CF:บทที่ 356 กังวล

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 356 กังวล

 

ด้วยอารมณ์ที่เป็นกังวลนี้, อู๋ฮ่าวเหรินจึงได้เข้าไปยังกลุ่มเชฟซองแดง, เพื่อถามเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

"เชฟชา, ลุงชาวจีนอยู่มั๊ยวันนี้?"

 

เชฟชามองเห็นอู๋ฮ่าวเหรินที่โผล่มาจึงพูดขึ้น "ไอ้หนู, รีบเอาชาออกมาอีกสิ, หลายวันมานี้, มีพวกตาแก่มาหาฉันราวกับโจรปล้น, และปล้นเอาใบชาของฉันไปหมดเลย"

 

ชา, ตอนนี้อู๋ฮ่าวเหรินไม่มีชาเลย, เพราะเขาไม่ได้เอาชาติดตัวขึ้นเรือมาด้วย, แต่หลายวันก่อน, เขาเพิ่งได้ชามาเยอะแยะเลย

 

"อืม, เชฟชาครับ, ตอนนี้ผมไม่มีใบชาเหลืออยู่เลย, เดี๋ยวผมจะเอามาให้ละกันถ้าผมหาเจอนะ"

 

"โอ้,  ขอบใจนะ, ชาแบบนั้น ถ้ามีวิธีที่หามาได้ง่ายๆก็ดีสิ, บ้าจริง ถ้ารู้แบบนี้ไม่น่าเอามาโชว์ให้พวกตาแก่นั่นดูเลย"

 

โง่เอง, มันกลายเป็นแบบนี้เพราะทำตัวเองแท้ๆ, สำหรับเรื่องแบบนี้ อู๋ฮ่าวเหรินคงพูดได้แค่ว่า "สมควรแล้ว"

 

"เชฟชาวจีนดูเหมือนว่าจะไปที่ต่างประเทศได้สักพักแล้ว, ตอนนี้มันมีสถานการณ์ที่ไม่สงบเกิดขึ้นน่ะ, เหล่าผู้เชี่ยวชาญของสหพันธ์ก็ไปกันหมด, ดูเหมือนพวกอารยธรรมพาลอสจะทิ้งปัญหาเอาไว้ ซึ่งดูเหมือนจะเกิดขึ้นเพราะสหภาพมนุษย์ของพวกเราเองด้วย

 

ไม่สงบสุขงั้นเหรอ, บ้าจริง จะรบกันไม่ได้นะ!

 

ถ้าเกิดมีการต่อสู้กันขึ้นมาจริงๆ ระบบซองแดงไม่ต้องปิดตัวลงหรอกเหรอ?

 

"เชฟชา, สหภาพยังไม่ได้ทำสงครามกันใช่ไหม?"

 

"ยังหรอก, แต่ช่วงนี้สหพันธรัฐจักรวาลช่วงนี้ก็ไม่ได้สงบสุขเท่าไร, ไหนจะเรื่องของเขตดวงดาวใหม่, สัตว์ประหลาดที่นั่นแข็งแกร่งมาก, กองกำลังทั้งหมดของพวกอารยธรรมชั้นสูงต่างก็ถูกส่งไปเพื่อแก้ปัญหานี้, บางอารยธรรมก็ดูเหมือนจ้องจะฉวยโอกาสนี้ทำอะไรบางอย่างอยู่, ปีที่มีเรื่องเยอะ, เป็นปีที่มีเรื่องเยอะจริงๆ!"

 

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่คิดว่าเหล่าเชฟพวกนี้จะรู้อะไรไปมากกว่าพวกคนในระบบซองแดง

 

แต่เขาก็รู้อย่างนึงว่าพวกคนที่ใช้ระบบซองแดงโดยทั่วไปก็เหมือนจะมีแต่คนหนุ่มสาว, ซึ่งไม่น่าจะรู้ว่าพวกเทียนหยูกรุ๊ปนั้นกำลังวางแผนจะทำอะไรกันอยู่แน่

 

"เชฟชาครับ, คุณพอจะรู้บ้างมั๊ยว่า, อาจารย์เฒ่าหอยเม่นจะเข้ามาเมื่อไรครับ?"

 

"เขาไม่ได้เข้ามาเลยช่วงนี้, ฉันได้ยินมาว่าเขานั้นเกือบจะพังไปครึ่งดาวด้วยตัวเขาเอง, จนเกือบจะกลายเป็นดาวร้างไปแล้ว, หลังจากที่พวกตัวเรือดได้บ่นเรื่องพฤติกรรมของเขาให้สหพันธรัฐจักรวาลฟัง"

 

ดูเหมือนว่าคงจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะถามผู้เฒ่าหอยเม่นเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

หลังจากที่เขาคุยกับเชฟชาต่ออีกสักพัก,

อู๋ฮ่าวเหรินก็กลับไปยังห้องซองแดงหลัก, แล้วพบว่าคนพวกนี้กำลังเดือดดาลอะไรบางอย่าง

 

"พ่อค้าโบราณ, เอาซองแดงพวกนี้ไป!"

 

"ฉันสงสารนาย และฉันจะไม่แย่งฉกซองด้วย, ฉันได้ยินมาว่าสหพันธรัฐจักรวาลดูเหมือนจะปั่นป่วนไปหมดช่วงนี้, แล้วถ้าเกิดสงครามขึ้นมา ระบบซองแดงได้ถูกปิดแน่"

 

"ลองคิดดูให้ดีก่อน, ตราบเท่าที่พวกอารยธรรมชั้นสูงไม่ทำพลาดอะไร, ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาถึงระบบซองแดงหรอก, ทำไมคุณถึงคิดว่าเทียนหยูกรุ๊ปถึงได้ลงทุนจ่ายพลังงานมากขนาดนั้นให้กับอารยธรรมต่างๆเพื่อสร้างอุปกรณ์เคลื่อนย้ายมากมายเพื่อป้องกันระบบซองแดงกันล่ะ?"

 

"มันก็จริงอยู่ ฉันเองก็ได้ยินเรื่องนี้มาเหมือนกัน, ตอนนี้เทียนหยูกรุ๊ปเองก็ไม่สามารถเข้ามายุ่มย่ามระบบซองแดงได้มากเช่นกัน, ดูเหมือนจะต้องมีความลับอะไรซ่อนอยู่แน่"

           

อู๋ฮ๋าวเหรินไม่คิดว่าจะมีความลับอะไรแบบนั้นอยู่ด้วย, และถ้าเป็นแบบนั้นจริง ก็เรียกได้ว่าเขากังวลปัญหาของเขามากเกินไปเอง

 

ดูเหมือนจากสถานการณ์นี้, ถ้าคนพวกนั้นอยากจะรู้ข้อมูลของเขาจริงๆ, พวกเขาคงก็ไม่น่าจะมาให้เขาบอกข้อมูลแบบนี้แล้วทำการผนึกบัญชีนี้ไปเลย, ซึ่งนี้น่าจะเป็นวิธีขู่ได้ผลกว่า

 

แต่ในเมื่อพวกเขาไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้, ไม่สิต้องบอกว่าพวกเขาไม่สามารถทำได้มากกว่า

 

หลังจากที่ขับไล่ความกังวลออกไป, อู๋ฮ่าวเหรินก็เริ่มฉกซองแดง, พวกเขาส่งกันมาราวกับว่าจะใช้เหรียญพลังงานให้หมดไม่ให้เหลือ มิเช่นนั้นพวกเขาก็จะคิดกันถึงเรื่องอื่นที่ทำให้รู้สึกแย่ลงไปอีก

 

มองดูซองแดงมากมายเหล่านี้, อู๋ฮ่าวเหรินก็ยิ้มออกมา, โดยเฉพาะซองแดงซองใหญ่ที่ใส่หินพลังงานที่ให้มาโดยคนนึงในกลุ่ม, ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องของการใช้หินพลังงานของเขาได้ในระยะยาวเลยทีเดียว

 

แต่น่าเสียดายที่, ตอนนี้เขาอยากจะได้วัสดุสำหรับใช้ก่อสร้างเกาะ, ในระบบซองแดงนั้นเหมือนจะไม่ค่อยมีคนที่อยากจะส่งวัสดุมาให้ซักเท่าไร

 

จากที่พวกเขาว่ามา, มันคงไม่มีใครจะโง่พอที่จะส่งเป็นวัสดุมาให้, เพราะว่าวัสดุชิ้นนึง ในระบบซองแดงนั้นมีค่าน้อยมาก

 

และพวกหินที่ถูกส่งมาให้โดยชายขุดแร่นั้นก็มักจะถูกส่งมาในลักษณะของหินที่ผ่านกระบวนการแปรรูปมาแล้ว

 

เมื่อฉันออกมาจากระบบซองแดง, ฉันก็พบว่าเป็นเวลาคำพอดี

 

เข้ามาในสะพานเดินเรือ, อู๋ฮ่าวเหรินก็ถามขึ้น "เกิดอะไรขึ้นบ้างมั๊ย?"

 

"ไม่เลย, ตอนนี้สถานการณ์ปกติดีอยู่" หม่าช่างจุนจ้องมองอยู่ที่หน้าจอและพูดขึ้น

 

คนๆนี้เรียนรู้อุปกรณ์ทุกอย่างบนเรือลำนี้หมดแล้ว, แน่นอนว่า เขาพบว่าอุปกรณ์บนเรือกู้ซากของอู๋ฮ่าวเหรินนั้น ล้ำสมัยมากกว่าของที่ใช้บนเรือรบเสียอีก

 

ในเวลาอาหารค่ำ, เหล่าลูกเรือต่างมีความสุขมาก, พวกเขาคิดว่าเขาคิดถูกแล้วที่เลือกที่จะมาทำงานบนเรือกู้ซากลำนี้

 

"ลูกพี่, คุณคิดมั๊ยว่าเทคโนโลยีนี้ ถ้าเราสามารถนำมาใช้บนเรือรบได้ก็คงจะดี, มันไม่ง่ายเลยที่จะกินผักที่สดขนาดนี้ได้บนเรือรบ"

 

"เทคโนโลยีนี้มันสุดยอดจริงๆนั้นแหละ, แต่ข้าได้ยินมาว่ามันแพงมากเลยนะ, มันเป็นไปไม่ได้ที่จะแพร่หลายหรอก"

 

เมื่อพวกเขาพบว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นกำลังยืนอยู่หลังพวกเขานั้น, พวกเขาก็ตกใจ

 

"สวัสดีครับ หัวหน้า"

 

"สวัสดี, ไม่มีอะไรหรอก เชิญทานต่อไปเถอะ"

 

แน่นอนว่า, เมื่อเขาอยู่ด้วยแล้ว, พวกนั้นไม่สามารถที่จะคุยอย่างเปิดเผยกันได้

 

อู๋ฮ่าวเหรินจึงได้เดินออกมาจากที่นั่น และคิดถึงเรื่องที่ทั้งสองคนนั้นคุยกัน, จริงๆแล้ว, เทคโนโลยีการปลูกผักอันนี้มันไม่ได้ยากอะไรเลย, มันสำคัญที่การแก้ปัญหาเรื่องสารอาหารของพืช

 

กลับไปที่ห้องนอน, อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้นอนลงบนเตียงและเริ่มหารือเรื่องของการก่อสร้างบนเกาะกับจี้

 

ในปัจจุบัน, ห้องใต้ดินของเกาะนั้นได้ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว, และมันจึงไม่ใช่เรื่องไกลแล้วที่อาวุธที่เขาต้องการนั้นจะถูกสร้างขึ้นมา

 

บนเรือบรรทุกเครื่องบินลำหนึ่ง, มีผู้บังคับบัญชาทั้งของอเมริกาและญี่ปุ่นได้นั่งลงร่วมกัน

 

"แผนในคราวนี้ง่ายมาก, พวกเราจะเข้าสกัดกั้นเรือรบของจีนและกันไม่ให้พวกเขาเข้ามาช่วยได้, ส่วนหน้าที่ของพวกคุณคือขึ้นไปยังเรือกู้ซากนั้นและจับตัวชายคนนั้นมาให้ได้" ผบ.อเมริกากล่าว

 

"เข้าใจแล้ว, พวกเราจะปลอมตัวเป็นโจรสลัดและบุกขึ้นยึดเรือกู้ซากลำนั้นและนำตัวคนออกมาเอง" ผบ.ญี่ปุ่นพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น

 

"ดีมาก, และจำไว้ว่าเมื่อจับตัวคนได้แล้ว, ก็ส่งเขามาที่เรือบรรทุกเครื่องบินให้ทันเวลาเพื่อที่จะส่งต่อไปยังอเมริกา, เมื่อทางรัฐบาลจีนทราบเรื่องของชายคนนี้เข้าแล้ว, คงไม่ยอมง่ายๆแน่"

 

"แล้วถ้าจีนส่งเรือรบฝ่าเข้ามาล่ะ, พวกเราจะโจมตีกลับไปมั๊ย?"

 

"อย่าโจมตีกลับไปถ้าไม่จำเป็นจริงๆ, เพราะถ้าเกิดสงครามเพราะแบบนี้เมื่อไร, มันจบไม่สวยสำหรับทุกคนแน่"

 

"แล้วถ้าชายคนนั้นต่อต้านล่ะ, พวกเราจะฆ่าเขาเลยได้มั๊ย?"

 

"ไม่, ไม่, ห้ามฆ่าเขาเด็ดขาดนะ, เขามีค่ามากเกินไปกว่าที่จะตาย"

 

เมื่อผบ.ญี่ปุ่นได้ยินเข้า สายตาของเขาก็เปลี่ยนไป

 

เมื่อทางญี่ปุ่นได้จากไป, เจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างๆผบ.อเมริกาก็ได้ถาม, "ท่านครับ, ผมเกรงว่าพวกเขาจะไม่กลับมาแน่หลังจากที่พวกเขาจับตัวคนมาได้แน่ๆครับ"

 

"แน่นอน, พวกนั้นไม่มาที่นี่หรอก, ดังนั้นหน้าที่ต่อไปของพวกคุณคือ....."

 

ผบ.ญี่ปุ่นที่กลับมายังเรือรบของตัวเองนั้นก็ได้กลับมาจัดเตรียมแผนการของเขาใหม่เช่นกัน, เพราะพวกเขาไม่เชื่อใจพวกอเมริกาเช่นกัน, หลังจากที่พวกเขาได้ตัวคนไป พวกเขาจะต้องถีบส่งพวกเขาออกมาแน่

 

"หลังจากที่จับตัวได้แล้ว, อย่ากลับไปที่เรือบรรทุกเครื่องบิน แต่ให้กลับมาที่นี่จะมีคนที่รอรับคุณอยู่, แล้วถ้าพาตัวเขากลับมาที่ญี่ปุ่นไม่ได้ก็อย่าหวังว่าอเมริกาจะได้ตัวเขาไปก็ฆ่าเขาทิ้งเสีย"

 

"ครับผม, แต่ว่ามันจะไม่น่าเสียดายเกินไปเหรอครับที่จะฆ่าเขาทิ้งน่ะครับ?"

 

"ไม่จะเป็นต้องเสียดาย, ไม่ว่าคนๆนี้จะอยู่ในจีนหรืออเมริกาก็ตาม ล้วนแล้วแต่ไม่เป็นผลดีกับญี่ปุ่นทั้งสิ้น, ในเมื่อพวกเราไม่ได้ตัวมา ก็สู้ทำลายทิ้งดีกว่า


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น