CF:บทที่ 726 ปล่อยให้หยิ่งผยอง
เรื่องของการโจมตีของชาวโครน่าด้านนอกของระบบสุริยะนั้นได้เผยแพร่ออกไปทั่วโลกโดยคนกลุ่มหนึ่ง
จากนั้น, คนเหล่านี้ก็ได้เริ่มโจมตีฟิวเจอร์กรุ๊ปเป็นการลับ, บอกว่าการตัดสินใจของพวกเขาในครั้งนี้มันผิด, ซึ่งจะทำให้เกิดการตายของมนุษยชาติ
ในอินเตอร์เน็ท, มีคนจำนวนมากกำลังมองดูวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ออกมา, ทำให้ผู้คนทั้งหมดเป็นกังวลขึ้นมา, พวกเขาต่างกลัวการโจมตีของยานแม่ของชาวโครน่า
"มันน่ากลัวมาก, ทำไมมนุษย์ต่างดาวถึงต้องมาโจมตีพวกเราด้วยนะ"
"ถึงจะมีข่าวอย่างเป็นทางการเผยแพร่ออกมาว่า การโจมตีของมนุษย์ต่างดาวเหล่านี้จะไม่มีอันตรายถึงพวกเราก็เถอะ, แต่ถ้าดูจากการโจมตีในระดับนี้แล้ว, ถ้าพวกเขาพังเกราะกำบังของฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ล่ะก็, พวกเราคงได้ชะตาขาดแน่"
"ทำไมฟิวเจอร์กรุ๊ปถึงได้มีคำสั่งใช้แผนตั้งรับนะ? ไม่ใช่ว่าพวกเรามีกองยานอยู่ไม่ใช่รึไง?"
"ใครจะไปรู้? ได้ยินมาว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่คิดที่จะพยายามตอบโต้กลับไปด้วยซ้ำ, จึงได้ใช้แผนการนี้, เฮ้อ ในสถานการณ์เช่นนี้ แม้แต่ฟิวเจอร์กรุ๊ปก็คงจะคาดไม่ถึงล่ะมั๊ง?"
"ไม่ได้การ, พวกเราคงจะต้องลงมือทำอะไรซักอย่างซะแล้ว, พวกเราไม่สามารถปล่อยให้ฟิวเจอร์กรุ๊ปทำแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว, โลกนี้เป็นของทุกคนไม่ได้เป็นของฟิวเจอร์กรุ๊ป, สถานการณ์ความเป็นกับความตายเช่นนี้พวกเราปล่อยให้ฟิวเจอร์กรุ๊ปตัดสินใจไม่ได้หรอก"
"ใช่แล้ว ต้องประท้วง, พวกเราจำเป็นที่ต้องลงมือแล้ว, ไปที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปเพื่อประท้วงกันเถอะ"
"ข้าเอาด้วย, ข้าไม่ต้องการที่จะถูกมนุษย์ต่างดาวฆ่าตายโดยที่ยังไม่ได้ตอบโต้หรอกนะ"
"ผมก็เอาด้วย, ไปรวมตัวกันที่ตึกสำนักงานใหญ่ของฟิวเจอร์กรุ๊ปกันเถอะ, พวกเราไปประท้วงและสู้ตายกันเถอะ, ต่อให้พวกเราจะต้องตาย พวกเราก็ขอสู้ตายกับมนุษย์ต่างดาว"
"ใช่, ไอ้พวกสารเลวพวกนั้น, มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรหรอก"
"........"
ณ ห้องประชุมพิเศษเล็กๆแห่งหนึ่ง, มีกลุ่มคนในชุดสูทต่างก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มด้วยความยินดีมาก เมื่อพวกเขาดูความคิดเห็นเหล่านี้บนอินเตอร์เน็ท
"ฮ่าๆ, ดูนั่นสิ ข้าบอกแล้วใช่ไหมว่าแผนนี้มันจะต้องสำเร็จ"
"ใครจะไปคิดว่ามันทำให้ฟิวเจอร์กรุ๊ปกลายเป็นฝ่ายตรงข้ามกับมนุษยชาติได้จริงๆ, ด้วยการทำให้เกิดความแตกแยกกันระหว่างฟิวเจอร์กรุ๊ปกับคนธรรมดา, แล้วพวกเราจะจัดการยังไงกับมนุษย์ต่างดาวพวกนั้นกันดี?"
ทุกคนที่ได้ฟังคำถามนี้ก็หยุดการพูดคุยทันที, ทั้งห้องตกอยู่ในสภาวะเงียบสงัด
พวกเขานั้นสู้เพื่อต่อต้านกับฟิวเจอร์กรุ๊ปก็จริง แต่หลังจากที่พวกเขาสู้กับฟิวเจอร์กรุ๊ปเสร็จแล้วกลับมาถูกฆ่าตายโดยมนุษย์ต่างดาวแล้วล่ะก็, คงจะเป็นผลที่พวกเขาเองก็ไม่ต้องการให้เกิดเสียเท่าไร
ในตอนนั้นเอง, จู่ๆก็มีคนพูดขึ้นมา "บางทีพวกเราควรที่จะไปเจรจากับมนุษย์ต่างดาวพวกนั้นดีไหม?"
"หืม, คุณว่าอะไรนะ? คุณจะติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวอย่างงั้นเหรอ?"
"ไม่แน่ใจ, แต่ก็น่าจะลองดู, อย่าลืมว่าที่นั่นมีกลุ่มคนที่หนีออกไปจากโลกอยู่ด้วยนะ"
"ไอ้พวกคนที่พามานั่นน่ะเหรอ, ข้าไม่ต้องการที่เอาอย่างพวกเขาหรอกนะ"
"ไม่ๆ, ผมไม่เอาอย่างพวกเขาแน่นอน, แต่พวกเราจะใช้การต่อต้านของฟิวเจอร์กรุ๊ปเป็นเงื่อนไขในการต่อรองกับพวกมนุษย์ต่างดาวต่างหาก, ตอนนี้ฟิวเจอร์กรุ๊ปเปลี่ยนเสมือนของชิพเดิมพันในมือของพวกเรา, ผมเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวพวกนั้นจะต้องสนใจแน่"
"ใช่แล้ว, ในเวลานี้มนุษย์ต่างดาวจะต้องเกลียดฟิวเจอร์กรุ๊ปอย่างแน่นอน, มันเป็นชิพเดิมพันที่ไม่เลวเลยจริงๆ"
"อืม, คุณลองไปหาทางติดต่อดู แล้วอย่าให้ฟิวเจอร์กรุ๊ปจับได้ล่ะ, ในปัจจุบันพวกเรายังไม่สามารถที่จะสู้กับฟิวเจอร์กรุ๊ปได้หรอกนะ"
"เฮ้ๆ, ไม่ต้องกังวลไปหรอกน่า, ผมรู้ดีว่าจะต้องอะไร, ผมเองก็ยังไม่อยากที่จะถูกฆ่าตายโดยหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยพวกนั้นเหมือนกัน"
หลังจากที่หารือกันเสร็จแล้ว, กลุ่มคนเหล่านี้ก็พากันออกจากห้องประชุมผ่านถนนที่เป็นความลับ
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะระวังตัวกันอย่างดี, และใช้วิทยาการและเทคโนโลยีมากมายเพื่อสร้างอุปกรณ์ป้องกันต่างๆจำนวนมากขึ้นมา
แต่พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจถึงความทรงพลังด้านเทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ปอยู่ดี, โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านการสอดแนม, เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ, อู๋ฮ่าวเหรินได้สร้างระบบสอดแนมล้ำสมัยมากจากอนาคตขึ้นมา
ยิ่งไปกว่านั้น, อุปกรณ์ชุดนี้ยังได้เชื่อมต่อเข้ากับระบบศูนย์กลางสมองกล เพื่อสร้างระบบสอดแนมที่พิเศษขึ้นมา, ซึ่งศูนย์กลางสมองกลจะทำหน้าที่แค่บันทึกคำพูดที่คำนวนแล้วว่าจะเป็นอันตรายเอาไว้
เมื่อคนพวกนั้นมีพฤติกรรมเป็นปัญหาที่ชัดเจนขึ้นมา, สมองกลก็จะส่งข้อมูลไปยังฟิวเจอร์กรุ๊ป แล้วจากนั้นหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยก็จะเริ่มออกปฏิบัติการณ์
และผู้คนที่มีตัวตนพิเศษเช่นพวกเขานั้น, ซึ่งได้มารวมตัวกันเพื่อหารือเรื่องที่เป็นอันตรายต่อฟิวเจอร์กรุ๊ปอยู่บ่อยครั้งนั้น
ได้ตกอยู่ในบัญชีดำของสมองกลเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว
ดังนั้น, บทสนทนาของพวกเขานั้นไม่นานก็ได้ไปปรากฏอยู่ต่อหน้าหลิงเมิ่งเสวี่ย
หลิงเมิ่งเสวี่ยที่เป็นเหมือนดั่งราชินีกำลังนั่งมองดูข้อความที่คนพวกนั้นสนทนากัน ด้วยสีหน้าที่รังเกียจบนใบหน้าของเธอ
"มานี่สิ, พวกคุณทั้งสองคนน่าจะได้เห็น, ในที่สุดคนพวกนี้ก็เริ่มลงมือแล้ว, ฉันคิดว่าพวกเขาคงนึกว่าซ่อนตัวมิดชิดแล้ว
นั่งอยู่ไม่ไกลจากเธอ, หลิวหมิงเยี่ยและโจ้วหลานกำลังหารือกัน เรื่องร้านขายเสื้อผ้าสวยงามที่ออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ที่เป็นเจ้าของร้านเอง, และคิดที่จะไปในตอนหลังเลิกงาน
ทันทีที่ได้ยินเสียงของหลิงเมิ่งเสวี่ยเรียกทั้งสองคน, ทั้งสองคนนั้นก็หยุดคุยและหันมามอง
เมื่อรู้ว่าอู๋ฮ่าวเหรินกำลังจะกลับมาในไม่ช้านี้, พวกเธอหาได้กังวลเรื่องของยานรบมนุษย์ต่างดาวที่กำลังโจมตีอยู่ด้านนอกของระบบสุริยะอีก
"มานี่สิ มันคุยกับพวกเราเรื่องของเสื้อผ้าที่จะไปดูตอนหลังเลิกงานกัน, เรื่องของคนพวกนั้นปล่อยให้อู๋ฮ่าวเหรินที่กำลังจะกลับมาจัดการเถอะ"
"อ้อ, แล้วก็สำหรับคนที่ก่อความวุ่นวายในครั้ง, คุณน่าจะเอาไปบอกกับเว่ยหมิงนะแล้วให้เขาจัดการเรื่องนั้นเอง, หลังจากที่คนๆนั้นไม่ได้ทำที่บริษัทเครื่องดื่มแล้ว, เขาก็สามารถจัดการกับเรื่องแบบนี้ได้ชำนาญมาก"
เมื่อหลิงเมิ่งเสวี่ยได้ยินที่หลิวหมิงเยี่ยพูด, เธอก็ส่ายหัวและจัดการปิดเครื่องคอมพิวเตอร์
"ก็ได้, ปล่อยให้ฮ่าวเหรินเป็นคนจัดการก็ได้, เดี๋ยวฉันจะไปบอกกับเว่ยหมิงทีหลังละกัน, อย่างไรก็ตาม ถ้าพวกเราจะไปซื้อเสื้อผ้าหลังเลิกงาน, ก็น่าจะชวนพี่เหม่ยหรูไปด้วยนะ, ฉันได้ยินมาว่าเธอไปเอาพันธุ์ไม้สวยงามมาจากดาวดวงนั้นด้วยนะ
โจ้วหลายตบลงไปที่ต้นขาของเธอ "ฉันลืมไปแล้วนะเนี่ยถ้าเธอไม่พูดออกมา, ฉันได้ไปตกลงกับพี่เหม่ยหรูไปล้ว, เมื่อไรที่หมอนั่นกลับมา, พวกเราทั้งสามคนจะไปที่ดาวดวงนั้นเพื่อไปชมกัน, มันจะเป็นการเดินทางของพวกเรา, ที่นั่นมีบ้านที่พวกเราสร้างเอาไว้รวมถึงพันธุ์ไม้ต่างๆอีกด้วย"
หลิงเมิ่งเสวี่ยผงกหัว, เธอเองก็อยากจะไปเห็นที่นั่นเหมือนกัน, ซึ่งเธอไม่เคยมีเวลามาก่อนเลย
เว่ยหมิงที่ดูอ่อนเยาว์และคึกคักมากกว่าเดิม, หลังจากที่ได้รับการแจ้งเตือนมาจากหลิงเมิ่งเสวี่ย, เขาก็ได้ลงมือเรื่องนี้ในทันที
เรื่องของคนที่ต้องการจะมารวมตัวกันเพื่อประท้วง, เขาได้หมายหัวผ่านระบบศูนย์กลางสมองกลและส่งข้อความเตือนไปยังทุกคน
เนื้อหาก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก, บอกให้พวกเขาเชื่อในฟิวเจอร์กรุ๊ป, มนุษย์ต่างดาวที่อยู่ด้านนอกระบบสุริยะนั้นไม่สามารถที่จะโจมตีต่อเรื่องอยู่เป็นเวลานานได้, ขอให้ทุกคนรออีกสักระยะเท่านั้น
แต่น่าเสียดาย, ที่ดูเหมือนคนจำนวนมากจะไม่เชื่อ, แม้แต่ในอินเตอร์เน็ทก็มีคนที่ส่งข้อความโจมตีฟิวเจอร์กรุ๊ปอยู่เรื่อยๆ
"หัวหน้าครับ, ตอนนี้พวกเราจะทำยังไงดีครับ? คนเหล่านี้ไม่ยอมฟังคำแนะนำของพวกเราและโจมตีพวกเราอย่างรุนแรงมากในอินเตอร์เน็ทครับ" ช่างเทคนิคของเว่ยหมิงคนหนึ่งพูดขึ้นมา
เวิ่ยหมิงมองดูข้อความบนอินเตอร์เน็ทเหล่านั้นแล้วก็ยิ้ม, "ดี, ดี, คนพวกนี้ดูเหมือนว่าจะทำการบ้านมาดี, การโจมตีในลักษณะแบบนี้นั้นเรียกได้ว่าเจ้าเล่ห์จริงๆและง่ายที่จะหลงเชื่ออีกด้วย"
"หัวหน้า, คุณไม่สบายรึเปล่าครับ? ทำไมถึงไปชมศัตรูซะล่ะครับ? พวกเราจำเป็นที่จะต้องหาทางตอบโต้คนพวกนี้ไม่ใช่เหรอครับ?"
"บ้าสิ, ใครบอกคุณกันว่าผมจะตอบโต้พวกเขา? ผมกำลังล่อพวกเขา และปล่อยให้คนจำนวนมากออกมาฮุบเหยื่อต่างๆ, ไม่อย่างนั้นแล้วมันไม่ใช่เรื่องดีเลยที่ปล่อยให้ผีเสื้อกลางคืนซ่อนตัวอยู่เป็นเวลานาน"
"ถ้าปล่อยให้พวกเขาหยิ่งผยองแบบนี้ต่อ, มันจะมีผลกระทบในแง่ลบกับฟิวเจอร์กรุ๊ปของพวกเรานะครับ"
"ฮึ่ม, ปล่อยคนพวกนั้นหยิ่งผยองกันไปก่อน, หน้าที่ต่อไปของพวกคุณคือสืบหาตัวตนของผู่คนเหล่านี้ให้พบ, หากพบว่าคนพวกนี้ไม่ได้ถูกชักจูงโดยคนอื่นอีก, แต่ลงมือด้วยตัวเองแล้วล่ะก็ใส่ชื่อพวกเขาทั้งหมดลงบัญชีดำเล็กไปได้เลย"
"หัวหน้าครับ, พอเถอะ, คุณไม่ต้องพูดอะไรต่อแล้ว, พวกเราเข้าใจแล้ว, พวกเราเข้าใจแล้วครับ"
ผู้คนที่ทำงานภายใต้การควบคุมของเว่ยหมิงนั้นต่างรู้กันดีคือ, เมื่อใดที่มีคนถูกบันทึกชื่อลงในบัญชีดำของพวกเขาแล้ว, พวกเขาจะไม่สามารถเริงร่าได้อีกต่อไป
ท้ายที่สุดคนเหล่านี้ก็จะต้องหมดความน่าเชื่อถือในที่สุดและกลายเป็นกลุ่มคนที่ถูกปฏิเสธจากมนุษยชาติ, แล้วสุดท้ายพวกเขาก็จะถูกฆ่าให้ตายโดยมนุษยชาติที่กำลังโมโหแทนฟิวเจอร์กรุ๊ป
0 ความคิดเห็น