CF:บทที่ 646 คลังวัสดุ
หลังจากที่ออกมาจากจุดนั้นได้แล้ว ไม่ไกลออกไป อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้เห็นว่าอะไรกันแน่ที่โจมตีเขา มันเป็นหุ่นยนต์ หุ่ยนต์ที่มีลักษณ์เป็นยามเฝ้าประตู มันสูงกว่า 3 เมตรเสียอีก ดูแล้วไม่น่าจะใช่หุ่นยนต์แบบที่ใช้อาวุธ น่าจะเป็นประเภทสู้ระยะประชิดมากกว่า
และสาเหตุที่ทำให้เขาและหุ่นยนต์ทั้ง 3 ถูกโจมตี เมื่อเขาได้มองถึงตำแหน่งดีๆแล้วมันทำให้เขาเข้าใจ
“โอ้ว ฉันเข้าใจแล้ว”
“ถ้าเราเดินเข้ามาตรงๆ แบบไม่อ้อมไปทางอื่น หุ่นยนต์นี่ก็จะไม่โจมตีเรา”
“เจ้าหุ่นยนต์นี่น่าจะซ่อนตัวอยู่ เพื่อคอยป้องกันผู้บุกรุกที่พยายามจะลักลอบเข้าไป”
อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกกดดันไม่น้อยเลยที่มีหุ่นยนต์พวกนี้ถูกซ่อนไว้โดยที่ระบุตำแหน่งของพวกมันไม่ได้ โปรแกรมที่ตั้งไว้ป้องกันผู้บุกรุกนั้นไม่แยกเลยว่าจะเป็นผู้ร้ายหรือคนธรรมดา
“ดูตรงข้างหลังเจ้าหุ่นนั่นสิ ตรงจุดที่มีแสง นั่นน่าจะเป็นถังพลังงานของมัน และถ้ายึดตามกฏของพลังงาน มันน่าจะเหลือพลังงานน้อยแล้ว”
อู๋ฮ่าวเหรินมองตามก็พบว่ามันมีแสงอยู่ 3 จุดบนสิ่งที่เหมือนจะเป็นอุปกรณ์ขับเคลื่อน ไฟ 2 ดวงจาก 3 นั้นเริ่มสลัวลงแล้ว และอีก 1 ดวงนั้นก็ริบหรี่เต็มกลืน
ในตอนนี้ เขาได้ไอเดียอะไรบางอย่างแล้ว หุ่นยนต์นี่มันแข็งแกร่งมากๆ ถ้าเอามันกลับไปได้ มันจะต้องทำให้เขาสร้างหุ่นยนต์สุดวิเศษขึ้นมาได้แน่
“ถ้าเราทำให้พลังงานมันหมดได้ล่ะ?”
“อ่า แต่น่าจะยาก ลืมมันไปเถอะ”
สิ่งที่เขาพูดนั้นทำเอาคนในระบบซองแดงเกิดความอยากรู้อยากลองขึ้นมา แต่ใครจะไปรู้ว่าเมื่อไหร่พลังงานของเจ้าหุ่นนี่จะหมด
“งั้นมาลองดูกัน กับเจ้าหุ่นนี่ น่าจะช่วยให้เรารู้ได้ว่าอีกนานแค่ไหนกว่าพลังงานของโบราณแห่งนี้จะหมด”
“โอเค มาเริ่มการทดลองกัน แต่ถ้านายจะปฏิเสธ ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ”
“นักขุดแร่ ช่วยจัดหาก้อนหินมาให้ฉันหน่อย ฉันจะเอาไปจัดการหุ่นยนต์ตัวนั้น ดูแล้วต้องใช้เยอะอยู่”
อู๋ฮ่าวเหรินตั้งใจจะโยนหินใส่เจ้าหุ่นนั่นและให้มันต่อย
เขาเอาหินทั้งหมดออกมาจากระบบจากนั้นก็โยนใส่ชิ้นส่วนของหุ่นยนต์ตัวนั้นเรื่อยๆ
ระหว่างนั้นก็ดูมันโจมตีก้อนหินแต่ละก้อนที่ปาไปด้วยหมัดเดียว การกระทำต่อเนื่องเช่นนี้ยิ่งทำให้เขาเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของมันมากขึ้น
หุ่นยนต์ตัวนี้ทรงพลังและแข็งแกร่งมากๆ และดูๆแล้วมันไม่ใช่พวกใช้อาวุธระยะไกลจริงๆ
…
ผ่านไป 3 ชั่วโมง อู๋ฮ่าวเหรินมองไปยังเศษหินเศษปูนบนพื้นนั่นก่อนจะยอมแพ้ความคิดที่จะทำให้พลังงานของเจ้าหุ่นนี่หมดไป
“ฉันปวดหัวจังเลยแฮะ เหมือนกำลังจะตายเลย ทำไมมันต้องแข็งแกร่งขนาดนี้ด้วยเนี่ย ลืมมันไปก่อน ไว้จัดการกับทุกอย่างได้แล้วค่อยมาดูใหม่ว่าจะเอายังไงดี”
“ฮ่าๆๆ ฉันคิดว่านายจะยอมทนซะอีก” นักวิจัยหัวเราะ
“ต่อให้นายเสียเวลาเพิ่มอีก 3 ชั่วโมงนายก็น่าจะยังไม่ได้อะไร พลังงานของหุ่นยนต์ตัวนี้น่าจะยังอยู่ได้อีกนานเลย“ ชาวไร่พูดเสริม
แน่นอนว่าอู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้ว่างขนาด 3 ชั่วโมงแน่ๆ เขาต้องรีบเช็คส่วนต้อนรับนี้ หากแต่ก็ไม่ได้อะไรมาเลย
หลังจากที่สร้างส่วนต้อนรับมา มันเองก็น่าจะยังไม่ค่อยได้ใช้ได้ หรือจะให้พูดได้ว่า ส่วนนี้ทั้งส่วนยังไม่เคยใช้งานเลยก็ได้
อย่างไรก็ตามแต่ บางส่วนของแผนกต้อนรับนี้ ก็พอจะทำให้ได้เห็นว่าระดับของเทคโนโลยีในอารยธรรมนี้ค่อนข้างที่จะแข็งแกร่งมากๆเลย
เมื่อเดินออกจากส่วนต้อนรับมาแล้วอู๋ฮ่าวเหรินก็สร้างหุ่นยนต์มากมายขึ้นมาตรงหน้าเขาสำหรับเวลานี้
และผลของมันก็เป็นไปตามที่เขาคาด หุ่นยนต์ที่เดินนำหน้าเขาถูกกำจัดไปทีละตัวๆตามอันตรายที่ปรากฏขึ้นมา ณ พื้นที่นั้นๆจากการสัมผัสอะไรก็ตามที่น่าสนใจ
นี่จึงทำให้เขาเข้าใจแล้วว่า ไม่จับอะไรเลยจะดีที่สุด
แน่นอนว่าระหว่างทางที่จะไปคลังแสง มันจะต้องมีซักอย่างสองอย่างในที่นัั้นๆที่อู๋ฮ่าวเหรินหาไม่เจอ
นั่นเพราะว่าถ้ายึดตามแผนที่ที่ได้มาจากการบันทึกในอนาคตแล้ว ดูเหมือนว่าพื้นที่ส่วนที่อยู่อาศัยนั้นจะถูกตีเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง
“มันน่าเสียดายที่บางทีสิ่งดีๆอาจจะอยู่ในพื้นที่อยู่อาศัย”
“มันจะไม่น่าเสียดายเลยถ้านายคิดได้ว่าในนั้นมีอันตรายรออยู่ แล้วถ้ายิ่งพลังงานของโบราณสถานแห่งนี้ไม่เหลือแล้ว มันคงจะยิ่งเป็นปัญหาหนักกว่าเดิมอีก ”
“นายน่าจะรู้อยู่แล้วว่าในอนาคตมีโบราณสถานต่างๆปรากฏขึ้นมากมาย เพราะงั้นนายจะสนใจแค่สิ่งนี้ไปทำไม ถ้าเกิดมันมีอะไรอยู่แล้วสามารถเอาไปต่อยอดเทคโนโลยีได้นะ พวกเราคงไม่ปล่อยโอกาสให้นายหรอก”
อู๋ฮ่าวเหรินคิดตาม ในยุคนี้โบราณสถานยังปรากฏออกมาไม่มาก มันก็ยังมีสิ่งที่ดีๆอยู่เต็มไปหมดในที่แห่งนี้
แต่สำหรับตอนนี้ มันคงไม่คุ้มถ้าจะเสี่ยง ความปลอดภัยต้องมาก่อน
“หืม นั่นอะไรน่ะ?”
“หุ่นยนต์ลาดตระเวน หาที่ซ่อนก่อน!”
เมื่อได้ยินว่านั่นเป็นหุ่นยนต์ลาดตระเวนผนวกกับเพิ่งได้เห็นศักยภาพของหุ่นยนต์ในอารยธรรมนี้แล้ว อู๋ฮ่าวเหรินก็หาที่หลบทันที
มองไปยังหุ่นลาดตระเวณที่กำลังออกไป เขาก็ยังคงไม่ละทิ้งความกลัวและความกังวล ชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าจะได้หรือจะเสีย
ดูท่าการเข้าไปยังพื้นที่เสี่ยงจะไม่ควรซะแล้ว เพราะถ้าเกิดมีอันตรายขึ้นมามันต้องกลายเป็นโศกนาฏกรรมเพราะความโลภแน่ๆ
“เอาล่ะ ไปต่อกันเถอะ”
หลังจากที่หุ่นลาดตระเวณไปแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินจึงออกมาจากที่ซ่อนอย่างรวดเร็ว
“นั่น คลังแสงอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่พวกเราไม่รู้นะว่าจะมีอันตรายอะไรอยู่บ้าง ”
ภายในกลุ่มซองแดง ใครก็ตามที่รู้เห็นในการกระทำครั้งนี้สัญญาไว้ว่าจะเงียบ นั่นเพราะว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในยุคของพวกเขา มันไม่ใช่สิ่งที่อู๋ฮ่าวเหรินเผชิญอยู่ บางทีการพูดออกไปจะทำให้อีกฝ่ายเสี่ยงอันตรายแทน
การใช้พลังงานของที่แห่งนี้ทำให้ทุกอย่างอันตรายมากขึ้น พวกเขากังวลว่าอะไรที่อยู่ด้านหลังสิ่งนี้จะไม่พร้อมสำหรับใช้งานหรือไม่มีอะไรอยู่ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ข้อมูลของการยกระดับเทคโนโลยีนั้นจะถูกบันทึกไว้ในแกนกลาง ซึ่งมันอันตรายกว่าข้างนอกมากๆ อันตรายเกินกว่าจะคิดได้ว่าจะเจออะไรบ้าง
“ไปดูกันเถอะ ถ้ามันไม่ดียังไง ก็ค่อยยอมแพ้แล้วถอยกลับออกจากโบราณสถานนั้นๆ จากนั้นเราค่อยไปหาโบราณสถานอื่นที่ไม่อันตรายดู”
“นั่นคงเป็นทางเดียว”
อู๋ฮ่าวเหรินช่วยอะไรไม่ได้ ด้วยประสบการณ์และข้อมูลจากอนาคต การสำรวจที่นี่ของเขามันไม่ได้ปลอดภัยซะทีเดียว
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ก็ทำให้เขาคิดได้ว่ายังมีกองกำลังที่กำลังเข้ามาเพื่อสำรวจโบราณสถานแห่งนี้อยู่ ดูท่าพวกนั้นก็คงจะเสียเวลาเหมือนกันสินะ
หลังจากที่เขามาถึงตรงหน้าคลังแสงแล้ว เขาก็พบว่าคลังแสงที่นี่นั้นไม่ได้ใหญ่มาก
อู๋ฮ่าวเหรินยืนอยู่ตรงหน้าก่อนจะให้หุ่นยนต์เข้าไปก่อน และเขาก็ได้ถอนหายใจอย่างโล่งอกหลังจากที่ยืนยันแล้วว่าไม่มีอันตรายใดๆ
“โชคดี เพราะถ้าหากข้างในมีอันตราย อย่างน้อยก็ไม่ต้องเสียเวลา”
“ให้หุ่นยนต์ลองกดปุ่มที่ประตูแล้วรอดู เผื่อประตูมันจะเปิด” นักวิจัยพูด เพราะในเมื่อโบราณสถานแห่งนี้ยังมีพลังงานไหลเวียนอยู่ บางทีมันน่าจะทำงานได้
อู๋ฮ่าวเหรินควบคุมให้หุ่นยนต์เหล่านั้นตรงไปยังประตู
และมันก็เกินคาดมากๆ ประตูนั้นเปิดออกจริงๆ ด้วยความกลัวของเขาเอง นั่นทำให้เขาสั่งหุ่นยนต์ให้เขาไปด้านในด้วย ดูๆแล้วคลังแสงนี้ก็ดูว่างๆอยู่นะ
“ไม่ต้องเข้าไปดูหรอก ในนั้นไม่ค่อยมีอะไร อารยธรรมที่สร้างสิ่งเหล่านี้คงจะไม่ได้เตรียมการอะไรพวกนี้ไว้เยอะ พวกมันล่มสลายไปหมดแล้ว”
เขาเดินเข้าไปดูในคลังแสง อู๋ฮ่าวเหรินเหลือบไปมองตามมุมต่างๆ มันเหมือนกับที่คุณหมอพูดเลย
หากยึดตามข้อมูลของโบราณสถานแห่งนี้จากการสำรวจในโลกอนาคตแล้ว มันมีวัสดุต่างๆมากๆมายเก็บซ่อนไว้ในห้องเล็กๆนี้
“โชคร้าย ฉันไม่รู้ว่ายานพาหนะคันนี้ใช้ยังไง เพราะงั้นนายลองไปดูแล้วก็ศึกษามัน”
อู๋ฮ่าวเหรินนำยานพาหนะขนวัสดุจากในคลังแสงและส่งขึ้นไปในกลุ่มซองแดงเรื่อยๆ
หลังจากที่ขนวัสดุออกไปจนหมดแล้ว
ในตอนนี้ วัสดุในคลังแสงล้วนไม่มีอะไรเหลือทั้งสิ้น นั่นเพราะอู๋ฮ๋าวเหรินได้เอามันไปจนหมด
เขาไม่ได้หยุดที่จะเข้าไปข้างในต่อ
ถึงแม้ว่าข้อมูลที่อยู่ในโลกอนาคตจะบอกให้รู้แล้วว่าข้อมูลวัสดุในคลังแสงมีอะไรบ้าง แต่ด้วยพลังงานที่ยังไม่หมด มันน่าจะมีอย่างที่เขาน่าจะยังไม่พบเจอหรือบางสิ่งที่อาจจะยังอยู่ในสภาพที่ต่างออกไปจากอนาคต
0 ความคิดเห็น