CF:บทที่ 539 ไม่ยอมรับจนตาย

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 539 ไม่ยอมรับจนตาย

 

"บ้าเอ๊ย, บ้าเอ๊ย, หยุดสิวะ, หยุด!!"

 

มองดูเครื่องบินที่โดนยิงที่ขึ้นอยู่ที่หน้าจอ, เฮ่ยหลางก็รู้สึกเหมือนเป็นบ้าขึ้นมาในตอนนี้

 

ด้านนอกเมือง, ฝูงเครื่องบินที่เหลือในตอนนี้ เริ่มรู้ตัวแล้วว่าถูกหลอก

 

ในเวลานี้หลังจากที่ได้เผชิญกับอาวุธที่ทรงอาณุภาพ, พวกเขาก็เลิกที่จะฝืนไปต่อและรีบออกจากเกมโดยทันที

 

ไม่นานนัก, คนกลุ่มนี้ก็ได้มารวมตัวกันที่ห้องโถงชั้นสองของคาสิโนแห่งหนึ่ง, หัวหน้าของเฮ่ยหลางนั้นไปชายหัวโล้นที่มีใบหน้าที่อำมหิต, ซึ่งในเวลานี้กำลังอารมณ์ไม่ดี

 

"เฮ่ยหลางออกมารึยัง?"

 

ลูกน้องที่กำลังมองมาที่สายตาที่น่ากลัวของลูกพี่แล้วก็กระซิบกระซาบ "ยังครับ, ลูกพี่"

 

"ไปตามเสี่ยวหลี่และเสี่ยวเม่ยมา, หลังจากที่เฮ่ยหลางออกมาแล้ว, ให้มันมาหาข้าที่ข้างบน"

 

ลูกพี่ที่ดูไม่ได้โกรธอะไร, ทำให้คนในกลุ่มรู้สึกงงๆเล็กน้อย, เพราะความตายของพวกเขานั้นหมายถึงการเริ่มต้นใหม่จากศูนย์

 

ไม่ว่าจะซ่อนทรัพยากรเอาไว้ก่อนก็ตาม, พวกมันก็ถูกเก็บกวาดหายไปหมดโดยผู้ดูแลเกมทันทีหลังจากที่ตาย, ดังนั้นหากตายแล้วจะไม่มีอะไรเหลือเอาไว้เลยเว้นไว้แต่เพียงความรู้ที่อยู่ในหัวเท่านั้น

 

ที่เฮ่ยฉงนั้นไม่ได้โกรธจัดนั้นเป็นเพราะเขาคิดว่าเมืองนั้นแข็งแกร่งมากจริงๆ, ซึ่งนั่นจะเป็นการดีกว่าสำหรับเขาที่จะคิดแบบนั้น

 

ในความคิดของเขา, เมืองนั้นเกือบจะอยู่ในกำมือของเขาแล้ว, ถึงแม้ว่าจะมีอุบัติเหตุทำให้พวกเขาเกือบถูกฆ่าหมดก็ตาม, แต่เขาก็ยังมั่นใจว่าเขาน่าจะยึดเมืองนั้นได้อยู่ดี

 

มองดูผู้หญิงสองคนที่แต่งหน้าจัดที่กำลังเข้ามาหา, เฮ่ยฉงก็ดึงพวกเธอเข้ามาหา เพราะเขาต้องการที่ปลดปล่อยอารมณ์ไม่ดีนี้ออกไป

 

"อุ๊บ, หัวหน้าคะ เบาๆหน่อยสิคะ หนูเจ็บนะคะ...."

 

กลุ่มลูกน้องที่ทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วก็หันหลังกลับเข้าไปเล่นเกมและสร้างตัวละครใหม่ขึ้นมา

 

กลับมาในเกม, อู๋ฮ่าวเหรินกับคนอื่นๆ กำลังยืนอยู่ที่ประตูฐานอาวุธ

 

"พี่ชาย, คุณมั่นใจนะว่าเฮ่ยหลางทำแบบนั้นจริงๆน่ะ? ถ้าเขาไม่ได้ทำขึ้นมา ขายหน้าแย่เลยนะครับ"

 

"ผมมั่นใจน่า ตามผมเข้ามาสิ, ผมว่าน่าจะได้เวลาแล้วล่ะ"

 

ประตูโลหะขนาดใหญ่เปิดออกมาอย่างช้าๆ ทำให้เฮ่ยหลางที่อยู่ข้างในตกใจ, เขานั้นกำลังรุนแรงกับอุปกรณ์ควบคุมอยู่, และหลังจากที่ประตูก็เปิดออกมา เขาก็รีบสงบสติอารมณ์ทันที

 

บ้าเอ๊ย, ถูกเห็นแล้วงั้นเหรอ, ไม่สิ น่าจะเป็นเสียงระเบิดที่ดังขึ้นข้างนอกที่ทำให้พวกเขารีบมาที่นี่มากกว่า, เขายังไม่โดนเปิดเผยตัวแน่, คงต้องหาทางอื่นในการยึดเมืองนี้ซะแล้ว

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้, เขาก็รีบลงมือทันที และปรับปุ่มต่างๆให้กลับอยู่ในสภาพเดิม แล้วแกล้งทำเป็นตกใจและเดินไปที่ประตู

 

ก่อนที่พวกเขาจะเดินเข้ามา, ก็ทำเป็นตะโกนเสียงดัง "พวกคุณมาแล้วเหรอ, เข้ามาดูเร็วเข้า, ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรอกนะ, แต่มีกลุ่มคนที่พยายามจะบุกมาที่เมืองนี้, แต่เมื่อกี๊นี้คนพวกนั้นโดนอาวุป้องกันของเมืองนี้ทำลายจนเหี้ยนเลย"

 

เฮ่ยหลางทำท่าตื่นเต้นมาก, เขามองมาที่หุ่นยนต์ของอู๋ฮ่าวเหรินด้วยสายตาที่นับถือแล้วพูดขึ้นต่อ "พี่ชาย, อาวุธป้องกันเมืองของคุณทรงพลังมากเลยนะ, พวกคุณคงไม่รู้หรอกว่าการต่อสู้เมื่อกี้สุดยอดแค่ไหน, คนพวกนั้นไม่สามารถตอบโต้ได้เลยพวกเขาโดนสอยกลางอากาศหมดเลย"

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองดูการเล่นละครตบตาของคนๆนี้, สามารถเปลี่ยนได้อย่างพลิกโผมาก, แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่ได้เลย

 

ไม่มีใครที่พูดอะไรออกมา, พวกเขาจ้องมองมาที่เฮ่ยหลางและอู๋ฮ่าวเหริน เพื่อรอดูอู๋ฮ่าวเหรินแสดงหลักฐานออกมา

 

ในเวลานี้, เฮ่ยหลางดูไม่เหมือนคนที่มีความผิดเลยแม้แต่น้อย, ซึ่งทำให้ทุกคนงุนงง และคิดว่าอาจจะเป็นการเข้าใจผิดกันก็ได้

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองดูเฮ่ยหลางแล้วพูดขึ้นว่า "ใช่, การต่อสู้มันสุดยอดจริงๆ, ตอนที่พวกเราได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น, แต่ที่สุดยอดกว่าก็คือการเล่นละครของพี่เฮ่ยหลางนี่แหละ, น่าเสียดายนะที่ไม่ได้เป็นนักแสดง"

 

"เดี๋ยวสิพี่ชาย, คุณกำลังพูดอะไรอยู่? อะไรคือการแสดง, อะไรคือนักแสดง?"

 

เฮ่ยหลางไม่คาดคิดว่าช่วงชี่จะพูดแบบนั้นขึ้นมา, หรือว่าคนๆนี้อาจจะสงสัยในตัวตนของเขาตั้งแต่แรกแล้วก็ได้

 

หลังจากที่คิดอยู่สักพัก, เป็นไปไม่ได้! หรือว่าฐานอาวุธนี่จะเป็นกับดัก?

 

มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะพาคนที่เพิ่งจะเคยมาที่เมืองของตัวเองเป็นครั้งแรกแล้วจะเปิดไพ่ในมือของตัวเองให้คนอื่นเห็นหมดแบบนี้

 

เขารู้สึกผิดอยู่ในใจ ที่พลาดท่าให้กับการแสดงของช่วงชี่, และคิดว่าคนๆนี้เจ้าเล่ห์จริงๆ, แต่เขาก็รู้ดีว่าตัวตนของเขายังไม่ได้ถูกเปิดโปงซะทีเดียว, เขายังมีโอกาสอยู่

 

เพราะเขานั้นต้องการที่จะเก็บคนอื่นเอาไว้ใช้, และช่วงชี่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ถ้าไม่มีหลักฐาน

 

ตราบเท่าที่เขายังไม่ยอมรับ, เขาก็จะไม่ถูกขับไล่ออกจากเมือง และเขาก็จะยังมีโอกาสที่เข้ายึดเมืองนี้ได้อีก

 

ในเวลานี้, ป้าเทียนก็พูดขึ้นมา "พี่เฮ่ยหลาง, คุณมาทำอะไรในฐานอาวุธรึ?"

 

"ตอนแรกผมก็อยู่ข้างนอก, ไม่ไกลจากที่นี่ แล้วพอผมได้ยินเสียงระเบิด ผมก็อยากที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงรีบเข้ามาที่นี่, ผมไม่คิดว่าพวกคุณจะมาที่นี่หลังจากที่ผ่านไปซักพัก

 

ป้าเทียนมองมาที่ช่วงชี่, และหวังว่าเขาจะสามารถหาหลักฐานมายืนยันความผิดของเฮ่ยหลางได้

 

"พี่เฮ่ยหลาง, คุณมั่นใจนะครับว่าคุณเพิ่งเข้ามาที่นี่ไม่กี่นาทีก่อน และไม่ได้ยุ่งอะไรกับอุปกรณ์ข้างใน?"

 

เมื่อเฮ่ยหลางได้ยินเข้า, เขาก็ตกใจ แต่ก็คิดว่าช่วงชี่ไม่น่าที่จะมีหลักฐานที่จะมายืนยันว่าเขาทำได้

 

เขานั้นมีอุปกรณ์ก่อกวนสัญญาณอยู่ในตัวของเขา, กล้องจึงไม่สามารถที่จะจับภาพเขาได้, มันก็จะเป็นความผิดพลาดของอุปกรณ์, ตราบเท่าที่เขาไม่ยอมรับเสียอย่าง, ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

 

"ใช่ครับ ผมเพิ่งเข้ามาได้ไม่กี่นาทีก่อน, พี่ช่วงชี่หมายความว่าอย่างไรครับ? ผมยอมรับการชวนของกงจู้โชวให้มาร่วมมือกับคุณ, แต่คุณกลับมาสงสัยผมว่าผมมีแรงจูงใจแอบแฝงแบบนี้, ถ้าเป็นอย่างนี้ ผมขอออกจากกลุ่มดีกว่า"

 

ในเวลานี้, กงจู้โชวรู้ดีว่าเธอจะต้องรีบพูดอะไรออกมาบ้างแล้ว, ไม่อย่างนั้นคนในกลุ่มได้แตกคอกันแน่, ถ้าหากเป็นเช่นนั้น การที่จะทำงานนี้ให้เสร็จได้ก็จะยากขึ้นไปอีก

 

"พี่เฮ่ยหลางใจเย็นก่อนนะครับ, ผมว่าจะต้องมีอะไรเข้าใจผิดกันแน่ๆเลยครับ, พี่ช่วงชี่ครับ พี่เป็นคนตามพวกเราให้มาที่นี่, ถ้าพี่มีหลักฐานอะไร ก็ได้โปรดเอาออกมาเลยครับ, ถ้าไม่มีล่ะก็ผมขอให้พี่ต้องขอโทษพี่เฮ่ยหลางแล้วล่ะ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินเองก็รู้อยู่แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้, เฮ่ยหลางไม่ยอมรับง่ายๆแน่, และแน่นอนว่าเขาก็รู้ดีว่าคนๆนี้คงไม่ยอมที่จะออกจากเมืองง่ายๆเช่นกัน

 

"หลักฐานเหรอ? ถ้าอย่างงั้น, เรามาดูการต่อสู้เมื่อซักครู่กัน, ผมจะแสดงหลักฐานให้พวกคุณดูหลังจากที่ได้ดูอันนี้แล้ว, เฮ่ยหลาง คุณจะไม่ยอมรับผิดและออกไปแต่โดยดีใช่ไหม?"

 

"หืม, ก็เอาสิ ผมจะรอดูคุณแสดงหลักฐานออกมา, ชื่อเสียงของผมในชื่อเฮ่ยหลางนั้นไม่ใช่อะไรที่คุณจะทำให้เสียชื่อเสียงได้ง่ายๆหรอก"

 

"ไม่ต้องกังวลไปหรอก, ถ้าผมให้ร้ายคุณจริง, ผมจะยอมยกเมืองนี้ให้คุณเลยก็ได้"

 

อู๋ฮ่าวเหรินทำเป็นไม่สนใจเขา และกดไปที่จอแสง, ไม่นานนักภาพการต่อสู้เมื่อซักครู่ก็ขึ้นบนจอแสง

 

เมื่อผู้คนได้เห็นการกระทำของกลุ่มที่มาโจมตีแล้ว, แม้แต่คนโง่ก็ยังดูออกว่ากลุ่มผู้โจมตีนั้นมีอะไรผิดปกติ

 

จ้านโต๋วเป่าเล๋ยก็กระซิบกระซาบ "อืม, ถ้าคนพวกนี้ต้องการที่จะโจมตีเมืองนี้จริง, พวกเขาก็ไม่น่าที่จะมาแบบเปิดเผยเช่นนี้, ดูไม่เหมือนจะมาโจมตีเลย เหมือนกำลังกลับบ้านมากกว่า"

 

"มีอะไรผิดปกติจริงๆด้วย, ดูสิคนพวกนี้ไม่ได้ตอบสนองในตอนที่คนพวกนี้โดนโจมตีเลย, แบบนี้มันไม่เหมือนมาโจมตีคนอื่นแล้ว เหมือนมาตายมากกว่า"

 

ในเวลานี้, เฮ่ยหลางก็พูดขึ้นมาว่า "บางทีคนพวกนี้อาจจะบังเอิญผ่านมาก็ได้, พอพวกเขาเห็นเมืองก็เลยอยากที่จะเข้ามาดูชมก็ได้, แล้วผลก็คือโดนโจมตีก่อนที่จะได้ไหวตัวทัน"

 

"ก็เป็นไปได้นะ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินก็พูดขึ้นมาบ้าง "การโจมตีแบบนั้นน่ะเป็นไปไม่ได้หรอก, เพราะจะมีการแจ้งเตือนล่วงหน้า, ถ้ามีใครเข้ามาใกล้ระยะอาวุธ พวกเขาก็จะได้รับการแจ้งเตือน, และถ้าหากเป็นคนที่ผ่านไปมา,ก็จะติดต่อไปยังเมืองหลังจากที่ได้รับที่รับการเตือนแล้ว"

 

"ทำไม, พี่เฮ่ยหลางไม่ลองคิดดูบ้างว่าอาจจะเป็นผมที่หลอกให้พวกเขามาโดนฆ่าบ้างก็ได้"

 

"ใครสนกัน, ผมนะสงสัยคุณมาแต่แรกแล้ว, คนๆเดียวจะสร้างเมืองที่ยิ่งไปใหญ่ออกมาแบบนี้ได้อย่างไร"

 

คนๆนี้ไหลได้ไปเรื่อย, อู๋ฮ่าวเหรินคิด ถ้าไม่มีหลักฐาน เรื่องในวันนี้คงได้วุ่นวายมากแน่ๆ

 

-----------------------------



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น