CF:บทที่ 486 การเปลี่ยนแปลงของหลิง เหมิงเสวี่ย

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 486 การเปลี่ยนแปลงของหลิง เหมิงเสวี่ย


เมื่อเห็นยานขนส่งลอยตัวขึ้นได้นั้น อู๋ ฮ่าวเหรินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากความสำเร็จของยานขนส่งลำแรก การผลิตยานขนส่งลำถัดไปนั้นง่ายก็ขึ้นมาก


อู๋ ฮ่าวเหรินขับรถจากห้องทดลองตรงไปที่บ้านของเขา


เขาอยู่ในห้องทดลองมาสามวันสามคืน แน่นอนมีหลายสิ่งเกิดขึ้นข้างนอก


"ฮ่าวเหริน กลับมาแล้วหรอ!"


หลิง เหมิงเสวี่ยได้ยินว่าอู๋ ฮ่าวเหรินกลับมาแล้ว เธอก็รีบวิ่งออกมาจากห้อง แล้วเธอก็มายืนรอที่ประตูเพื่อมองอู๋ ฮ่าวเหริน เธอยิ้มตอนรับเหมือนเป็นลูกสะใภ้ใหม่


"แม่ย้ายเข้ามาอยู่แล้วเหรอ?"


"ใช่แล้ว พ่อและลุงของลูกก็ไปเดินสำรวจเมืองข้างบนทุกวันเลย"


อู๋ ฮ่าวเหรินยิ้ม ผู้คนที่เข้ามาในเมืองใหม่มักจะอยากรู้อยากเห็นสิ่งของจากเทคโนโลยีใหม่ในเมืองด้านบนกัน


อย่างไรก็ตามเมื่อผ่านไปสักพัก ผู้สูงอายุก็ชอบที่จะอาศัยอยู่ในเมืองสีเขียวด้านล่างมากกว่า


"ไปหาเหมิงเสวี่ยเถอะ ผู้หญิงคนนั้นพูดถึงลูกทุกวันเลยนะ"


อู๋ ฮ่าวเหรินเดินไปหาเหมิงเสวี่ยและพาเธอเข้าไปในห้อง


"ทำไมเธอถึงอยู่บ้านไม่ใช่โรงเรียนล่ะ?"


เมื่อเห็นสีหน้าของหลิง เหมิงเสวี่ยเปลี่ยนไปอู๋ ฮ่าวเหรินก็รู้ว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่


หลิง เหมิงเสวี่ยเงยหน้าขึ้นและพูดอย่างกังวล"ฮ่าวเหริน ช่วงนี้จู่ ๆ ก็มีเสียงก็ดังขึ้นในหัวของฉัน"


"เดี๋ยวนะ เธอบอกว่ามีเสียงอยู่ในหัวงั้นรึ?" อู๋ ฮ่าวเหรินถามอย่างจริงจัง


“เสียงนั่นทำให้ฉันรู้สึกเหมือนหลุดจากโลกแล้วฉันก็ฝันแปลก ๆ มากมายในตอนกลางคืน แล้วก็มีอะไรแปลก ๆ ด้วย"


เขาไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น อาการของหลิง เหมิงเสวี่ยเกิดจากการที่หลิง หยิ่งหายไป เขาคิดว่าผ่านไปนานขนาดนั้นก็ไม่น่ามีอะไรเหลือแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงจนกระทั่งตอนนี้


"เล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับฝันหน่อยสิ"


จากสิ่งที่หลิง เหมิงเสวี่ยเล่ามาทำให้อู๋ ฮ่าวเหรินหน้าเสีย เขาไม่คิดว่ามันจะเลวร้ายขนาดนี้


นี่คืออาการของหลิง เหมิงเสวี่ย


มันเป็นแบบนี้เมื่อนานมาแล้ว แต่ในตอนนั้นมันส่งผลกระทบต่อเธอเพียงเล็กน้อย แต่ตอนนี้มันมีผลมากขึ้นเรื่อย ๆ


"จี้ค้นหาข้อมูลดูว่ามีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้รึเปล่า"


อู๋ ฮ่าวเหรินลูบหัวของหลิง เหมิงเสวี่ยโอบเธอไว้ในอ้อมแขนแล้วปลอบใจเธอว่า "ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวลสามีของเธอแข็งแกร่งมากนะ เราจะไม่ทำให้เธอเจอเรื่องร้าย ๆ หรอก"


หลิง เหมิงเสวี่ยนอนอยู่ในอ้อมแขนของอู๋ ฮ่าวเหรินราวกับลูกแมว ความกังวลบนใบหน้าของเธอก็หายไป


"มันไม่อยู่ในฐานข้อมูล แต่ฉันพบข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับมัน"


"แสดงให้ฉันดูหน่อย"


อู๋ ฮ่าวเหรินดูข้อมูลที่ส่งมาจากจี้ มันคือการแบ่งแยกบุคลิกภาพ หรือที่เรียกว่าการแบ่งวิญญาณ ซึ่งเป็นอาการป่วยทางจิตที่รักษายากที่สุด


อย่างไรก็ตาม อาการของหลิง เหมิงเสวี่ยนั้นแตกต่างจากการแบ่งวิญญาณ มันไม่มีบุคลิกที่สองในหัวของเธอ มีเพียงภาพแปลก ๆ เท่านั้น


ภาพเหล่านั้นมาจากหลิง หยิ่ง ตอนนี้สามารถมั่นใจได้เลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในสมัยนั้นเป็นความจริง หลิง หยิ่งก็น่าจะเป็นร่างวิญญาณที่แยกออกมาจากหลิง เหมิงเสวี่ย


เดิมทีอะไรแบบนี้ถ้าเกิดขึ้น ผู้ป่วยก็จะเสียชีวิต ที่หลิง เหมิงเสวี่ยรอดอยู่ได้นั้นนับว่าเป็นปาฏิหาริย์


ตอนนี้หลิง เหมิงเสวี่ยฟื้นตัวแล้ว นั่นก็หมายความว่าหลิง หยิ่งได้หายไปอย่างสมบูรณ์ ทว่าสิ่งที่ทำให้อู๋ ฮ่าวเหรินสงสัยก็คือ ถ้าหลิง หยิ่งหายไปแล้วนั้น หลิง เหมิงเสวี่ยทำไมยังไม่หาย


ทันใดนั้นเขาคิดถึงความเป็นไปได้ ร่างกายก็สั่นไปทั้งตัว ถ้ามันเป็นจริงมันจะเรื่องน่ากลัวมาก


เป็นไปได้จริงหรือที่อารยธรรมนั้นจะทำได้? จู่ ๆ พวกเขาก็หายไปจากอนาคตซึ่งแปลกมาก ยิ่งกว่านั้นสิ่งมีชีวิตของเขตดาวนั้นทั้งหมดก็หายไปซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่เกิดกับเทพสงคราม


หากเป็นจริงก็เป็นไปได้ว่ามนุษยชาติจะเผชิญกับวิกฤติครั้งใหญ่


"เป็นอะไรเหรอฮ่าวเหริน? อาการป่วยของฉันรักษาไม่ได้เหรอ?"


อู๋ ฮ่าวเหรินตอบด้วยรอยยิ้ม "เปล่าหรอก โรคของเธอไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษามันจะดีขึ้นเองในภายหลัง ฝันที่เธอเห็นก็เหมือนการดูหนัง ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม"


ตอนนี้อู๋ อ่าวเหรินอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเหตุการณ์ตอนนั้น บางทีอาจจะต้องไปที่นั่นเท่านั้นถึงจะหาคำตอบที่เขาต้องการได้


ดูเหมือนว่าจำเป็นต้องเข้าระบบซองแดงเพื่อที่จะสามารถตามหาเทพสงครามได้และจะได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในสมัยนั้น


หากเป็นเช่นนั้นเขาก็จะต้องเร่งการสร้างกองกำลังของโลกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงครามที่จะขึ้นอย่างกระทันหัน


ตอนนี้หลิง เหมิงเสวี่ยนอนหลับอยู่ในอ้อมแขนของเขาพร้อมยิ้มหวานบนใบหน้าของเธอ อู๋ ฮ่าวเหรินคิดจะคุยกับคนในกลุ่มซองแดงตอนกลางคืน


ในขณะที่ อู๋ ฮ่าวเหรินคิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ในอวกาศที่ห่างไกล ณ ดินแดนของพันธมิตรจักรวาล กองยานขนาดใหญ่ก็ปรากฏตัวขึ้นในอวกาศอย่างกระทันหัน


กองยานนี้ดูไม่ดีมากนัก ยานรบบางลำดูเหมือนจะมีร่องรอยของความเสียหายที่ชัดเจน พวกเขาไม่ได้หยุดอยู่ที่นี่ ไม่ช้าก็หายไปในอวกาศอีกครั้ง


ไม่นานหลังจากการหายตัวไปของกองยานนั้น ยานรบหลายลำปรากฏขึ้นที่นี่ดำเนินการตรวจสอบโดยรอบ หลังจากไม่พบอะไรยานรบก็เริ่มค้นหาดวงดาวรอบ ๆ


ภายในพันธมิตรจักรวาลกลุ่มคนกำลังศึกษาภาพบนหน้าจอขนาดใหญ่


"ท่านแครริส กองยานอวกาศได้หายไปและเราไม่พบร่องรอยใด ๆ ของพวกเขาเลย"


"ฉันเข้าใจแล้ว ไปได้"


ถ้าอู๋ ฮ่าวเหรินอยู่ที่นี่เขาจะเป็นคนของอารยธรรมชั้นสูงในอนาคต ดูเหมือนว่าในยุคนี้อารยธรรมมนุษย์นั้นมีตำแหน่งสูงมากในพันธมิตรจักรวาล


และในห้องนี้มีสิ่งมีชีวิตที่ดูประหลาดหกตัว ซึ่งเป็นผู้ปกครองในปัจจุบันของพันธมิตรจักรวาล


"มันหายไปแล้ว ดูเหมือนว่าเทคโนโลยีของพวกเขานั้นดีกว่าที่เราคิดไว้ ต้องหาพวกเขาให้พบไม่งั้นพวกเขาอาจคุกคามเราได้"


"ฉันเห็นด้วย พวกเขาน่าจะเชี่ยวชาญเทคโนโลยีรูหนอนแล้ว หากเราหาพวกเขาได้ เราเชื่อว่าเราจะมีความก้าวหน้าในเทคโนโลยีรูหนอนแน่"


พันธมิตรจักรวาลเริ่มตรวจสอบกองยานประหลาดที่บุกเข้ามาในอวกาศอย่างกะทันหัน และหวังว่าจะพบที่อยู่ของพวกเขา


เห็นได้ชัดว่าประวัติศาสตร์เปลี่ยนไปแล้ว อารยธรรมที่เคยโจมตีโลกได้เข้าสู่จักรวาลก่อนเวลา


อย่างไรก็ตามโชคของพวกเขาก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาบุกเข้าไปในเขตของพันธมิตรจักวาลโดยตรงและต่อสู้กับกองกำลังลาดตระเวนของพันธมิตรจักรวาล


และในการต่อสู้ครั้งนี้พวกเขาเกือบถูกทำลายโดยขบวนพันธมิตรจักรวาล


ในที่สุดพวกเขาก็ต้องใช้เทคโนโลยีที่เพิ่งได้มาใหม่กระโดดข้ามอวกาศเพื่อหลีกเลี่ยงการติดตามของหน่วยรักษาความปลอดภัยของพันธมิตรจักรวาล


อู๋ ฮ่าวเหรินไม่รู้เรื่องนี้ ถ้าเขารู้จะรู้สึกขอบคุณมาก หากคนเหล่านี้ไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงจนพวกเขาปะทะกับพันธมิตรจักรวาล


แล้วบางทีตอนนี้โลกก็อาจถูกโจมตีโดยพวกนี้ไปแล้ว


แน่นอนว่าเวลาของอู๋ ฮ่าวเหรินนั้นไม่มากนัก หลังจากที่กองยานนี้ได้ตั้งหลักในจักรวาลนี้แล้ว มันจะหาทางเข้าสู่กาแลคซีและกำจัดมนุษย์อย่างแน่นอน


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น