CF:บทที่ 725 ความ "โง่" ของชาวโครน่า
หลังจากที่ไม่ได้อะไรกลับมาจากการเจรจาของกลุ่มคนที่นำทาง, สถานการณ์นี้ก็ได้แต่ต้องรายงานกลับไปยังชาวโครน่า
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์นี้, ชาวโครน่าต่างก็หารือกันและเตรียมพร้อมที่จะแสดงให้มนุษยชาติให้เห็นถึงความทรงพลังของชาวโครน่าที่แท้จริง
"โจมตีได้, โจมตีก่อนคุยทีหลัง, ทำให้พวกมนุษย์ได้เข้าใจว่าพวกเขานั้นก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากเศษฝุ่นในอวกาศเมื่อต้องเผชิญหน้ากับพวกเรา"
"ท่านนายพลครับขอเวลาให้ผมซักชั่วโมง, แล้วผมจะขอเป็นคนนำทางยานรบออกไปและนำโลกกลับมาให้ท่านเองครับ"
"ถ้าอย่างนั้นก็ไป, ยังไงพวกแกก็สู้ไม่ได้อยู่แล้ว ไร้ประโยชน์สิ้นดี" นายพลโครเน่, มองมาที่คนที่อาสาเป็นคนนำทางอย่างเหยียดหยาม
ยานรบครึ่งหนึ่งของชาวโครน่า, ภายใต้การนำทางของกลุ่มคนพวกนั้น, ก็ได้มุ่งหน้ามายังระบบสุริยะ
โดยไม่มีการระวังตัวหรือหลบซ่อน พวกเขาได้มุ่งหน้ามายังโลกแบบตรงๆ
ผ่านมาได้ไม่ถึงนาที, ยานรบลำหนึ่งก็ได้ระเบิดออกกลายเป็นดอกไม้ไฟที่สวยงามและกลายเป็นฝุ่นในอวกาศไป
ผู้ที่นำทางมาก็หันไปมองยานรบที่ระเบิด, แล้วก็ทำหน้าแบบไม่น่าเชื่อ
"เกิดอะไรขึ้น? ทำไมยานอวกาศถึงเกิดระเบิดได้?"
"พบคลื่นพลังงานพิเศษอยู่ที่ด้านหน้าครับ, ยานอวกาศจึงชนเข้าอย่างจังแล้วทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก จนทำให้เกิดการระเบิดที่ถังพลังงานครับ"
"เคยได้ยินมาว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นได้วางเกราะป้องกันเอาไว้, คงไม่ใช่ไอ้นี่หรอกนะ?"
"จะเป็นไปได้ยังไงนี่เรายังไม่ได้เข้าไปในระบบสุริยะเลยนะ, ฟิวเจอร์กรุ๊ปสามารถสร้างเกราะป้องกันขนาดใหญ่ได้ขนาดนี้เลยเหรอ"
แต่เมื่อได้ส่งอุปกรณ์ตรวจจับออกไปอีกก็ถูกทำลายในทันทีเมื่อพวกมันเข้าไปยังระบบสุริยะ, พวกเขาจึงได้รู้ว่ามีเกราะป้องกันแปลกๆอยู่จริงๆ
"บ้าเอ๊ย, ยิงเข้าไป ทำลายเกราะป้องกันนั่นให้พังเป็นชิ้นๆ"
ยานรบของชาวโครน่าทั้งหมดก็ได้ระดมยิงปืนใหญ่จากยานรบเข้าไปยังระบบสุริยะ
ลำแสงพลังงานขนาดใหญ่, อย่างกะอุกกาบาตก็ได้พุ่งเข้าไปยังระบบสุริยะ
และก็พบว่าทั้งระบบสุริยะนั้น, ราวกับว่าถูกล้อมโดยลูกบอลพลังงานขนาดมหึมา, เมื่อลำแสงพลังงานชนเข้ากับตาข่าย ไม่นานนักพวกมันก็หายไป
เมื่อการโจมตีจบลง, ตาข่ายพลังงานที่ล้อมรอบระบบสุริยะอยู่นั้นก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปเลย
ทั้งชาวโครน่าและผู้นำทางต่างก็พบว่าพวกเขาเจอปัญหาเข้าให้แล้ว
สถานการณ์นี้ได้เผยแพร่ออกไปทั่วทั้งยานแม่, กลุ่มนายพลของชาวโครน่ามองดูภาพในวีดีโอแล้วก็ประหลาดใจขึ้นมา
"เป็นเกราะป้องกันที่แปลกมาก, และมันยังดูแข็งแรงมากอีกด้วย"
"แล้วมันมีวิธีที่จะทำลายมันบ้างมั๊ย?"
"มีครับ, นั่นคือต้องรอให้พลังงานที่ใช้ในการสร้างเกราะกำบังพวกนี้หมดไปครับ, และจากการวิเคราะห์ของพวกเราเกราะป้องกันนี้น่าจะต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งก่อสร้างเหล่านี้, ถ้าพวกเราสามารถพังสิ่งก่อสร้างพวกนี้ได้ พวกเราก็จะสามารถพังเกราะป้องกันนั่นได้ครับ"
ท่านนายพลนั้น ไม่ค่อยจะพอใจกับคำตอบเหล่านี้ซักเท่าไร จึงได้ถามขึ้นมา "แล้วยังมีวิธีการอื่นอีกมั๊ย?"
"ไม่มีแล้วครับ, นอกเสียจากจะมีใครบางคนข้างในนั้นทำลายมันจากข้างใน, แต่จากที่พวกเราได้ทราบมาฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นเป็นผู้ที่จัดการเทคโนโลยีทั้งหมดอยู่ครับ จึงไม่มีใครที่สามารถทำลายมันจากข้างในได้เลยครับ"
"ถ้าอย่างนั้นก็ให้พวกมนุษย์ที่พวกเราจับมา ให้พวกมันหาทางผ่านเกราะกำบังนี่ให้เร็วที่สุด"
"ครับ"
ผู้นำของกลุ่มนี้เมื่อได้ทราบเรื่องแล้วต่างก็รู้สึกหนักใจ
"พวกเราจะทำยังไงกันต่อดี? พวกเราไม่สามารถพังเกราะกำบังนั่นได้แน่"
"แล้วก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะติดต่อคนบนโลกให้ช่วยทำลายมันได้ด้วย"
พวกเขาได้ออกมาจากโลกพร้อมกันทั้งหมดโดยไม่ได้ทิ้งใครเอาไว้เลย, แล้วถึงจะมีคนที่อยู่ต่อพวกเขาก็คงไม่สามารถติดต่อกันได้ด้วยแน่ๆ
"งั้นก็มีอยู่ทางเดียวคือรอจนกว่าพลังงานจะหมด"
ไม่ได้ยินวิธีการนี้, สีหน้าของทุกคนก็ซีดเผือดทันที, เพราะพวกเขานั้นรู้ดีว่าหินพลังงานที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปได้สำรองเอาไว้นั้นเยอะมาก
"ลองขู่ให้พวกเขากลัวดูเผื่อจะได้ผล"
ไม่นานนัก, คนพวกนี้ก็ได้ติดต่อไปยังฟิวเจอร์กรุ๊ปอีกครั้ง
"ยอมแพ้เสียแต่โดยดี, ไม่อย่างนั้นพวกเราจะฆ่าคนในฟิวเจอร์กรุ๊ปให้หมดทุกคนเมื่อพวกเราโจมตีครั้งหน้า"
"โง่น่า, อยากโจมตีก็โจมตีมาเลย, แต่พวกแกคงไม่มีความสามารถพอหรอก, เลิกพูดอะไรไร้สาระดีกว่า"
"ฮึ่ม, ใครกันแน่ที่ไม่มีความสามารถ, คอยดูหินพลังงานของพวกแกให้ดีเถอะ ดูซิว่าจะอยู่ได้นานซักแค่ไหน"
"อย่าเพิ่งรีบหนีไปไหนซะล่ะ, และก็คอยระวังตัวไว้ด้วยละกัน"
ทั้งสองกลุ่มต่างก็เริ่มทะเลาะกัน, ยานรบของชาวโครน่าต่างก็ต้องการที่จะพังตาข่ายพลังงานนี้ให้ได้ไวที่สุด แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลย
อู๋ฮ่าวเหรินผู้ซึ่งได้กลับเข้ามายังทางช้างเผือกแล้ว, แล้วก็ชะลอความเร็วของยานอวกาศหลังจากที่ได้ทราบเรื่องแล้ว
อีกทางด้านหนึ่ง, กองยานรบและหน่วยชุดเกราะที่นำทีมมาโดยโม่เก๋อนั้นก็ได้เดินทางมาถึงที่นี่อย่างรวดเร็ว
"อดทนเอาไว้อีกแค่ไม่กี่วันนะ, ผมน่าจะกลับไปถึงเร็วๆนี้แหละ"
"ไม่เป็นไรค่ะ, ในตอนนี้พวกเรายังไม่เป็นอะไร, คุณไม่ต้องกังวลพวกเราหรอกนะคะ"
อู๋ฮ่าวเหรินส่ายหัว, จะไม่ให้เขากังวลเรื่องนี้ได้อย่างไร
เพราะสถานการณ์นี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว, ชาวโครน่าที่รู้ถึงสถานการณ์นี้แล้ว ก็ได้ตัดสินใจอย่างรวดเร็วที่จะแสดงพลังของพวกเขา, จึงให้ยานรบทั้งหมดโจมตีพร้อมกัน
มันไม่สำคัญอะไรเลยในตอนที่ยานรบโจมตี, แต่พลังโจมตีของยานแม่นั้นสูงเกินที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปได้คำนวนเอาไว้
ไม่นานนักสถานการณ์นี้ก็ได้รู้ถึงหลิงเมิ่งเสวี่ย
มองดูปืนใหญ่ที่โจมตีมาโดยยานแม่, หลิงเมิ่งเสวี่ยก็ถามขึ้นมาว่า "พวกเราสามารถคำนวนได้มั๊ยว่าหินพลังงานที่สำรองเอาไว้นั้น ในกรณีนี้พวกเราจะทนได้นานซักแค่ไหน?"
"จากการคำนวนแล้ว, จากเดิมครึ่งเดือนจะเหลือแค่ 8 วันครับ, ถ้าพวกเขายังโจมตีแบบนี้เข้ามาเรื่อยๆ"
"8 วัน!"
คิ้วของหลิงเมิ่งเสวี่ยก็ขมวดเข้าหากันทันที, เมื่อไรอู๋ฮ่าวเหรินถึงจะกลับมากัน? ก็ยังไม่แน่ชัดเสียด้วย
ถ้าเกราะกำบังสามารถทนได้อีกแค่ 8 วัน, เธอจึงเริ่มกังวลแล้วเธออาจจะอดทนรออู๋ฮ่าวเหรินให้กลับมาถึงไม่ไหวแน่ๆ
แต่ในสถานการณ์นี้, ดูเหมือนว่าพวกเขาจะทำได้เพียงแค่รอเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม, การโจมตีอย่างต่อเนื่องในระดับนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน
พวกเขาได้เสียพลังงานไปอย่างมากไปในการเดินทางของพวกเขาจากดวงดาวที่อยู่ไกลออกไป
และการโจมตีอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ก็จำเป็นต้องใช้พลังงานไปอย่างมหาศาลด้วย
"ทำลายดาวดวงนี้ให้ได้, ข้าจะให้พวกเขาได้ลิ้่มรส, ของการลงทัณฑ์ที่โหดเหี้ยมของชาวโครน่า"
"พลังงานที่ถูกใช้ไปในปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง?"
"คำนวนจากการโจมตีเช่นนี้, หากยังยิงโจมตีแบบนี้ต่อไป, พวกเราคงสามารถยิงต่อไปได้อีกแค่สักระยะหนึ่งเท่านั้นครับ, แต่ทว่าถ้าพวกเขามีพลังงานเหลือพอล่ะก็ พวกเราคงจะไม่สามารถพังเกราะกำบังนี้ในการโจมตีครั้งนี้ได้แน่ครับ"
"ฮึ่ม, ถ้าอย่างนั้นก็ล้อมกรอบออกไปแล้วโจมตีให้หนักยิ่งขึ้นกว่าเดิม, พวกเขาจะต้องสร้างเหมืองหินพลังงานเอาไว้ข้างนอกแน่ๆ, หาเจอบ้างมั๊ย?"
"กองยานลาดตระเวณที่พวกเราได้ส่งออกหานั้น, ยังไม่มีรายงานกลับมาครับ"
"ท่านนายพลครับพลังงานของยานแม่เหลืออยู่แค่ 50% แล้วครับ, จะโจมตีแบบนี้ต่อไปมั๊ยครับ?"
"โจมตีต่อไป, อย่าไปกล้วว่าพลังงานจะหมด, โจมตีอย่างสุดกำลัง"
เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินได้ทราบสถานการณ์นี้, เขาก็ถึงกับหัวเราะไม่ออก
"เจ้าพวกบ้านั่นดันใช้ยานแม่มาทำอย่างนี้เนี่ยนะ, แต่ก็ดี พวกเราจะได้จัดการปัญหานี้ได้ง่ายขึ้น"
"โม่เก๋อ, คุณมาให้ถึงที่นี่ภายในสามวันและจมยานรบพวกนี้ให้สิ้นซากซะ"
"หัวหน้าครับ, ผมจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จครับ, จากการใช้พลังงานของพวกเขาในระดับนี้, พวกเราจะสามารถกำจัดพวกได้ด้วยความเสียหายเป็น 0 แน่นอนครับ"
เดิมทีโม่เก๋อนั้นกังวลถึงพลังการโจมตีของยานแม่ของชาวโครน่า, ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้, เพราะพลังโจมตีของยานแม่ลำนึงถือเป็นภัยที่ร้ายแรงสำหรับยานรบของพวกเขา
ในเวลานี้เหล่าคนโง่กำลังใช้พลังงานของยานแม่ไปอย่างมาก, ดังนั้นการป้องกันของยานแม่ก็จะต้องตกลงไป, ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้มันก็จะเป็นเรื่องง่ายที่จะจัดการปัญหานี้
0 ความคิดเห็น