CF:บทที่ 537 เริ่มต้น

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 537 เริ่มต้น

 

ในอีกเมืองหนึ่ง, กงจู้โชวที่เตรียมที่จะออกจากเกม, แล้วก็มองดูห้องเกม ก่อนที่จะหันหลังกลับแล้วเดินออกจากห้องไป

 

ถ้าอู๋ฮ่าวเหรินอยู่ที่นี่, เขาคงจะตกใจ, ตัวตนของชายชื่อกงจู้โชวในโลกแห่งเกม, แต่โลกความจริงเธอคือสาวน้อย, ยิ่งไปกว่านั้น, เธอนั้นดูราวกับหญิงสาวในยุคโบราณ แต่กระท่อมที่เธออาศัยอยู่นั้นกลับไม่ได้เข้ากับความงามของเธอเลย

 

ทันทีที่ถงเซี่ยงหยูเดินออกมาจากห้อง, เธอก็ได้ยินเสียงนุ่มนวลเรียกหาเธอ "เซี่ยงหยู, ทำไมวันนี้เธอถึงออกมาเร็วนักล่ะลูก"

 

มีหญิงสาวงามคนหนึ่งที่นอนอยู่บนเตียง, สวมชุดนอนอยู่ เธอนั้นหน้าตาดูเหมือนถงเซี่ยงหยูที่เป็นสาวงามเช่นกันราวกับคู่ดอกไม้พี่น้อง

 

แต่สาวงามคนนี้กลับป่วยเป็นโรค, ทำได้แค่หันหน้าไปมองถงเซี่ยงหยู ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักเท่านั้น

 

"แม่คะ, วันนี้หนูเสร็จงานของวันนี้แล้ว, หนูจึงออกมาก่อนเวลาน่ะค่ะ"

 

"เซี่ยงหยู, อย่าฝืนตัวเองให้มากนัก, แม่นั้นป่วยคง...."

 

ถงเซี่ยงหยูรีบพูดขัดก่อนที่แม่ของเธอจะพูดคำต่อมา "แม่คะ, แม่ไม่ต้องกังวล, หนูได้ยินมาว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นจะสามารถรักษาคุณแม่ได้ค่ะ"

 

"จะรักษาได้จริงๆเหรอ?"

 

มันไม่ใช่ว่ามู่เซวี่ยนั้นไม่อยากจะเชื่อ, แต่โรคของเธอนั้นถูกวินิจฉัยแล้วว่าอยู่ในขั้นร้ายแรงแล้วโดยโรงพยาบาลใหญ่ๆ, และทรัพย์สมบัติของตระกูลเธอนั้นก็ถูกใช้ไปกับการรักษา, ไม่อย่างนั้นแล้ว ด้วยพื้นเพตระกูลนักวิชาการของเธอ เธอไม่น่าที่จะมาอาศัยอยู่ในกระท่อมพังๆเช่นนี้กับลูกสาว

 

"แน่นอนว่ามันจริงสิคะ, เห็นไหมเครื่องไฟฟ้าชีวภาพบำบัดที่อยู่ที่ข้อมือของคุณแม่ก็ผลิตขึ้นมาโดยฟิวเจอร์กรุ๊ป, ดังนั้นฟิวเจอร์กรุ๊ปจะต้องสามารถรักษาโรคของคุณแม่ได้แน่นอนค่ะ"

 

ถึงถงเซี่ยงหยูจะพูดไปแบบนั้น, แต่จริงๆแล้วเธอเองก็ยังไม่รู้แน่ชัดเช่นกันว่า ท้ายที่สุดแล้วฟิวเจอร์กรุ๊ปจะสามารถรักษาโรคของแม่เธอได้หรือไม่, แต่เธอก็ได้ถามไถ่ใครต่อใครแล้ว โดยเฉพาะคนที่เป็นพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

ไม่ว่าใครต่างก็บอกว่าเทคโนโลยีด้านการแพทย์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นเป็นที่สุดในโลกแล้ว, และโรคมากมายที่รักษาไม่ได้ก็สามารถรักษาได้หมด, เพียงแต่การจะรักษาโรคเหล่านี้ได้อาจจะยุ่งยากเสียหน่อย, นั่นคืออุปกรณ์การแพทย์จำนวนมากมายของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นมีเอาไว้ให้พนักงานใช้เท่านั้น

 

ถ้าเธอต้องการที่จะรักษาอาการป่วยของแม่, เธอจะต้องแสดงให้เห็นว่าเธอมีค่าเพียงพอที่จะให้ฟิวเจอร์กรุ๊ปยอมรักษาแม่ของเธอได้

 

ดังนั้น, ในครั้งก่อนที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปได้มาชวนเธอ, เธอได้ตอบปฏิเสธการชวนไป, เพราะเธอรู้ดีว่าการเชิญในครั้งนั้น ถึงแม้เธอจะได้เข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปก็ตาม แต่ก็คงจะได้เป็นแค่พนักงานธรรมดาๆ

 

แต่ทว่าในครั้งได้ต่างออกไป, งานที่โผล่มาอย่างด่วนจี๋เช่นนี้ เธอรู้ดีว่างานนี้จะต้องเป็นงานที่สำคัญสำหรับฟิวเจอร์กรุ๊ปมากแน่

 

ในครั้งก่อน, ตอนงานผลิตชิ้นส่วนไลน์การผลิตยานแม่ของอู๋ฮ่าวเหรินนั้น, เธอเพิ่งจะได้เข้าเล่นเกมจึงไม่มีโอกาสได้เข้าร่วม

 

แต่ในครั้งนี้เป็นคราวของเธอบ้างแล้ว, ดังนั้นในวันนี้ตอนที่อู๋ฮ่าวเหรินได้ชวนเธอ เธอจึงได้ตอบตกลงที่จะเข้าร่วม

 

แต่เธอเองก็ไม่คาดคิดว่าเมืองของอู๋ฮ่าวเหรินนั้นจะทำให้เธอตกใจได้มากขนาดนี้, เพราะเขาสร้างออกมาเหมือนกับที่เธอเคยคิดเอาไว้, แต่เธอไม่คิดว่ามันจะเป็นจริงขึ้นมาได้

 

เมื่อเข้าเล่นเกมในวันต่อมา, กลุ่มคนก็ได้กลับเข้ามาในเกมอีกครั้ง และกำลังรอการมาของอู๋ฮ่าวเหรินอยู่

 

ในเวลานี้, เฮ่ยหลางที่กำลังสำรวจดูรอบๆตัวเขาอยู่, ถึงแม้ว่าเขาจะสำรวจดูเสร็จไปรอบนึงเมื่อวานแล้วก็เถอะ แต่เขาคิดว่ามันจะเป็นการดีกว่าหากสำรวจดูอย่างตั้งใจอีกครั้ง

 

แน่นอนว่า, ถ้าอู๋ฮ่าวเหรินรีบร้อนเกินไป, พวกคนที่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับเฮ่ยหลางก็จะตายก่อนที่จะได้เข้ามาถึงเมืองเสียอีก

 

เพื่อความสนุกของเกมแล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินจึงคิดที่จะเล่นกับคนพวกนี้ต่ออีกเสียหน่อย

 

ดังนั้น, หลังจากที่เอ้อระเหยอยู่กับหลิงเมิ่งเสวี่ยอยู่ซักพัก, เขาก็ได้เข้าเกมมา

 

"ทุกคนรีบมากันดีจัง"

 

"ฮ่าๆ, หากเปรียบเทียบกับอัจฉริยะอย่างคุณ กับนกโง่ๆอย่างพวกเรา, พวกเราก็ทำได้แค่ใช้เวลาเพื่อชดเชยช่องว่างพวกนี้" ป้าเทียนกล่าว

 

"อื้ม, หลังจากที่ให้คิดมาทั้งคืน, พวกคุณตัดสินใจกันได้รึยัง?"

 

"ผมเข้าร่วม"

 

กงจู้โชวพูดขึ้นมาเป็นคนแรกเพราะเธอนั้นต้องการที่จะช่วยแม่ของเธอ, เธอจึงย่อมที่จะไม่ยอมพลาดโอกาสนี้

 

"ผมเข้าร่วมด้วย"

 

คนที่สองเป็นหุ่นยนต์ตัวเตี้ยๆชื่อว่าจี๋ฟง, เขานั้นสงสัยกับสิ่งของมากมายในเมืองนี้มาก

 

"อย่ามาจ้องผม, ในเมื่อจี๋ฟงเข้า ผมก็เข้าด้วย" เปี้ยนสิงถี่กล่าว

 

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นได้ทราบมาจากบทสนทนาเมื่อวานนี้ว่า สองคนนี้เป็นเพื่อนกันในโลกความจริงด้วย, เพียงแต่ทั้งคู่อยู่คนละประเทศ

 

เปี้ยนสิงถี่เป็นชาวสวิส ส่วนจี๋ฟงเป็นชาวแคนาดา, ในบรรดาคนกลุ่มนี้มีเพียงเฮ่ยหลาง, กงจู้โชว และจ้านโต๋วเป่าเล๋ยเป็นชาวจีน

 

ส่วนที่เหลือ, โดยที่ไม่มีอะไรสะดุดทุกคนต่างก็เข้าร่วมกันหมด, พวกเขานั้นรู้จักสนิทสนมกันดีอยู่แล้ว และยังแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีกันเสมอมาอีกด้วย

 

และด้วยโอกาสอันดีนี้, ทุกคนต่างก็ต้องการที่จะเข้าฟิวเจอร์กรุ๊ปและเรียนรู้เทคโนโลยีที่ล้่ำสมัยไปด้วยกัน

 

"เมื่อวาน, ผมได้ทราบข่าวมาว่า, ตราบเท่าที่พวกเราทำผลงานในคราวนี้ได้ดี, พวกเราจะไม่ได้เป็นแค่พนักงานธรรมดาของฟิวเจอร์กรุ๊ปด้วยนะ" ป้าเทียนกล่าว

 

แล้วกงจู้โชวก็หันไปถามอู๋ฮ่าวเหริน "คุณสร้างเมืองขนาดใหญ่แบบนี้ได้ด้วยตัวคนเดียว, คุณก็น่าจะคุ้นเคยกับฟิวเจอร์กรุ๊ปมาบ้างสินะครับ, คุณพอจะรู้ข่าวสารในนั้นบ้างรึเปล่าครับ?"

 

อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกตกใจ, สายตาหุ่นยนต์ของเขาจ้องมาที่กงจู้โชว, แต่น่าเสียดายที่หุ่นยนต์ไม่สามารถแสดงออกทางสีหน้าได้, เขาจึงไม่เห็นอะไรอยู่ดี

 

แต่เขาก็ยังสงสัยอยู่ดี, และคิดว่าคนๆนี้น่าจะสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเขาอยู่แน่

 

มันก็ปกติล่ะนะที่เมืองใหญ่ขนาดนี้ แต่กลับสร้างได้ด้วยตัวคนเดียวแบบนี้, จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับฟิวเจอร์กรุ๊ปเลย, มันดูประหลาดไปจริงๆนั่นแหละ

 

ในเวลานี้จ้านโต๋วเป่าเล๋ยจู่ๆก็พูดขึ้นมา "พี่ช่วงชี่, ข้าลองคิดดูทั้งคืนแล้ว, ท่านไม่ใช่คนของฟิวเจอร์กรุ๊ปจริงๆเหรอ!"

 

แล้วหุ่นยนต์ทั้งหมดก็หันมามองเป็นทางเดียวกัน, เพราะทุกคนเองก็สงสัยในแบบเดียวกัน, คนที่สามารถสร้างเมืองแบบนี้ได้ด้วยตัวคนเดียว ถ้าไม่ใช่คนในฟิวเจอร์กรุ๊ปก็จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับฟิวเจอร์กรุ๊ปแน่ๆ

 

"ผมไม่ใช่คนในหรอกครับ, แต่ผมพอจะมีความสัมพันธ์กับฟิวเจอร์กรุ๊ปอยู่บ้างและพอจะได้ข้อมูลภายในมาบางส่วนเช่นกัน"

 

เมื่อได้ยินที่อู๋ฮ่าวเหรินพูด, เฮ่ยหลางก็เริ่มสงสัยขึ้นมา, ถ้าอู๋ฮ่าวเหรินเป็นพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปขึ้นมาจริงๆ, เขาก็จำเป็นที่จะต้องคิดแผนขึ้นมาใหม่, ไม่อย่างนั้น เขาได้ขโมยไก่เสียข้าวสารแน่(หมายถึงต้องสูญเสียอย่างหนึ่งเพื่อแลกกับโอกาสที่ดีกว่า)

 

จึงได้ถามขึ้นมา "พี่ชาย, ในเมื่อคุณไม่ใช่คนใน, แล้วคุณมีความสัมพันธ์อย่างไรกับฟิวเจอร์กรุ๊ปเหรอครับ?"

 

"จริงๆแล้ว, ผมพอจะรู้จักบางคนที่เป็นพนักงานฟิวเจอร์กรุ๊ปอยู่, เอางี้ ผมพอจะบอกอะไรบางอย่างได้, คนในฟิวเจอร์กรุ๊ปจริงๆน่ะ เกมที่พวกเขาเล่นกัน, ไม่ใช่ดาวนี้หรอกนะ"

 

เมื่อป้าเทียนได้ยินที่อู๋ฮ่าวเหรินพูด เขาก็รีบถามขึ้นมา "พี่ชาย, คุณบอกว่าไม่ใช่ดาวดวงนี้, มีหลายดวงดาวในเกมนี้งั้นเหรอ?"

 

"ใช่แล้ว, ผมได้ยินมาว่าดวงดาวเกมอยู่มากมาย, เพียงแต่พวกเขาไม่ได้เปิดให้เข้าเล่นเท่านั้น"

 

ถึงแม้ว่าหุ่นยนต์พวกนี้จะเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าไม่ได้, แต่อู๋ฮ่าวเหรินก็พอจะรู้ว่าพวกเขาจะต้องตื่นเต้นกันอยู่แน่ๆเมื่อดูจากการเคลื่อนไหวของร่างกายของพวกเขา

 

เพราะมีการรายงานมานานแล้วว่าเกมนี้ของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นเป็นความจริงแม้จะยังไม่ได้ยืนยันก็ตาม, แต่สิ่งที่เขาพูดเป็นการยืนยันข่าวนี้ได้เป็นอย่างดี

 

"มันเป็นความจริงล่ะ, มันเป็นความจริง, เกมนี้เป็นของจริงจริงๆด้วย"

 

"ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าข่าวนั้นจะเป็นเรื่องจริง"

 

"......"

 

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นต้องการที่จะเพิ่มเชื้อไฟให้เฮ่ยหลาง, เพื่อไม่ให้เขายกเลิกแผนการเพราะตัวตนของเขาเสียก่อน, ไม่อย่างนั้นก็ไม่สนุกน่ะสิ

 

"แล้วก็, ผมก็ยังมีข่าววงในอีกอย่าง, ผมได้ยินมาว่าเกมนี้, สิ่งของทุกอย่างที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยผู้เล่นนั้นจะถูกส่งมอบให้กับผู้เล่นในอนาคต, ยกตัวอย่างเช่น, เมืองของผมตราบเท่าที่ผมเป็นเจ้าของเมืองนี้อยู่ ในอนาคตบนดาวดวงนี้, เมืองนี้ก็จะเป็นของผม"

 

ทุกๆคนต่างก็ตกใจกับข่าวนี้มาก, เพราะว่าพวกเขาต่างก็รู้กันดีถึงคุณค่าของข่าวนี้ถ้าหากเป็นจริงขึ้นมา

 

ถ้าข่าวนี้แพร่กระจายออกไป, คนจำนวนมากที่เล่นเกมนี้จะต้องเปลี่ยนไปแน่ๆ และจะเล่นเกมด้วยอารมณ์ที่เปลี่ยนไปแน่นอน

 

ในเวลานี้, เฮ่ยหลางหัวใจของเขานั้นเร่าร้อนขึ้นมา, ข่าวนี้สำคัญสำหรับเขามาก, ในขณะเดียวกันเขาก็มีความคิดอยากที่จะยึดครองเมืองนี้มากขึ้นกว่าเดิม, และต้องการที่จะยึดครองเหล่าผู้มีความสามารถให้มาทำงานให้กับเขา

 

แล้วเมื่อเข้าสู่ยุคของการข้ามดวงดาว, พวกเขาก็จะได้มีพื้นที่เป็นของตัวเอง, ซึ่งไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่านี้อีกแล้ว, บางที่พวกเขาก็อาจจะได้เป็นองค์กรที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตก็เป็นได้

 

และแน่นอน, คนๆนี้ก็เริ่มที่จะฝันหวาน



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น