CF:บทที่ 353 ล่าสมบัติ
ในเวลานี้, กลุ่มผู้คนกำลังมองดูพวกหุ่นยนต์กำลังติดตั้งอุปกรณ์สำคัญอยู่ นั่นคืออุปกรณ์ใช้กู้ซาก, อุปกรณ์ทั้งหมดถูกประกอบเข้าด้วยกันด้วยแขนจักรกลของหุ่นยนต์
ในตอนนี้เอง, ที่เหล่าช่างเทคนิคก็ได้เข้าใจถึงความต่างระหว่างพวกเขากับหุ่นยนต์อย่างช่วยไม่ได้
"เสี่ยวหยู, ฉันก็ไม่ได้อยากมองโลกในแง่ร้ายล่ะนะ, แต่จากความสามารถของหุ่นยนต์พวกนี้, พวกเราคงจะถูกแทนที่โดยหุ่นยนต์พวกนี้เข้าซักวันแน่" ช่างเทคนิคคนหนึ่งพูดขึ้นมา
"ถ้าหุ่นแบบนี้เกิดแพร่หลายขึ้นมาล่ะก็นะ, แต่ทำใจให้สบายเหอะ ไม่ใช่แค่นายคนหรอกที่จะต้องตกงานน่ะ" คนหนุ่มที่ชื่อเสี่ยวหยูพูดตอบกลับ "เมื่อเวลานั้นมาถึง, เดี๋ยวทางรัฐคงหาทางแก้ปัญหาให้พวกเราเองแหละ"
"ฉันรู้สึกได้ว่าถ้าหุ่นยนต์แบบนี้ถูกผลิตขึ้นมาเมื่อไร จะต้องเกิดผลกระทบกับทางสังคมมากแน่, แต่ทว่านะ เทคโนโลยีเองก็กำลังเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ, เรื่องแบบนี้ก็คงเป็นอะไรที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อยู่ดีล่ะนะ"
เหอลี่ลี่ฟังเหล่าช่างเทคนิคคุยกันแล้วหันกลับมาถามอู๋ฮ่าวเหริน, "คุณอู๋คะ, ในฐานะที่เป็นนักพัฒนาหุ่นยนต์แล้ว, คุณเคยคิดมั๊ยว่าควรจะแก้ปัญหานี้อย่างไรคะ?"
มองดูเหล่าช่างเทคนิค อู๋ฮ่าวเหรินฟังที่เหอลี่ลี่ถาม แล้วก็คิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะยิ้มและตอบกลับไป "จริงๆแล้ว, ปัญหานี้แก้ง่ายนิดเดียว, ถ้าเกิดตกงาน ก็แค่หางานใหม่ทำเท่านั้น"
"หางานใหม่ให้คนที่ไม่มีงานเนี่ยนะคะ? แต่ในเมื่อพวกงานต่างๆก็ถูกแย่งไปโดยหุ่นยนต์หมดแล้วเนี่ยนะคะ!"
"เมื่อกี้ผมล้อเล่นน่ะ, ต่อให้วันนึงหุ่นยนต์แบบนี้จะถูกนำมาแทนที่ผู้คนก็จริง, แต่ทว่ากว่าที่เรื่องแบบนั้นจะเกิดขึ้น มนุษย์ก็คงไม่กังวลที่จะต้องไม่ทำงานหรืออดอยากจนตายแล้วล่ะ, การพัฒนาทางด้านสังคมนั้นไม่สามารถแย่งไปจากคนได้หรอก, ถ้าทุกคนตกงานกันหมด, แล้วผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นมาจะขายให้ใครล่ะ?"
เมื่อเหอลี่ลี่ลองคิดดู, ดูเหมือนว่าถ้าทุกคนตกงานกันหมดแล้ว ก็คงไม่มีใครที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขื้นมาแน่, เพราะทุกคนไม่มีเงิน
การตลาดนั้นสามารถตัดสินได้จากกำลังซื้อของผู้คน, ถ้าทุกคนไม่สามารถที่จะใช้จ่ายได้ พวกผลิตภัณฑ์ๆก็คงจะหมดราคาไป
อู๋นั้นไม่ได้เล่าให้เธอฟังว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เมื่อเรื่องนี้ก้าวเข้าสู่ถึงจุดแตกหัก, บางคนก็ละทิ้งวิถีตัวเองไปทำได้แค่กินแล้วก็ตายเท่านั้น, บางคนก็พยายามก้าวไปยังจุดที่สูงขึ้นไปอีก
ดังนั้นก่อนที่เวลานั้นจะมาถึง, วันที่กำลังการผลิตหุ่นยนต์จะมีมากพอกับที่ผู้คนต้องการ, ผู้คนก็จะต้องดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้และก้าวไปสู่จุดๆใหม่
ในอนาคตของมนุษยชาตินั้น, ก็เคยเกิดสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาแล้ว และสุดท้ายก็หาทางออกนี้ด้วยสงคราม, จนประชากรบนโลกสูญเสียไปถึง 3 ใน 10 ส่วน
และเมื่อยุคอวกาศมาถึง, สถานการณ์นั้นก็ได้เริ่มถูกคลี่คลาย, ผู้คนต่างพากันขึ้นยานอวกาศไปยังดินแดนที่ยังไม่รู้จัก,
ไปสู่จักรวาลอันกว้างใหญ่เพื่อค้นหาทรัพยากรใหม่ๆและโอกาสใหม่ๆ
ถ้าตอนนี้อู๋ฮ่าวเหรินรีบนำเสนอหุ่นยนต์แบบต่างๆออกมา, ผลของมันคงไม่ใช่แค่สงครามแต่อาจจะหมายถึงการทำลายล้าง
หลังจากที่อุปกรณ์กู้ซากขนาดใหญ่ยักษ์ได้ถูกติดตั้งลงไป, ทุกคนต่างก็มองมาที่อุปกรณ์แปลกๆนี้
"ฉันไม่คิดว่ามันจะใช้การได้เลยนะ, ถ้าอุปกรณ์แบบนี้อยู่ใต้ทะเล, มันคงไม่สามารถใช้การได้แน่"
"ใครจะรู้, แต่ว่ามันดูใช้การได้ดีนะ"
"ข้าว่ามันไม่น่าจะมีปัญหาง่ายๆหรอก, ยังไงเสีย นี่ก็เป็นอุปกรณ์ใต้น้ำที่คิดค้นขึ้นมาโดยฟิวเจอร์กรุ๊ปเชี่ยวนะ"
"หุ่นยนต์ตัวนี้เองก็ดูใหญ่กว่าที่เห็นในวิดีโอเสียอีก, แต่มันก็ดูแปลกๆดีนะ, เหมือนกับเป็นการบ่งบอกว่าหุ่นยนต์นั้นไม่จำเป็นต้องเหมือนคนเสมอไป, บางทีอาจจะมีแบบที่เหมือนบ้านบ้างก็ได้
เหอลี่ลี่ก็ได้ถามขึ้นมาอย่างสงสัย, "คุณอู๋คะ, อุปกรณ์ชิ้นนี้สามารถใช้กู้ซากของที่อยู่ใต้ทะเลได้ด้วยเหรอคะ?"
"แน่นอนสิ, คิดว่าผมจะออกแบบมาเพื่ออะไรล่ะ?"
หลังจากที่เจ้าหุ่นตัวใหญ่ทำการติดตั้งเสร็จแล้ว, เรือกู้ซากก็ได้เสร็จสมบูณ์แล้ว
ตอนนี้, มันก็จะเหลือแค่จ้างคนเท่านั้น, ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร, เพราะทางอู๋ต่อเรือได้จัดเตรียมคนไว้ให้เขาแล้ว
หลังจากที่เรือเสร็จสมบูรณ์แล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้หารือกับเหอหมิง, และสองวันต่อมา ลูกเรือพวกนั้นก็ได้มาถึงพอดี ในที่สุดเขาก็จะได้เริ่มเสียที
ในครั้งนี้, เหล่าลูกเรือ คือทหารเก่าที่ออกมาจากกองทัพเรือ, ซึ่งการที่ได้คนพวกนี้มาเข้าร่วม, ทำให้อู๋ฮ่าวเหรินเข้าใจได้ว่า, ในตอนนี้หลากหลายประเทศต่างก็เริ่มสนใจในตัวเขา
เมื่อพวกเขารู้ว่าเขานั้นจะออกทะเล, พวกเขาย่อมที่จะต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง, อู๋ฮ่าวเหรินไม่รู้ว่าคราวนี้คนพวกนั้นจะทำอะไรกับเขาอีก, แต่ก็คงจะไม่พ้นทำอะไรอย่างเช่นปลอมตัวเป็นโจรสลัดเป็นแน่
กลับไปที่บริษัท, เมื่อคนในบริษัทรู้ว่าตัวเขานั้นต้องการที่จะออกทะเลเพื่อไปหาสมบัติ, พวกเขาต่างรู้สึกว่ามันเหลือเชื่อ"
"หัวหน้าคะ, ถ้าเกิดมีการโจมตีแบบครั้งที่แล้วอีก ในตอนที่คุณออกทะเลเพื่อหาสมบัติล่ะคะ?"
การโจมตีครั้งล่าสุดนั้น แม้จะไม่ได้มีการเปิดเผยออกมา, แต่สุดท้ายคนพวกนี้ก็ยังจะรู้กันได้อยู่ดี
"ไม่ต้องเป็นห่วงผม, ช่วงที่ผมไม่อยู่ก็จ้างบุคลากรที่จำเป็นให้เรียบร้อยละกัน, เมื่อผมกลับมา คาดว่าการก่อสร้างบริษัทดนตรีก็น่าจะแล้วเสร็จพร้อมดำเนินการพอดี"
"เข้าใจแล้วค่ะ, ถ้าเรื่องนั้นก็ขอให้วางใจ ว่างานจะแล้วเสร็จตามที่คุณต้องการแน่ค่ะ, แต่ในคราวนี้พวกกลุ่มที่บอยคอตเองก็คงจะได้รู้ถึงความแข็งแกร่งของบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปของเรากันแล้วล่ะนะ"
พวกเขานั้นไม่คิดว่าหัวหน้านั้นนอกจากจะไม่จัดการกับกลุ่มบอยคอตพวกนี้แล้ว แถมยังปล่อยให้พวกนั้นทำตามใจชอบอีก, แต่กลายเป็นว่าหัวหน้านั้นต้องการที่จะนำพาทุกคนไปจัดการคนพวกนี้ทีเดียว
ซึ่งอาจจะใช้เวลาถึงครึ่งเดือนเพื่อออกทะเลในคราวนี้, อู๋ฮ่าวเหรินจึงต้องอธิบายและจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย
แน่นอนว่า ทางครอบครัวเองก็ได้บ่นเขาไปพอสมควร
เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินกลับมาที่อู๋ต่อเรืออีกครั้ง, เรือกู้ซากก็ได้เริ่มครึกครื้นกันแล้ว ดูเหมือนพวกลูกเรือจะได้ขึ้นเรือกันก่อนแล้วเพื่อปรับตัวให้เข้ากับเรือลำนี้
"คุณอู๋ครับ, คนๆนี้คือหม่าช่างจุน ผู้ที่จะมารับหน้าที่กัปตันที่เราหามาให้คุณครับ"
อู๋ฮ่าวเหรินมองดูกัปตันที่มีอายุน่าจะราวๆ 40, มือของเขานั้นด้าน, และมีตีนกาบนใบหน้า และดูจากท่าทางการยืนของเขาแล้ว พอจะรู้ได้เลยว่าเขานั้นเคยเป็นทหารที่ได้ออกทะเลบ่อยๆเป็นแน่
แน่นอนว่า, คนๆนี้จะต้องถูกส่งมาจากเบื้องบนอย่างแน่นอน, ซึ่งเขานั้นรู้ดีว่า คนพวกนี้เป็นคนที่ถูกส่งมาโดยทางรัฐนั้นเพื่อมาปกป้องเขา
"สวัสดีครับ, กัปตันหม่า"
"สวัสดีเช่นกันครับ, คุณอู๋
"คุณอู๋ครับ, บนเรือลำนี้ พวกเราได้เตรียมอาวุธเอาไว้ด้วยเผื่อมีสถานการณ์อะไรฉุกเฉิน" เหอหมิงกล่าว
อู๋ฮ่าวเหรินผงกหัว, อู๋ฮ่าวเหรินนั้นรู้ได้ทันทีเลยว่าของพวกนี้ต้องมาจากจื่อหยงแน่ๆ
เมื่อเหล่าคนที่ไม่เกี่ยวข้องได้ลงจากเรือไปหมดแล้ว, ภายใต้การสั่งการของอู๋ฮ่าวเหริน, เรือกู้ซากก็ได้ออกสู่ท้องทะเลพร้อมกับเสียงคำราม
ในเวลานี้, ข่าวเรื่องของอู๋ฮ่าวเหรินได้ออกล่าสมบัติในทะเลได้ถูกส่งต่อออกไปโดยเหล่าสายลับของนานาประเทศแล้ว
ในสหรัฐอเมริกา, หน่วยข่าวกรองได้ทำการยืนยันข่าวนี้ถึงสามหนเพื่อยืนยัน, หลังจากยืนยันได้ว่าอู๋ฮ่าวเหรินอยู่บนเรือกู้ซากแล้ว พวกเขาก็เริ่มดำเนินการตามแผนทันที
แน่นอนว่า, พวกเขานั้นยังคงจำเรื่องของการโจมตีครั้งที่แล้วได้ดี, ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองคนใหม่เองก็ไม่ต้องการที่จะหลุดจากตำแหน่งเพราะความผิดพลาดด้วย
ทางญี่ปุ่นเองก็ได้เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน, พวกเขาเริ่มที่จะสำรวจบริเวณน่านน้ำรอบๆเพื่อมองหาเรือกู้ซากของอู๋ฮ่าวเหริน
บางประเทศในยุโรปเองก็ไม่ยอมล้าหลังเช่นกัน พวกเขาเองก็ได้เข้าร่วมกับเรื่องนี้ด้วย
ประเทศเหล่านี้รู้ดีว่าถ้าพวกเขาสามารถจับตัวอู๋ฮ่าวเหรินได้, มันจะเป็นความมั่งคั่งที่ไม่รู้จักจบสิ้น, แน่นอนว่า มีหลายประเทศที่สุดโต่งที่คิดว่าถ้าเกิดจับเขาไม่ได้ แต่ถ้าฆ่าเขาได้ก็จะสามารถหยุดความรุ่งเรืองของจีนเอาไว้ได้
ทางรัฐบาลจีนเอง, แน่นอนว่า เรื่องของความปลอดภัยของอู๋ฮ่าวเหรินนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด, หลังจากที่เรือกู้ซากของอู๋ฮ่าวเหรินแล่นออกไปได้ไม่นาน, ก็มีเรือพิฆาตหลายลำได้เริ่มออกเรือตามไปด้วย
และเส้นทางก็เรือพิฆาตเหล่านี้ก็ได้พยายามรักษาระยะห่างเป็นพิเศษจากเรือกู้ซากของอู๋ฮ่าวเหริน
ตัวของอู๋ฮ่าวเหรินเองก็ย่อมที่จะห่วงปลอดภัยของตัวเองเป็นสำคัญเช่นกัน, ซึ่งมีของหลายอย่างที่จะช่วยปกป้องเขาอยู่ในช่องเก็บของระบบซองแดง, แม้แต่ตอนนี้เขาก็ได้ใส่เกราะพลังงานพิเศษเพื่อให้มั่นใจว่าเขานั้นจะไม่ถูกฆ่าแม้จะโดนมิสไซล์ยิงใส่ก็ตาม
ถ้ามีสถานการณ์ที่อันตรายเกิดขึ้นมา, เขาก็พร้อมที่จะทำให้พวกคนที่มาสร้างปัญหาให้เขาต้องรู้สึกคิดผิด
"สถานการณ์ของเรือเป็นอย่างไรบ้าง, จี้?"
"ทุกอย่างโอเคดี, อุปกรณ์ต่อต้านการสอดแนมก็ทำงานอยู่, ส่วนระบบอาวุธจะสามารถใช้การได้ในอีกไม่ช้า"
"ดี, ผมก็ได้แต่หวังว่าคนพวกนั้นจะไม่เข้ามาสร้างปัญหาให้พวกเราล่ะนะ"
0 ความคิดเห็น