CF:บทที่ 406 เตรียมการพัฒนาเส้นทางสายดวงดาว
หลังจากออกมาจากระบบซองแดงแล้วนั้น อู๋ ฮ่าวเหรินก็ถอนหายใจพลางกลัวว่าตนจะได้เหรียญพลังงานจากกลุ่มนี้ยากขึ้น อาจจะทำได้แค่มองของดีๆที่อยู่ในนั้น
อู๋ ฮ่าวเหรินอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในระบบซองแดงให้กับจี้ก่อนจะขอให้ช่วยวิเคราะห์เรื่องนี้
“ถ้าเป็นแบบนี้ คุณก็ได้เหรียญพลังงานมาง่ายๆ”
“ง่ายงั้นหรือ”
อู๋ ฮ่าวเหริน รู้สึกงงงัน มันจะง่ายได้ยังไง ของโบราณก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ลำบากมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ
จี้ฉายแผนที่การกระจายตัวของดวงดาวในกาแล็กซี่รวมถึงข้อมูลของดาวแต่ละดวงที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าอู๋ ฮ่าวเหริน
เมื่อได้เห็นข้อมูลดังกล่าวในตอนแรก อู๋ ฮ่าวเหรินถึงกับงงงัน แต่ต่อมาก็เข้าใจในที่สุด
“ทรัพยากร ดาวเคราะห์พวกนี้มีทรัพยากรด้วยแบบนี้ก็เยี่ยมเลย แต่พวกเราไม่สามารถจะออกไปเอามันมาได้ ถึงฉันจะมียานอวกาศ แต่ถ้าไม่มีพลังงานฉันก็ออกไปจากระบบสุริยะนี้ไม่ได้”
ในขณะที่มองทรัพยากรที่มีการทำเครื่องหมายไว้บนดวงดาวพวกนั้น อู๋ ฮ่าวเหรินก็รู้สึกโลภขึ้นมา ถ้าเขานำทรัพยากรจากดาวเคราะห์เหล่านั้นมาได้ล่ะก็ เขาก็ไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่จะเอาของทุกอย่างในระบบซองแดงอีกแล้ว
ตราบใดที่ยังมีการผลิตอุปกรณ์อยู่ ทุกอย่างก็จะนำมาวิจัยได้หมด แม้เขาจะต้องใช้วัสดุบางตัวจากอารยธรรมบางอย่างในอนาคตเพื่อแลกเปลี่ยนกับเทคโนโลยีชั้นสูงอันหลากหลายก็ตาม
คุณก็รู้ เทคโนโลยีขั้นสูงบางตัวก็ได้รับการจัดประเภทเป็นความลับ สิ่งที่เขาได้มาก็เป็นแค่เทคโนโลยีบางตัวที่ถูกกำจัดไปแล้ว
จี้ทำเครื่องหมายบนดาวดวงหนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้น “ถ้าคุณได้ไปถึงจุดสูงสุดของดาวเคราะห์ล่ะก็ ปัญหาทุกๆอย่างของคุณจะได้รับการแก้ไข เพราะนี่คือดาวเคราะห์พลังงาน หินพลังงานที่อยู่บนนี้น่าจะพอให้คุณสำรวจกาแล็กซี่ได้”
“นี่เป็นวิธีที่จะเข้าไปในดาวเคราะห์ สิ่งที่คุณต้องทำก็คือต้องไปถึงจุดตรงนี้ และกระโดดเข้าไปในทางเชื่อมต่อรูหนอนตรงนี้ แล้วคุณก็จะเข้าไปที่ดาวเคราะห์นี้ได้เลยหลังจากประมาณสองสัปดาห์ที่คุณแล่นเข้าไป”
อู๋ ฮ่าวเหรินดูเส้นทางดวงดาวบนแผนที่ ดาวเคราะห์ดวงนี้ห่างจากโลกไปถึงแปดปีแสง บางดวงก็อยู่ห่างไปไกลมาก
ยานอวกาศลำเล็กๆที่เขามีในตอนนี้ไม่เหมาะสำหรับการสำรวจอวกาศที่มีระยะทางยาวเช่นนี้เลย และถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ก็คงจะเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่
“ยังมีดาวดวงอื่นที่อยู่ใกล้กันกว่านี้และให้พลังงานอยู่บ้างไหม เราจะต้องไปขุดเอาทรัพยากรบนดาวรอบๆระบบสุริยะบนนั้นเป็นที่แรก”
“ดวงนี้ค่ะ แต่ว่า สำหรับพลังงานแล้วเนี่ย ดาวดวงนี้มีความจุไม่เพียงพอที่จะใช้ขุดเอาทรัพยากรรอบๆระบบสุริยะ
จากดวงดาวที่กระจายตัวอยู่บนแผนที่ ยิ่งดวงดาวอยู่ใกล้ศูนย์กลางของกาแล็กซี่เท่าไหร่ ก็ยิ่งมีพลังงานมากขึ้นเท่านั้น นี่เป็นการบีบอัดพลังงานที่เกิดจากแรงโน้มถ่วงของกาแล็กซีและก่อให้เกิดคริสตัลพลังงานหรือที่เรียกว่าหินพลังงานค่ะ”
“แค่ดวงนี้ดวงเดียว เช็คให้แน่ทีซิว่ายานอวกาศจะไปถึงที่นั่นได้ไหม เอาล่ะ เดี๋ยวฉันจะไปเอาชุดหินพลังงานออกมาจากระบบซองแดงและจะให้หุ่นยนต์ไปขุดจากที่นั่นมา”
อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ได้เตรียมตัวจะมาเสี่ยงกับเรื่องแบบนี้ เพราะถ้าเขาติดอยู่บนดาวเคราะห์นั่นล่ะก็ คงกลับมาได้ยาก
ในตอนนี้ สถานการณ์ของซองแดงนั้นมีความยุ่งยากในการได้ยานอวกาศมากกว่าเดิม และดูเหมือนว่าอาจจะต้องใช้เวลาอยู่บ้างที่จะนำยานอวกาศออกมา
“แล้วก็ คุณควรจะหาทางเอาดาวเทียมสื่อสารระหว่างดวงดาวออกมาจากระบบซองแดงด้วย ไม่อย่างงั้น ถ้ายานอวกาศพุ่งออกไปจากโลก การสื่อสารกับยานอวกาศอาจมีปัญหาได้”
“ดาวเทียมสินะ เดี๋ยวฉันจะไปติดต่อคุณเรดาร์”
อู๋ ฮ่าวเหรินถึงกับพูดอะไรไม่ออก เพราะดูเหมือนว่าคุณเรดาร์จะไม่ปรากฏตัวให้เห็นเป็นเวลานานแล้ว เขาไม่รู้เลยจริงๆว่าจะติดต่อได้ไหม
เมื่อเข้าไปในระบบซองแดงแล้วนั้น ผู้คนก็ยังคงคุยถึงเรื่องสงครามกันอยู่ เห็นได้ชัดว่าสงครามมีแนวโน้มแผ่ขยายไปทั่ว และดูเหมือนว่าสหพันรัฐมนุษย์จะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับสงครามเป็นเวลานานแล้วด้วย
“ถ้าใครติดต่อมิสเตอร์เรดาร์ได้ ฉันอยากจะได้ดาวเทียมสื่อสารที่ไม่ใช้แล้วระหว่างดาวจากเขา”
“คุณเรดาร์ไม่ได้เข้ามาในนี้นานแล้ว แต่ยังไงซะ ในกรณีแบบนี้ ชายคนนั้นจะยังอยู่ในอารยธรรมพารอสไหมนะ” ขุดแร่ว่าขึ้น
ชายชุดเกราะว่าต่อ “เดี๋ยวฉันจะถามให้นายนะ ทางเดียวที่จะตามหาชายคนนี้ได้ก็ต้องไปตามใน
กองทัพสหพันธรัฐแล้วตอนนี้”
ในตอนนี้เอง ก็มีใครคนหนึ่งพูดขึ้น “นายต้องการดาวเทียมสื่อสารระหว่างดาว ฉันมีดาวเทียมตัวที่ทิ้งๆไปแล้วบ้างอยู่นะ”
“นายมีหรือนี่ แล้วไกลแค่ไหนกว่านายจะถึง”
“ก็ต้องเห็นก่อนว่านายจะเอาแบบไหนบ้าง ของพวกนี้เป็นเครื่องมือทางทหาร ไม่มีปัญหาระหว่างสองกาแล็คซีด้วย และดูเหมือนว่าคนในกองทัพจะยังไม่พร้อมรีไซเคิล ไว้เดี๋ยวฉันจะถามให้นายทีหลังนะ”
หลังจากนั้น คนดังกล่าวก็พูดขึ้นอีก “ไม่มีปัญหาแล้ว เดี๋ยวฉันส่งของไปให้”
“ขอบคุณมาก นี่ของนายนะ”
อู๋ ฮ่าวเหรินส่งชิ้นหยกไปให้ แม้มูลค่าของของโบราณในตอนนี้จะมีราคาต่ำ แต่ตัวหยกเองนั้นมีมูลค่าสูงในตัวอยู่แล้ว โดยเฉพาะหยกโบราณที่เอามาใส่และเปลี่ยนอยู่บ่อยๆ
“ขอบคุณนะ ของดีเลยนะเนี่ย”
อู๋ ฮ่าวเหริน ส่งหยกโบราณแปดชิ้นที่เขาเก็บไว้มาเป็นเวลานาน เขาไม่ได้จะส่งพวกหยกในฐานะซองแดง เพราะเขารู้ดีว่าหยกโบราณแบบนี้มีน้อยลงทุกทีๆ
“เปลี่ยนเหรียญพลังงานบางส่วน ฉันจะไม่ส่งซองแดง ตอนนี้ของโบราณไม่มีค่า ฉันจึงใช้แค่ของพวกนี้เปลี่ยนเป็นเหรียญพลังงานไปก่อน”
“บ้าจริง นี่นายซ่อนของดีไว้นี่นา นี่ไงล่ะ ตอนนี้ฉันมีเหรียญพลังงานเยอะแยะเลย”
สิ่งนี้ทำให้ อู๋ ฮ่าวเหรินประหลาดใจ เจ้าแห่งการบินส่งเหรียญพลังงานมาให้เขาตั้ง 20 ล้านเหรียญ
“ขอบคุณนะ ส่วนตอนนี้ ฉันกำลังจะบุกเบิกดาวและจะส่งของดีไปให้ถ้าฉันเจอทรัพยากร ฉันได้หินพลังงานจากพ่อค้ามา 10 ล้านเหรียญพลังงาน ไม่อย่างงั้นยานอวกาศลำเล็กๆของฉันต้องบินไปไม่ถึงดาวแน่ๆ”
“จะบ้าหรอ นายจะไปไหน สงครามของกลุ่มพันธมิตรจักรวาลเริ่มต้นขึ้นแล้วนะ นายไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้เลยหรือไง” คนจัดส่งพลังงานส่งซองแดงออกไป 10 ล้านเหรียญพลังงาน
“ฉันไม่ได้อะไรกับเรื่องนี้เลย ถ้าฉันพัฒนาเทคโนโลยียานอวกาศได้ในอนาคตล่ะก็ ฉันอาจจะเอาของหายากมาให้นายได้ก็ได้นะ”
“จะไปพัฒนาก็ทำซะให้ไว มีเทคโนโลยีอะไรที่เรายังขาดอยู่บ้าง เดี๋ยวพวกเราจะเอาให้นายไป ดีกว่าไปหาทรัพยากรหายากตั้งเยอะ บางทีสงครามนี้อาจจะได้ใช้จริงๆก็ได้ เพราะฉันรู้สึกว่าศึกครั้งนี้มันไม่ง่ายเลย อาจจะไม่จบในช่วงสั้นๆ” สุดหล่อโคตรเจ๋งว่าขึ้น
“เพราะหลักๆแล้ว ฉันจะต้องผลิตเรือขนส่งข้ามดวงดาวแบบเต็มรูปแบบด้วยตัวฉันเอง แต่ตอนนี้ดาวเคราะห์ทุกดวงล้วนมีแต่เทคโนโลยีล้าหลังที่แม้แต่จะผลิตรถลอยฟ้ายังทำไม่ได้เลย”
“เฮ้ นายจะไปลงดาวไหน เดี๋ยวฉันเอาอุปกรณ์มาให้”
ไม่นาน สุดหล่อโคตรเจ๋งก็ส่งซองแดงมามากกว่า 20 ฉบับ จนอู๋ ฮ่าวเหรินเองถึงกับอึ้งไปก่อนจะคว้าซองแดงพวกนั้นมา
ทุกฉบับล้วนเป็นหุ่นยนต์ด้านอุตสาหกรรมที่ใช้ในกระบวนการผลิต นี่ล่ะสายการผลิตที่ว่า
“นี่เป็นสายการผลิตยานอวกาศที่ฉันได้มาก่อนหน้านี้ แต่มันก็ใช้แค่ผลิตของเล็กๆน้อยๆ ถ้าจะเอาแบบที่นายพูด ก็น่าจะเพียงพอแล้วล่ะ แต่ถ้าเอาไปผลิตยานอวกาศแบบล้ำๆแล้วถ้าเอาไปใช้ในสงครามล่ะก็ ฉันจะต้องรื้อมันให้นายเดี๋ยวนั้นเลย”
อู๋ ฮ่าวเหรินก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ของดีอะไร และนี่ทำให้เขาคิดว่าถ้าเขาเผยตัวตนออกไปล่ะ ก็คงจะได้รับความช่วยเหลือมากกว่านี้แน่ๆ
แต่พอคิดถึงตรงนี้ เขาก็ล้มเลิกความคิดที่อาจเป็นอันตรายแบบนั้นไป เพราะถ้ามีปัญหา คนที่แย่ก็คือเขาเต็มๆ
ในตอนนั้น คุณสามารถเอาภาพดาวไปแสดงให้พวกเขาดูก็ยังได้
ตราบใดที่คุณมั่นใจว่าสามารถที่จะพัฒนาทรัพยากรและเชื่อว่าพวกเขาต้องการเอาเทคโนโลยีในขณะนั้น ก็จะไม่มีใครมานั่งทุกข์ทรมาน
หลังจากพูดคุยกันอีกสักพัก อู๋ ฮ่าวเหรินก็ผละออกมา ดูเหมือนว่าเขาจะต้องหายตัวไปอีกครั้งเป็นเวลาสองสามวัน
0 ความคิดเห็น