CF:บทที่ 401 การโจรกรรมในพิพิธภัณฑ์

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 401 การโจรกรรมในพิพิธภัณฑ์

พิพิธภัณฑ์อังกฤษได้กั้นพื้นที่เอาไว้ทำให้คนที่เข้าเยี่ยมชมต่างรู้สึกงุนงง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณโดยรอบพิพิธภัณฑ์ที่มีตำรวจอยู่เต็มไปหมด

“เกิดอะไรขึ้น ดูเหมือนจะเป็นปัญหาใหญ่เลยนะ”

“ก็ยังไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่น่าจะมีอะไรบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับวัตถุโบราณภายใน ก็ต้องตามดูสถานการณ์กันต่อไป เพราะมันค่อนข้างตึงเครียดอยู่”

“แม้แต่ทางกองทัพยังต้องเคลื่อนไหว และฉันก็ยังได้ยินมาอีกว่าทั้งเมืองโดนปิดหมดและมีการตรวจสอบยานพาหนะทุกคัน”

ในขณะที่นักท่องเที่ยวตกอยู่ในอาการมึนงงอยู่นั้นเอง รถยนต์มากมายก็ขับเข้ามาเพื่อเข้าพบราชวงศ์อังกฤษ

ในเวลานี้ คนกลุ่มดังกล่าวต่างดูเร่งรีบ ใบหน้าเครียดเคร่งและต่างมุ่งไปที่พิพิธภัณฑ์

ภายในพิพิธภัณฑ์นั้น นักสืบหลายคนกำลังตรวจหาร่องรอย

ผู้จัดการบางคนที่พัวพันกับอู๋ ฮ่าวเหรินนั้นก็ถูกจับกุมในข้อหาขโมยของสะสมจากพิพิธภัณฑ์เพื่อนำไปขาย

เป็นความโชคร้ายของพวกเขา เพราะของสะสมที่พวกเขาขโมยไปไม่มีโอกาสได้เอาออกมาให้เห็นหรือให้พบได้อีก

เพราะเหตุที่เกิดขึ้น ของสองในสามจากห้องเก็บของถูกขโมยไป คนทุกคนจึงต้องได้รับการตรวจสอบ

เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นแปลกเกินไป วัตถุโบราณหลายชิ้นถูกขโมยไปโดยที่คนในพิพิธภัณฑ์ไม่ทันได้สังเกต

ยิ่งไปกว่านั้น จากการสอบถามคนดูแลห้องเก็บของเมื่อครั้งก่อน ตอนที่พวกเขาตรวจสอบ ของสะสมดังกล่าวก็ยังอยู่

ครั้งล่าสุดที่พวกเขาตรวจสอบคือเมื่อสามวันที่แล้ว เป็นสามวันที่แล้วที่พวกนั้นมาขโมย ของพวกนั้นมีมากกว่าสามล้านชิ้น เมื่อมาพบอีกทีก็สายเกินไปเสียแล้ว

วัตถุโบราณในพิพิธภัณฑ์ได้หายไปจริงๆ แม้กระทั่งอันที่เก็บอยู่ในห้องลับก็ยังถูกขโมย สิ่งนี้จึงทำให้เจ้าหน้าที่สงสัยว่าจะเป็นฝีมือของคนที่รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี

“การตรวจสอบของเราในตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าและของโบราณดูเหมือนจะหายไปเองพะยะค่ะ เจ้าชายวิลเลี่ยม”

สีพระพักตร์ของเจ้าชายวิลเลียมแย่ลงเล็กน้อย “มีของสะสมหายไปกี่ชิ้นกันล่ะ”

 “ยังระบุตัวเลขที่แน่ชัดไม่ได้พะยะค่ะ ฝ่าบาท แต่ที่ประเมินแล้ว มีมากกว่า 3 ล้านชิ้นเลยทีเดียว และของโบราณซึ่งเป็นสมบัติทั้งสามของสหราชอาณาจักรที่ซ่อนอยู่ในห้องลับก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยรวมถึงของอื่นๆก็ถูกขโมยไปเหมือนกัน”

เมื่อทรงได้รับฟังเช่นนั้น สีพระพักตร์ของพระองค์ก็ยิ่งแย่ลงอีก

เราไม่เชื่อหรอก

“ค้นหาให้ทั่วทั้งเมือง ให้แน่ใจแล้วเอาของทั้งหมดกลับมา”

“ทางเราได้ส่งกองทหารไปประจำยังจุดประจำการต่างๆ พร้อมกับตรวจสอบการจราจรบนถนนสายหลัก นอกจากนี้ เรายังได้ส่งตัวเจ้าหน้าที่จากหน่วยพิเศษออกไปตรวจสอบผู้ต้องสงสัยบางรายแล้วพะยะค่ะ”

เจ้าชายวิลเลียมเสด็จไปยังห้องเก็บของที่ว่างเปล่า ไม่เข้าใจว่าทำไมของสะสมมากมายตั้งสามล้านชิ้นจะหายไปได้แบบนี้โดยไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย

 

นอกจากนี้ จากสัญญาณเตือนที่ดัง โจรควรจะอยู่ในห้องลับนั้น แต่เมื่อกลไกในห้องลับทำงาน พวกเขากลับจับตัวโจรไว้ไม่ได้ ช่างน่าแปลก

ตอนเที่ยง อู๋ ฮ่าวเหรินอยู่ที่ริมทะเล เขาใช้โต๊ะที่ทำจากไม้จันทน์ซึ่งเขาวางแผงขายของอันงดงามสไตล์เปอร์เซียไปทั่วโต๊ะและเอาไว้ใช้วางอาหารอร่อยๆ

ได้สัมผัสลมทะเลที่พัดมา จิบไวน์ ดูข่าว รอคอยการมาของค่ำคืนอย่างสบายอารมณ์

“ฮ่าๆ ที่นั่นมีคนออกตามหาอยู่เต็มไปหมด แม้แต่กองทัพก็เอากะเขาด้วย คงจะสงสัยกันอยู่แน่ๆว่าของโบราณโดนขโมยไปได้ยังไง”

“นี่อาจจะกลายเป็นเรื่องลึกลับเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่องก็ได้”

เรื่องนี้ออกทุกช่องทุกสื่อ พวกเขารู้ดีว่าการที่ของในพิพิธภัณฑ์อังกฤษถูกขโมยไปนั้นร้ายแรงแค่ไหน และเรื่องก็ยังเป็นปริศนา

จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครเปิดเผยข้อมูลที่แน่ชัดของการขโมยนี้ได้ และถือว่าเป็นประเด็นร้ายแรงยิ่ง

แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะปกปิดไว้ได้ตลอดคงเป็นไปไม่ได้ มีคนอีกมากมายที่รู้เรื่องนี้และปล่อยข่าวให้รั่วไหลออกมา

อย่างเช่น ช่องบีบีซี เดอะไทมส์ รอยเตอส์และสื่ออื่นๆเองก็ต่างถามถึงเรื่องนี้ ด้วยความสามารถสุดเจ๋งของพวกเขา ผมเชื่อว่าอีกไม่นานหรอก เรื่องนี้จะถูกเปิดเผย

เรื่องนี้เผยแพร่ไปทั่วสหราชอาณาจักร แต่ทว่าสื่อนานาประเทศกำลังดูเรื่องเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชันของประเทศจีนอยู่ จึงไม่มีใครให้ความสนใจกับเรื่องนี้เท่าไหร่

แม้จะมีคนโพสต์เรื่องนี้ลงบนอินเทอร์เน็ต แต่ก็โดนโพสต์ของเรื่องเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชันทับไป

ในตอนเย็น อู๋ ฮ่าวเหรินจึงบินกลับไปที่เกาะ

จากนั้น เขาจึงเริ่มเอาของออกมาจากช่องซองแดง ของทุกอย่างล้วนใส่ไว้ในช่องดังกล่าว และของบางอย่างเองก็กินพลังงานอยู่มาก

กล่องแต่ละกล่องถูกลำเลียงไปยังห้องเก็บของที่ฐานลับของหุ่นยนต์ จี้จะเป็นคนจัดการกับของพวกนี้เอง

ส่วนของที่เสียหายได้ง่าย เขาจะไม่นำออกจากช่องซองแดง ของที่เขานำออกมาในตอนนี้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นหิน หยก ฯลฯ ซึ่งไม่พังง่ายๆ

ของพวกนี้ทั้งหมดเกือบจะเติมในห้องเก็บของที่ฐานลับได้เต็ม ทั้งยังมีพื้นที่อยู่อีกบางส่วน

เพราะการเก็บของพวกนี้ไว้ที่นี่ย่อมเป็นไปไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากอู๋ ฮ่าวเหรินกลับมาถึง เขาต้องหาของโบราณไร้ค่าบางชิ้น

ของพวกนี้จะต้องดูเก่าแก่ แต่ของพวกนี้ส่วนใหญ่อาจจะไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเหรียญพลังงานได้มากนัก

อย่างเช่น รูปหินสลักเป็นของที่มีค่าน้อยที่สุด ในเวลานั้น อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ได้ต้องการทิ้งของพวกนั้นให้กับชาวอังกฤษ เขาจึงไปเอาของพวกนั้นมาผ่านช่องเก็บของแทน

มีของเจ๋งๆอีกมากมายที่ทำมาจากเหล็กซึ่งอาจจะไม่มีค่าเมื่อปล่อยให้อยู่เดี่ยวๆในกองอัญมณี

นอกจากนี้ เพราะของโบราณมากมายที่ได้รับมาในตอนนี้มีมากเกินไป ถ้ามีซองแดงปล่อยออกมามาก ก็อาจมีแนวโน้มว่าค่าของของจะลดลงด้วย

อย่าลืมว่าที่นั่นยังมีสัญญาณของสงคราม ของโบราณเป็นสิ่งที่มีค่าน้อยที่สุดในยามสงคราม

 เมื่ออู๋ ฮ่าวเหรินพร้อมจะกลับไป เขาก็ได้อัพเกรดเป็นระดับหกก่อน ครั้งหนึ่งเคยมีการต่อสู้จริงเกิดขึ้นที่นั่น แต่กลับไม่มีใครถามถึงของโบราณที่อยู่ในมือของเขา

เมื่ออู๋ ฮ่าวเหรินกลับมาถึงจีน ข่าวเรื่องการโจรกรรมในพิพิธภัณฑ์อังกฤษยังหาอ่านได้อยู่ตามอินเทอร์เน็ต

ยิ่งไปกว่านั้น เสียงซุบซิบที่แพร่ออกไปก็เริ่มลามไปบนอินเทอร์เน็ต

“ของที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่พิพิธภัณฑ์อังกฤษโดนขโมยไปตั้งสามล้านชิ้นเป็นเรื่องจริงงั้นหรือ”

“เห็นแค่ว่ามีใครบางคนส่งต่อข่าวนี้มาเรื่อยๆ สื่อทางการของอังกฤษไม่ได้ปล่อยข้อมูลแบบนี้ออกมา แต่เรื่องการโจรกรรมในพิพิธภัณฑ์นั่นได้รับการยืนยันแล้ว”

“รู้สึกเหมือนเป็นข่าวลวงยังไงไม่รู้ ที่นั่นมีของโบราณมากกว่าสามล้านชิ้น ถ้านายอยากจะไปเอามันออกมา ความเจ็บปวดจะยิ่งกว่าการสังหารประธานาธิบดีของประเทศเสียอีก”

 “ข่าวนี้ไม่จริงเอามากๆ ความหมายของของที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมมากกว่าสามล้านชิ้นนั้นคืออะไร ถ้าจะขนได้ก็ต้องใส่รถบรรทุกขนาดใหญ่เป็นร้อยๆคัน ถ้าจะขโมยของจำนวนมากขนาดนี้ไปได้ล่ะก็ ก็แปลว่าคนที่ดูแลที่พิพิธภัณฑ์ต้องตาบอดกันหมด ส่วนคนที่คอยตรวจสอบต้องโง่สุดๆ”

“แต่ตอนนี้มันอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ บีบีซีเองก็รายงานเรื่องนี้ แล้วทางราชอาณาจักรเองก็เหยียบข่าวนี้จนมิดและให้คนคอยตรวจสอบเรื่องพวกนี้อยู่”

 “แปลกๆนะ ฉันได้ยินมาว่ามีคนเข้าไปในห้องเก็บของลับของพิพิธภัณฑ์ ทิ้งไว้แค่สมบัติสามชิ้น ส่วนของอื่นๆโดนขโมยเรียบ”

“จะให้บอกว่ามันถูกต้องไหม ของส่วนใหญ่นั่นก็ปล้นเอามาจากที่อื่นนั่นแหละ”

บางประเทศกลับรู้สึกพอใจเมื่อได้รู้เรื่องนี้ ไม่มีอีกแล้ว ของมรดกตกทอดทางวัฒนธรรมส่วนใหญ่ที่ถูกชาวอังกฤษชิงไป

ตอนนี้ ของที่ขโมยมานั้น ประเทศพวกนี้จึงได้โอกาสเอาของของวัฒนธรรมพวกตนกลับคืน ถ้าคุณได้ไปที่พิพิธภัณฑ์อังกฤษ ถ้าไม่เริ่มสงคราม ก็จงไปอังกฤษและเอามันกลับมาซะ

แต่ไม่ว่าอย่างไร ตราบใดที่ของอันเป็นมรดกนี้ยังมีอยู่ ชาวอังกฤษก็ไม่ต้องการที่จะนำพวกมันกลับไปอีก


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น