CF:บทที่ 536 ปลอมตัว

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 536 ปลอมตัว

 

หลังจากที่แนะนำตัวโดยกงจู้โชวแล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้รู้จักกับอัจฉริยะทั้ง 9 คนนี้

 

โดยเฉพาะคนที่ชื่อเฮ่ยหลาง, ที่ทำให้อู๋ฮ่าวเหรินต้องหันมามองหลายรอบ

 

เพราะคนๆนี้คือหุ่นยนที่จี้จับได้ว่าส่งข่าวออกไป, และเป็นหุ่นยนต์ที่ต้องการที่จะโจมตีเมืองของเขา, แต่เขายังไม่ได้เปิดเผยตัวตนออกมาเพราะเขายังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะใช้ยืนยันแผนการร้ายของเขาได้

 

ถ้าเกิดเขาวู่วาม, ก็อาจจะเกิดความบาดหมางกันระหว่างทั้งสองฝ่ายได้, หลังจากที่ค้นพบความสามารถของคนพวกนี้แล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินก็ต้องให้คนเหล่านี้มาอยู่ในมือของเขาและฝึกคนพวกนี้มาก

 

"เผื่อพวกคุณบางคนยังไม่รู้ แต่เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นมาโดยพี่ช่วงชี่คนเดียว, พวกสิ่งก่อสร้างที่อยู่ข้างในก็ล้วนแล้วแต่เป็นเทคโนโลยีล่าสุดทั้งนั้น

 

"ฮ่าๆๆ, ไม่ต้องบอกก็ได้, พวกเราเห็นตั้งแต่อยู่บนท้องฟ้าแล้ว, เมืองนี้มันสุดยอดจริงๆ, เมื่อเทียบกับพี่ช่วงชี่แล้ว, ของพวกเรานี่ด้อยไปเลย"

 

"พวกคุณก็พูดเกินไป, ก็แค่ผมบังเอิญได้ทรัพยากรมาเยอะมากจนสามารถสร้างเมืองนี้ได้ก็เท่านั้นเอง, แล้วก็สิ่งก่อสร้างที่มากมายขนาดนี้น่ะ, ฝีมือของหุ่นยนต์ทั้งนั้น ไม่ใช่ฝีมือของผมเลย"

 

"อย่าถ่อมตัวเลยน่า" จ้านโต๋วเป่าเล๋ยพูดขึ้นมา "เมืองแบบนี้น่ะ ไม่ใช่ว่าใครก็สร้างได้หรอกนะ"

 

"ยิ่งไปกว่านั้น, ไม่ใช่แค่คุณคนเดียวหรอกนะที่เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์น่ะ, แต่ก็ยังไม่มีใครที่สร้างเมืองอย่างนี้ได้ด้วยตัวคนเดียวได้อยู่ดี"

 

อู๋ฮ่าวเหรินไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร, ขณะที่คนกลุ่มนี้กำลังเดินดูเมืองกันอยู่

 

เฮ่ยหลางนั้นดูคึกคักที่สุดในเวลานี้, เขาตรวจดูสิ่งก่อสร้างต่างๆในเมืองอยู่ตลอดเวลา

 

ถ้าอู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้ทราบถึงตัวตนของเขามาก่อน, เขาก็คงคิดว่าคนๆนี้เป็นคนที่ใฝ่หาความรู้มากแน่ๆ

 

เขาตรวจดูสิ่งก่อสร้างต่างๆในเมืองและทำความคุ้นเคยกับมัน, ในขณะเดียวกันก็ตรวจเช็คดูว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นได้สร้างอาวุธป้องกันไว้ในเมืองบ้างหรือไม่

 

แต่น่าเสียดายที่, หลังจากที่ทำการตรวจสอบอยู่พักใหญ่, เขาก็ยังไม่พบอาวุธอะไรในเมืองนี้, ทำให้เขารู้สึกสับสน

 

ในที่สุด, เขาก็อดไม่ไหวจึงถามอู๋ฮ่าวเหรินออกไป "พี่ช่วงชี่ครับ, ไม่มีอาวุธป้องกันในเมืองนี้บ้างเหรอครับ?"

 

"อาวุธป้องกันเหรอ, มีสิ ถ้าไม่มีเมืองนี้ก็ไม่มีอะไรป้องกันน่ะสิ"

 

"แต่ตลอดทางที่มาผมไม่เห็นซักอันเลยนะครับ?"

 

"ก็เพราะอาวุธป้องกันทั้งหมดมันถูกซ่อนเอาไว้ยังไงล่ะ, คุณจึงมองไม่เห็นมัน"

 

ไม่ได้ยินที่อู๋ฮ่าวเหรินพูด, เฮ่ยหลางก็รู้สึกผิดหวัง, เขาจึงคิดที่จะหาวิธีนี้เพื่อหลอกล่อให้อู๋ฮ่าวเหรินพาเขาไปดูอาวุธที่ซ่อนเอาไว้

 

แต่ในขณะนั้นเอง, จ้านโต๋วเป่าเล๋ยจู่ๆก็พูดขึ้นมา "เป็นอาวุธแบบไหนเหรอครับ? ขอผมไปดูหน่อยได้มั๊ย?"

 

เมื่อเฮ่ยหลางได้ยินที่จ้านโต๋วเป่าเล๋ยพูด, เขาก็คิดว่าหมอนี่ก็มีประโยชน์เหมือนกัน, หลังจากที่เข้ายึดเมืองนี้, เขาจะแบ่งผลประโยชน์ไปให้หมอนี่บ้าง

 

เขาเองก็ยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยตัวตอนนี้, และเขาเองก็ต้องการให้คนพวกนี้ อยู่ในเมืองนี้ด้วยเพื่อที่จะทำการวิจัยให้องค์กรของเขาด้วย

 

สำหรับคนพวกนี้, เขานั้นรู้ดีว่าคนพวกนี้นั้นสุดยอดแค่ไหน

 

"ได้สิ, ไม่มีปัญหา, ตามผมมาเดี๋ยวผมจะโชว์ระบบอาวุธให้พวกคุณได้เห็นเอง"

 

อู๋ฮ่าวเหรินพอพวกเขามาที่ฐานทดสอบอาวุธที่อยู่ด้านใน, ในเวลานี้มีกลุ่มหุ่นยนต์ที่กำลังยุ่งอยู่ในฐานทดลองอาวุธ

 

หุ่นยนต์เหล่านี้ได้ทำการสับเปลี่ยนอาวุธทั้งหมดที่อยู่ฐานนี้

 

ในตอนที่พวกเขามาถึงทีนี่นั้น, อาวุธทั้งหมดในฐานทัพนี้ได้ถูกสลับสับเปลี่ยน

 

"น่าตกใจเหมือนกันนะครับเนี่ยที่พี่ช่วงชี่ได้ทำการสร้างระบบอาวุธเอาไว้ในใต้ดินแบบนี้"

 

ขณะที่เฮ่ยหลางพูด, เขาก็ทำการแสกนอาวุธที่อยู่ในฐานนี้และทำการบันทึกข้อมูลลง

 

ข้อมูลเหล่านี้, เขาคิดที่จะรอจนกระทั่งไม่มีใครอยู่แล้วค่อยส่งข้อมูลพวกนี้ออกไป

 

"สร้างเอาไว้ใต้ดินแบบนี้, นอกจากจะเอาไว้ซ่อนได้แล้ว, พื้นที่ด้านบนก็จะว่างและสามารถสร้างอย่างอื่นมาทับไว้ได้, แต่สร้างฐานทัพอาวุธใต้ดินแบบนี้ก็มีข้อเสียอยู่, ถ้ามีใครมาทำลายหรือปิดสวิทช์หลักตรงนี้แล้ว, อาวุธของทั้งฐานนี้ก็จะไม่ทำงาน"

 

ตาจักรกลทั้งสามดวงของเฮ่ยหลางนั้นจดจ้องไปที่สวิทช์หลักที่อู๋ฮ่าวเหรินกล่าวเอาไว้อย่างตื่นเต้น, ซึ่งเขาก็ไม่คิดว่าช่วงชี่เองจะเป็นคนบอกจุดอ่อนแบบนี้แก่เขามาเอง

 

เขาจึงคิดว่าคนๆนี้จะต้องเป็นคนๆนี้จะต้องเป็นโง่มากแน่ๆที่ดันบอกจุดอ่อนกับคนอื่นแบบนี้

 

ซึ่งดูเหมือนคนอื่นๆเองก็ไม่ได้คิดจริงจังอะไร, ซึ่งมีอยู่ 2 คนที่ดูเหมือนไม่ได้สนใจอาวุธพวกนี้เลยซักนิดเดียว

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองดูเฮ่ยหลางพลางคิดว่าเป้าหมายของเขาสำเร็จแล้ว และตอนนี้เขาก็เหลือแต่รอให้เฮ่ยหลางนั้นฮุบเหยื่อที่เขาวางไว้เท่านั้น, ถ้าเฮ่ยหลางนั้นมารู้ที่หลังว่าปุ่มนั้นมีไว้สั่งให้ระบบอาวุธด้านนอกเข้าสู่สภาวะพร้อมรบเต็มพิกัดแล้ว, เฮ่ยหลางจะทำหน้ายังไงนะ เขาล่ะอยากรู้จริงๆ"

 

หลังจากที่เดินไปรอบๆฐานทัพนี้เป็นว่าชั่วโมงกว่าๆ, อู๋ฮ่าวเหรินก็พูดขึ้นมาว่า "อาจจะเร็วไปซักหน่อย, ถ้าพวกคุณไม่ว่าอะไร แต่ผมขอตัวก่อนนะครับ, พวกคุณจะเดินดูรอบๆฐานนี้ไปก่อนก็ได้นะครับ, ตราบเท่าที่ไม่มีการโจมตีอะไรที่นี่ ผมก็คิดว่าไม่น่าจะมีอันตรายอะไร"

 

เมื่อพูดจบอู๋ฮ่าวเหรินก็ออกจากเกมส์ไป, ส่วนคนที่เหลือนั้น บางคนก็อยู่ต่อและเดินดูเมืองต่อ, ส่วนบางคนก็ได้ออกจากเกมส์ตามไป

 

แน่นอนว่า, เฮ่ยหลางไม่ได้ออกจากเกม, เขาเดินดูรอบๆเมืองอยู่ต่ออีกสักพักหนึ่ง, หลังจากที่เขามั่นใจแล้วน่าจะไม่มีใครเห็นเขา, เขาก็แอบส่งข้อมูลที่เขารวบรวมมาออกไป

 

จากนั้นเขาก็ได้วิ่งไปยังฐานอาวุธที่อู๋ฮ่าวเหรินที่พาเขามา, ซึ่งในตอนนั้นเขาได้การยืนยันที่ประตูฐานทัพอาวุธเอาไว้แล้ว, ทำให้เขาสามารถเปิดประตูเข้ามาได้อย่างง่ายดาย

 

อู๋ฮ่าวเหรินที่เพิ่งออกมาจากห้องจำลองเกมด้วยอารมณ์ที่ดี, ยิ่งรวมกับเรื่องของคนในทวีปยุโรปแล้ว, เขาก็รู้สึกอารมณ์ดียิ่งขึ้นไปอีก

 

คนทั้งหมดที่เขาได้พากลับมานั้นได้ถูกจับอยู่ในเมืองทะเลทราย

 

นอกจากนี้, คนพวกนี้ก็เหมือนจะรู้ชะตากรรมของตัวเอง, บางคนก็กรีดร้องและกลัวหลังจากที่ได้รู้เรื่อง, ในขณะที่บางคนก็รู้สึกตื่นเต้นและอยากที่จะสร้างยานอวกาศเพื่อไปยังดาวต่างๆ

 

เพราะอู๋ฮ่าวเหรินได้บอกกับพวกเขาว่า ถ้าพวกเขาสามารถมีชีวิตรอดจากดาวดวงนั้นได้ ความผิดของพวกเขาก็จะได้รับการยกเว้น

 

ยิ่งไปกว่านั้น, ในฐานะที่เป็นผู้อพยพกลุ่มแรก, พวกเขาจะได้รับรางวัลตอบแทนด้วย

 

ข่าวนี้, ทำให้หลายคนรู้สึกประหลาดใจ, เพราะหลายคนบนโลกต่างก็พยายามกันอย่างหนักเพื่อให้ได้สิทธินี้มา

 

โดยที่ไม่ต้องแย่งชิง, แต่พวกเขากลับได้เป็นผู้อพยพกลุ่มแรกซะอย่างงั้น, ถึงแม้มันจะออกจะดูเหมือนโดนบังคับให้เป็นหนูทดลองไปหน่อย แต่ก็ถือเป็นงานที่มีเกียรติจริงๆ

 

บางทีประวัติศาสตร์ของมนุษย์ในอนาคต, อาจจะต้องจารึกชื่อพวกเขาและกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงก็เป็นได้

 

"จี้, หลังจากที่ทำการตรวจสอบคนพวกนี้เสร็จแล้ว, ให้พวกเขาแบ่งคนออกเป็น 10 ทีมนะแล้วส่งพวกเขาไปที่ดาวที่จะอพยพไปทั้ง 10 ดวง, แล้วถ้ายืนยันได้แล้วว่ามนุษย์สามารถอยู่รอดบนดาวดวงนั้นได้, ก็ให้เริ่มแผนการอพยพของพวกเราได้ทันที"

 

"รับทราบค่ะ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินกลับมาคิดถึงเรื่องของเกมอีกครั้ง, และรู้สึกว่าเขาควรจะพัฒนาเกมไปไหนรูปแบบไหนดี, เพราะในตอนนี้ผู้คนในเกมได้เปลี่ยนไปแล้ว, เขาเชื่อว่าถ้าคนเหล่านี้ถ้ามีทั้งอุปกรณ์และวัสดุอยู่ในมือ, พวกเขาจะสามารถสร้างสิ่งของจากในเกมในโลกความเป็นจริงได้

 

ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้อาจจะส่งผลกระทบกับเขาในอนาคตก็ตามที, แต่อู๋ฮ่าวเหรินก็ไม่ได้สนใจแล้ว, ตราบเท่าทีเขามีอาวุธที่ทรงพลังและล้ำสมัยอยู่ในมือ, เขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวคนเหล่านี้ระแวงเขาอีกต่อไป

 

ออกจากห้องแล็บมา, อู๋ฮ่าวเหรินก็มุ่งหน้าไปที่โรงเรียน, เพื่อที่จะไปรับหลิงเมิ่งเสวี่ยกลับจากโรงเรียนและพากลับบ้าน

 

ในขณะเดียวกัน, ในเมืองแห่งหนึ่งในเกมส์ ก็มีกลุ่มคนไม่ดีที่มารวมตัวกันและหารือ

 

และหนึ่งในนั้นคือเฮ่ยหลางผู้ที่เข้าไปในเมืองของอู๋ฮ่าวเหรินมา, ในเวลานี้เขากำลังเล่าเรื่องในเมืองของอู๋ฮ่าวเหรินให้คนเหล่านี้ฟังอยู่

 

"หัวหน้า, ตอนนี้ผมสามารถเข้าไปที่ฐานอาวุธนั้นได้และปิดสวิทช์หลัก เพื่อให้พวกคุณบุกเข้าไปได้ครับ, แล้วก็อย่าฆ่าพวกคนในเมืองนะครับ, คนพวกนั้นเป็นกุญแจสำคัญที่จะพาพวกเราเข้าไปเมืองทะเลทรายได้ครับ"

 

"เข้าใจแล้ว, ในเวลานี้พวกเราจะเป็นผู้ปกครองเมืองนั้น, ไม่ใช่คนพวกนั้น

-------------------------------



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น