CF:บทที่ 654 นักฆ่าปรากฏตัว!
เดินเข้าไปในจุดที่ลึกที่สุดของคลังข้อมูลอาวุธ อู๋ฮ่าวเหรินก็เหมือนจะพบอะไรบางอย่าง แผ่นเหล็กที่ดูแตกต่างจากทั่วๆไป
ถ้าเขาไม่ได้ข้อมูลจากอนาคต เขาคงไม่คิดว่าข้อมูลทั้งหมดในคลังข้อมูลอาวุธจะถูกเก็บไว้ในแผ่นเหล็กแบบนี้
“นี่แหละ สิ่งนั้น หลังจากที่ออกไปได้แล้ว นายต้องใช้เครื่องมือเพื่อถอดรหัสมัน ภายในนี้มีเทคโนโลยีมากมายอัดแน่นอยู่” นักวิจัยพูด
“คนที่เผอิญได้แผ่นเหล็กนี่ไปเปิดมันออกและพบเจอเทคโนโลยีมากมายอยู่ในนั้น เพราะงั้นอย่าเพิ่งตกใจไปนะ” นักวิจัยเริ่มอธิบายต่อ “แต่หลังจากนั้น การวิจัยของเขาก็พบว่าอาวุธมากมายไม่สามารถสร้างขึ้นได้ในยุคนั้นๆ”
ได้ฟังแบบนี้อู๋ฮ่าวเหรินก็พอจะเข้าใจได้ว่านั่นน่าจะเป็นเพราะปัญหาเรื่องวัตถุดิบ ในยุคนั้นน่ะ วัตถุดิบที่มีอยู่ ณ ปัจจุบันนี้กลายเป็นของหายากหมดแล้ว
อู๋ฮ๋าวเหรินเตรียมที่จะออกแล้วโดยไม่ได้เอามันไปด้วย นั่นเพราะว่าข้อมูลอาวุธพวกนี้ สำหรับเขามันไม่จำเป็น
ส่วนข้อมูลที่เหลือ เขาก็สนใจแค่นิดๆหน่อยๆ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นว่าหลูวหยู่นั้นกำลังเช็คข้อมูลพวกนี้อย่างระมัดระวังมันทำให้เขาตัดสินใจที่จะรอเธอก่อน
“นายพูดว่า ในเมื่อหลูวหยู่สามารถมาอยู่ในที่แบบนี้ได้ด้วยวิธีของเธอเอง แสดงว่าคนอื่นก็มีสิทธิ์ที่จะหาวิธีมาที่นี่ได้หรือเปล่า?”
“ใช่ ถึงแม้ว่าในโบราณสถานแห่งนี้จะยังมีพลังงานเหลืออยู่บ้าง แต่อุปกรณ์หลายๆอย่างก็เริ่มทำงานไม่ปกติแล้ว”
“แสดงว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหลังจากนี้สินะ”
หลูวหยู่ที่รู้สึกตัวจากการหลงไหลไปในดงข้อมูลก็พบว่าอู๋ฮ่าวเหรินกำลังมองมาที่เธออยู่ นั่นทำให้เธอตื่นตัวขึ้นมาทันที
“ฉันก็เหมือนกับเธอนั่นแหละ ถ้าคิดจะทำร้ายล่ะก็ คงทำไปนานแล้ว ตอนนี้ฉันกำลังจะออกจากที่นี่ เธอจะไปด้วยหรือเปล่า?”
“นายจะไม่เอาอะไรไปด้วยเหรอ?”
“ถ้าเธอจะเอาอะไรไปก็รีบเอาไป เพราะเดี๋ยวจะมีคนอื่นเข้ามาเสียก่อน!”
รู้สึกได้เลยว่าข้อมือมันกำลังสั่นสะเทือน เมื่อเขามองไปก็พบกับเรื่องน่าตื่นตา ใครบางคนเข้ามาที่นี่!
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมามากกว่าหนึ่ง และคนพวกนี้ไม่โดนจับตาโดยยานเหาะนั่นด้วย
ในตอนแรก อู๋ฮ่าวเหรินตั้งใจจะหนีไปเลยเพื่อจะได้ลดโอกาสเจอคนอื่น แต่พอได้เจอหลูวหยู่ เขาก็เลยตัดสินใจที่จะรอให้พวกนั้นเข้ามาอยู่แบบนี้
“นักวิจัย เราต้องไปที่ส่วนกลางสินะ?”
อู๋ฮ่าวเหรินมองไปยังแผนที่
ตำแหน่งของคลังข้อมูลอาวุธนั้นดูจะเป็นทางเดียวที่เข้าไปยังส่วนกลางได้
“ตราบใดที่พวกเขายังเกรงกลัวปราการของโบราณสถานแห่งนี้ พวกเขาก็ต้องมาทางนี้เพื่อเลี่ยงการโจมตีและไปยังส่วนกลาง ไม่งั้นแล้วหากไปเส้นทางอื่นก็จะเสี่ยงโดนโจมตีจากปราการที่ยังทำงานได้อยู่”
หลังจากที่ได้รับการยืนยันแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินก็เริ่มคิดหาทางไปต่อ ส่วนต่อไปของถนนที่ทอดยาวเส้นนี้ดูเหมือนว่าจะเต็มไปด้วยอันตราย ถ้าปล่อยให้คนพวกนั้นนำร่องไปก่อนน่าจะดีกว่า
“ใครซักคนกำลังมา หาที่หลบก่อนเถอะ”
อู๋ฮ่าวเหรินไม่รอให้หญิงสาวตอบสนอง เขารีบพาเธอหลบออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
หลูวหยู่อยากจะต่อต้าน แต่ดูท่าทีของอู๋ฮ่าวเหรินแล้ว เธอจึงล้มเลิกความคิดและยอมตามเขาไปแต่โดยดี
“อยู่ตรงนี้นะ พวกนั้นน่าจะมาในเร็วๆนี้”
เธอมองไปยังอู๋ฮ่าวเหรินด้วยความอยากรู้อยากเห็น เอาจริงๆเธอก็ไม่ได้คิดหรอกว่าเขาจะจับตามองที่อื่นภายในโบราณสถานแห่งนี้อยู่ด้วย
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง คนแปลกหน้า 3 คนก็มาถึงประตูคลังข้อมูลอาวุธแล้ว
แต่นั่นก็เป็นเพราะอู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้ปิดประตูห้องไว้ คนพวกนั้นจึงสังเกตุเห็นทางเข้าได้อย่างรวดเร็ว
และเมื่อได้สังเกตุการณ์อยู่นาน เขาจึงเดินเข้ามาใกล้ประตูอย่างระมัดระวัง 1 ในพวกเขานั้นเปิดเครื่องมือและทันใดนั้นร่างของเขาก็หายไปในทันที
“ล่องหน!?”
“มันน่าจะเป็นผ้าคลุมที่ใช้วัสดุล่องหนนั่นแหละ ดูท่าเจ้าคนนี้จะไม่ง่ายซะแล้ว”
เมื่อได้ยินว่ามันเป็นวัสดุล่องหน อู๋ฮ่าวเหรินก็เปิดอุปกรณ์ตรวจจับจากหุ่นยนต์ตัวอื่นเพิ่มด้วยเลย นั่นทำให้เขาเริ่มเห็นเป็นเส้นประบางๆขึ้นมาเป็นทรงของพวกคนทั้ง 3 ที่กำลังเดินเลียบกำแพงและตรงไปยังประตูของคลังข้อมูลอาวุธ
พวกนั้นเคลื่อนที่ช้ามากๆราวกับพยายามทำให้ไม่เกิดเสียง
“เอาล่ะ ดูเหมือนจะเจอเรื่องยุ่งแล้ว อีกกลุ่มนึงกำลังเข้ามาเพิ่ม”
มองจากภาพที่หุ่นยนต์ที่อยู่โดยรอบของเขาจับมาได้ เพราะตัวเขาเองนั้นมีทั้งแผนที่และคนจากกลุ่มซองแดงซึ่งมาจากอนาคตคอยช่วย เขาถึงได้มาเร็วขนาดนี้
แต่คนพวกนี้กลับเร็ว เร็วโดยที่ไม่มีแผนที่เช่นเขา ดูท่าจะประมาทไม่ได้ซะแล้ว!
เขาไม่ได้คิดเลยว่าเขาใช้เวลาที่คลังแสงกับห้องเก็บอุปกรณ์มากเกินไป
เปรียบเทียบระหว่างกลุ่มของ 3 คนเมื่อครู่ที่ค่อนข้างจะรอบคอบมากๆ 4 คนที่มาทีหลังนี้ดูเดินกร่างแบบสุดๆ
หลังจากที่พวกเขาค้นพบคลังข้อมูลอาวุธ พวกเขาก็มุ่งหน้าเข้ามาโดยไม่มีลังเลอะไรทั้งสิ้น รวมถึงเข้าไปภายในด้วย
“รีบไปดูกันเถอะ”
หลูวหยู่ตามอู๋ฮ่าวเหรินที่ดูฉลาดมากๆไป เธอสนใจแบบสุดๆ เพราะคนๆนี้ดูจะทรงพลังมากๆตั้งแต่ตอนเปิดประตูแล้ว เธอได้ยินเสียงดังมาจากข้างใน “ฮ่าๆๆ มีพวกหนูโสโครก 3 ตัวมาถึงก่อนเรา อย่าให้มันหนีไปได้ล่ะ”
“ฉันบอกนายไปแล้วไงว่าพวกนั้นไม่ใช่หนูโสโครก พวกเขาเป็นนักฆ่า แถมเป็นนักฆ่าที่โด่งดังทั้ง 3 คนเลยด้วย!”
เมื่อได้ยินว่าทั้ง 3 คนนั้นเป็นนักฆ่า อู๋ฮ่าวเหรินก็ชะงักไปเลย เขาหวังแค่ว่า 3 คนนั้นจะไม่มาหาเขาหรอกนะ!
ข่าวที่ว่าเขาเข้ามายังโบราณสถานแห่งนี้แพร่สะพรัดออกไป และพวกนักฆ่าเองก็อยากจะจบงานเร็วๆ เพราะงั้นนี่จึงถึงว่าเป็นสถานที่ที่ดีที่จะเก็บเขาเลย
“เข้าไปดูข้างในกันเถอะ ฉันยังไม่เห็นเลยว่านักฆ่าหน้าตาเป็นแบบไหน” หลูวหยู่พูดอย่างตื่นเต้น
มันรู้สึกดีที่ได้มองไปยังนัยน์ตาไฝ่รู้ของเธอ นัยน์ตาที่อยากรู้ว่านักฆ่าหน้าตาเป็นอย่างไร
“รอก่อน เราจะเข้าไปทีหลัง”
เกิดการต่อสู้ขึ้นข้างใน คนพวกนั้นยังกังวลว่าอาจจะเผลอทำให้โบราณสถานเสียหายได้ ดังนั้นเขาจึงพยายามไม่ให้เกิดความเสียหายนี้ไปด้วย
ต่างกันกับนักฆ่าพวกนั้นที่ทั้งบ้าบิ่นและดุร้าย แต่ถึงกระนั้น ทั้ง 4 กลับดูจะได้เปรียบเรื่องการใช้อุปกรณ์มากกว่าทางฝั่งนักฆ่า
นักฆ่าทั้ง 3 ถูกต้อนให้ไปอยู่ยังมุม แต่คนพวกนั้นก็ดูจะไม่กล้าพอที่จะฆ่าคน ซึ่งในตอนนั้นเอง อู๋ฮ่าวเหรินก็เดินเข้าไปในนั้นแบบพอดิบพอดี
การปรากฏตัวของอู๋ฮ่าวเหรินและหลูวหยู่นั้นเรียกความสนใจจากทั้งสองฝ่ายได้ไม่น้อย และทันใดนั้นมันก็ช่วยให้พวกนักฆ่าสามารถออกจากมุมได้และเปิดระยะห่างออกจากผู้คนไประยะหนึ่ง
มองไปยังนักฆ่าเหล่านั้นที่อยู่ไม่ไกลนัก ถึงแม้ว่าพวกเขาพยายามจะซ่อนไปกับกำแพงและรีบจัดการอารมณ์ของพวกตนได้เร็วขนาดไหน แต่อู๋ฮ่าวเหรินก็ยังรับรู้ได้ว่าคนพวกนี้กำลังตกใจและตื่นเต้นไปพร้อมๆกัน
“ที่นี่ไม่ได้มีแค่ 2 คนแบบนี้ดูท่าจะไม่ง่ายแล้วนะ จะเอายังไงดีล่ะพี่หยู”
1 ใน 4 คนนั้นผู้ที่ซึ่งเตี้ยที่สุดหันไปถามคนที่ดูจะหยิ่งพยองยู่
“เมื่อเราเข้ามา เราก็ต้องจับพวกนั้นไปให้ได้ ทุกๆอย่างที่อยู่ในตัวพวกนี้มันน่ากลัวไปหมด”
อีกคนหนึ่งใน 4 คนนี้ผู้ที่ซึ่งมี 4 ตาและมีรอยยิ้มประหลาดเอ่ยขึ้น “พี่หยู คนที่อยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นดูเหมือนจะเป็นหญิงสาวชาวเอราคอสนะ ถึงจะใช้อุปกรณ์แปลกๆปกคลุมร่างกายอยู่แต่ก็หลบสายตาฉันไม่ได้หรอก”
เมื่อได้ยินว่าเธอเป็นชาวเอราคอส ชายผู้หยิ่งผยองก็แสดงสายตาหื่นกระหายออกมาทันทีเลย เขามองไปยังหลูวหยู่
ตัวเธอเองก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้อะไร เธอพยายามจะหลบเข้าไปหลังอู๋ฮ่าวเหรินและบ่นมุบมิบ “นี่ต้องเป็นพวกมะเร็งตามที่คุณปู่พูดแน่ๆเลย เพราะงั้นฉันจะกลับมาจัดการพวกเขาด้วยวิธีที่คุณปู่สอนไว้ คือตัดพุ่มพวงพวกเขาไปคนละ 1 ข้าง เดี๋ยวคนพวกนี้ก็คงงอกชิ้นส่วนนั้นๆกลับมาเอง” ยามที่ได้ฟังคำพูดที่หนักแน่นของเธอแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินก็เกิดอาการหนีบขาตนเองแน่น เขาไม่รู้ว่าทำไมคุณปู่ของเธอถึงสอนเธอมาเช่นนั้น
มองไปยังทั้ง 4 ที่ทำตัวไม่จริงจังใดๆ อู๋ฮ่าวเหรินก็คิดว่านี่มันคือกลุ่มรวมพวกงี่เง่ามาไล่จับหนูของพวกกองกำลังใหญ่ๆหรือไงกันนะ...
0 ความคิดเห็น