว่าเขาจะมีสีหน้าแปลกๆไปบ้าง, แต่ไม่นานเขาก็ยอมรับได้, เพราะมีหนังไซไฟมากมายเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวที่มีรูปร่างไม่เหมือนมนุษย์ปรากฏอยู่มากมาย

 

"คุณคงจะได้เห็นข้อมูลที่พวกเราได้ส่งไปให้คุณแล้ว, ความต้องการของพวกเราไม่ได้มากมายอะไร, พวกเราจะช่วยพวกคุณยึดโลก, แล้วมนุษยชาติจะตกเป็นของชาวโครน่า, พวกเราต้องการเพียงแค่สิทธิในการเป็นผู้นำของมนุษยชาติเท่านั้น"

 

"ข้าต้องการประชากรมนุษย์แค่ 2 ใน 3 เท่านั้น, และพวกเราชาวโครน่าก็ไม่สนใจในการปกครองมนุษย์ด้วย, อย่างก็ตาม, ทุกๆปี พวกเจ้าจะต้องส่งเครื่องบรรณาการและทาสที่แข็งแกร่งมาให้พวกข้า"

 

"อืม, ประชากร 2 ใน 3 นี่มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอ?"

 

"ไม่เลย, ไม่, ข้ารู้มาว่ามนุษย์อย่างพวกเขาสามารถแพร่พันธุ์ได้รวดเร็วมาก, ดังนั้น 2 ใน 3 ถือว่าไม่ได้มากอะไรเลย, ยิ่งไปกว่านั้นพวกคุณก็ไม่มีทางเลือกอื่นด้วย, เมื่อใดที่พวกเราพังเกราะป้องกันนี่ไปได้, พวกมนุษย์จะต้องตกเป็นทาสทั้งหมด"

 

ลอดจ์และคนอื่นๆต่างก็คิดว่าประชากรจำนวน 2 ใน 3 นั้น จากจำนวนของประชากรในโลกในปัจจุบัน มีจำนวนเกือบ 6 พันล้านคน

 

แน่นอนว่า, จำนวนนี้รวมถึงคนที่เพิ่งเกิดมาด้วย, ไม่อย่างนั้นจำนวนประชากรนั้นคงไม่มากขนาดนี้

 

เพราะว่าในแผนการอพยพของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น, จึงได้มีนโยบายที่กระตุ้นและเอื้อเฟื้อคู่รักมีลูกมากยิ่งขึ้น, ทำให้มีประชากรมนุษย์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

ไม่นานคนพวกนี้ก็ได้คำตอบ, และพวกเขาเองก็พบว่าดูเหมือนพวกเขาจะมีแค่ทางเลือกเดียวเท่านั้น, ถ้าไม่ใช่เพราะข้อมูลของฟิวเจอร์กรุ๊ปที่พวกเขาให้ไป, ชาวโครน่าพวกนี้คงขี้เกียจที่จะเจรจากับพวกเขาเป็นแน่

 

"ก็ได้, พวกเราสัญญาที่จะมอบประชากรมนุษย์จำนวน 2 ใน 3 ให้กับคุณ และจะมอบทาสชาวมนุษย์หลังจากนั้นซักช่วงหนึ่ง, แต่คุณจะต้องรับรองการควบคุมมนุษยชาติให้กับพวกเรา"

 

"ไม่มีปัญหา, พวกเราไม่ได้สนใจที่จะปกครองมนุษย์อยู่แล้ว, พวกเราชาวโครน่าสนใจแต่ทาสเท่านั้น"

 

"พวกเรายังมีเงื่อนไขอีกข้อนั่นคือคุณจะต้องมอบคนในฟิวเจอร์กรุ๊ปให้กับพวกเราด้วย, แน่นอนว่าคุณสามารถเอาข้อมูลที่พวกคุณต้องการจากพวกมันไปก่อนได้แล้วค่อยมอบพวกมันให้กับพวกเราทีหลัง"

 

"ตกลง"

 

"ยินดีที่ได้ร่วมมือครับ"

 

คนพวกนี้มองดูชาวโครน่าที่สัญญาที่จะมอบบุคคลที่สำคัญของฟิวเจอร์กรุ๊ปให้กับพวกเขาทีหลังเช่น หลิงเมิ่งเสวี่ย, หลิวหมิงเยี่ย, โจ้วหลาน, ลู่เปงเฟยและคนอื่นๆ ซึ่งพวกเขาก็โล่งอก

 

ชาวโครน่านั้นอยากได้เทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ป, และพวกเขาเองก็ต้องการเทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ปเช่นกัน, พวกเขาเองก็ต้องหาทางออกเช่นกัน เพราะพวกเขาไม่ต้องการที่จะเป็นลูกไล่ของชาวโครน่าตลอดไปเช่นกัน

 

การขอความร่วมมือบรรลุผล, กลุ่มคนพวกนั้น อย่างลอดจ์และครัม ต่างก็กำลังตื่นเต้นอะไรอยู่ในยานอวกาศ

 

ชายคนหนึ่งยิ้มอย่างชั่วร้ายและพูดขึ้น "ฮ่าๆ, เมื่อไรที่ข้าจับพวกคนในฟิวเจอร์กรุ๊ปได้, ข้าจะให้พวกมันได้ลิ้มรสการลงโทษที่โหดร้ายที่สุดของมนุษยชาติเลยคอยดู"

 

"ฮ่าๆ, พวกสาวเอเซียพวกนี้ก็เซ็กซี่ดีซะด้วย, ผมเองก็อย่างจะลองลิ้มรสดูเหมือนกัน"

 

"อุปกรณ์ไฮเทคของฟิวเจอร์กรุ๊ปจะต้องตกเป็นของผมในไม่ช้า"

 

"......"

 

ยังไม่สำเร็จแท้ๆ, แต่คนพวกนี้กลับจินตนาการถึงความสำเร็จอยู่ในยานอวกาศกันเสียแล้ว, ซึ่งพวกเขาไม่ได้รู้เลยว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นกำลังจ้องมองพวกเขาอยู่ในยานอวกาศที่อยู่ในอวกาศที่ไกลออกไป

 

พวกเขาออกมาจากโลกด้วยยานอวกาศ, แล้วยังส่งสัญญาณติดต่อออกไปเป็นวงกว้าง เพื่อส่งข้อความติดต่อกับชาวโครน่า, การเจรจาของชาวโครน่ากับพวกเขานั้นล้วนตกอยู่ภายใต้การเฝ้าดูของอู๋ฮ่าวเหริน

 

หลังจากที่ยานอวกาศของอู๋ฮ่าวเหรินได้อยู่ในทางช้างเผือกแล้ว, เขาก็ได้ใช้ให้จี้ทำการควบคุมระบบตรวจจับในระบบสุริยะเพื่อจับตาดูทั่วทั้งระบบสุริยะเพื่อป้องกันเผื่อมีอะไรผิดพลาด

 

"ไม่คิดเลยว่าแค่ออกจากโลกไปแค่ปีเดียว, จะมีบางคนที่อดใจไม่ไหว และทำราวกับว่าฉันได้ตายไปในอวกาศแล้วจริงๆยังไงอย่างงั้น"

 

อู๋ฮ่าวเหรินส่ายหัวของเขาอย่างผิดหวังในตัวของคนบางคน, แน่นอนว่าเขาเองก็เข้าว่านี่เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

 

แต่ยังดีที่, ในบรรดาคนเหล่านี้ไม่มีสมาชิกอาวุโสของฟิวเจอร์กรุ๊ปรวมอยู่ด้วย, ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่รู้จะทำอย่างไรดี

 

"โม่เก๋อ, คุณอยู่ที่ไหนแล้วตอนนี้?"

 

"อยู่ที่นี่ครับ, ผมจะไปถึงที่นั่นในอีกไม่ช้าครับ"

 

"ดีมาก, เมื่อคุณมาถึงแล้วอย่าเพิ่งลงมือ, รอคำสั่งจากผมอีกที"



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น