CF:บทที่ 684 ไนติงเกล
อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในเขตแดนคีตั้นถูกแพร่ออกไปโดยเร็ว หัวข่าวที่กล่าวถึงกองกำลังของตระกูลที่โด่งดังถูกโค่นล้มโดยกองกำลังของตระกูลเล็กๆนั้นกลายเป็นเรื่องที่ผู้คนพูดกันในสัมพันธมิตรอวกาศด้วยเวลาเพียงไม่นาน
ถึงแม้ว่าผู้บริหารของเขตแดนคีตั้นเองจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หากแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะโค่นล้มตระกูลที่อยู่ในเขตแดนคีตั้นมากว่า 1000 ปีแล้ว
บางคนนั้นเลือกที่จะสนใจ ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่น ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มสืบเสาะหาข้อมูล
การสืบสวนของเขาทำให้รู้ว่า มันคือการร่วมมือระหว่างกองกำลังของตระกูลเล็กๆและอู๋ฮ่าวเหริน ซึ่งรู้ๆกันอยู่แล้วว่าอู๋ฮ่าวเหรินกับตระกูลอัลตานั้นขัดแย้งกันอยู่แล้ว
เรื่องนี้แพร่กระจายไปในสัมพันธมิตรอวกาศอย่างรวดเร็ว และมันทำให้อู๋ฮ่าวเหริน จากที่โด่งดังอยู่แล้ว ในตอนนี้โด่งดังมากกว่าเดิมอีก แถมยังมีเรื่องพูดคุยกันเบาๆอีกด้วยว่า หากเขาอยากจะกำจัดใคร มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย
“คนกลุ่มน้อยนี่ทรงพลังจริงๆ แถมมีของดีอยู่ในมือตั้งเยอะตั้งแยะ”
หลังจากที่เรื่องนี้ถึงหูนักธุรกิจในตำนานรุ่นปัจจุบัน เขาเองก็ยังชื่นชมและยอมรับในตัวอู๋ฮ่าวเหรินอีกด้วย
แต่สิ่งที่ดึงดูดจริงๆนั้นก็คือเทคโนโลยีที่อู่ฮ๋าวเหรินพัฒนาให้พวกกองกำลังเล็กๆนั้นมากกว่า พวกเขาต่างพากันคาดเดาว่า มีเทคโนโลยีอะไรบ้างที่อู่ฮ่าวเหรินได้มาจากโบราณสถานนั้น
ในตอนนี้อู๋ฮ่าวเหรินกำลังนั่งอยู่ในยานอวกาศเพื่อไปพบกับพี่ใหญ่แห่งวอร์บเลอร์
ภายในยานอวกาศนั้นเขาก็มองจอที่คุยกับมิสต์อยู่ด้วยความรู้สึกที่ไม่รู้จะช่วยอะไรอีกฝ่ายได้
“นาย เป็นถึงผู้บัญชาการกองทัพเลยนะ นี่ยังมายุ่งเกี่ยวกับอะไรแบบนี้อีกเหรอ?”
“แน่นอน ถ้านี่เป็นธุรกิจของใครอื่นฉันก็คงไม่สนใจหรอก แต่เพราะฉันอยากจะใส่ใจธุรกิจของนาย หลายๆคนก็บอกว่านายนั้นโหดร้าย เพราะนายสามารถถล่มพวกกองกำลังอื่นได้ และถ้ายึดตามสถานการณ์ปัจจุบัน กองกำลังเหล่านั้นจะหายไปจากเขตแดนคีตั้นแน่ๆในอนาคต”
“จะโทษฉันหรือไง? ก็พวกนั้นหาเรื่องเอง ค่าหัวของฉันที่อยู่บนโลกมืดนั่นก็ฝีมือพวกนั้น”
“งั้นก็ช่างมันไปเถอะ ฉันไม่ได้อยากจะพูดเรื่องนี้ ฉันกำลังจับตาดูนาย เผื่อว่านายจะมีอะไรที่ฉันต้องรู้อีก”
“ทำไม? อยากจะร่วมมือกับฉันหรือไง? หึ ฉันมีแน่ๆ เทคโนโลยีบางอย่าง แต่มันไม่สามารถเปิดเผยได้ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ฉันลงมือทำยานอวกาศแล้ว เพราะงั้นก็จะไม่ว่างวิจัยและศึกษาเทคโนโลยีพวกนั้นด้วย”
“อืม ถ้าเกิดนายมีเทคโนโลยีอะไรที่สามารถสนับสนุนการต่อสู้สำหรับกองทัพได้ ก็ช่วยบอกให้ฉันรู้ถึงรายละเอียดด้วยละกัน”
“ครั้งก่อนนี้นายก็ไม่ได้เชื่อฉันเกี่ยวกับเทคโนโลยียานอวกาศนี่ ถ้าเกิดฉันบอกอะไรไป คราวนี้นายจะเชื่อเหรอ?”
มิสต์พูดอะไรไม่ออก เขาค่อนข้างจะกระอั่กกระอ่วม
แต่เพียงไม่นานก็หายดี
“เพราะงั้น ฉันไม่บอกนายหรอก ก็นะ จะขอเตือนเอาไว้หน่อย มันจะดีกว่าถ้านายใส่ใจกับปัจจุบันนะ แล้วก็ระวังตัวไว้ให้ดี เพราะใครก็ตามที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง สักวันพวกเขาต้องหาทางแก้แค้นแน่ๆ”
มองการสนทนาที่ถูกตัดไป อู๋ฮ่าวเหรินก็ส่ายหน้า ตอนยุคสมัยที่พวกเขารุ่งเรือง พวกเขาไม่กลัวใครหน้าไหน เพราะงั้นก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามที่ควรจะเป็น
สำหรับภารกิจการลอบสังหารภายในโลกมืด หลังจากที่เขาได้เจอกับไนติงเกลแล้ว เขาก็จะคลายกังวลเรื่องนี้ได้เสียที
ไม่นานนักหลูวหยู่และอูริสก็ถามถึงเรื่องนี้ หลูวหยู่นั้นสนใจในเทคโนโลยีที่เขาครอบครองเท่านั้น ส่วนทางอูริสก็ยังคิดว่าแผนของอู๋ฮ่าวเหรินยังไม่ดีพอในเวลานี้
สำหรับเขา กองกำลังเหล่านั้นคงต้องมีปัญหาบางอย่างกับพวกผู้บริหารในเขตแดนคีตั้นอยู่แล้ว เพราะงั้นมันจะดีกว่าถ้ากำจัดแค่ใครบางคนไปก็พอ
แต่ต่อให้เป็นกรณีนั้น ยังไงพวกผู้บริหารแห่งเขตแดนคีตั้นก็คงไม่ปล่อยให้ใครรอดไปอยู่ดี
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาเองยังหาคนที่หายไปได้ง่ายๆอยู่แล้วด้วย
อู๋ฮ่าวเหรินได้ฟังก็คิดตามว่า ตกลงในอนาคตเจ้านี่จะกลายเป็นพ่อมดหรือนักธุรกิจในตำนานกันแน่นะ? นี่มันโหดร้ายกว่าเขาซะอีก!
หลังจากที่ได้พูดคุยกับทั้งสองคน อู๋ฮ่าวเหรินก็มองไปยังเส้นทางที่ยานอวกาศกำลังล่องไปแล้วก็พบว่าเขาเข้าใกล้จุดที่ไนติงเกลนัดไว้มากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
ภายในกลุ่มซองแดงนั้น เมื่อพวกเขารู้ว่าอู่ฮ่าวเหรินต้องการพบนายใหญ่แห่งวอร์บเลอร์อย่าง ไนติงเกล พวกเขาก็แสยะยิ้มแปลกๆออกมา
หลังจากที่อัลตาล่มสลาย พวกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก เพราะภายในสายตาของพวกเขา หนทางในการโค่นล้มตระกูลพวกเขาของอู่ฮ่าวเหรินนั้นค่อนข้างจะซับซ้อน
ทั้งๆที่แค่ส่งหุ่นยนต์ต่อสู้เข้ามาและฆ่าพวกเขาทั้งหมด แบบนี้มันง่ายแถมยังสะดวกสบายกว่าตั้งเยอะ
ถ้ายึดตามความคิดของคนเหล่านี้ อู๋ฮ่าวเหรินต้องมีกลุ่มคนจากอนาคตคอยช่วยเหลืออยู่แล้วไม่ว่าจะให้คำแนะนำหรือช่วยพัฒนาอาวุธต่างๆ การที่จะกำจัดพวกเขานั้นเพียงใช้วิธีแบบนี้มันรอบคอบเกินไป
บนดาวที่ดูธรรมดาๆดวงหนึ่ง ภายในจุดที่คิดว่าดาวดวงนี้กำลังตกต่ำ ที่นั่นก็มีฐานทัพที่ดูหรูหราตั้งอยู่
ภายในฐานทัพ ณ ตอนนี้ ผู้นำแห่งวอร์บเลอร์อย่างไนติงเกลได้มาถึงแล้ว และนั่นทำให้ทั่วทั้งฐานดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา
เรือนร่างที่เร่าร้อนทำเอาเหล่าคนหนุ่มในฐานทัพแห่งนี้มีกำลังวังชาในการทำงานต่อไป
ภายในห้องเล็กๆ หลายๆคนที่ทำหน้าที่อยู่ภายในฐานย่อยนี้มีความสุขมากๆเมื่อรู้ว่าไนติงเกลจะมา
และดูเหมือนว่าการที่เธอมาครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะพบเจอใครคนหนึ่ง
ชื่อของชายคนนั้น เป็นอะไรที่พวกเขาเองเพิ่งจะได้ยินเมื่อเร็วๆนี้ นั่นคือ อู๋ฮ่าวเหริน พวกเขาพบว่าชื่อของคนๆนี้ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงแถมยังเคย...เป็น 1 ในคนที่มีชื่ออยู่ในรายการล่าของพวกเขามาก่อนด้วย
มันน่าเสียดายที่คิลและสติงก์ปฏิบัติภารกิจไม่สำเร็จ แถมภารกิจนั้นยังถูกยกเลิกเพราะใครบางคนแทรกแซงอีกด้วย
และตอนนี้ เมื่อพวกเขาได้ยินว่าผู้เป็นนายของพวกเขาจะพบเจอกับคนๆนี้ มันก็ยิ่งทำให้พวกเขาเกิดสับสนขึ้นมาอีก พวกเขาต่างพากันคิดว่า ทั้งสองคนนี้ไปติดต่อกันด้วยช่องทางไหนนะ?
เหตุผลก็เพราะว่ามันมีข่าวลือหนาหู ถึงเรื่องที่มีอารยธรรมชั้นสูงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังซึ่งคอยสนับสนุนพวกเราอยู่
เหล่าสมาชิกองค์กรที่สำคัญๆต่างรู้กันว่าอารยธรรมเบื้องหลังนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้วอร์บเลอร์สามารภพัฒนามาได้จนถึงปัจจุบันนี้
แน่นอนเลยว่าเพราะพวกเขาคิดเช่นนี้ พวกเขาถึงได้หวาดระแวงและตั้งตัวเป็นปรปักษ์เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินเข้ามา
หลังจากที่ยานอวกาศของอู๋ฮ่าวเหรินเทียบท่า ณ ท่าจอดยานลับได้ เขาก็มองไปยังด้านนอกและพยักหน้า
สมกับเป็นที่ที่องค์กรนักฆ่าอย่างวอร์บเลอร์เลือก เพราะถึงแม้จะดูห่างไกลเล็กน้อยแต่ไม่ไกลออกไปก็เป็นเส้นทางคมนาคมหลักของสัมพันธมิตรอวกาศแล้ว
ที่แบบนี้เมื่อนำมาเป็นฐานย่อยแล้ว มันช่วยทำให้เหล่าบุคลากรภายในสามารถท่องไปยังทั่วสัมพันธมิตรอวกาศได้อย่างสะดวกดีเลย
“สวัสดีครับคุณอู๋ เชิญทางนี้ ผู้นำของพวกเรากำลังรอคุณอยู่”
“อืม...”
อู๋ฮ่าวเหรินมองผู้ที่มารอตนที่ซึ่งตอนนี้กำลังนำทางเขาอยู่ด้วยความรู้สึกสับสนเล็กน้อย
เมื่อเขาเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในฐานนั้น อู๋ฮ่าวเหรินก็พบว่ารอบๆตัวเขานั้นมีฐานทัพอื่นขนาบอยู่ 2 ข้างเลย ซึ่งมันดูแตกต่างจากฐานหลักของวอร์บเลอร์ไม่น้อยเลย
ดูเหมือนไนติงเกลจะวางการ์ดไว้เยอะพอสมควรเพื่อคอยรับมือเขา
หลังจากที่เข้ามาถึงฐานภายในลึกสุดได้ เขาก็พบกลุ่มคนมากมายที่อยู่ในนั้นซึ่งกำลังรอเขาอยู่
หญิงสาวที่อยู่บนจุดสูงสุดนั้นคือ ไนติงเกล ตามที่ได้ดูมาจากข้อมูลในอนาคต
เขาประหลาดใจไม่น้อยที่ผู้หญิงสวยขนาดนี้จะเป็นคนสร้างกลุ่มนักล่าขึ้นมาแถมเป็นหัวหน้าที่นี่ได้อีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะได้สังเกตุไนติงเกลดีๆ เขาก็พบว่าพวกคนที่อยู่เบื้องล่างไนติงเกลนั้นกำลังมองเขาแบบไม่เป็นมิตรอยู่
อู๋ฮ่าวเหรินมองไปยังคนเหล่านั้นแล้วก็พบว่า เขาไม่รู้จักพวกนี้เลย อะไรกันนี่
“ทำไมพวกนายต้องมองฉันอย่างงั้นด้วย? นี่เป็นครั้งแรกที่เราเจอกันไม่ใช่เหรอ? ฉันจำไม่ได้นะว่าเคยไปทำอะไรให้พวกนายคับข้องใจด้วย”
อู๋ฮ่าวเหรินยังคงไม่รู้ว่าก่อนที่เขาจะมา ที่จู่ๆไนติงเกลก็ปรากฏตัวขึ้นมาแล้วทำให้คนเหล่านี้ตกใจกันหมด คนบางส่วนในที่นี้ถูกเธอลงโทษด้วยเหตุผลบางอย่าง
และเมื่อพวกเขารู้ว่าอู๋ฮ่าวเหรินจะมาด้วยเหตุผลที่จะพบเจอไนติงเกล มันเลยทำให้พวกเขามองอู๋ฮ่าวเหรินเป็นปรปักษ์ไปโดยสมบูรณ์
0 ความคิดเห็น