CF:บทที่ 728 ศัตรูของมนุษยชาติ
ข่าวเรื่องอู๋ฮ่าวเหรินกำลังจะกลับมาที่โลกนั้นยังไม่ได้ถูกเผยแพร่ออกไป, เป็นที่รู้กันเฉพาะคนไม่กี่คนเท่านั้น
ในอินเตอร์เน็ท, มีการเขียนข่าวโจมตีฟิวเจอร์กรุ๊ป, และมีกลุ่มคนที่มารวมตัวกันที่สำนักงานใหญ่ของฟิวเจอร์กรุ๊ปเพื่อก่อการประท้วง
กลุ่มคนเหล่านี้เดิมทีคิดที่จะบีบบังคับให้คนในระดับสูงๆของฟิวเจอร์กรุ๊ปยอมปล่อยการควบคุมยานรบและเทคโนโลยีของยานรบออกมา
ในบรรดาคนเหล่านี้, มีบางคนที่ยังเป็นพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปอยู่ด้วย และพวกเขาก็ได้ก่อตั้งพันธมิตรร่วมขึ้นมาใช้ชื่อว่า "พันธมิตรพิทักษ์โลก"
ในตึกของฟิวเจอร์กรุ๊ป, ในห้องทำงานของหลิงเมิ่งเสวี่ย, หลิงเหยาที่กำลังเดือดดาลก็ถามหลิงเมิ่งเสวี่ยว่า "น้องรัก, เธอสามารถสั่งให้พี่ไปจัดการได้นะ, เมื่อใดที่เธอสั่งการ พี่สัญญาว่าจะทำให้คนพวกนี้เชื่อฟังเอง, และพี่จะจัดการกับพวกคนที่ใช้แผนตุกติกพวกนี้ด้วย"
หลิงเมิ่งเสวี่ยมองมาที่หลิงเหยา, แล้วเธอก็ส่ายหัวและพูดขึ้น "พี่น่ะ หัดใช้หัวมั่งก็ได้นะคะ, พี่ไม่รู้เหรอว่ายิ่งใช้กำลังในการกดดันมายิ่งขึ้นเท่าไร, ผู้คนก็จะยิ่งต่อต้านมากขึ้นเท่านั้นน่ะ"
"หึ, นั่นเป็นเพราะว่าพวกเรายังเกลียดไม่ลงต่างหากล่ะ, เมื่อใดที่พวกเราเกลียดคนพวกนี้มากพอ, พวกเราก็จะสามารถฆ่าคนที่มาต่อต้านพวกเราได้เองและ, ซึ่งผมให้สัญญาเลยว่าจะไม่มีใครที่กล้าขวางทางหรือต่อต้านพวกเราแน่"
หลิวหมิงเยี่ยพูดขึ้นอย่างเบาๆ "ไม่คิดเลยว่าหมอนี่จะเป็นคนที่โหดร้ายได้ถึงขนาดนี้ สามารถฆ่าคนที่ต่อต้านทั้งหมดได้ลงคอ, นี่มันดาวร้ายชัดๆ"
"คนที่จะสามารถเป็นขุนพลได้ ไม่ควรจะเป็นคนแบบนั้นนะ, แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครที่กล้าออกมาต่อต้านแน่นอนถ้าเขาทำอย่างที่เขาว่าจริงๆ, ฮ่าๆ, ใครใช้ให้ฟิวเจอร์กรุ๊ปเป็นคนควบคุมกองกำลังทั้งหมดล่ะ?" ลู่เปงเฟยพูดขึ้นมาบ้าง
โจ้วหลานนั้นมีมุมมองที่ต่างออกไปและพูดขึ้นว่า "วิธีการแบบนั้นมันใช้แก้ไขได้แค่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ, ถ้าพวกเราทำเช่นนั้นจริงๆ, ผู้คนมากมายคงได้เป็นศัตรูกับฟิวเจอร์กรุ๊ปมากขึ้นกว่าเดิมแน่, พวกเขาจะเก็บซ่อนความโกรธแค้นเอาไว้ในใจเท่านั้น, และจะต้องก่อปัญหาขึ้นมาแน่หลังจากที่ผ่านไปเป็นเวลานาน"
"เป็นเวลานาน? คุณคิดมากไปแล้ว, ด้วยความสามารถของอู๋ฮ่าวเหรินแล้ว, ยังจะมีใครกล้าที่จะมาก่อความวุ่นวายในอนาคตอีก, ต่อให้พวกเขาจะเกลียดฟิวเจอร์กรุ๊ปมากขนาดไหนก็ตาม, พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่เก็บเอาไว้ในใจและบอกว่าเป็นบาปกรรมเท่านั้นแหละ"
เว่ยหมิงที่จู่ๆก็ถอนหายใจขึ้นมา "อืม, ผมเองก็คิดว่าอู๋ฮ่าวเหรินก็คงจะเห็นด้วยกับหลิงเหยานะถ้าเกิดเขาอยู่ที่นี่, ถึงแม้ว่าคนๆนั้นจะติดนิสัยลังเลไปบ้าง, แต่พอเป็นบางเรื่องแล้วจะตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดมากเลยล่ะ"
คนอื่นๆก็ผงกหัวตาม, ในเวลานั้นสมัยที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปยังไม่แข็งแกร่งนั้น, อู๋ฮ่าวเหรินได้บอกว่าสหรัฐอเมริกานั้นมีกำลังรบเป็นอันดับหนึ่งของโลก, ทำให้นึกอยากจะสู้กับใครก็สู้ได้ทันที และพวกเขาทำได้แค่สงบความโกรธเท่านั้น
การเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นในที่สุดก็จบลง, โดยที่หลิงเมิ่งเสวี่ยปฏิเสธวิธีการของหลิงเหยา
"ยังก็ตาม, ฉันก็ไม่เห็นด้วยกับคุณ, และคุณจะต้องถูกถอดออกจากตำแหน่งผู้การ, กลับไปสำนึกผิดซะ"
จากนั้นเธอก็หันหน้าไปที่ลู่เผิงเฟยและพูดขึ้น "คุณคอยดูแลเขาด้วยและห้ามไม่ให้เขาไปที่ศูนย์บัญชาการยานรบเด็ดขาด"
"รับทราบ"
หลังเหยารู้สึกผิดหวัง, เขาคิดว่าต่อให้น้องสาวของเขาจะปฏิเสธเขา, เขาก็คิดที่จะลงมือโดยพลการ, แต่ก็ไม่คิดว่าน้องสาวของเขาจะเดาความคิดของเขาได้และถอดเขาออกจากตำแหน่งทันที, จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะส่งคนจากหน่วยรักษาการณ์มาได้อีก
และคนเหล่านี้ก็ไม่มีใครที่จะสามารถช่วยเขาละเมิดคำสั่งของน้องสาวของเขาได้หลังจากที่เธอได้แจ้งเตือนเอาไว้
หลิวหมิงเยี่ยเดินมาที่ข้างๆหลิงเหยาและตบที่หลังเขาเบาๆ
"กลับบ้านไปก่อนนะ, อีกไม่นานมันก็จะจบแล้ว, คุณไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลอะไรอีก, คุณคิดจริงๆเหรอว่าพวกเราจะใจเย็นพอที่จะปล่อยพวกเขาไปแบบนี้ได้, เพียงแต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาที่จะจัดการกับพวกเขา"
"แต่ว่า....., ช่างเถอะ, ผมไม่สนใจแล้ว, ผมจะกลับไปที่โรงเรียนและศึกษาเรื่องของยานรบต่อ"
หลิงเมิ่งเสวี่ยมิงไปที่เขา, แต่หลิงเหยานั้นสูญเสียความเยือกเย็นไปแล้ว, เธอคิดว่าเธอน่าที่จะไปที่โรงเรียนเพื่อมองหาคนที่มีความสามารถมาแทนที่เขา
ส่วนหมิงเจี่ยงนั้น, ได้ออกไปท่องอวกาศไปด้านนอกของระบบสุริยะ, และได้ทำการคัดเลือกคนหนุ่มสาวฝีมือดีจากโรงเรียนไปมากมาย, ถึงแม้ว่าเขาจะเทียบกับหลิงเหยาไม่ได้ก็ตามที
หลังจากที่หลิงเหยาและลู่เปงเฟยได้ออกไป, ก็เหลือเอาไว้เพียงแค่ 3 สาวอยู่ในห้องทำงาน
หลิวหมิงเยี่ยถามหลิงเมิ่งเสวี่ย "นั่้นของอู๋ฮ่าวเหริน"
"ใช่, เขาเพิ่งส่งวิดีโอนี้ให้กับฉันเมื่อซักครู่นี้เอง, พวกเธอลองดูละกัน"
เมื่อหลิวหมิงเยี่ยและโจ้วหลายดูวิดีโอ, สีหน้าของพวกเธอก็ไม่สู้ดีขึ้นมา
หลิงหมิงเยี่ยถอนหายใจ "บริษัทของเรามันใหญ่เกินไปจริงๆ, พอมากคนก็มากความจริงๆ"
"โชคดีนะเนี่ยที่เขากลับมาพอดี, ไม่อย่างนั้นคงได้มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นแน่"
หลิงเมิ่งเสวี่ยผงกหัว, แต่เธอเองก็ไม่คิดว่าปัญหาเช่นนี้จะปรากฏขึ้นมาในบริษัทได้
"อย่างไรก็ตาม, หมอนั่นก็ทิ้งงานให้พวกเราเอาไว้, และบางทีเขาคงจะต้องคำนวนเป็นอย่างดีแล้วว่าเมื่อไรที่เขาควรจะกลับมา" หลิวหมิงเยี่ยพูดพร้อมกับกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน
"ใช่, พวกเราควรที่จะเอาคืนเรื่องนี้, เพราะเขาไม่เชื่อในการดูแลของพวกเราเลย"
หลิงเมิ่งเสวี่ยลุกขึ้นยืนและพูดราวกับว่าเธอไม่สนใจเรื่องนี้เลย, ไม่รู้ว่าคู่รักทั้งสองคนนี้ลงเอยกันได้อย่างไร
อู๋ฮ่าวเหรินไม่รู้เลยว่าเป็นเพราะผลการสืบสวนพิเศษครั้งนี้, ได้ทำให้เขาเป็นที่จดจำของทั้งสองสาวไปแล้ว
-----------------------------------------------------------------
เมื่อลอดจ์กับครัมกลับมายังโลกแล้ว, พวกเขาก็ได้รายงานให้คนอื่นฟังเรื่องของการเจรจากับชาวโครน่า
จากนั้นกลุ่มคนก็ดีใจจนแทบจะเป็นบ้า, และปลุกระดมคนอื่นๆให้ลุกขึ้นมาต่อต้านการปกครองโดยฟิวเจอร์กรุ๊ป
นอกจากนี้, พวกเขาก็ได้เริ่มจากคนในสภาสหภาพมนุษย์ก่อน, พวกเขานั้นรู้ดีว่ามีบางคนในสภาสหภาพซึ่งเดิมทีเป็นผู้นำประเทศและคนของรัฐบาล ซึ่งไม่พอใจฟิวเจอร์กรุ๊ปเช่นกัน
และผลคือ คนพวกนี้มีความสามารถมากพอและปลุกปั่นคนในสภาสหภาพได้สำเร็จ
นอกจากนี้, พวกเขาก็ได้อาศัยแรงกระตุ้นนี้ทำให้คนในฟิวเจอร์กรุ๊ปรู้สึกว่ามนุษยชาตินั้นกำลังต่อต้านการปกครองของฟิวเจอร์กรุ๊ปอยู่
แน่นอนว่า, ในการเจรจาครั้งที่ 2, พวกเขาได้ตกลงกับชาวโครน่าว่าจะช่วยชาวโครน่าทำลายระบบเกราะป้องกันของระบบสุริยะ
และเป็นอีกครั้ง, ที่คนพวกนี้ได้เริ่มวางแผนกันอีกครั้ง, และพวกเขาก็ได้เริ่มส่งวิดีโอโปรโมตผ่านทางออนไลน์ออกไป
เป็นวิดีโอที่แสดงโดยชาวโครน่าตามแผนการของพวกเขา, ซึ่งเนื้อหาก็ไม่มีอะไรมาก, หากมนุษยชาติยอมมอบฟิวเจอร์กรุ๊ปให้, ชาวโครน่าจะไม่ยุ่งอะไรกับมนุษย์คนอื่นๆ
ซึ่งการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ร้ายกาจมาก, พวกเขาตั้งใจที่จะบังคับให้ฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นกลายเป็นศัตรูของมนุษยชาติ
ไม่นานนักหลังจากที่วิดีโอนี้ได้เผยแพร่ออกไป, เหล่าคนในฟิวเจอร์กรุ๊ปก็ได้เริ่มลงมือทันที
พวกเขาได้เริ่มแจกจ่ายความคิดเห็นที่ไม่พึงพอใจต่อฟิวเจอร์กรุ๊ปอย่างระมัดระวัง แล้วจากนั้นก็ลาออกจากฟิวเจอร์กรุ๊ปด้วยตำแหน่งที่สูง
นับตั้งแต่บริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ก่อตั้งมา, มีพนักงานเพียงไม่กี่คนที่ลาออกด้วยตัวเองเช่นนี้
หลังจากที่ลาออกมาแล้ว, ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ, คนเหล่านี้ก็ได้ออกมาบอกเหตุผลในการลาออกของพวกเขาว่า พวกเขากลัวที่จะโดนลากเข้าไปเกี่ยวกับฟิวเจอร์กรุ๊ป, ในเวลานี้ชาวโครน่ากำลังพังเกราะป้องกันของพวกเขาอยู่, และถ้าพวกเขาไม่ลาออก, พวกเขาอาจจะถูกเหมารวมว่าเป็นสมาชิกของฟิวเจอร์กรุ๊ปด้วยก็ได้
ด้วยการร่วมมือของชาวโครน่า, การโจมตีเกราะกำบังนั้นเป็นไปอย่างขยันขันแข็ง และยังได้ส่งข้อมูลที่บ่งบอกถึงความทรงพลังของชาวโครน่ามาที่โลกอีกด้วย
ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้, ก็มีพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปที่เริ่มเป็นกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าพวกเขาจะถูกจัดการเพราะมีเอี่ยวกับฟิวเจอร์กรุ๊ปก็เป็นได้
และมนุษยชาติที่อยู่ในโลกนั้น, เพราะการโจมตีอย่างรุนแรงของชาวโครน่า, พวกเขาจึงได้เริ่มกังวลว่าโลกมนุษย์นั้นจะต้องลำบากแน่ถ้าฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่สามารถต้านทานไว้ได้
เมื่อเผชิญกับการอธิบายของฟิวเจอร์กรุ๊ป, บางคนก็ถึงกับไม่ฟังเลย, ด้วยการปลุกปั่นของคนพวกนั้น, ทำให้มีเสียงที่ต่อต้านฟิวเจอร์กรุ๊ปมากขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผนการของคนพวกนี้, อีกไม่นานฟิวเจอร์กรุ๊ปก็จะกลายเป็นศัตรูของมนุษยชาติไป
0 ความคิดเห็น