CF:บทที่ 525 ความคืบหน้าในการลอบโจมตี

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 525 ความคืบหน้าในการลอบโจมตี

 

การเคลื่อนพลกองกำลังของประเทศเหล่านี้ซ่อนเร้นมาก, หรือจะเรียกว่าลับๆล่อๆดี, ยิ่งไปกว่านั้นกำลังพลก็เล็กมาก จำนวนทั้งหมดไม่น่าจะถึง 10,000

 

ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามีดาวเทียมสอดแนมพิเศษล่ะก็, คงไม่มีทางที่จะเห็นคนทั้ง 10,000 คนที่กระจายตัวกันอยู่ในตะวันออกกลางแน่ๆ

 

อู๋ฮ่าวเหรินทำการตรวจสอบกองทัพเพื่อให้มั่นใจว่ามาจากประเทศเหล่านั้นใช่หรือไม่, เขายังไม่ได้สั่งให้หุ่นยนต์เคลื่อนไหว, เขาเฝ้ารอดูว่าคนพวกนี้คิดจะทำอะไรกันแน่

 

"หัวหน้าคะ, กำลังทำอะไรอยู่? มาที่นี่แปบนึงสิคะ"

 

ได้ยินเสียงเรียกของหลิวหมิงเยว่, อู๋ฮ่าวเหรินก็หันกลับไปดู ตอนนี้กลุ่มสาวๆกำลังยืนมองดูพวกเขาอยู่ไกลๆ

 

"ไม่ใช่ว่าพวกคุณมาชมทัศนียภาพของที่นี่กันหรอกรึ, มาทำอะไรที่นี่กัน?"

 

"ก็ใช่, แต่หัวหน้าช่วยมาที่นี่เดี๋ยวและอธิบายมาหน่อยว่าของพวกนี้มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรคะ?"

 

อู๋ฮ่าวเหรินเดินตามพวกเธอไปเพื่อไปดูว่าพวกเธอหมายถึงอะไร, แล้วเขาก็ต้องตกใจไปชั่วขณะก่อนที่จะเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

 

เขาขโมยของโบราณทางวัฒนธรรมมาจากพิพิธภัณฑ์อังกฤษ, ในครั้งก่อนกลุ่มคนชราได้บอกกับเขาว่าพวกเขาต้องการของโบราณทางวัฒนธรรม, อู๋ฮ่าวเหรินจะได้ออกไปหามาให้พวกเขา

 

จากสถานการณ์ในปัจจุบัน, เขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่าคนอังกฤษจะมาตามรังควานเขาเมื่อพวกเขารู้เรื่องนี้

 

อู๋ฮ่าวเหรินแกล้งพูดแบบไม่รู้เรื่อง "ของโบราณพวกนี้มันมีอะไรอย่างงั้นรึ?"

 

"อย่ามาแกล้งทำเป็นไขสือนะ, ของพวกนี้น่ะคือของโบราณที่หายไปจากพิพิธภัณฑ์อังกฤษนะ, ถ้าพวกเขารู้เข้า, พวกเขาจะไม่มาเอาเรื่องกับพวกเราเหรอ?"

 

"ทำไมต้องมาเอาเรื่องกับผมด้วย? ผมเก็บของพวกนี้ได้จากในทะเลนะ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินยังทำเป็นไม่ยอมรับว่าเขาขโมยของพวกนี้กลับมา, ยิ่งไปกว่านั้น ก็ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยว่าเขาขนของจำนวนมากเหล่านี้ออกมาจากพิพิธภัณฑ์อังกฤษได้อย่างไร

 

โจ้วหลายมองดูหลิวหมิงเยว่แล้วพูดขึ้น "พวกเราไม่ได้กังวลหรอกว่าคนอังกฤษจะมาเอาเรื่องกับพวกเรารึเปล่า, แต่พวกเราแค่อยากรู้ว่าของโบราณมากมายพวกนี้เนี่ยขโมยมาจากพวกเขาจริงๆรึเปล่า?"

 

"โจ้วหลานพูดถูกแล้ว, บริษัทของเรานั้นไม่ได้กลัวคนอังกฤษหรอก, ถึงแม้พวกเขาจะรู้ว่าของโบราณพวกนั้นมาอยู่ในกับบริษัทเรา, พวกเขาก็ทำได้แค่มองดูอย่างเดียวเท่านั้นแหละ"

 

"ก็ใช่, แต่ของพวกนี้มันเป็นของโบราณที่ขโมยมานะ"

 

"นี่, มันอาจไม่ใช่หัวหน้าของพวกเราขโมยของโบราณพวกนี้มาก็ได้, ถึงใช่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา?"

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองดูหลิวหมิงเยว่ที่กำลังสับสน, เขาไม่คิดว่าเธอจะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมากขนาดนี้

           

"ในอนาคต, ของโบราณเหล่านี้จะถูกจัดแสดงไว้ที่หยวนหมิงหยวนแห่งนี้, ซึ่งมันคงจะดีกว่าถูกเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์อังกฤษ, เพราะของโบราณเหล่านี้คงจะถูกเก็บเอาไว้ในห้องเก็บของที่มืดมิด, มีบางอย่างที่ชำรุดเสียหายเพราะพวกเขาไม่ได้จ่ายเงินค่าบำรุงรักษาด้วย"

 

หลิวหมิงเยว่กัดริมฝีปากของเธอ, ราวกับอยากจะพูดอะไรบางอย่าง, แต่ในท้ายที่สุดเธอก็มองมาที่สายตาของทุกคนและไม่ได้พูดอะไรต่อ

 

อู๋ฮ่าวเหรินเดินตามพวกสาวๆไป และมองดูสิ่งก่อสร้างที่อยู่ด้านใน, ในปัจจุบันนอกจากตัวพระราชวังที่สร้างเสร็จแล้ว, ส่วนใหญ่จะเหลือเรื่องการตกแต่งภายในและสวนด้านนอกที่ยังไม่แล้วเสร็จ

 

ยิ่งไปกว่านั้นงบประมาณที่ใช้ไปก็มหาศาลมาก, แต่อู๋ฮ่าวเหรินก็ไม่ได้พูดอะไรเรื่องนี้, เพราะเงินนั้นไร้ประโยชน์สำหรับเขา

 

เพื่อที่จะแก้ปัญหาเรื่องไม้ขาดแคลน, เขาได้นำไม้มีค่ามากมายมาจากดาวแห่งหนึ่ง

 

เช่นเดียวกับเรื่องของอัญมณีต่างๆ, เขาก็หามากองพะเนินเป็นภูเขา, แต่ทว่าอัญมณีเหล่านี้จะถูกใช้โดยฟิวเจอร์กรุ๊ปอย่างเดียวเท่านั้น, และจะไม่มีเม็ดไหนที่จะเข้าสู่ตลาด

 

ในเวลานี้, เพื่อที่จะทำให้มั่นใจว่าระบบการเงินของแต่ประเทศไม่ล้มลงไปก่อน, หลายๆมาตรการจึงได้ถูกนำมาใช้กับประเทศต่างๆ, แน่นอนว่าอู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้ต้องการที่จะทำลายมัน

 

จากสถานการณ์ในตอนนี้, มันจะเป็นการดีกว่าที่จะรักษาเสถียรภาพไว้, ทรัพยากรที่เขามีในปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของคนทั่วโลก

 

"หัวหน้าคะ, ทำไมพวกเราไม่ปลูกพืชพิเศษไว้ที่นี่บ้างล่ะคะ? พวกนี้มันดูธรรมดาไปหน่อยนะ" หวังหลานมองดูดอกไม้และพันธุ์ไม้ที่อยู่ตรงหน้าเธอและถามอย่างสงสัย

 

"เพื่อที่ให้มั่นว่าความเข้ากันได้ของหยวนหมิงหยวนแห่งนี้ไม่ถูกทำลายยังไงล่ะ, เพื่อให้ทัศนียภาพของที่นี่ถูกฟื้นคืนอย่างสมบูรณ์แบบ, จึงจำเป็นที่จะต้องฟื้นคืนให้เหมือนเดิมที่สุด, เอางี้ เดี๋ยวผมจะสร้างสวนขึ้นมาใหม่เองละกัน, เอาให้สวยงามกว่าที่นี่อีก"

 

"เอาอย่างงั้นก็ได้"

 

หวังหลานนึกถึงป่าเขียวที่อยู่ในเขตเมืองภูเขานั้น, มีพันธุ์ไม้มากมายที่พิเศษมาก, แม้แต่บ้านเรือนที่สร้างขึ้นที่นั่นก็สวยงามมากด้วย

 

มันคงไม่ใช่เรื่องยากที่จะสร้างสวนที่สวยงามเพิ่มขึ้นมาอีก, เพราะที่นี่ไม่ใช่เพียงแค่สวยงามเท่านั้น, แต่ยังเป็นตัวแทนบอกเรื่องราวของประวัติศาสตร์อีกด้วย

 

สถานที่โบราณเช่นนี้ไม่ควรที่จะทำลายของดั้งเดิม, ของโบราณบางอย่างเองก็มีเหตุผลทางประวัติศาสตร์ที่ควรอนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานได้ดู

 

ในขณะที่พวกเขากำลงเที่ยวชมทัศนียภาพที่สวยงามกันอยู่, ผู้คนจากหลายประเทศในตะวันออกกลางได้มารวมตัวกันเป็นจำนวน 10,000 คนแล้ว

 

เมืองที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปสร้างขึ้นมานี้ และโดยรอบนั้นมีฐานทัพขนาดย่อมอยู่มากมายบนพื้นดิน

 

บางฐานคือเมืองเล็กๆที่สร้างขึ้นมาโดยกองกำลังขนาดใหญ่ และผู้ลี้ภัยบางคนที่ได้ขอลี้ภัยมาอาศัยอยู่ที่นี่, และมีบางคนที่กำลังมองหาโอกาสที่จะเข้ามายังเมืองทะเลทราย

 

ในเวลานี้, มีกลุ่มคนที่มาทำลับๆล่อๆในสถานที่รวมพลเหล่านี้, ซึ่งระมัดระวังการตรวจตราของหุ่นยนต์ที่ออกลาดตระเวณรอบๆเมือง

 

พวกเขาเขียนบางอย่างลงในกระดาษและวางเอาไว้ตามสถานที่พิเศษต่างๆในเมือง, โดยโน้ตพวกนี้จะถูกนำไปส่งต่อให้กับเมืองแห่งหนึ่งที่อยู่ไกลออกไปจากที่นี่ถึง 100 ไมล์

 

หากนำโน้ตพวกนี้มาเรียกต่อกันทีละใบ, ก็จะได้แผนที่ ที่มีการทำเครื่องหมายบางอย่าง, ซึ่งถ้าอู๋ฮ่าวเหรินมาเห็นเขาก็จะรู้ได้ทันทีว่าเครื่องหมายเหล่านั้นระยะการปฏิบัติการของหุ่นยนต์

 

"ท่านครับ หุ่นยนต์ 80% ได้ทำการยืนยันระยะการเดินตรวจตราของมันแล้วครับ, ส่วนหุ่นยนต์ที่เหลือนั้นพวกเราทำการยืนยันได้แค่จากการคาดเดาเท่านั้น, ซึ่งอาจจะแม่นยำมากนัก"

 

"ไม่เป็นไร ส่วนคนไปเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์พวกนี้เอาไว้, ทันทีที่รู้ว่าหุ่นยนต์พวกนั้นเริ่มมีการเคลื่อนไหวอะไร, ส่งข่าวแจ้งมายังศูนย์บัญชาการทันที เพื่อให้ทุกคนได้เตรียมพร้อมสำหรับการทำภารกิจ"

 

"รับทราบครับผม, แต่ผมขอถามอะไรบางอย่างได้ไหมครับท่าน"

 

"มีอะไรงั้นหรือ? ว่ามาสิ"

 

"ถึงพวกเราจะบุกเข้าโจมตีเมืองก็เถอะ, แล้วพวกเราจะทำอย่างไรกับฟิวเจอร์กรุ๊ปดีครับ?"

 

"เดิมทีเรื่องนี้มันเป็นความลับนะ, แต่เอาเถอะอีกเดี๋ยวมันก็จะเริ่มแล้ว, ข้าจะบอกให้ฟังละกัน, เมื่อใดที่พวกเราทำการยืนยันแล้วว่า หุ่นยนต์พวกนี้โดนกำจัดหมดแล้ว, หรือก็คือพวกเราชนะแล้ว จากนั้นพวกเราก็จะไปเผชิญหน้ากับฟิวเจอร์กรุ๊ปต่อ"

 

เจ้าหน้าที่รู้สึกตื่นเต้นขึ้นเล็กน้อยเพราะว่า เขารู้ดีว่าเมื่อใดที่พวกเขาสู้รบชนะ พวกเขาก็จะต้นทุนไปเจรจากับฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

แน่นอนว่าทหารพวกนี้มีสิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจคือ สงครามนี้เป็นการลอบโจมตี, ถึงแม้พวกเขาจะชนะก็จริง, แค่พวกเขาไม่เจอการล้างแค้นของฟิวเจอร์กรุ๊ปหรอกเหรอ หากต้องเจอกับสุดยอดหุ่นยนต์ของฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

แต่ทว่า, มันจะเป็นการดีกว่าที่เขาจะไม่ถามอะไรพร่ำเพรื่ออีก แต่เริ่มลงมือทำงานของตัวเองตามแผนที่วางเอาไว้

 

ซึ่งหัวหน้าเองก็ไม่ได้บอกว่าถ้าพวกเขาทำพลาด พวกเขาเกือบทั้งหมดก็จะถูกฆ่า และจะถูกจัดการโดยองค์กรลึกลับ, ไม่ใช่ประเทศเหล่านั้น

 

ทหารทั้ง 10,000 คน, พร้อมด้วยอาวุธที่ล้ำสมัย ได้มาถึงพื้นที่เป้าหมายแล้ว

 

จริงๆ ต้องขอบคุณอู๋ฮ่าวเหรินที่ทำให้พวกเขามีอาวุธล้ำสมัยเช่นนี้, เทคโนโลยีและความรู้ล้ำสมัยมากมายที่เขาได้เผยแพร่มานั้น ทำให้คนเหล่านี้ได้ทำการศึกษาอาวุธพวกนี้และบรรลุถึงการวิจัยปืนพลังงานขึ้นมาได้

 

และด้วยพลังของปืนพลังงานเหล่านี้ที่ทำให้คนกลุ่มนั้นได้เริ่มตั้งโครงการขึ้นมา, แน่นอนว่าถ้าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นถูกฆ่าหรือจับตัวโดยพวกเขาได้ แผนของพวกเขาก็จะสมบูรณ์แบบ

 

แต่น่าเสียดาย, ที่คนพวกนั้นไม่สามารถฆ่าหรือจับอู๋ฮ่าวเหรินได้, หลังจากที่ยึดเมืองนี้ได้ พวกเขาก็จะเข้าเจรจากับอู๋ฮ่าวเหริน

 

ตั้งแต่ที่อู๋ฮ่าวเหรินได้ส่งหุ่นยนต์มายังตะวันออกกลาง, สถานการณ์ที่นี่ก็เริ่มสงบลง สงครามเริ่มห่างไกลจากที่นี่, ทำให้พวกคนที่อาศัยอยู่ที่นี่เลิกที่จะกลัวสงคราม

 

ดังนั้นนอกจากพวกคนที่มีเป้าหมายแอบแฝง, ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ต่างก็รู้สึกขอบคุณอู๋ฮ่าวเหริน ผู้คนมากมายต่างบูชาเขาราวกับเป็นศาสดาที่ยังมีชีวิต

---------------------------



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น