CF:บทที่ 687 ข้อตกลง
ชายผู้ที่ออกไอเดียนั้นพยายามจะช่วยให้เหล่ากุยมีความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ
เขาจับแขนข้างที่ถืออาวุธอันตรายอยู่จากนั้นก็กระชากมันออก ซึ่งทำให้อู๋ฮ่าวเหรินตกใจไม่น้อยเลย
บ้าเอย ไอ้พวกนี้มันโหดร้ายทารุณกันจริงๆ ดูจากท่าทางตอนกระชากแขนแล้ว ไม่มีความลังเลอยู่เลยนี่หว่า
“ฮ่าๆๆ เหล่ากุย ฉันลืมบอกไปเลยว่าถึงนายจะตัดแขนออกแล้วแต่แรงระเบิดนั่นก็ยังรุนแรงอยู่ดีนั่นแหละ”
“ให้ตายเถอะ! เอลเล็ต! นายกล้าหลอกฉันเหรอ!!”
ในตอนนั้น เหล่ากุยเองก็เริ่มที่จะทำอะไรซักอย่างเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเสียแขนไปทั้งหมด
แรงระเบิดนั้นรุนแรงจนเสียงมันได้ยินไกลไปในละแวกนั้น หลุมที่ลึกกว่า 20 เมตรนั้นเกิดจากการระเบิดเมื่อครู่
แรงสั่นสะเทือนเข้าปะทะกับสิ่งต่างๆรอบๆจนสั่นตามๆกันไป
“เสียดายจังที่เจ้านั่นใช้อุปกรณ์ผดุงชีพ”
อู๋ฮ่าวเหรินมองการระเบิดนั้นในขณะที่เหล่ากุยเองก็ปกคลุมตัวเองไว้ด้วยม่านแสง ชัดเจนเลยว่านั่นเป็นเครื่องมือป้องกันแบบเดียวกับโล่พลังงาน
คนๆนี้ไม่อยากจะเสียแขนเพิ่มเพราะงั้นเลยเปิดเครื่องป้องกันด้วยพลังงานโดยตรง
“พี่ชาย พี่ชายเจ๋งดีนี่ ใช้โอกาสนี้ฆ่าหมอนี่เลย ไม่งั้นแล้วเขาต้องเป็นปัญหากับพี่ในอนาคตแน่ เพราะตัวเขานั่นเป็นพวกโหดร้าย ฉันกลัวว่าเขาจะใช้วิธีโหดร้ายในการจัดการพี่ชายนะ”
อู๋ฮ่าวเหรินมองไปยังชายที่ร่างเหมือนหมี แขนและขาที่แน่นกำยำยนั้นทำให้เขาดูแข็งแกร่งมากๆ
“ฉันไม่ได้กลัวเจ้านี่มาสร้างปัญหาหรอกนะ ในเมื่อฉันเคยจัดการเขาได้แล้วครั้งนึง ยังไงซะถ้าเกิดมีเรื่องกันอีกฉันก็จัดการได้อีก เพราะงั้นแล้วคนที่น่าจะเป็นปัญหาน่ะ ควรจะเป็นนายนะ เพราะนายไปเด็ดแขนเขานี่”
เมื่อได้ยินอู๋ฮ่าวเหรินพูดดังนั้นเขาก็คิดกับตัวเองว่า คนๆนี้ไม่ได้โง่เลย เพราะงั้นคงหมดหวัง
“ฮ่ะๆๆ ใครๆก็กลัวหมอนั่นกันทั้งนั้นแหละ ยกเว้นฉัน สวัสดียามเย็นนะครับ คุณหัวหน้า”
อู๋ฮ่าวเหรินมีข้อสงสัยมากมาย ถ้ายึดตามสถานการณ์แล้ว คนๆนี้น่าจะไม่ใช่คนที่อยู่ภายใต้การจัดการของไนติงเกล
เพราะงั้นเขาจึงถามคนในซองแดง “พอจะหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งนี้ได้ไหม?”
“แปลก ไม่มีแม้กระทั่งข้อมูลซักนิดเลย นี่ไม่เคยเกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น วอร์บเลอร์เองก็ยืนยันแล้วว่าถูกสร้างโดยไนติงเกล”
“นี่ฉันเปลี่ยนประวัติศาสตร์เหรอ?”
อู๋ฮ่าวเหรินกำลังคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ที่บางอย่างที่เขาได้กระทำจะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์
“ถ้าหากนายเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์จริงๆล่ะก็ มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะพวกเราอยู่ที่นี่”
“แน่นอนว่ามันไม่มีปัญหา แต่มันหมายถึงวอร์บเลอร์จะเป็นปัญหาเกินกว่าที่เราคาดไว้ซะอีกนะ”
“ช่างมันก่อน เราต้องจัดการตรงนี้ก่อน ไม่งั้นเราต้องไปยืมมือคนอื่นแทน”
…
เหล่ากุยค่อยๆยืนขึ้นจากก้นหลุมด้วยสีหน้าซีดเซียว เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้่น
หลังจากทักทายไนติงเกลแล้ว เอลเล็ตก็เข้าไปหาอู๋ฮ่าวเหริน
“มันเป็นอะไรที่ทรงพลังสุดๆไปเลย พี่ชายขายมันหรือเปล่า? ฉันอยากจะซื้อมันซักหน่อย”
“ถ้านายอยากจะซื้อมันจริงๆ ฉันก็ยินดีขายให้ได้ราคาเซ็ตละ 300 หินพลังงานนะ”
อู๋ฮ่าวเหรินคิดกับตัวเอง ตัวเขาเองก็ไม่ได้เป็นพวกใจร้ายใจดำอะไร ถ้าหากเป็นคนอื่นมาขอซื้อ คงต้องพูดย้ำๆซักร้อยครั้งถึงจะยอมขายให้ในราคา 3000 หินพลังงานเลยนะ
ในตอนนั้นเอง เหล่ากุยก็ลอยขึ้นมาจากก้นหลุมและยืนอยู่ที่ปากหลุมแล้ว เขามองมายังเอลเล็ตด้วยสายตาที่เคียดแค้นราวกับอยากจะกระโจนมาฉีกเป็นชิ้นๆเลย
แต่สถานการณ์มันบอกเขาว่า เอลเล็ตต้องการให้เขาพุ่งเข้าใส่อยู่แล้ว นั่นก็เพื่อที่จะเอาเป็นเหตุผลมาใช้อ้างในการฆ่าเขานั่นแหละ
“ดี ดี เอลเล็ตนายรอนี่ นายก็ด้วย ฉันจะต้องมาชำระแค้นแน่!”
อู๋ฮ่าวเหรินจับปลายจมูกตัวเองด้วยความหมดคำพูด นั่นเพราะว่า เขาเป็นฝ่ายโจมตีแท้ๆ ไหนจะระเบิดตัวเองอีก แล้วนี่ทำไมต้องมาแค้นเขาล่ะ?
แน่นอนว่าเขาไม่กล้าเอาอาวุธที่ทรงพลังออกมาใช้อยู่แล้ว จะพูดถึงก็ยังไม่พูดเลย เพราะงั้นแล้วนั่นเป็นการกระทำของอีกฝ่ายเอง
คนพวกนี้กล้าที่จะใช้อาวุธอันตรายแบบนี้ต่อหน้าต่อตาเขา เหมือนหาเรื่องตายซะงั้นแหละ
เอลเล็ตเมินเหล่ากุย และเมื่อเขามองไปยังเกราะของอู๋ฮ่าวเหรินแล้วเขาก็หันหน้าออกแล้วเดินจากไป
เหล่ากุยนั้นไม่ได้หยุดอีกฝ่ายไว้ เขาจำเป็นต้องรักษาแขนก่อนเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่อทั้งหมดแยกกันไปแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินก็มองไปยังไนติงเกล หญิงสาวที่แข็งแกร่งคนนี้ ในวันนี้ดูเธอจะต่างออกไป
ก็พอจะเข้าใจได้อยู่นั่นเพราะเธอเป็นหัวหน้าของเหล่าวอร์บเลอร์ที่แข็งแกร่ง เพราะงั้นแล้วการที่เธอจะเฉยชากับเรื่องแบบนี้คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก
“ทั้งสองคนนั้นกำลังจับตาดูฉันอยู่ ยังไงก็ตาม คนหนึ่งนั้นค่อนข้างมีทัศนคติที่ดีกับฉันส่วนอีกคนก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ”
“ทั้งสองนี่มาจากอารยธรรมที่ต่างกันเหรอ?”
“ไม่ใช่ 2 อารยธรรม แต่มาจาก 2 กองกำลัง”
จริงๆอู๋ฮ่าวเหรินก็อยากจะถามนั่นแหละว่ามันหมายถึงอะไร ไอ้อารยธรรมที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาเนี่ย แต่อย่างไรก็ตาม เขาเลือกที่จะยังไม่ถามไปตอนนี้ดีกว่า
“ฉันให้สัญญาว่าจะร่วมมือกับนาย แต่นายต้องส่งอาวุธที่ทรงพลังให้ฉัน ตัวอย่างเช่นเกราะนี่ เป็นไปได้ก็อยากจะให้ได้ขนาดที่เหมาะสมที่สุดน่ะ”
อู๋ฮ่าวเหรินนิ่งไปเลย เขาไม่คาดคิดเลยว่าไนติงเกลจะขออะไรแบบนี้
“ไม่ใช่ตอนนี้นะ ถึงแม้ฉันจะผลิตเกราะได้มากขึ้นแล้ว ฉันก็ยังส่งออกไม่ได้อยู่ดี”
อู๋ฮ่าวเหรินรู้ว่า กองทัพที่เขาร่วมมือด้วยนั้นกำลังจับตาดูเขาอยู่เหมือนกัน พวกนั้นสนใจทุกอย่างโดยเฉพาะชุดเกราะนี่
ใครจะปล่อยให้ช่วงเวลาแบบนี้หลุดมือไปได้กัน ผลประโชยน์ของชุดเกราะระดับพลเรือนนั้นได้รับการไตร่ตรองแล้ว เพราะงั้นเกราะสำหรับการทหารจึงเป็นขั้นต่อไปที่พวกเขาอยากเห็น
“ฉันรอได้ เมื่อไหร่ที่นายสามารถส่งเกราะออกมาได้ นายค่อยเอามาให้ฉัน”
“โอเค”
อู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่ปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านไป เขารีบทำสัญญาข้อตกลงร่วมมือกันแบบลับๆทันที
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะออกมา ไนติงเกลขอให้อู๋ฮ่าวเหรินช่วยหาหนทางที่จะทำให้ทราบถึงจำนวนยานรบที่ปลดประจำการแล้วของกลาโหม
ในเมื่อเขารู้ว่าไนติงเกลต้องการจะซื้อยานรบ อู๋ฮ่าวเหรินจึงเริ่มที่จะใช้สกิลปากของเขาแนะนำฐานผลิตยานรบและยานอวกาศให้ทันที
“นายมั่นใจนะว่ายานรบของนายประสิทธิภาพสูงน่ะ?”
“แน่นอนว่าดีกว่าที่ฉันพูดแน่ๆ ปัญหาอย่างเดียวของมันในตอนนี้น่าจะเป็นที่ตัวปืนหลักของยานรบ บางทีมันอาจจะเทียบเท่ายานรบของพวกกลาโหมไม่ได้”
“ไม่เป็นไร ถ้านายสร้างยานรบได้จริง ฉันก็จะซื้อยานรบจากนาย แต่นายต้องเอามาให้ทดสอบเพื่อยืนยันก่อนนะว่ายานรบของนายประสิทธิภาพดีจริงน่ะ”
“ได้ อีกซักพักใหญ่ๆ ฉันจะแจ้งให้เธอไปทดสอบตัวอย่าง”
อู๋ฮ๋าวเหรินแบ่งยานรบและยานอวกาศออกเป็น 4 ระดับ ระดับแรกหรือเฟิร์สคลาส เขานั้นไม่เอาไว้ขาย เพราะว่าพวกมันถูกสร้างมาเพื่อไว้ใช้เอง
ระดับที่สอง หรือ เซคันด์คลาส จะเอาไว้ขายในจักวาลในแบบชิ้นส่วนเล็กๆเท่านั้น ส่วนระดับที่สามและสี่จะขายให้กับพวกโจรและพวกกองกำลังปีศาจทั้งหลาย ซึ่งจะไม่มีปัญหาอะไร
หลายๆอารยธรรมขั้นสูงนั้นขายยานรบและอาวุธทุกรูปแบบเพื่อให้ได้มาซึ่งวัตถุดิบจำนวนมาก
อูฮ่าวเหรินเองก็อยากที่จะเป็นพ่อค้าอาวุธระดับจักรวาลบ้างเพื่อที่จะได้พัฒนาอาวุธของตนเอง ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเขาต้องการจะสร้างกองทัพติดอาวุธหนักในขนาดใหญ่ เขาเองคงต้องมีปัญหาแน่ๆ
ถึงแม้ว่าสภาอวกาศจะไม่ได้มีข้อกำหนดที่จำเป็นหลายสิ่งนัก แต่บางกองกำลังภายในสัมพันธมิตรอวกาศคงจะไม่ดูอู๋ฮ่าวเหรินพัฒนาพวกนี้แบบเงียบๆแน่
หลังจากที่พูดคุยเรื่องนี้เสร็จ อู๋ฮ่าวเหรินก็ออกจากที่นี่ด้วยยานอวกาศของเขาไปยังรูหนอนที่อยู่ใกล้ที่สุด
ในขณะเดียวทางฝั่งดาวเคราะห์บลูแมน เลนตี้ที่กลับมาก็รีบเคลื่อนย้ายผู้คนบนดาวดวงนั้นเพื่อให้ไปยังเขตแดนดวงดาวที่อู๋ฮ่าวเหรินกำลังพัฒนาอยู่ แต่เขาก็ต้องเจอกับบางสิ่งบางอย่างที่ยากเข้าให้แล้ว
เหล่าคนที่ต้องการจะยึดครองดาวของเขาไม่ปล่อยให้พวกเขาออกไปได้
เมื่อข่าวนี้เข้าถึงหูของอู๋ฮ่าวเหริน เขาก็โกรธมากๆเพราะใครบางคนกำลังจะแย่งเอาชาวบลูแมนไปจากเขา
ไอ้บ้าเอย! มันไม่ง่ายเลยที่จะหากลุ่มของพวกวิศวกรได้! ไอ้คนที่กล้าจะเข้ามาขโมยไปทำให้เขาใจร้อนมากๆ หลังจากที่ยืนยันที่อยู่ได้แล้วเขาก็เร่งความเร็วในการทะลุผ่านรูหนอนนี้เลย
2 ความคิดเห็น
ไม่มีรหัสให้กดอะครับ
ตอบลบแก้ให้แล้วครับ
ลบ