CF:บทที่ 685 หายนะจงหายไป!

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 685 หายนะจงหายไป!

 

ภายในห้องประชุม ไนติงเกลมองไปยังอู๋ฮ่าวเหรินผู้ที่ซึ่งปรากฏตัวขึ้นมาแบบกระทันหันจนแม้แต่คนของเธอเองยังหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ของเขาไม่ได้

 

สำหรับข้อมูลที่อู๋ฮ่าวเหรินใส่ไว้ในตอนสมัครเข้ามายังสัมพันธมิตรอวกาศนั้น เธอไม่ได้เชื่อสิ่งนั้นซะทั้งหมด ชายคนนี้...ไม่น่าจะเป็นคนที่ประสบการณ์น้อยอย่างที่ลงไว้

 

ภายในความคิดของเธอ เขาต้องมีกองกำลังที่แข็งแกร่งคอยหนุนหลังอยู่แน่ๆ ไม่เช่นนั้นเขาคงทำสิ่งต่างๆเหล่านี้ไม่ได้

 

อู๋ฮ่าวเหรินเมินทุกสายตาและไปนั่งที่เก้าอี้ที่ซึ่งว่างเปล่าอยู่ 1 ตัว จากนั้นจึงค่อยมองไปยังเหล่าคนในห้องกลับไปบ้าง

 

เมื่อได้เห็นท่าทีหยิ่งผยองของอู๋ฮ่าวเหริน บางคนก็เริ่มที่จะโกรธขึ้นมา เขามองว่าเจ้าคนตัวเล็กนี่ถ่อมาหาพวกเขาแล้วยังมาทำเมินพวกเขาอีก ช่างกล้านัก

 

แล้วพวกเขาเป็นใคร? พวกเขาเป็นนักฆ่านะ! เป็นอาชญากรที่ใครๆก็ต้องยำเกรง!!

 

“ใครให้นายนั่งกันน่ะ!”

 

ชายที่ดูท่าจะดุร้ายลุกขึ้นยืนและตะโกนออกมาเสียงดัง ในขณะเดียวกันจิตสังหารจากทั้งห้องก็แผ่มายังอู๋ฮ่าวเหรินด้วย

 

ในความคิดของพวกเขา ไอ้เด็กหนุ่มนี่ถ้าเจอจิตสังหารขนาดนี้ก็คงได้ฉี่แตกไปแล้วแน่ๆ

 

แต่ผลที่ออกมานั้นทำเอาพวกเขาประหลาดใจไม่น้อย เพราะอู๋ฮ่าวเหรินเพียงแค่เหลือบมองพวกเขาก่อนจะพูดกับผู้เป็นนายของพวกเขาที่อยู่ด้านบนแทน “ท่านผู้นำแห่งอวกาศทมิฬ ดูเหมือนคนข้างล่างนั่นจะไม่รู้จักความสุภาพเอาซะเลยนะ”

 

ไนติงเกลพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มพราวเสน่ห์ “ลูกน้องของฉันส่วนใหญ่ก็เป็นพวกคนร้ายกันหมด เพราะงั้นแล้วฉันไม่ได้สอนมารยาทให้พวกนี้หรอกนะ สิ่งที่ทำให้พวกเราเคารพกันในที่นี้คือความแข็งแกร่งต่างหาก”

 

“หวา ฉันมาอยู่ในที่ที่อันตรายซะแล้วเหรอเนี่ย!” อู๋ฮ่าวเหรินพูด

 

พวกเขามองไปยังอู๋ฮ่าวเหรินที่แสร้งพูดออกมาด้วยความประหลาดใจมากขึ้นไปอีก กลุ่มคนพวกนี้พูดอะไรไม่ออกแล้ว หากจำเป็นต้องแกล้งทำ มันก็ไม่ได้เสียหายอะไร หากแต่สถานการณ์แบบนี้ มันกลายเป็นการดูถูกสติปัญญาไปซะได้

 

ไม่ทันไร ชายผู้ที่ยืนขึ้นและแผ่จิตสังหารก็กระเด็นลอยออกไปไกลโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้แค่ว่าคนๆนั้นลอยออกไปแล้ว

 

*ปัง!?*

 

“อั่ก! แขนของฉัน!!”

 

“เกิดอะไรขึ้น!? ใครโจมตีอันดับที่ 4!”

 

“ฉันมองไม่เห็น! จู่ๆอันดับ 4 ก็ลอยไปเลย!!”

 

กลุ่มคนเหล่านั้นมองไปรอบๆครู่หนึ่งพร้อมกับรู้สึกกลัวขึ้นมาเพราะไม่รู้ว่าการโจมตีนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

 

แต่กระนั้น เขาก็สังเกตุได้ว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นแอบยิ้มอยู่กับท่าทีของพวกเขานี้

 

ถ้าหากจะมีใครสักคนในห้องนี้เป็นคนโจมตี ดูเหมือนว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นจะเป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด

 

แต่คนๆนี้ดูอ่อนแอซะเหลือเกิน จะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะโจมตีอันดับที่ 4 ได้โดยที่พวกเขามองไม่เห็นเลย

 

“นี่ อย่าให้แขกเบื่อสิ เล่นอะไรให้เขาดูหน่อยเร็ว”

 

ไนติงเกลนั้นไม่ได้หว่านเสน่ห์ต่อแล้ว ตอนนี้เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเกรียงไกรออกมา

 

“คุณอู๋ดูท่าจะพกของดีมาด้วยสินะ เก่งมากๆ ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายรอดจากเหล่านักฆ่ามากมายของฉันได้ยังไง แต่คิดว่าน่าจะเป็นเพราะเจ้าสิ่งที่พกมาวันนี้ด้วยหรือเปล่านะ? ปล่อยเขาซะ”

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองสิ่งที่อยู่ในมือของไนติงเกล เขานั้นไม่ได้พูดอะไรแต่ก็คิดว่าความแข็งแกร่งของผู้นำหญิงคนนี้ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ

 

เธอจับระเบิดอากาศไว้ในฝ่ามือ เจ้าสิ่งสามารถทำให้ทุกเรื่องนี้จบลงได้ทันทีเมื่อมันระเบิดออกมา

 

“ผู้นำแห่งอวกาศทมิฬ เธอเองก็ฝีมือไม่เลวนี่นา ความแข็งแกร่งขึ้นอยู่กับอาวุธ เพราะงั้นนี่คือความแข็งแกร่งของเธอสินะ!”

 

เมื่อได้ยินอู๋ฮ่าวเหรินพูดเช่นนั้นทุกๆคนต่างก็ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งนี้ พวกเขาไม่เห็นด้วยซ้ำว่าอู๋ฮ่าวเหรินโจมตีตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะงั้นจึงบอกได้ว่า เมื่อไหร่ที่อู๋ฮ่าวเหรินอยากจะฆ่าพวกเขา มันคงเป็นเรื่องง่ายเอาเสียมากๆ

 

สิ่งที่พวกเขาไม่รู้นั่นก็คืออู๋ฮ่าวเหรินมีวิธีจัดการพวกเขาแบบเงียบๆอยู่มากมาย ไม่ จริงๆต้องพูดว่ามีคนมากมายอยู่ในกลุ่มซองแดงต่างหาก

 

ในตอนนั้น กลุ่มคนภายในซองแดงต่างก็กำลังคุยกันเพื่อหาวิธีจัดการพวกนักฆ่าของวอร์บเลอร์ด้านนอกอยู่อย่างขมักเขม้น

 

“ฉันคิดว่าไอ้พวกผู้ชายน่าเกลียดๆทุกคนยกเว้นหัวหน้าที่หน้าตาสวยๆควรถูกฆ่าให้หมด” นักธุรกิจพลังงานพูด

 

“ไม่ๆ คนพวกนี้ยังมีค่าพอให้พวกเราใช้ทำอะไรบางอย่างอยู่ มันน่าเสียดายถ้าจะฆ่าพวกเขาน่ะ แล้วก็ฉันควบคุมอาวุธทั้งหมดของที่นี่ไว้แล้ว บางทีอาจจะพอช่วยอะไรได้” นักวิจัยพูด

 

“ชัดเลย เจ้าพวกนี้กลัวโลกสงบสุขกันรึไง ฉันหวังว่าอู๋ฮ่าวเหรินจะร้ายกาจมากกว่านี้นะ”

และเพราะมันเป็นแบบนี้ อู๋ฮ่าวเหรินจึงต้องรีบพัฒนาทุกๆอย่างให้รวดเร็วกว่าตอนนี้

 

“นายท่าน… หมอนี่ไม่น่าจะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ มันไม่น่าจะทำให้รุ่นพี่ลอยออกไปโดยที่พวกเรามองไม่ทันไม่ได้...”

 

“ไม่ เขามี เอาจริงๆถ้าเกิดพวกนายทุกคนโดนฆ่าในตอนนี้ฉันก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ อย่าลืมสิ ว่าเขามาที่ฐานพวกเราด้วยตัวคนเดียวเลยนะ”

 

“พ่อคนฉลาด เอาของที่เตรียมมาเล่นออกมาสิ”

 

อู๋ฮ่าวเหรินโยนระเบิดที่อนุภาคค่อนข้างจะแรงไปตรงหน้าคนเหล่านั้น จากนั้นก็นั่งลงไปและมองไปยังไนติงเกล

 

เหล่านักฆ่าที่เผลอรับไว้ด้วยความเคยชินก็รู้สึกได้ถึงความกลัวที่แผ่ซ่านจนเกือบจะปล่อยมันลงไปกับพื้น

 

“นี่มันระเบิดนี่หว่า!”

 

ชายคนนั้นร้องเสียงหลงก่อนจะหันไปมาด้วยความกลัว เขาเกือบจะขว้างมันออกไปแล้วแต่ชายที่อยู่ข้างๆเขานั้นจับตัวเขาไว้และเอาระเบิดมาถือแทน

 

“ออกไปซะ! พวกนายทุกคนเลย ฉันจะคุยธุระกับคุณอู๋”

 

กลุ่มคนที่กำลังตกอกตกใจเบื้องล่างเริ่มโล่งใจหลังได้ยินถ้อยคำของไนติงเกล ระเบิดของอู๋ฮ่าวเหรินนั้นทำพวกเขาขวัญเสียกันหมด

 

ถ้าเกิดเจ้าสิ่งนี้ระเบิดขึ้นมาจริงๆ และด้วยระยะแค่นี้ ไม่ต้องเรียกหน่วยกู้ซากมาหาศพเลย

 

“เอาล่ะ ไม่มีใครอยู่แล้ว จะพูดได้หรือยังว่าให้ฉันมาที่นี่ทำไม?”

 

“จะไม่บอกเหตุผลละกันนะ แต่ฉันช่วยเธอจัดการเจ้าพวกที่คอยควบคุมเธออยู่เบื้องหลังได้ แลกกับเธอช่วยฉันทำอะไรซักอย่าง”

 

หลังจากที่จ้องมองอู๋ฮ่าวเหรินอยู่เป็นเวลานาน ไนติงเกลก็พูดขึ้น “นายรู้เรื่องของฉันได้ยังไง?”

 

เธอรู้ว่าฐานนี้ของเธอเป็นความลับมากๆ มีเพียงผู้สืบทอดจริงๆเท่านั้นถึงจะรู้และสามารถตามหาฐานนี้เจอได้

 

ไหนจะยังสงสัยเรื่องที่ข้อมูลตัวตนของเธอที่ถูกเปิดเผยออกมาอีก แม้แต่ในวอร์บเลอร์เอง ตัวตนของเธอก็ยังเป็นความลับเลย

 

อู๋ฮ่าวเหรินเมื่อได้ยินดังนั้นก็ยิ่งแกล้งทำให้มันลึกลับขึ้นอีก “ เธอไม่จำเป็นต้องรู้หรอก รู้แค่ว่าฉันรู้ข้อมูลของเธอแค่นั้นก็พอ ร่วมมือกับฉัน แล้วเธอจะสามารถปลดแอกตัวเองออกจากสิ่งที่เป็นอยู่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ในอนาคต เธอไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับโชคชะตาที่ต้องไปโดนไล่ล่าด้วย เพราะฉันสามารถให้ที่พักพิงแก่เธอได้”

 

เมื่อไนติงเกลได้ยินเช่นนั้น คิ้วของเธอก็ขมวดแน่น เธอเริ่มจะประหลาดใจจริงๆแล้วว่าอู๋ฮ่าวเหรินรู้เรื่องของเธอได้อย่างไร

 

เธอมั่นใจเลยว่าเธอไม่เคยเปิดเผยเรื่องพวกนี้มาก่อนแน่ๆ

 

“คิดว่าไงล่ะ คุณไนติงเกล?”

 

ทันใดนั้นไนติงเกลก็ง้างมือและตบเข้าไปที่อู๋ฮ่าวเหรินโดยไม่มีสัญญาณใดๆ และยิ่งไปกว่านั้นถ้าเกิดฝ่ามือของเธอถึงตัวอู๋ฮ่าวเหรินด้วยความแรงระดับนี้ล่ะก็ ต่อให้แกร่งแค่ไหนก็ถึงตายได้เลย

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อฝ่ามือของเธอใกล้จะถึงตัวอู๋ฮ่าวเหรินมันก็หยุดไปในทันที ส่วนอู๋ฮ่าวเหรินเองก็ไม่ได้ขยับไปไหน เพียงแค่มองเธอเช่นเดิม

 

“มันใหญ่จริงๆแฮะ ทำเอาใจฉันเต้นไม่หยุดเลย”

 

ไนติดเกลไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดในตอนแรก แต่เมื่อเธอมองดูสภาพของเธอที่กำลังบดเบียดอีกฝ่ายด้วยทรวงอกโตนั้นเธอก็รีบถอยออกไปทันที

 

“แก!”

 

“นี่ไม่ใช่ความผิดของฉัน เธอเอามันมาชนฉันเอง นี่ความรู้ใหม่เลยนะเนี่ย ฉันเพิ่งรู้ว่าเผ่าพันธุ์เธอเองก็มีอะไรหลายๆอย่างคล้ายกับเผ่าพันธุ์ของฉันเหมือนกัน”

 

“หึ! แล้วนายจะให้ฉันทำอะไร? ฉันไม่มีเวลามาฟังเรื่องไร้สาระหรอกนะ”

 

อู๋ฮ่าวเหรินยิ้มออกมา และรู้ได้ทันทีว่าการต่อสู้นั้นจบลงแล้ว

 



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น