CF:บทที่ 526 ความอลหม่านในตะวันออกกลาง
ทวีปยุโรป ณ เมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง มีข่าวกรองข่าวหนึ่งได้ถูกส่งมาที่นี่ด้วยเครื่องบินรบ
เพื่อที่ให้มั่นใจว่าข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกล่วงรู้โดยอู๋ฮ่าวเหริน, พวกเขาได้ละทิ้งการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ, ยิ่งโทรศัพท์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ข้อมูลทั้งหมดจะต้องถูกส่งผ่านในรูปแบบของกระดาษ และข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องถึงจะอนุญาติให้พูดด้วยอุปกรณ์สอดแนมได้
อาจจะเรียกได้ว่าเพื่อป้องกันความผิดพลาด, พวกเขาจึงต้องอุดทุกช่องทางที่เป็นไปได้ทั้งหมด
แม้แต่รอบๆบ้าน, พวกเขาก็ได้ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันสัญญาณเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้อู๋ฮ่าวเหรินดักฟังได้
เมื่อดูข่าวกรองที่นำมา, บอกว่าหุ่นยนต์ต่างๆไม่ได้มีอะไรผิดสังเกต, และจากเจ้าหน้าที่ที่ทำการเฝ้าจับตาดูอู๋ฮ่าวเหรินเองก็แจ้งว่าไม่ได้มีอะไรผิดสังเกตเช่นกัน, คนพวกนี้จึงได้โล่งอก
"ในตอนนี้พวกเราได้ทำการตรวจจับตำแหน่งของหุ่นยนต์ทั้งหมดแล้ว, และกองกำลังก็จะเข้าประจำที่ในเร็วๆนี้"
"ผมคิดว่ามันเร็วเกินไปที่จะดำเนินการแผนนี้นะครับ" เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างกระวนกระวาย
"มีสุภาษิตโบราณในประเทศทางตะวันออกกล่าวไว้ว่า: เมื่อลูกศรได้ถูกขึ้นสายไว้แล้ว อะไรก็ไม่สามารถหยุดยั้งได้แล้ว"
"แต่ถ้าเกิดพวกเราทำพลาดขึ้นมา, พวกคุณก็น่าจะรู้น่าว่าจะต้องเผชิญกับอะไรต่อไป"
เจ้าหน้าที่คนนั้นเป็นกังวล, เขารู้สึกว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นลึกลับมากเกินไป และยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังตามสืบไม่พบ
ถึงแม้ว่าเขาเองก็จะอิจฉาเทคโนโลยีไฮเทคของฟิวเจอร์กรุ๊ป, และเขาก็อยากได้ของไฮเทคพวกนั้นเช่นกัน, แต่เขาก็กังวลมากกว่าเรื่องที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปจะกลับมาล้างแค้นหลังจากที่พวกเขาทำพลาด
จริงๆแล้ว, ทุกคนในกลุ่มนี้ต่างก็รู้กันดีว่าพวกเขานั้นหวาดกลัวการแก้แค้นของฟิวเจอร์กรุ๊ปในระดับหนึ่ง, แต่ทว่า พวกเขาเองก็รู้ว่าด้วยการร่วมมือของประเทศต่างๆมากมายขนาดนี้, ต่อให้ฟิวเจอร์กรุ๊ปจะล้างแค้นก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายประเทศมากมายเช่นนี้ได้
เมื่อคำสั่งได้ถูกสั่งลงมา, พวกเขาได้แบ่งออกเป็น 10 กลุ่ม จาก 10,000 คน, และแต่ละกลุ่มก็จะต้องแยกย้ายกันออกไปโดยไว จากกลุ่มละ 1,000 คน ก็จะเหลือทีมละ 5 คน
จากนั้น, คนเหล่านี้ก็ได้หลบหายตัวไปในค่ำคืนนั้น, เงาร้ายที่คืบคลานมาอย่างเงียบๆและความสงบสุขจะพังทลายลงในไม่ช้า
ในเวลานี้, เมืองใหม่ที่ถูกเรียกว่าเมืองแห่งสันติสุขโดยคนในตะวันออกกลางนั้นกำลังคึกคักอย่างมาก, มีผู้คนสัญจรไปมาบนถนน, หลังจากการทำงานในวันหนึ่งๆ ทุกๆคนต่างก็เดินเล่นรอบๆเมืองเพื่อชมความสวยงามของเมืองนี้
ชีวิตที่มั่นคงเช่นนี้, ซึ่งเคยเป็นอะไรที่ฟุ่มเฟือย ในตอนนี้มันได้กลายเป็นความจริงๆแล้ว
ผู้คนในเมืองนี้ต่างนับถืออู๋ฮ่าวเหริน, ผู้ที่มอบชีวิตนี้ให้แก่พวกเขาราวกับเป็นพระเจ้า
มองดูหุ่นยนต์ที่สูงใหญ่พวกนี้แล้ว, พวกเขาก็รู้สึกปลอดภัย, หุ่นยนต์พวกนี้ได้กลายมาเป็นเทพผู้พิทักษ์ความสงบสุขในตะวันออกกลาง
เพราะเหล่าผู้ก่อการร้ายและพวกคลั่งสงคราม ต่างก็ต้องสิ้นชีพลงบนผืนดินในตะวันออกกลางหมดแล้ว
ไม่มีใครที่รู้เลยว่าชีวิตที่สงบสุขนี้กำลังจะถูกทำลายลงโดยกลุ่มแขกที่ไม่ได้รับเชิญนี้, ในค่ำคืนที่ไร้ขอบเขตนี้, กลุ่มคนกลุ่มหนึ่้งได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว, พวกเขาว่องไวมาก แม้จะแบกกระเป๋าขนาดใหญ่ไว้บนหลัง แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวของพวกเขาเลย
ทีมทั้ง 5 คนเหล่านี้, ทำงานราวกับผีในตอนกลางคืน, เคลื่อนที่เข้าหาพื้นที่ที่มีหุ่นยนต์อยู่อย่างไม่ลดความเร็วลงเลย
หลังจากที่มาถึงสถานที่ที่กำหนดเอาไว้, พวกเขาก็หยิบเอาอุปกรณ์แปลกๆออกมาจากกระเป๋าและประกอบมันขึ้นมา
จากนั้นพวกเขาก็เริ่มซ่อนตัวและรอคอยคำสั่งต่อไปจากศูนย์บัญชาการ
ในตอนกลางวัน, อู๋ฮ่าวเหรินได้พากลุ่มสาวๆไปชมทัศนียภาพของหยวนหมิงหยวน
ในตอนกลางคืน, อู๋ฮ่าวเหรินก็นั่งอยู่กับหลิงเมิ่งเสวี่ยอยู่ในห้อง, มองดูเธอควบคุมหุ่นยนต์และปลูกพันธุ์ไม้ต่างๆบนดาวสายรุ้ง
"ที่รัก, ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างมาทำลายแปลงปลูกพันธุ์ไม้ล่ะ"
อู๋ฮ่าวเหรินมองดูตำแหน่งนิ้วชี้ของหลิงเมิ่งเสวี่ยบนจอแสง, ตรงนั้นมีร่องรอยถูกทำลายอยู่, น่าจะเป็นฝีมือของสัตว์ตัวเล็กๆที่วิ่งมาที่นี่
"น่าจะเป็นสัตว์ตัวเล็กๆบุกเข้ามาล่ะนะ, แล้วใครบอกให้คุณไม่ทำตามที่ผมบอกให้คุณสร้างรั้วกันไว้ก่อนล่ะ"
"ก็มันจะดูไม่กว้างนี่นาถ้าสร้างรั้วขึ้นมาล้อม, แล้วก็มันน่าจะดีกว่าที่จะมีสัตว์ตัวเล็กๆเข้ามาในสวน ดูมีชีวิตชีวาดีออก, จะว่าไปที่รัก เมื่อไรพวกเราจะไปที่ดาวสายรุ้งกันได้ซักทีล่ะคะ?"
"นั่นสิ, คงต้องใช้เวลาอีกสักพักล่ะนะ"
มองดูริมฝีปากเล็กๆที่น่าหลงไหลของหลิงเมิ่งเสวี่ย, อู๋ฮ่าวเหรินก็อดไม่ได้ที่จะจูบเธอแล้วก็กอดเธอพร้อมกับพูดขึ้นมา "ตอนนี้มันยังไม่ปลอดภัย, ที่จะเดินทางไปโดยไม่มียานรบคุ้มกัน, ถ้าเกิดพวกเราตกอยู่ในอันตรายขึ้นมาจะไม่มีโอกาสหนีได้เลย, อดทนรอจนกว่ายานรบจะสร้างเสร็จก่อนะ แล้วผมจะพาคุณไปที่ดาวสายรุ้งแน่นอน"
ปราศจากยานรบ, อู๋ฮ่าวเหรินก็ไม่กล้าที่จะไปดาวสายรุ้ง, ถึงแม้ว่าแถวนั้นจะไม่มีมนุษย์ต่างดาวอยู่ก็ตาม แต่มันก็ยังอันตรายเกินไปถ้าเกิดว่าเขาไปเจอกับสัตว์ดาราเข้า
แน่นอนว่า, มีสัตว์ดาราอยู่ไม่มากในกาแลคซี่ทางช้างเผือกนี้, โดยทั่วไปพวกสัตว์ดารานั้นมักจะรวมตัวกันอยู่ที่ๆมีพลังงานเยอะๆอย่างใจกลางกาแล็คซี่
แต่ที่อยู่ไกลจากศูนย์กลางของกาแลคซี่ทางช้างเผือกอย่างดาวโลกนั้น ไม่ค่อยมีสัตว์ดาราแวะเวียนมา, แน่นอนว่าถ้าเกิดมีโผล่มาแค่ตัวเดียว ก็จะต้องเป็นหายนะของโลกอย่างแน่นอน
ขณะที่อู๋ฮ่าวเหรินกำลังกอดภรรยาของเขาด้วยความรักใคร่อยู่นั้น จี้ก็ได้โผล่มาขัดขวางการกระทำต่อไปของอู๋ฮ่าวเหริน
แน่นอนว่ามันทำให้อู๋ฮ่าวเหรินหงุดหงิดเล็กน้อย, แต่แน่นอนว่าเขารู้ดีว่าจะต้องมีเรื่องฉุกเฉินบางอย่างเข้ามาแน่, ไม่อย่างนั้นจี้คงไม่มารบกวนเขาแบบนี้แน่
"ที่รัก, นอนก่อนได้เลยนะ, ขอผมดูก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น"
"ไปเถอะค่ะ"
หลิงเมิ่งเสวี่ยไม่ได้โกรธอะไร, เพราะเธอรู้ดีถึงสถานการณ์ของสามีของเธอดี, เธอก็รู้ด้วยว่า ถ้าไม่มีอะไรสำคัญจริงๆ, จี้คงจะไม่รบกวนเขา
เดินออกมาข้างนอกห้อง, อู๋ฮ่าวเหรินก็ถามเขาว่า "เกิดอะไรขึ้น?"
"กองกำลังที่มาโผล่ที่ตะวันออกกลางในตอนกลางวันดูเหมือนจะเริ่มเคลื่อนไหวกันแล้วล่ะค่ะ"
"แล้วเป้าหมายของพวกเขาล่ะ?"
บนจอแสงที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของอู๋ฮ่าวเหริน, และมองดูภาพที่ถูกถ่ายมาโดยดาวเทียม อู๋ฮ่าวเหรินก็รู้สึกเหลือเชื่อ
"เป้าหมายของพวกเขาคือหุ่นยนต์!"
"ถ้าไม่ใช่การฝึกทหาร, เป้าหมายของพวกเขาก็คือหุ่นยนต์ที่พวกเราส่งไปที่นั่นค่ะ, ยิ่งไปกว่านั้นคนพวกนี้ก็แข็งแกร่งมากด้วย, หุ่นยนต์ที่พวกเราส่งไปอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนพวกนี้ด้วยค่ะ"
อู๋ฮ่าวเหรินผงกหัว, หุ่นยนต์เหล่านี้เป็นรุ่นที่เขาผลิตขึ้นมาในตอนแรกๆ, ทั้งอาวุธและการป้องกันก็แย่มากด้วย, ถ้าคนพวกนี้ใช้อาวุธพลังงานด้วยล่ะก็ หุ่นยนต์พวกนี้ก็ไม่ใช่คู่มือเลย
"จี้, คุณพอจะรู้มั๊ยว่าคนพวกนี้ต้องการที่จะทำอะไรกันแน่? ทำไมถึงต้องโจมตีหุ่นยนต์พวกนี้ด้วย?"
เขานั้นไม่เข้าใจจริงๆ, ถ้าเป็นการโจมตีก่อนหน้านี้เขาก็ยังพอเข้าใจได้ว่า หากเมื่อใดที่เขาตาย เขาก็เชื่อว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปจะต้องล้มลงในพริบตาแน่
เขาจึงไม่เข้าใจว่าการโจมตีหุ่นยนต์ในตะวันออกกลาง, ถึงแม้หุ่นยนต์พวกนี้จะโดนทำลายไปและบุกเข้ายึดครองเมืองในตะวันออกลาง, ซึ่งที่นั่นก็ไม่ต่างอะไรไปจากฐานทัพทดลองสำหรับเขา
ยิ่งไปกว่านั้น, ผลตอบรับของเมืองทะเลทรายนั้นก็ดีกว่าเมืองในตะวันออกกลางอีกด้วย, ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองทะเลทรายก็เริ่มปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตที่นั่นแล้วด้วย
ซึ่งเรื่องนี้ทำให้อู๋ฮ่าวเหรินเข้าใจได้ว่าการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดนั้นสามารถเป็นที่ยอมรับของมนุษยชาติได้
จี้ก็พูดขึ้นมาว่า "จะให้ส่งยานรบขนาดเล็กไปโจมตีคนพวกนี้มั๊ยคะ?"
"ไม่ต้องหรอก, ตราบเท่าที่คนพวกนี้ไม่ได้ไปฆ่าคน ก็ร่วมมือกับพวกเขาหน่อยละกัน, ปล่อยให้พวกเขาทำลายหุ่นยนต์ไป และรอดูว่าพวกเขาต้องการจะทำอะไร"
อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกสนใจ, เขารู้สึกว่าคนพวกนี้น่าสนใจมากและอยากจะรู้ว่าคนพวกนี้ลอบโจมตีหุ่นยนต์ในตะวันออกกลางไปทำไม
ขณะที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่, การลอบโจมตีก็ได้เริ่มเปิดฉากขึ้น, มองดูคนที่ถูกฝึกมาอย่างดีพวกนี้ ซึ่งทุกคนล้วนใช้ปืนพลังงาน, อู๋ฮ่าวเหรินก็รู้สึกประหลาดใจและชิงชังที่โลกมีเทคโนโลยีนี้
ถึงแม้ว่าอาวุธพลังงานพวกนี้จะถูกผลิตขึ้นมาหลังจากที่เขาได้เผยแพร่เทคโนโลยีและความรู้ออกไปก็จริง, แต่ทว่าจากมุมมองของสถานการณ์ของอาวุธเหล่านี้, พวกเขาควรจะที่จะวิจัยด้านอื่นๆที่จำเป็นก่อน, ไม่ใช่ขาดบางเทคโนโลยีไปเช่นนี้
0 ความคิดเห็น