CF:บทที่ 724 งุนงง
ที่ด้านนอกของระบบสุริยะ, ดาวเทียมสอดแนมได้ส่งภาพของการเดินทางของยานอวกาศของชาวโครน่ากลับมา, ดาวเทียมสอดแนมของอู๋ฮ่าวเหรินนั้นได้มาจากในอนาคต, โดยเฉพาะเทคโนโลยีต่างๆที่ใช้บนโลกส่วนใหญ่นั้นก็ล้ำสมัยเสียยิ่งกว่าสหพันธรัฐจักรวาลเสียอีก
ดังนั้นดาวเทียมสอดแนมที่ซ่อนตัวอยู่รอบๆชาวโครน่านั้นจึงไม่สามารถถูกพบได้
ยิ่งไปกว่านั้น, เพราะความทะนงตัวของชาวโครน่า ทำให้พวกเขาไม่คิดที่จะซ่อนตัวและมุ่งหน้ามายังโลกโดยตรง
ในเวลานี้กลุ่มมนุษย์ที่เป็นคนนำทางก็กำลังอธิบายสถานการณ์บนโลกให้ชาวโครน่าฟัง
"ท่านผู้ยิ่งใหญ่ครับ, มันเคยเป็นเรื่องยากมากสำหรับมนุษยชาติที่จะสร้างยานอวกาศที่ใช้บินออกจากนอกโลกได้, แต่ภายหลังผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่, อู๋ฮ่าวเหรินที่ก่อนตั้งฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นก็ได้นำเอาเทคโนโลยีไฮเทคต่างๆออกมามากมาย"
"อืม, เข้าใจๆ"
เมื่อเห็นว่าชาวโครน่านั้นดูไม่ค่อยสนใจกับเรื่องนี้, คนๆนั้นก็พลันคิดถึงเรื่องที่อู๋ฮ่าวเหรินหายตัวไปขึ้นมาจึงพูดขึ้น "ท่านครับ, ในปัจจุบันอู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่ได้อยู่บนโลกแล้วครับ, ดูเหมือนว่าในเวลานี้เขาได้ขับยานอวกาศออกไปในจักรวาลเพื่อค้นหาอารยธรรมอื่นๆอยู่ครับ"
"เปล่าประโยชน์ที่จะไปนึกถึงคนที่ไม่รู้วิธีเอาตัวรอด, ต่อให้เขาพบอารยธรรมอื่นๆในจักรวาลก็ตาม, ในจักรวาลนี้มีเพียงคนที่แข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะรอด"
"น้องรัก, มันจะเสียโอกาสนะ ถ้าพวกเราไม่ใช่แผนซุ่มโจมตีพวกเขาน่ะ" หลิงเหยามองไปที่ยานอวกาศของโครน่าจากภาพในวิดีโอและพูดอย่างหดหู่
ใบหน้าของหลิงเมิงเสวี่ยที่เย็นชาของหลิงเมิ่งเสวี่ยได้หายไปแล้ว, เธอมองดูภาพยานอวกาศในวิดีโอและคิดถึงปัญหาที่จะตามมา
"พี่ลู่คะ, ระบบป้องกันแมททริกซ์เป็นอย่างไรบ้างคะ?"
"มันกำลังทำงานอยู่, จากปริมาณหินพลังงานที่พวกเราได้สำรองเอาไว้นั้น, ต่อให้พวกเขาโจมตีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง, พวกมันก็จะยังสามารถทำงานอยู่ได้ถึงครึ่งเดือน"
เมื่อได้ยินว่าครึ่งเดือน, หลิงเมิ่งเสวี่ยก็ผงกหัวของเธอ, เธอนั้นกังวลว่าอู๋ฮ่าวเหรินอาจจะกลับมาไม่ทันการ, แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะไม่กังวลแล้ว
ลู่เผิงเฟยจู่ๆก็พูดขึ้นมา "ช่วงนี้, พวกคนในสภาของสหภาพบางคนเริ่มที่จะคิดไม่ซื่อแล้ว, คุณจะจัดการกับคนพวกนี้เลยมั๊ย?"
เมื่อได้ยินที่ลู่เผิงเฟยพูด, หลิงเมิ่งเสวี่ยก็ไม่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ไม่จำเป็น, คนพวกนี้ไม่สามารถทำอะไรได้หรอก, เมื่อเรื่องนี้จบลง คุณไปจัดทีมสำรวจขึ้นมาแล้วส่งคนพวกนั้นทั้งหมดออกไปเป็นทีมสำรวจซะ"
"อืม, เป็นความคิดที่ดี, ผมเพิ่งไปพบดาวที่น่าสนใจไม่นานมานี้เอง, แต่พอดีว่ายังไม่มีเวลาพอที่จะส่งใครไปบุกเบิกที่ดาวร้างนั่น"
"ผมขอพูดอะไรกับทั้งสองคนหน่อยนะ, เมื่อใดที่คุณเจอกับคนที่จิตใจคิดไม่ซื่ออย่างนี้มันจะเป็นการดีกว่าที่จะฆ่าทิ้งเสียแต่เนิ่นๆ, ถ้าเกิดปล่อยทิ้งเอาไว้ก็จะเหมือนอย่างพวกคนที่ไปพาพวกโครน่ามา มันน่าฆ่าทิ้งเสียแต่เนิ่นๆจริงๆ"
หลิงเหยาชิงชังคนพวกนั้นมาก, พวกเขารู้ดีว่าคนพวกนั้นจะต้องแอบคิดแผนทำอะไรแน่, แต่คนพวกนั้นก็คงไม่กล้าที่จะทำตามแผนการนั้นได้จริงๆ
แน่นอนว่า, นี่เป็นเพราะว่านั้นมีกองกำลังที่เข้มแข็งอยู่ในมือของเขา, ถ้าคนพวกนั้นเกิดเล่นไม่ซื่อขึ้นมาจริงๆ, เขาจะส่งคนพวกนี้ลงไปนรกเอง"
"ฮ่าๆๆ, ในที่สุดก็ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง, ตอนที่ออกไปข้าเคยบอกเอาไว้ว่า เมื่อไรที่ข้ากลับมาข้าจะกำจัดฟิวเจอร์กรุ๊ปและฆ่าพวกมันให้หมด"
"เร็วเข้าเถอะ, พวกโครน่ากำลังรอฟังข่าวจากพวกเราอยู่นะ"
"เมื่อใดที่พวกเราได้เป็นจ้าวโลกแล้ว, พวกเราจะใช้เทคโนโลยีของชาวโครน่าทำให้โลกนี้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไปอีก"
คนพวกนี้ได้ลืมไปแล้วว่าพวกเขาจะต้องกลายเป็นทาสชาวมนุษย์ให้กับชาวโครน่า
ในเวลานี้พวกเขาได้เดินทางมาถึงรอบนอกของระบบสุริยะแล้ว, ชาวโครน่าถ้าบอกให้คนพวกนี้ไปทำการเกลี้ยกล่อมมนุษยชาติให้ยอมแพ้อีกรอบ, ถ้าเกิดยังไม่ยอมแพ้ก็จะเปิดฉากโจมตีทันที
สำหรับชาวโครน่าแล้ว, มนุษย์นั้นมีประชากรบนโลกน้อยเกินไป, ถ้าเกิดพวกเขาโจมตีไป, พวกเขาอาจจะพลั้งมือฆ่ามนุษย์ตายหมดได้, ถ้าเกิดสามารถจบเรื่องนี้โดยปราศจากการใช้กำลังได้, แน่นอนว่ามันคงจะเป็นเรื่องดีที่สุด
"ฟังนะเจ้าพวกมนุษย์โลก, ในนามของชาวโครน่า, ข้าแนะนำให้พวกแกยอมแพ้แต่โดยไม่มีเงื่อนไขจะดีกว่า, ไม่อย่างนั้นพวกแกจะโดนโจมตีโดยชาวโครน่า, เมื่อถึงตอนนั้นก็ระวังตัวให้ดีที่จะถูกฆ่าโดยชาวโครน่าซะล่ะ"
เขาเข้าไม่ได้รู้เลยว่าเทคโนโลยีที่ชาวโครน่าใช้นั้นได้ส่งข้อมูลออกไปยังด้านในของระบบสุริยะแล้ว
"มันเป็นสุนัขทรยศพวกนี้อีกแล้ว, ได้ยินมาว่าเจ้าพวกนี้เป็นคนที่พาชาวโครน่ามาที่นี่, น่าเสียดายนะที่ตอนนี้ระบบแมททริกซ์กระดองเต่าได้ถูกเปิดใช้แล้ว, ไม่อย่างนั้นฉันคงเอาปืนเรลกันยิงใส่เจ้าพวกนี้ให้เป็นจุลไปแล้ว"
"ในอดีต, คนจีนเรียกคนประเภทนี้ว่าพวกคนขายชาติ, ไม่คิดเลยว่าสัตว์พวกนี้จะยังมีหน้ากลับมาที่โลกอีก"
ในห้องติดต่อสื่อสารนั้น, เจ้าหน้าที่สื่อสารนั้นตะโกนผ่านเครื่องสื่อสารกลับไป "กลับออกไปซะ, พวกเรามนุษยชาติจะไม่ยอมแพ้ให้กับพวกสัตว์เดรัจฉานอย่างพวกแกหรอก"
มีบางคนบนโลกที่ผ่านทางช่องทางพิเศษ, ก็ได้รับข้อความจากกลุ่มคนพวกนี้ด้วยเช่นกัน
จากนั้น, วิดีโอนี้ก็ได้ถูกเผยแพร่ออกไปทั่วทั้งมนุษย์โลก รวมถึงยานอวกาศของชาวโครน่าด้วย
หลังจากนั้นก็ได้มีกลุ่มคนเล็กๆที่เริ่มลงมือ และเผยแพร่ข่าวลวงออกไปทั่วทุกหนทุกแห่ง
"มนุษยชาติไม่สามารถเอาชนะพวกโครน่าได้หรอก, วิธีการที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปใช้นั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะต้องทำให้พวกเราตายอย่างแน่นอน, ดังนั้นผมต้องการให้พวกคุณลุกขึ้นสู้และต่อต้านการปกครองของฟิวเจอร์กรุ๊ป"
"ผมเองก็คิดว่ามนุษยชาติคงไม่สามารถเอาชนะยานอวกาศที่พรงพลังระดับนี้ได้แน่, บางทีการยอมแพ้จะเป็นหนทางเดียวของพวกเราจริงๆก็ได้
"แทนที่จะสนับสนันฟิวเจอร์กรุ๊ป กลับบอกให้ยอมแพ้ซะอย่างงั้นขี้ขลาดจริงๆ"
ในเวลานี้เหล่าพวกคนที่คิดไม่ซื่อพวกนี้ก็ได้เริ่มเผยแพร่และใส่ร้ายฟิวเจอร์กรุ๊ป, มีบางคนที่ได้พูดโจมตีโดยตรง
ข้อความส่วนใหญ่ที่ใช้ในการพูดชวนเชื่อคือ ฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นไม่สามารถที่จะต้านทานการโจมตีของชาวโครน่าได้, ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสมควรที่จะต้องเจรจากับชาวโครน่า
และพูดเสริมเข้าไปอีกว่า, ชาวโครน่านั้นจะมาโจมตีมนุษยชาติที่เป็นคนของฟิวเจอร์กรุ๊ปเท่านั้น, และไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรกับคนธรรมดาอย่างพวกเขา
แต่ทางฟิวเจอร์กรุ๊ปกลับเลือกไม่เจรจาและเอาแต่ตั้งรับคงได้ทำให้มนุษยชาติทั้งปวงถูกฝังแน่
มนุษยชาติส่วนใหญ่นั้นมักขาดการตัดสินใจด้วยตัวเอง และมักที่จะทำตามกระแส, ดังนั้นจึงมีมนุษยชาติที่เริ่มเชื่อข่าวลือนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
มีแม้กระทั่งบางคนที่ได้เริ่มรวมกลุ่มคนและก่อการประท้วงขึ้นมา
ที่น่าแปลกคือเมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้, ทางฟิวเจอร์กรุ๊ปกลับยังไม่ลงมือทำอะไร, แม้แต่เรื่องของข่าวลือก็ไม่ออกมาต่อต้านอะไร
"เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงไม่มีการเคลื่อนไหวของฟิวเจอร์กรุ๊ปเลย?"
"ไม่เป็นไร, พวกเราได้ติดต่อไปทางฟิวเจอร์กรุ๊ปให้จัดการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพเพื่อหารือเรื่องนี้แล้ว"
เพราะเป็นความต้องการจากเสียงส่วนใหญ่ของทางสภา, ฟิวเจอร์กรุ๊ปจึงต้องมาเข้าร่วมประชุมสภาสหภาพเพื่อหารือเรื่องนี้ด้วย
ทางฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นได้ส่งหลิวหมิงเยี่ยมา, เธอมองไปที่บางคนในสภาแล้วก็ส่ายหัว
คนพวกนี้จะต้องถูกจัดการอย่างเป็นความลับในไม่ช้านี้
"ทางฟิวเจอร์กรุ๊ปหมายความว่าอย่างไร? ถ้าจะเอาแต่ตั้งรับแบบนี้, พวกเราก็ไม่ต่างอะไรไปจากถูกขังอยู่ในโลกโดยพวกเขาเลยน่ะสิ"
"ผมคิดว่าพวกเราควรที่จะเจรจากับชาวโครน่าก่อนนะ, พวกเราปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นพวกเราได้ตายกันหมดแน่"
"พวกเราไม่สามารถเอาชนะชาวโครน่าในด้านของวิทยาการและเทคโนโลยีได้เลย, ยอมแพ้อาจจะดีกว่าก็ได้"
"ถ้าฟิวเจอร์กรุ๊ปสามารถแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ได้, ข้าจะยอมตัวหัวของข้าออกเอาไปเตะเล่นแทนลูกบอลเลยเอ้า"
มากกว่าครึ่งของทางสภานั้นไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของทางฟิวเจอร์กรุ๊ป, ดังนั้นจึงมีการต่อต้านเป็นจำนวนมาก
ในอาคารสำนักงานใหญ่ของฟิวเจอร์กรุ๊ป, เหล่าพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปต่างก็กำลังดูการประชุมสภาในครั้งนี้และต่างก็ส่ายหัวเมื่อได้ยินที่สมาชิกสภาแต่ละคนพูดขึ้นมา
พวกเขาไม่คิดว่าคนเหล่านี้ที่เลือกขึ้นมาโดยฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นกำลังต้องการ "กองทหาร" ของฟิวเจอร์กรุ๊ป
หลิวเหม่ยหรูผู้ซึ่งเพิ่งกลับมาจากนอกโลก, ก็จับมือของหลิงเมิ่งเสวี่ยเอาไว้และถามเธอด้วยเสียงเบาๆว่า "เธอสามารถจัดการเรื่องของชาวโครน่าพวกนั้นได้จริงๆเหรอ?"
มองดูหลิวเม่ยหรูที่กำลังเป็นกังวล, หลิงเมิ่งเสวี่ยก็ได้ตอบเธอด้วยเสียค่อยๆกลับไป "อืม, แต่ไม่ใช่เพราะหนูมั่นใจในตัวเองหรอกนะคะ, แต่เป็นเพราะหนูมั่นใจในตัวฮ่าวเหรินต่างหากล่ะคะ, เขากำลังจะกลับมา"
เมื่อได้ยินว่าอู๋ฮ่าวเหรินกำลังจะกลับมา หลิวเหม่ยหรูก็ตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ, แล้วพอใจเย็นลงเธอก็ไม่ได้กังวลเรื่องที่เกิดขึ้นนอกโลกอีก
เธอนั้นเชื่อใจในตัวของอู๋ฮ่าวเหรินมาก, ผู้ที่เป็นดั่งชายในสายหมอกคนนี้
0 ความคิดเห็น