CF:บทที่ 357 การสร้างความนิยมของประวัติศาสตร์

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 357 การสร้างความนิยมของประวัติศาสตร์

 

ตาข่ายขนาดใหญ่ได้ถูกกางออก, และรอให้เรือกู้ซากลำนั้นลอยเข้ามาสู่ตาข่ายนั้น

 

แน่นอนว่า, มีประเทศอื่นๆที่ไม่ต้องการที่จะล้าหลัง, และต้องการที่จะโดดเข้าร่วมปฏิบัติการนี้ด้วย

 

ประเทศทางยุโรป, ต่างก็เฝ้าจับตาดูอเมริกา, และได้ส่งเรือรบมายังหมาสมุทรอินเดีย, ส่วนประเทศอินเดีย ฟิลิปปินส์, ออสเตรเลียและประเทศอื่นๆดูเหมือนที่จะมีความคิดแบบนี้เช่นกัน

 

แม้แต่ประเทศทางฝั่งแอฟริกาก็ยังได้ส่งเรือเล็กๆพังๆเข้ามาเสี่ยงโชคในครั้งนี้ด้วย, พวกเขาไม่ได้หวังที่จะจับตัวอู๋ฮ่าวเหรินได้, แต่พวกเขาเองก็ต้องการที่จะได้ส่วนแบ่งในเรื่องนี้ด้วยเท่านั้น

 

ส่วนโจรสลัดจริงๆในน่านน้ำนี้รู้สึกได้ว่าเป็นช่วงเวลาเลวร้ายเลยก็ว่าได้, มีเรือรบมากมายเข้ามาในน่านน้ำนี้, ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องหลบซ่อนตัวอยู่แต่ในรังและไม่กล้าที่จะโผล่หัวออกมา

 

นอนอยู่บนสะพานเดินเรือ มองดูทะเลสีคราม อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้พูดขึ้นมา "มีกี่ประเทศที่มาเข้าร่วมในครั้งนี้?"

 

"มี 8 ประเทศครับ, ที่แบ่งกำลังพลมาเสริมในครั้งนี้"

 

หม่าช่างจุนที่นั่งและมองมาที่อู๋ฮ่าวเหริน, เขาสงสัยว่าคนๆนี้ต้องการที่จะทำอะไรกันแน่

 

ไม่นานมานี้, เขาได้รับแจ้งให้แล่นเรือกลับ, เพราะเนื่องจากตอนนี้สถานการณ์สุ่มเสี่ยงมากเกินไป แต่ทว่าคำสั่งแล่นเรือกลับนั้นกลับถูกปฏิเสธโดยอู๋ฮ่าวเหริน

 

"หัวหน้าครับ, ตอนนี้พวกเรากำลังตกอยู่ในอันตราย, มีบางประเทศที่อยู่ในพื้นที่นี้ต้องการที่จะโจมตีพวกเรานะครับ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองมาที่กัปตันและรู้ดีว่าเขานั้นกำลังกังวลอะไรอยู่

 

"ไม่ต้องกังวลไปหรอก, พวกเรามาถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยแล้ว และก็มาลุยงานกู้ซากของเรากันเถอะ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปข้างใน, ทำไมคนพวกนั้นถึงอยากให้เขากลับกันนักนะ, ทำไมไม่จัดการพวกเขาให้ร่วงหมดแทนกันนะ, ให้พวกเขาได้รู้ว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง

 

หลายวันมานี้, จี้ได้รับข้อมูลบางอย่างมา ซึ่งทำให้หัวใจของเขาลุกเป็นไฟ

 

"จี้, ถ้าพวกเขากล้าที่จะเข้ามา, ก็จัดการจมเรือรบพวกเขาได้เลยนะ"

 

"รับทราบ"

 

นอนลงบนเตียงและเข้าไปในระบบซองแดง, อู๋ฮ่าวเหรินกำลังทำความเข้าใจเรื่องของแผนที่ดวงดาวของยุคอนาคตอยู่

 

ในช่วงที่ผ่านมานี้, เขาได้รวบรวมข้อมูลเป็นจำนวนมากมา, และได้ทำการตรวจสอบอย่างหยาบๆเรื่องของสถานการณ์บนโลกในยุคนั้น

 

"พ่อค้าของเก่า, มีหนังแบบเมื่อวานอีกมั๊ย? ถึงจะหน่อยเดียว แต่ก็เหมือนจะพูดถึงประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติเราล่ะ"

 

"ฉันไม่คิดเลยนะว่า,

จะมีประเทศมากมายอาศัยอยู่บนโลกใบเล็กๆแค่นั้น ในปัจจุบันครอบครัวฉันยังดูแลตั้งสองดวงดาวแน่ะ"

 

คนพวกนี้ไม่ได้สนเลยว่าเขาจะรู้สึกอย่างไรเมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้, ปกครองดวงดาวเลยงั้นเหรอ, ถ้าพวกคนที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ใหญ่ๆ ลองมาเทียบกับคนพวกนี้แล้ว, คงได้กระจอกงอกง่อยไปเลย

 

"ได้,ได้ เดี๋ยววันนี้ผมจะเอาหนังเทพนิยายมาให้ดูอีก"

 

พวกเขานั้นไม่รู้ประวัติศาสตร์กันมากเท่าไรนัก เป็นเพราะผลพวงของยุคมืด และประวัติศาสตร์ถูกบิดเบือนไป, ผลคือทำให้ของโบราณบางอย่างที่น่าจะมีค่าเหรียญพลังงานสูงกลายเป็นไม่มีค่าอะไรเลย

 

อู๋ฮ่าวเหรินเคยคิดที่จะหาวิธีเผยแพร่ประวัติศาสตร์ให้คนพวกนี้และทำให้พวกเขาได้รู้จักกับดาวเกิดของมนุษยชาติที่ชื่อว่าโลก

 

ซึ่งวิธีนี้ค่อนข้างได้ผลดี, ทำให้พวกเขาเข้าใจประวัติศาสตร์ขึ้นมาบ้างก็จะทำให้พวกเขาเข้าใจค่าของสิ่งที่อู๋ฮ่าวเหรินเอามาส่งเป็นซองแดงขึ้นมาบ้าง

 

[เฟิงเสินปัง(ตำนานเทพฯ)]

 

ถ้าเล่าประวัติศาสตร์ให้พวกเขาฟังตลอด พวกเขาก็อาจจะเบื่อได้, ดังนั้นหลังจากที่เล่าประวัติศาสตร์เสร็จ อู๋ฮ่าวเหรินจึงได้ค้นหาหนังบางอย่างมาให้พวกเขาดู

 

"อ้า, พูดถึงเทพนิยาย, ฉันเองก็เคยอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับภูเขาและทะเลมาเหมือนกันนะ, และมีหลายเรื่องที่เป็นเทพนิยายด้วย"

 

"ไม่เลว, ไม่เลว, เมื่อหลายวันก่อนหนังเรื่องเฮ่อหลานเสวี่ย ก็ได้แพร่หลายไปทั่วเครือข่ายนำแสง"

 

"ฉันไม่คิดนะว่าเผ่ามนุษย์ของพวกคุณจะวิวัฒนาการมาจากลิง, วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตที่มันช่างสุดยอดจริงๆ" หินปีศาจพูดพร้อมกับใส่อารมณ์

 

อู๋ฮ่าวเหรินจึงได้ถามหินปีศาจกลับไป "แล้วคุณพอจะมีพวกหนังสารคดีเกี่ยวกับอารยธรรมหินของพวกคุณมั่งไหม? เอาออกมาให้รู้จักบ้างสิ"

 

"ได้ๆ, เดี๋ยวเอาไว้จะหามาให้ทีหลังนะ หนังสารคดีของพวกเรานั้นค่อนข้างจะสมบูรณ์กว่าของพวกคุณเยอะ"

 

ตอนนี้มีบางคนที่เริ่มดูเรื่องตำนานเทพ, แน่นอนว่าพวกเขารู้สึกได้ถึงความวิเศษของหนังอภินิหารแบบนี้

 

ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีพัฒนาไปไกลแบบในอนาคตนั้น, ทุกสิ่งสามารถอธิบายได้ด้วยพลังงาน ทำให้เทพนิยายแบบนี้ถูกลืมหายไปจนหมดสิ้น

 

"ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะทำให้เหาะเหินเดินอากาศแบบนี้ได้บ้างมั๊ยนะ? ฉันอยากจะลองบ้างจัง"

 

"มนุษย์ชุดเกราะ, ครอบครัวของนายมีเกราะแบบนี้อยู่มั๊ย? เอามาให้ซักชุดนึงสิ, ฉันอยากจะลองไปที่สวรรค์ดูว่าจะเจอพวกที่เป็นอมตะแบบนี้บ้างมั๊ย?"

 

"เพ้อเจ้อน่า, พวกคุณบินขึ้นสูงไป, ก็ออกนอกอวกาศเท่านั้นแหละ, ฉันคิดว่าดินแดนเทพแบบนั้นมันจะซ่อนอยู่มิติที่ต่างออกไป, บางทีอาจจะมีสมบัติซ่อนอยู่ก็เป็นได้นะ"

 

"ว้าว, เจ้าหนูที่ชื่อนาจานี่ มีตั้ง 3 หัว 6 แขนแน่ะ, ฉันสงสัยเลยว่าจะออกแบบชุดเกราะยังไงดี"

 

"เปลืองพลังงานน่า, ยิ่งมีอาวุธเยอะ ก็ยิ่งใช้พลังงานเยอะ, มันจะดีกว่าที่จะใช้อาวุธทำลายล้างอันเดียวไปเลยนะ"

 

"...."

 

มองดูพวกเขาแชทกัน, อู๋ฮ่าวเหรินเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังทำอะไรผิดพลาดลงไป, บ้าจริง หวังว่าตำรวจสหพันธ์จะไม่คิดว่าพวกเขากลายเป็นศาสนา "ปีศาจ" ไปเสียก่อนนะ

 

ถ้ามีใครพยายามที่จะข้ามมิติเข้าไป, อู๋ฮ่าวเหรินกลัวว่า พวกเขาจะตายกันเสียก่อน

 

"อย่าไปจริงจังกับเนื้อหานักสิ, มันเป็นแค่เทพนิยายน่ะ, เทพนิยาย, มันไม่มีจริงหรอก เป็นแค่เรื่องแต่งน่ะ"

 

"รู้แล้วน่า, พวกเราก็ไม่ได้จริงจังกันขนาดนั้นซักหน่อย, แต่ดูการแปลงร่างนั่นสิ, ฉันไม่รู้นะว่าฉันจะสามารถคิดค้นยาแปลงร่างแบบนั้นขึ้นมาได้บ้างไหมนะ?"

 

เอาเถอะ, ดูจากสถานการณ์แล้ว พูดอะไรไปก็คงไม่มีประโยชน์ ก็ได้แต่หวังตำรวจสหพันธ์บอกพวกเขาว่าอะไรทำไม่ควรทำละกัน, ไม่งั้นพวกเขาได้เอาตัวเข้าไปบำบัดทางจิตแน่

 

อู๋ฮ่าวเหรินออกจากระบบซองแดงแล้วก็ไปนอน

 

เรื่องของเฮ่อหลานเสวี่ยที่ให้ไปก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกับข้อมูลด้านประวัติศาสตร์ได้ถูกปล่อยจากระบบซองแดงไปยังระบบเครือข่ายของสหพันธรัฐ

 

แต่ทว่า, เพราะว่าไม่สามารถที่จะตรวจสอบความน่าเชื่อถือของสิ่งของพวกนี้ได้, จึงได้มีบางคนที่ออกมาต่อต้านประวัติศาสตร์เหล่านี้

 

โดยเฉพาะเรื่องที่ว่ามนุษย์นั้นมีวิวัฒนาการมาจากลิงนั้น นำไปสู่สงครามครั้งใหม่ของเหล่านักวิชาการทั้งสองกลุ่ม ซึ่งได้ถกเถียงกันอยู่ยาวนานมาก

 

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่ได้รู้เลยว่าการถูกทำลายล้างของมนุษยชาตินั้นทำให้หลายๆอย่างไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้ และโลกส่วนใหญ่ก็ได้ถูกทำลาย, ทำให้หลักฐานหลายๆอย่างได้สูญหายไปเยอะมาก

 

แน่นอนว่า, การโต้เถียงในครั้งนี้ได้นำผลประโยชน์มาสู่การแพร่กระจายของข้อมูลพวกนี้มากขึ้น

 

มีผู้คนที่ไม่เคยสนใจเรื่องนี้มาก่อน, แต่พอที่เห็นการโต้เถียงครั้งนี้, ก็เริ่มเข้าใจถึงสาเหตุของเรื่องนี้

 

เดิมทีหนังละครที่ดูทำมาอย่างลวกๆพวกนี้ในสายตาพวกเขาก็เริ่มที่จะมองเห็นเป็นลักษณะเฉพาะขึ้นมา เพราะเวลาและเทคโนโลยีที่ต่างกัน

 

"ขอโทษทีนะ, พอจะมีหลักฐานเรื่องของฟอสซิลที่พูดถึงก่อนหน้าบ้างไหม?"

 

"มีสิ, ดูเหมือนน่าจะอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สหพันธ์, แต่ทว่า เพราะประวัติศาสตร์ถูกทำลายไป, จึงไม่มีใครสามารถยืนยันเรื่องของบรรพบุรุษของมนุษยชาติได้"

 

"แต่ลองดูความสมบูรณ์ของข้อมูลพวกนี้สิ, บางทีมันอาจจะเป็นประวัติศาสตร์ของมนุษย์จริงๆก็ได้"

 

"ได้ยินมาว่าข้อมูลพวกนี้ได้มาจากคนที่ใช้ชื่อว่าพ่อค้าของเก่าล่ะนะ, แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปตามหาเขาได้ที่ไหนเช่นกัน"

 

"เรื่องของบรรพบุรุษของมนุษย์ที่ใช้ยานอวกาศเข้าสู่จักรวาลในยุคของโลกยุคโบราณนั้น เป็นไปได้ว่า ข้อมูลพวกนี้น่าจะออกมาในช่วงเวลานั้น, พวกเราจะต้องตามหาพ่อค้าของเก่าคนนี้เพื่อที่จะรู้เรื่องนี้ให้ได้"

 

แน่นอนว่า, การแพร่กระจายของข้อมูลพวกนี้, ทำให้อู๋ฮ่าวเหรินกลายเป็นที่นิยมของสหภาพมนุษย์อีกครั้ง, ไม่ว่าต่างก็ต้องการหาตัวอู๋ฮ่าวเหริน

 

แต่น่าเสียดายที่, ไม่มีใครที่รู้เลยว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นเป็นตัวตนที่พิเศษ

 

ออกมาจากห้อง, ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว, และทะเลที่เขาอยู่ตอนนี้ก็ไม่ไกลจากสถานที่ของเรือที่จมอยู่

 

ในขณะเดียวกัน, สถานที่แห่งนี้ก็เป็นจุดโจมตีที่ดีที่สุดที่จี้ได้คำนวณเอาไว้

 

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่รู้ว่าพวกนั้นจะเคลื่อนที่มากันในตอนกลางคืนหรือเปล่า, แต่เพื่อความปลอดภัยเขาจึงได้ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับในทะเลเอาไว้

 

ตราบเท่าที่มีใครที่เข้ามาใกล้เรือกู้ซากลำนี้, เขาก็จะรู้ตัวทันทีก่อนใคร


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น