CF:บทที่ 585 ความกลัดกลุ้มของมิสต์
ณ ห้องประชุมในยานแม่, เมื่อทุกคนออกมาแล้ว มิสต์ก็ได้นั่งลงบนเก้าอี้โลหะขนาดใหญ่และมองดูแผนที่ที่ตรวจพบแถบกลุ่มดาวเคราะห์น้อยที่อยู่ตรงหน้าเขา
"ข้าไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะแพ้ยับถึงขนาดนี้, มันน่าแปลกมากต่อให้เป็นพวกเขาก็ไม่น่าที่จะแพ้ยับได้ถึงขนาดนี้สิ, เฮ้อ, ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะจบศึกนี้ได้ง่ายๆเสียแล้ว"
สถานการณ์ในแถบกลุ่มดาวเคราะห์น้อยนั้นยุ่งยากมากจริงๆ, ถ้าเป็นแถมกลุ่มดาวเคราะห์น้อยทั่วไป, มิสต์นั้นคงจะสามารถที่จะจมคนเหล่านี้ได้ในเวลาอันสั้น
แต่ตอนนี้หลังจากที่ได้เห็นสถานการณ์ของแถบกลุ่มดาวเคราะห์น้อยแล้ว, เขารู้ได้เลยว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะจัดการคนพวกนั้นได้
"ไปตามราตูมาหาข้าที"
ไม่นานนักก็มีชายร่างสูง ซึ่งน่าจะสูงถึง 2 เมตรครึ่ง, สวมชุดเกราะโลหะและมีหนวดใหญ่ๆสีแดงอยู่บนหัวเหมือนกับไฟ, ชายผู้ที่มีทับทิมฝังอยู่ที่หน้าผากของเขาได้เดินเข้าห้องประชุมมา
ชายคนนี้ไม่มีแขน และร่างกายของเขาก็ลอยอยู่ในกลางอากาศ, ดูแล้วแปลกตาพิกล
"ผู้การมีอะไรให้ผมรับใช้งั้นเหรอครับ?"
มิสต์ชี้ไปที่แถบกลุ่มดาวเคราะห์น้อยในแผนที่ที่อยู่ตรงหน้าเขาแล้วพูดขึ้น "อย่างที่เห็น, ในตอนนี้พวกเราเจอปัญหาหนักทีเดียวล่ะ, ส่งหน่วยพิเศษของคุณออกไปตรวจสอบสถานการณ์ที่นี่ให้หน่อยได้มั๊ย?"
เมื่อราตูได้ยินที่ผู้การมิสต์พูด, เขาไม่ได้ตอบอะไรไร้สาระกลับมา, และจ้องมองดูแถบกลุ่มดาวเคราะห์น้อยในแผนที่ทันที
แต่ทว่า, เมื่อคนๆนี้เห็นได้สภาพของแถบดาวเคราะห์น้อยนี้แล้ว, สีหน้าของเขาก็ได้เปลี่ยนไปทันที แล้วเขาก็ได้เข้าอยู่ในสภาวะคิดหนัก
หลังจากที่ผ่านไปได้ 10 นาที, ทับทิมแปลกๆที่หน้าผากของราตูก็ได้ส่องแสงขึ้นมา, แล้วดูเหมือนว่าเขาจะล้มลงไป
ดูเหมือนผู้การมิสต์นั้นจะไม่ได้ตกใจกับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเขา
"ราตู, เจ้าว่าอย่างไรบ้าง?"
"ไม่ไหวครับ, นี่มันแย่เอามากๆ, ต่อให้ส่งคนจากหน่วยพิเศษของพวกเราเข้าไปก็ไม่สามารถที่จะตรวจสอบสถานการณ์ด้านในได้อยู่ดี, ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้สึกได้ว่าถ้าพวกเราส่งคนเข้าไปในนั้น, พวกเราจะต้องได้รับความเสียหายกลับมาแน่ครับ"
เมื่อได้ยินที่ราตูกล่าวมิสต์ก็ถึงกับตกใจ, เขาไม่คิดว่าแม้แต่หน่วยพิเศษของราตูเองก็ยังได้มีโอกาสได้รับบาดเจ็บถ้าหากเข้าไปในแถบกลุ่มดาวเคราะห์น้อยนี้
"มันเป็นไปได้อย่างไร? ถึงแม้มันจะอันตรายมากก็จริง, แต่ก็ไม่น่าจะถึงขนาดที่พวกคุณจะได้รับบาดเจ็บสิ"
ราตูทำการขยายแผนที่ดวงดาวที่อยู่ตรงหน้าเขาขึ้นมา, และชี้ให้ดูจุดๆหนึ่งแล้วพูดขึ้นมา "มีอันตรายอยู่ตรงบริเวณนี้, ผมรู้สึกได้อย่างชัดเจนตรงนี้, เป็นไปได้ว่าพวกเข้าอาจจะวางอาวุธที่ทรงพลังไว้ที่บริเวณนี้, และถ้าอาวุธเหล่านั้นถูกปล่อยออกมา โดยที่พวกเราเองไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้เลย, นอกจากนี้ผมยังรู้สึกได้อันตรายอีกหลายจุดเลยทีเดียว"
มิสต์นั้นเชื่อในคำพูดของราตูมาก, เพราะเขารู้ดีถึงความสามารถของราตู, เขานั้นเป็นคนของอารยธรรมเทียนจื่อ, ซึ่งยังไม่ได้เข้าร่วมกับสหพันธรัฐจักรวาล, เพราะพวกเขานั้นเป็นเพียงเผ่าพันธุ์เล็กๆ
อย่างไรก็ตาม, ผู้คนของเผ่านี้ก็ได้มาปรากฏตัวอยู่ในสหพันธรัฐจักรวาล, ในฐานะแขกของอารยธรรมต่างๆ
เพราะชาวเทียนจื่อนั้นมีความสามารถในการพยากรณ์, ซึ่งเป็นความสามารถที่ทรงพลังสำหรับอารยธรรมต่างๆ
ยิ่งไปกว่านั้นชาวเทียนจื่อเองก็ยังเป็นนักสู้ที่สุดยอด, พลังจิตที่แข็งแกร่งของพวกเขาสามารถควมคุมอาวุธมากมายได้, และความสามารถในการเรียนรู้นั้นก็เทียบไม่ได้เลยกับอารยธรรมอื่นๆ
ที่ราตูได้มาช่วยเขานั้นเพราะว่าเขาเคยช่วยบุคคลสำคัญของชาวเทียนจื่อเอาไว้
ไม่อย่างนั้น, ต่อให้เขาเป็นถึงผู้บัญชาการของกองยานที่ 3 ของสหพันธรัฐจักรวาลก็จริง, แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะให้ชาวเทียนจื่อมารับใช้เขา
"ดูเหมือนว่าภารกิจในคราวนี้จะยุ่งยากจริงๆซะแล้ว, ข้าไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นได้ทั้งๆที่ข้าต้องการที่จะให้มันจบโดยไวแท้ๆ"
มิสต์นั้นรู้ดีว่าถ้าปัญหาที่นี่เขาไม่สามารถที่จะจบได้โดยไวล่ะก็, มันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับสหพันธรัฐแน่
ถ้าคนพวกนั้นสามารถยึดครองเขตดาวโกลาหลได้ล่ะก็, ปัญหาที่จะตามมาจะต้องยุ่งยากมากขึ้นแน่ๆ
"ผู้การครับ, ทำไมพวกเราไม่ต้อนให้พวกเขาออกมาแล้วจัดการล้อมพวกเขาในคราวเดียวเลยล่ะครับ?" ราตูพูดกล่าวขึ้นมา
"อืม, พวกเขาจะไม่สามารถหนีออกจากทางอื่นของแถบกลุ่มดาวเคราะห์น้อยนี้ได้เลยงั้นเหรอ?"
"ไม่ครับ"
ราตูตอบกลับทันทีโดยไม่ลังเล
"คุณพยากรณ์แล้วอย่างงั้นเหรอ?"
ราตูมองดูผู้การมิสต์ที่มีสีหน้าสงสัยจึงพูดขึ้นมา "ไม่จำเป็นต้องพยากรณ์ครับ, ดูตรงนี้และตรงนี้, ถึงแม้คนพวกนั้นจะซ่อนอยู่ด้านในก็จริง ก็ไม่กล้าที่จะแหกออกมาจากอีกทางหรอกครับ"
มิสต์แข็งทื่อไปชั่วขณะ, จากนั้นเขาก็มองดูตรงจุดที่ราตูชี้
แล้วปัญหาที่แท้จริงของแถบกลุ่มดาวเคราะห์น้อยนี้ก็ถูกพบ
"ดาวเคราะห์ที่หมดอายุไปแล้ว กับดาวฤกษ์ที่ดับลงไปแล้ว!"
"ใช่แล้วครับ, แถบกลุ่มดาวเคราะห์น้อยนี้ไม่ได้ก่อตัวขึ้นเองโดยธรรมชาติ, แต่เป็นเพราะตัวตนของดาวดวงพวกนี้ทำให้ก่อเกิดเป็นแถบกลุ่มดาวเคราะห์น้อยขึ้นมาครับ, จากมุมมองนี้คนพวกนั้นก็น่าจะซ่อนตัวอยู่ได้อยู่แค่บริเวณส่วนเล็กๆของแถบกลุ่มดาวเคราะห์น้อยเท่านั้นครับ"
"และพวกเขาก็คงไม่กล้าที่จะซ่อนตัวอยู่ในนั้นนานๆด้วยครับ, เพราะแถบกลุ่มดาวเคราะห์น้อยนี้สามารถที่จะระเบิดตัวเองได้ทุกเมื่อครับ" ราตูกล่าวต่อ, และชี้ให้ดูที่จุดบนสุดของแผนที่
มิสต์นั้นไม่ใช่คนโง่, เขานั้นเป็นถึงผู้บัญชาการของกองยานที่ 3, เขาเองก็ได้ทำการศึกษาเรื่องของดาวมาเป็นอย่างดี
เมื่อเห็นที่ราตูชี้เขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร, ที่เขาต้องมานั่งกลัดกลุ้มเป็นเพราะเขานั้นมองไม่เห็นปัญหาง่ายๆเช่นนี้, ดูเหมือนว่าจะเป็นเขาได้รับอิทธิพลมาจากคนพวกนั้น
เขาไม่ได้ทำการศึกษาแผนที่ให้รอบคอบเพราะว่าเขาได้ยินสถานการณ์ต่างๆมาจากผู้บัญชาการกองยานที่ 2, ในเวลานี้หลังจากที่ได้ราตูพูดเตือน, เขาก็พบปัญหามากมายจากในแถบกลุ่มดาวเคราะห์น้อยนี้
ตัวตนของแถบกลุ่มดาวเคราะห์น้อยนี้เป็นผลมาจากดาวเคราะห์ที่ตายไปแล้ว, ถ้าเกิดบุกฝ่าเข้าไปแบบมั่วๆ, ก็อาจที่จะทำให้ตายได้เลยก็ได้
ส่วนดาวฤกษ์ที่ดับไปแล้วนั้นเป็นอะไรที่น่ากลัวกว่าดาวที่ตายไปแล้วเสียอีก, ถ้าเกิดทำลายดาวพวกนี้ไปก็เหมือนกับเปิดประตูนรก
ยิ่งไปกว่านั้นนอกจาก 2 จุดที่น่ากลัวตรงนี้แล้ว, ยังมีกลุ่มดาวแปลกๆพวกนี้อีกด้วย, เพียงแค่มองผ่านๆก็รู้ได้เลยว่าเป็นเขตที่อันตรายมาก
ไม่แปลกเลยว่า, ที่สถานที่เช่นนี้จะก่อตัวกันเป็นแถบกลุ่มดาวเคราะห์ ซึ่งแน่นอนเลยว่ามันก่อตัวขึ้นมาเพราะพลังบางอย่าง
"ถ้าเป็นเช่นนี้, พวกเราก็จะยึดตรงนี้เป็นที่มั่นและสร้างป้อมปราการขึ้นที่นี่, ถ้าพวกเขาอยู่ในนั้นได้ตลอดไปก็ให้พวกเขาอยู่ไป, ต่อพวกเขารอดออกมาได้ก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะถูกปล่อยให้รอดไปได้อยู่ดี"
ในเวลานี้ปัญหานี้ง่ายกว่าที่คิดเสียแล้ว, เพียงแค่รออยู่ข้างนอกและรอให้คนพวกนั้นออกมาจากทางเข้าด้วยตัวเองเท่านั้น
แถบกลุ่มดาวเคราะห์น้อยเช่นนี้, ไม่มีดวงดาวที่พวกเขาจะสามารถอาศัยอยู่รอดได้เลย, ต่อให้มีเทคโนโลยีแปลงสภาพดาว แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างหรือพัฒนาดาวได้ในแถบกลุ่มดาวเคราะห์น้อยเช่นนี้ได้เลย
ยิ่งไปกว่านั้นแถบกลุ่มดาวเคราะห์น้อยนี้ก็เป็นอะไรที่พิเศษมากด้วยที่ว่า ถ้ายิ่งอยู่ในนั้นนานเท่าไรก็ยิ่งอันตรายมากขึ้น
เขาไม่รู้หรอกว่าพวกคนในอารยธรรมชั่วร้ายนั้นทำไมถึงคิดได้เข้าไปในแถบกลุ่มดาวเคราะห์น้อยนี้, พวกเขากล้าที่จะเข้าไปซ่อนตัวในแถบกลุ่มดาวเคราะน้อยเช่นนี้ พวกเขาไม่คิดบ้างเหรอว่ามันเป็นการไปรนหาที่ตายชัดๆ
แน่นอนว่าเขารู้สึกหงุดหงิดกับความโง่ของผู้บัญชาการกองยานที่ 2 มาก, แต่ทว่าเขาเองก็โล่งอกที่ว่ากองยานที่ 2 ที่มานั้นเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น, เขาได้ยินมาว่าผู้บัญชาการกองยานที่ 2 นั้น มาที่นี่โดยพลการ
ซึ่งเขาไม่คิดว่าเซาโตรคนนั้นจะโง่ได้ถึงขนาดนั้น, ถึงจะไม่ได้หมายความว่าตัวเขานั้นโง่กว่าเซาโตรก็เถอะ
แต่หากมิสต์ต้องเผชิญหน้ากับเซาโตรแล้ว, ถึงแม้คนๆนั้นจะไม่แข็งแกร่งเท่าไร, แต่เขานั้นมีประสบการณ์ที่มากกว่า, เขาเคยสู้ด้วยถึง 3 ครั้งแต่เขาก็แพ้รวดเช่นกัน
หลังจากที่คนพวกนี้กลับไปรวมกับกองยานที่ 2 แล้ว, เขาเชื่อว่าเซาโตรคนนั้นคงจะไม่ยอมปล่อยให้คนพวกนี้ทำอะไรพลการอีกแน่
แต่ทว่ามิสต์นั้นก็ยังรู้สึกหดหู่เล็กน้อย, ถึงแม้เขาจะบอกว่าเขาจะหาทางที่จะจัดการกับคนพวกนี้โดยไว, แต่ทว่าเขานั้นไม่สามารถที่จะจัดการกับคนพวกนี้ได้ทันที, เขาคงถูกคนพวกนั้นหัวเราะเยาะใส่แน่ตอนที่เขากลับไปแล้ว
"ราตู, ดำเนินการตามแผนของคุณ, ไม่ต้องกังวลอะไร ตราบเท่าที่คุณไม่ต้องเสียสละกำลังพลของคุณไป, ต่อให้พวกเขาหัวเราะเยาะพวกเราก็ช่างมัน, คุณไม่กลายเป็นเศษเนื้อก็พอแล้ว"
ในตอนที่เขาจะมานั้น, เขาได้พูดเอาไว้ว่าเมื่อใดที่กองยานที่ 3 มาถึง พวกเขาจะจัดการกับคนพวกนั้นโดยเร็วที่สุด
แต่ในเวลานี้ดูเหมือนว่าเขาจะต้องใช้เวลานานในการรบเพื่อกำจัดคนพวกนี้เสียแล้ว
0 ความคิดเห็น