CF:บทที่ 653 ผู้หญิงประหลาด
“ เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”
อู๋ฮ่าวเหรินมองสิ่งที่หุ่นยนต์ของเขารายงานรายละเอียด มันทำให้เขารู้สึกมึนงงมากๆ เขามองไปยังคลังข้อมูลอาวุธ และพบว่ามันไม่มียานเหาะอยู่เลย
“มีคนอื่นในโบราณสถานนี้อยู่ข้างฉันเหรอ?”
“คิดให้มากกว่านั้นหน่อย ชัดเจนเลยว่าคนคนนั้นเป็นคนที่ฉลาดมากๆ คิดว่าเขาคงใช้วิธีการอะไรบางอย่างทีทำให้การรักษาความปลอดภัยมันหยุดทำงาน จากสถานการณ์ปัจจุบัน ดูเหมือนกว่าถ้ามีใครเข้ามาในโบราณสถานแห่งนี้ยานพวกนั้นก็จะไปคอยสอดส่อง”
เขามองไปยังหญิงสาวผู้ที่พยายามจะเปิดประตูคลังข้อมูลอาวุธอยู่ ซึ่งตัวเขาเองก็พูดไม่ออก ไม่คาดคิดเลยว่าจะมีผู้หญิงฉลาดขนาดนี้เข้ามาที่นี่ก่อนเขา
“แล้วแบบนี้จะทำยังไงต่อ? ฆ่าเจ้านั่นเหรอ?”
ได้ยินคำพูดของอู๋ฮ่าวเหริน นักธุรกิจพลังงานก็บ่นขึ้นมาอย่างรังเกียจ “นายเพิ่งจะพูดเองไม่ใช่เหรอว่าไม่มีใครใช้มันได้? นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะช่วยให้นายเปิดประตูนั่นได้นะ การฆ่าผู้บริสุทธิ์น่ะมันไร้สาระสิ้นดี! ยิ่งไปกว่านั้น ความสามารถของหมอนั่นมันจัดว่าพิเศษเลยไม่ใช่หรือไง!”
อู๋ฮ่าวเหรินลูบแก้มตัวเองแล้วคิดตาม มันก็จริงหากจะกำจัดคนที่มีความสามารถเช่นนี้ทิ้ง ในอดีต เขาพยายามจะรับสมัครคนเช่นนี้ให้มาเป็นของเขา และถ้าไม่สามารถเกลี้ยกล่อมได้ ก็จะหาทางกำจัดพวกเขาซะ…
ดังนั้นแล้วให้หุ่นยนต์ทั้งหมดกลับมา ก่อนเขาจะเดินเข้าไป ณ จุดๆนั้น
หลูวหยู่มองไปยังประตูตรงหน้าเธอก่อนที่ใบหน้าสวยจะขมวดคิ้วแน่นราวกับเจ้าหญิงแห่งเอราคอส หลังจากผ่านช่วงเวลายุ่งยากมาก็ไม่คิดว่าจะได้มาเจออะไรที่น่าสนุกแบบนี้
ไอ้อารยธรรมของโบราณสถานนี่มันดูดีไม่หยอกเลย ถึงคนสร้างจะดูงี่เง่านิดๆหน่อยๆก็เถอะ
ไม่มั่นใจว่าถ้าเธอใช้โล่แบบพิเศษที่เตรียมมา จะสามารถป้องกันการตรวจพบได้หรือเปล่า
อาวุธพวกนั้นดูน่ารำคาญไม่น้อย เพราะมันทำให้เธอต้องคอยหลบ ไม่เช่นนั้นแล้วหากโดนไปซักครั้งเดียวเธอได้ลาออกจากการเป็นสิ่งมีชีวิตแน่ๆ
อย่างไรก็ตาม พอนึกถึงเรื่องที่มีคนกล้าโจมตีอุปกรณ์ตรวจตราพวกนี้ในโบราณสถานแล้ว มันก็ทำให้หลูวหยู่อยากจะพบเจอคนๆนั้นไม่น้อยเลย
มันจะดีไม่น้อยถ้าเธอได้รู้ว่าเขาโจมตีเจ้าสิ่งนั้นได้อย่างไรโดยที่ไม่โดนล็อคเป้าจากอาวุธในโบราณสถานแห่งนี้
“หนอย ไอ้ประตูบ้านี่! เพราะไม่ได้ใช้ AI ก็เลยทำตัวแข็งข้อได้งั้นเหรอ!! ไม่รู้หรือไงว่าเจ้าหญิงหลูวหยู่อย่างฉันน่ะไม่ใช่เฮอคิวลิสต์นะที่จะได้แหวกประตูเข้าไปได้น่ะ!”
หลูวหยู่เตะประตูด้วยเท้าตนไปอย่างโมโห และทันใดนั้นความเจ็บปวดมันก็วิ่งย้อนกลับเข้ามาจนเธอแทบจะลงไปทุรนทุรายบนพื้น
อู๋ฮ่าวเหรินที่กำลังเข้าใกล้เธอมากขึ้นเรื่อยๆ ท้ายสุดก็ถูกเธอจับได้
เธอหันกลับมาพร้อมถือเครื่องมือพิเศษไว้บนมือก่อนจะสร้างรูปแบบการป้องกันขึ้นมา หลังจากที่เห็นว่าอู๋ฮ่าวเหรินก็น่าจะมีจุดประสงค์เดียวกับเธอ มันยิ่งทำให้นัยน์ตาของเธอเกิดความอยากรู้ขึ้นมา
“นายก็เป็นเหมือนฉันเหรอ?”
เมื่อได้ยินเสียงหวานจ้อยจากคนแปลกหน้าเอ่ยขึ้นมันก็ทำให้เขาสับสนและตอบกลับไป “ใช่ นายมาที่นี่ได้ยังไง?”
“ฮึ่ม หลูวหยู่ผู้ชาญฉลาดผู้นี้ แน่นอนว่ามันมีทางที่จะมาได้อยู่แล้ว” เธอพูดพร้อมกับโบกหมัดเล็กๆที่เหมือนกับคริสตัลของเธอไปมา
อู๋ฮ่าวเหรินประลาดใจกับท่าทีดุ๊กดิ๊กของสาวๆเช่นนี้ ในเวลานี้ เขาพบว่าอีกฝ่ายใกล้เคียงกับความเป็นมนุษย์มากที่สุด แต่กระนั้นผิวของเธอกลับดูเหมือนคริสตัลจริงๆ
โดยเฉพาะเส้นผม เส้นผมสีเงินที่ไม่ต่างอะไรกับคริสตัลเลยจริงๆ
“หา? นายมองไปที่ไหนน่ะ? นี่โง่หรือเปล่าเนี่ย? ไม่หรอก ถ้าโง่นายไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่ได้”
อู๋ฮ่าวเหรินพบว่าอีกฝ่ายไม่น่าจะเคยเข้ามายุ่งเกี่ยวในโลกนี้อย่างแน่นอน แถมยามได้อยู่ด้วยเขาก็รู้สึกแปลกๆ รวมถึงรู้สึกว่าเธอน่ารักอีกด้วย
เขาถามกลับไปในกลุ่มซองแดง “เฮ้ พวกนายพอจะรู้ไหมว่าเขาคนนี้มาจากอารยธรรมแบบไหน? ฉันรู้สึกแปลกๆ”
“เธอคนนี้ไม่ใช่อารยธรรม แต่น่าจะเป็นสายพันธุ์ที่ค่อนข้างจะทรงพลังมากกว่าอย่าง เอราคอส แต่สายพันธุ์นี้ในยุคของพวกเราได้ตายจากไปหมดแล้ว นั่นเพราะว่าอัตราการสืบพันธุ์ที่ค่อนข้างต่ำของพวกเขาเองแถมในสงครามพวกเขาก็โดนกวาดล้างกันไปหมดด้วย”
“เธอ?”
“ใช่ จากสถานการณ์เธอคือเอราคอสเพศหญิงที่แต่งตัวแบบผู้ชาย นี่นายรู้หรือเปล่าว่าผู้หญิงเผ่าพันธุ์เอราคอสทุกคนนั้นสวยมากๆ นั่นทำให้ช่วงสงครามพวกเธอถึงได้ถูกกวาดล้างไปจนหมดไง”
อู๋ฮ่าวเหรินมองไปยังคนตรงหน้าอีกครั้ง และก็พบว่าท่าทีของเธอก็เหมือนผู้หญิงจริงๆนั่นแหละ
ดูท่าว่าการปลอมตัวจะได้ผลดีกว่าการแปลงร่างสินะ ในความจริงแล้วถึงท่าทีบางอย่างจะดูเหมือนผู้หญิงก็เถอะ แต่ภายนอกนั้นมันก็ยังมีหลายๆอย่างที่ไม่เหมือนผู้หญิงอยู่ดี
ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ของเผ่าพันธุ์ของเธอจะต่างออกไปบ้างในเอกภพนี้ แต่หลายสิ่งหลายอย่างมันก็ใกล้เคียงกับมนุษย์ บางทีเธอเองก็อาจจะเป็น 1 ในอารยธรรมอันชาญฉลาดในจักรวาลก็ได้
“นายมองไปที่ไหนน่ะ? นายไม่ได้โง่จริงๆใช่ไหม?”
ได้ยินดังนั้นอู๋ฮ่าวเหรินก็หันมาถามเธอ “เธอชื่อหลูวหยู่ใช่ไหม?”
“อ๊า! นายรู้ได้ยังไงว่าฉันชื่อหลูวหยู่!”
ยัยนี่เพิ่งจะบอกว่าฉันโง่เองนะ ไหงตอนนี้ดันมาโง่กว่าฉันซะล่ะ?
“เธอพูดมันออกมาเอง แต่ช่างเถอะ เธออยากจะเปิดประตูนี่เหรอ?”
“ฉันพูดเหรอ? ดูท่าฉันคงจะเผลอทำอะไรโง่ๆไปอีกแล้วแฮะ โชคดีจังเลยที่นายไม่ใช่พวกเขา ไม่งั้นคงหัวเราะเยาะฉันไปแล้ว”
“ฉันถามเธอว่า เธอต้องการจะเปิดประตูนี้เหรอ?”
อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้คาดคิดเลยว่าเธอจะเป็นผู้หญิงงี่เง่าเช่นนี้ และยึดถือตามสถานการณ์ จากเวลาหนึ่งสู่เวลาหนึ่ง เขาก็ยังไม่บรรลุว่าสรุปเธอสามารถมาที่นี่อย่างปลอดภัยได้อย่างไร
“ใช่แล้ว ฉันอยากเปิดประตูนี่! เพราะรู้สึกว่าข้างในต้องมีอะไรดีๆรอฉันอยู่แน่!”
ขณะที่กำลังพูดถึงสิ่งดีๆ ดวงตาของเธอก็เปล่งประกายด้วยแสงที่ต่างออกไป ซึ่งแสดงออกถึงความอยากเป็นเจ้าของ
มองเธอที่เป็นแบบนี้ ตอนแรกก็ว่าจะจ้างเข้าเป็นพนักงานบริษัทเพื่อไปเปลี่ยนแผนยุทธศาสตร์ในบริษัทนิดๆหน่อยๆ แต่ตอนนี้คิดว่าการลักพาตัวเธอไปเลยน่่าจะยังง่ายกว่าสำหรับผู้หญิงเช่นนี้
หลังจากที่คิดถึงเรื่องนี้ อู๋ฮ่าวเหรินก็พูดขึ้น “น้องสาว อยากจะคุยกับฉันหรือเปล่า? ฉันสามารถเปิดประตูนี่ได้ เธออยากจะมาด้วยกันไหม แต่มีข้อแม้เดียวคือฉันจะเลือกของในนี้ก่อนจะปล่อยให้เธอเลือกต่อ”
“นายเปิดมันได้จริงๆเหรอ?” หลูวหยู่ตาเป็นประกาย “คุณปู่พูดไว้ว่า ผู้คนที่เข้าหาฉันนั้นเป็นคนไม่ดี”
ให้ตายเถอะ เป็นปู่ประสาอะไรเนี่ย ดูท่าการสั่งสอนจากครอบครัวเธอจะมีปัญหาซะแล้วล่ะ!
“แต่หลูวหยู่ไม่รู้สึกว่านายจะทำร้ายฉันเลย”
สาวน้อยพูดขึ้นมาเช่นนั้นหากแต่อุปกรณ์ในมือเธอก็ยังชี้มาที่อู๋ฮ่าวเหรินอยู่ ชัดเจนเลยว่า เมื่อไหร่ที่อู๋ฮ่าวเหรินเผลอทำอะไรแย่ๆออกมา เขาจะโดนเจ้าสิ่งที่อยู่ในมือเธอนี้เล่นงานแน่ๆ
แต่กระนั้นอู๋ฮ๋าวเหรินก็ไม่ได้ใส่ใจเธอมากนัก เขาเดินตรงไปยังประตูและดูว่าจะทำอะไรได้บ้าง
มันเป็นอย่างที่หลูวหยู่พูด เทคโนโลยีของประตูนี้มันเก่ามากๆ ถ้าคุณอยากจะเปิดประตูนี่ คุณต้องแข็งแกร่งในระดับหนึ่งเลย
แน่นอนว่าพวกเราไม่ได้กลัวการโจมตีของโบราณสถานอยู่แล้ว เพราะเราสามารถโต้กลับได้
แต่ในตอนนี้ อู๋ฮ่าวเหรินมีหลูวหยู่อยู่ด้วย เพราะงั้นเขาจึงไม่กล้าใช้หุ่นยนต์ที่มี เขาวางมือลงไปบนคานจับก่อนจะเริ่มออกแลกผลักออกไป
เสียงอะไรบางอย่างเริ่มขยับขึ้นเบาๆก่อนที่ประตูทั้งสองบานจะค่อยๆขยับช้าๆ และท้ายสุดก็เปิดกว้างพอที่จะให้คน 1 คนเข้าไปได้
อู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่รอช้ารีบตรงเข้าไปยังทางเดินในนั้นทันที
เขารู้อยู่แล้วว่าภายในนั้นมีอะไรอยู่มานานมากๆ เพราะงั้นเมื่อเข้าไปได้ เขาจึงเดินตรงเพื่อจะเข้าไปยังจุดที่อยู่ในสุดของที่นั้นๆโดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่อยู่รอบข้างเลย
หลูวหยู่นั้นเองก็ยังตกใจที่อู๋ฮ่าวเหรินสามารถเปิดประตูนั่นได้จริงๆ เธอคิดกับตัวเองว่า เขาคนนี้แข็งแกร่งกว่าคุณปู่ของเธอเสียอีก
มองอู๋ฮ่าวเหรินที่เดินนำไปแล้ว เธอก็เกิดลังเลขึ้นมานิดหน่อยก่อนจะตัดสินใจตามเขาไปด้วยความตื่นแต้น
เมื่อเธอเข้าไปด้านใน เธอนั้นต่างกับอู๋ฮ่าวเหริน เพราะเธอนั้นให้ความสนใจกับทุกสิ่งอย่างรอบตัว
0 ความคิดเห็น