CF:บทที่ 330 มุมมองที่มีต่อหยกเจไดท์ของเล่ยจวน

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 330 มุมมองที่มีต่อหยกเจไดท์ของเล่ยจวน


ความจริงแล้ว ตั้งแต่เข้าไปภายในห้องประชุมอู๋ฮ่าวเหรินก็จำเล่ยจวนได้ เขาไม่คิดว่าเจ้านายเก่าจะมาและการเข้ารับตำแหน่งของเธอในบริษัทอัญมณีของพ่อขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก


ในอดีต เธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งที่กระฉับกระเฉงและค่อยข้างจะตามแฟชั่น ในตอนนี้เธอดูเป็นเจ้านายที่ประสบความสำเร็จและหนักแน่น


เมื่อได้เห็นอู๋ฮ่าวเหริน เล่ยจวนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันคิดว่าคุณจะไม่รู้จักเจ้านายเก่าอย่างฉันเสียอีก ฉันไม่คิดว่าคุณถูกซ่อนตัวอยู่ในบริษัทมาก่อนเลย”


“ฮ่าฮ่า ผมจะลืมเจ้านายได้อย่างไรกัน? มีคนตั้งมากมายเลยในตอนนี้ คุณเล่ยพอจะมีเวลาไหมครับ? เชิญมาที่สำนักงานใหญ่กับผมและเดินชมบริษัทของผมด้วยกัน”


“เป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งค่ะ สำหรับบริษัทของคุณแล้ว ฉันคิดว่าใครหลายคนก็คงอยากที่จะเข้ามาเพื่อชม”


เมื่อพวกเขาทั้งสองคนเข้ามาที่บริษัท เพราะว่าเป็นวันหยุดพักผ่อน พนักงานจึงไม่ได้มาทำงาน ดังนั้นจึงมีคนไม่มากนักในบริษัท


เมื่อยืนอยู่ที่ด้านหน้าของตึก และมองดูตัวตึก เล่ยจวนพูดว่า “ในที่สุดฉันก็ได้มายืนอยู่ตรงหน้าของตึกนี้ ฉันเคยเห็นในวิดีโอมาก่อนแต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่เมื่อฉันมายืนอยู่ตรงนี้จริงๆ ฉันก็เข้าใจได้ว่ามันช่างมีเทคโนลยีสูงจริงๆ”


อู๋ฮ่าวเหริน ยืนอยู่ข้างๆ เขายิ้มและมองดูเล่ยจวนถ่ายภาพที่นั่น เขาเองก็ถ่ายรูปให้เธอด้วยโทรศัพท์มือถือของเธอ


เมื่อเดินเข้าไปภายในตัวตึกและเห็นสระน้ำพุที่อยู่ตรงกลางห้องโถงนั้น เล่ยจวนถามอย่างใคร่รู้ว่า “ฉันได้ยินมาว่าคุณกำลังจะใช้หยกก้อนใหญ่แกะสลักเป็นรูปปลาคาร์บกระโจนเข้าไปในประตูมังกรและวางไว้ในสระน้ำพุนี้ แล้วคุณก็ยังจะใช้หยกในการประดับตกแต่งด้วยอย่างนั้นหรือคะ?”


อู๋ฮ่าวเหรินพยักหน้าและกล่าวว่า “มันก็เป็นอย่างนั้นล่ะ”


เล่ยจวนมองดูอู๋ฮ่าวเหรินด้วยความประหลาดใจ เธอคิดว่ามันเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ไม่คาดคิดว่าจะมีอะไรเช่นนี้


“งั้นฉันก็เข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมบนโลกอินเตอร์เน็ตถึงได้ตัดสินคุณมากถึงเพียงนั้น”


อู๋ฮ่าวเหรินยิ้มอย่างทำอะไรไม่ถูก เข้าไม่สามารถที่จะอธิบายสิ่งนี้ให้คนอื่นฟังได้ คุณจะกล้าบอกคนอื่นงั้นหรือว่าหยกเจไดท์พวกนี้ก็เป็นเพียงแค่ก้อนหินในสายตาของเขา พูดได้ว่าเขานั้นมีช่องว่างระหว่างรุ่นกับโลกใบนี้


เมื่อมองดูบรรยากาศการทำงานและอุปกรณ์ที่มีหลากหลายที่นี่ เล่ยจวนกล่าวอย่างอิจฉาว่า “ฉันอยากจะมาทำงานที่นี่ บรรยากาศช่างดีมากๆ แล้วไหนจะมีเทคโนโลยีสูงที่น่าทึ่งมาก”


“ถ้าคุณเล่ยต้องการที่จะมาที่บริษัทของเรา ผมก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง”


อู๋ฮ่าวเหรินนั้นจริงใจ เขาได้ยินมาว่าช่วงนี้ คนในแผนกคอมพิวเตอร์กำลังมองหาผู้จัดการที่จะมารับผิดชอบด้านการขายผลิตภัณฑ์ซอฟท์แวร์


ความสามารของเล่ยจวน เขาทราบเป็นอย่างดี หญิงสาวร่ำรวยที่ออกมาต่อสู้ สามารถที่จะทำทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง และมีพรสวรรค์ทางด้านธุรกิจ


“ไม่เอาน่า ถ้าฉันออกจากบริษัทอัญมณีแล้วมาทำงานที่นี่ พ่อของฉันจะต้องตามหาคุณอย่างพลิกแผ่นดินแน่ มันไม่ง่ายเลยสำหรับเขากว่าที่จะทำให้ฉันสัญญาว่าจะรับช่วงกิจกรรมบริษัทอัญมณีได้”


“ไปกันเถอะ ผมจะให้คุณดูหยกเจไดท์ ผมอยากรู้ว่าต้องมีหยกเจไดท์จำนวนมากสักเท่าไรถึงจะทำให้ช่างแกะสลักประหลาดใจได้”


“ความจริงแล้ว ก็มีไม่มากนัก หยกเจไดท์พวกนั้นจะถูกนำมาใช้ประโยชน์ที่หยวนหมิงหยวน”


เธอตามอู๋ฮ่าวเหรินเข้าไปที่คลังสินค้าซึ่งเป็นที่เก็บหยกเจไดท์ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาทำให้เล่ยจวนผู้ซึ่งคลุกคลีกับหยกเจไดท์มาตั้งแต่วัยเด็กถึงกับฉงน


เธอเคยเข้าในในห้องสะสมหยกเจไดท์ของพ่อหลายต่อหลายครั้ง และเธอก็คิดว่าในนั้นมีหยกเจไดท์อยู่มากพอสมควร


อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอได้มาเห็นภาพในคลังสินค้าของอู๋ฮ่าวเหริน เธอก็เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร


ภายในคลังสินค้า มีชั้นวางเรียงรายเป็นแถว ใช้วางหยกเจไดท์ทั้งเล็กทั้งใหญ่ ภายใต้แสงไฟที่สาดส่อง ทำให้ผู้คนที่ได้พบเห็นถึงกับฉงน


เธอเองก็คลุกคลีกับหยกเจไดท์มาตั้งแต่เด็ก จากการศึกษามากว่าครึ่งปีเธอก็เป็นครึ่งหนึ่งของผู้เชี่ยวชาญหยกเจไดท์เช่นกัน


ไม่นานนักเธอก็ค้นพบหยกที่มีน้ำงามชิ้นหนึ่ง เธอก้าวเข้าไปและกำลังจะยกขึ้นมาได้ ทันใดนั้นเธอก็คิดได้ว่านี่ไม่ใช่คลังสินค้าของเธอ แต่เป็นของอู๋ฮ่าวเหริน


เมื่อได้เห็นท่าทางของเธอ อู๋ฮ่าวเหรินก็ยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า “ไม่เป็นไร คุณหยิบมาดูได้เลย”


เมื่อได้ยินคำของอู๋ฮ่าวเหริน เล่ยจวนก็เข้าไปหยิบหยกชิ้นนั้นขึ้นมาส่องกับแสงไฟ ด้วยสายตาแบบมืออาชีพของเธอ สามารถตัดสินได้ในเพียงพริบตาว่าถ้าวัตถุชิ้นนี้ถูกแกะสลักเป็นอัญมณี มันต้องมีมูลค่าอย่างน้อยสิบล้านหยวน


ยิ่งเห็นการจัดแสดงอย่างไม่เป็นทางการของที่นี่แล้ว เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอและอู๋ฮ่าวเหรินนั้นช่างแตกต่างกันคนละโลก


เธอค่อยๆ วางหยกเจไดท์แต่ละก้อนกลับคืนไปอย่างระมัดระวังและหยิบชิ้นอื่นที่วางอยู่ข้างๆ มาพิจารณา ฉันรู้สึกว่ามันไม่ธรรมดาเลย


โดยปกติแล้วถ้าอยู่ที่คลังสินค้าของพ่อ เธอก็คงจะดีใจมากที่ได้เปิดหยกพวกนี้ แต่นี่มันเป็นคลังสินค้าของอู๋ฮ่าวเหริน เธอจึงทำได้แต่เพียงพูดว่ามันไม่เลวเลยทีเดียว


อย่างไรก็ตาม เธอก็พบว่ารูปร่างของหยกเจไดท์นั้นไม่ถูกต้อง มีแค่หนึ่งหรือสองชิ้นเท่านั้นที่เป็นรูปร่างปกติ พวกมันทั้งหมดถูกผ่ายาวและบางชิ้นก็ดูไม่ปกติ


“หยกเจไดท์พวกนี้ตั้งใจตัดให้เป็นแบบนี้หรือคะ?”


“อ่า นี่น่ะหรือ” อู๋ฮ่าวเหรินกล่าวอย่างขลาดๆ “จริงๆ แล้ว หยกเจไดท์พวกนี้ถูกตัดด้วยหุ่นยนต์น่ะ ดังนั้นพวกมันก็เลยถูกตัดออกมาเป็นรูปร่างแบบนี้”


เมื่อได้ยินคำอธิบายของอู๋ฮ่าวเหริน เล่ยจวนก็มองเขาด้วยสายตาประหลาด นี่ใช้หุ่นยนต์ตัดหยกเจไดท์อย่างนั้นหรือ แล้วยังตัดตามแบบเดียวกันอีกด้วย นี่เขาจะต้องการที่ตัดหยกเจไดท์อีกสักเท่าไรกัน!


“อย่ามองผมอย่างนั้นสิ ผมรู้นะว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ แค่บอกสิ่งที่คุณต้องการมาก็พอ ผมไม่สนใจหรอก”


เมื่อมองดูรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของอู๋ฮ่าวเหริน เล่ยจวนก็เข้าใจได้ทันที่ว่าทำไมชายคนนี้ถึงได้ทำเช่นนี้


“ดูเหมือนฉันจะเข้าใจว่าคุณมีเงินมากมายเกินไป ไม่แปลกใจที่ว่าคุณไม่ได้สนใจหยกเจไดท์พวกนี้เลย นี่มันคือความเหมือนที่แตกต่างระหว่างคนรวยกับคนจน เมื่อพวกเราเห็นบางสิ่งที่แตกต่างออกไป นั่นก็คือพวกเราเห็นว่ามันแตกต่างจริงๆ”


อู๋ฮ่าวเหรินคิดตามและพยักหน้า ถึงแม้ว่าการอธิบายนี้จะแตกต่างจากสถานการณ์ของเขาแต่มันก็เป็นคำอธิบายที่ดีที่สุด


ไม่นานนัก เล่ยจวนก็ต้องตาต้องใจกับหยกชิ้นหนึ่ง เธอจ้องมองหยกเจไดท์ชิ้นนั้นและมองอย่างพินิจพิเคราะห์


หยกเจไดท์ชิ้นนี้เป็นหนึ่งในหยกที่มีอยู่มากมาย ซึ่งถูกห่อไว้ด้วยแร่สีฟ้าและแลดูสวยงามมาก


หยกชิ้นนี้มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ขนาดเท่าๆ กับไข่นกพิราบ อู๋ฮ่าวเหรินมองดูอย่างแปลกประหลาด เขาเพิ่งจะนำหยกเจไดท์ก้อนนี้ออกมาจากพื้นที่ซองแดง


หลังจากพิจารณาอยู่เป็นเวลานาน เล่ยจวนก็รู้สึกตัว เธอจึงหันหน้าหนีจากหยกก้อนนั้น เธอรู้มูลค่าของหยกก้อนนี้เป็นอย่างดี มันดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหยกที่อยู่ภายในหินสีฟ้า


ภายหลังการเยี่ยมชมคลังสินค้า เล่ยจวนก็ให้ผลประเมินในการตัดหยกเจไดท์แก่อู๋ฮ่าวเหริน ถึงแม้ว่าเธอจะเข้าใจพฤติกรรมของเขา แต่เล่ยจวนก็ไม่ได้สนับสนุนพฤติกรรมของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เขาตัดหยกเจไดท์เช่นนั้น


หนึ่งในห้าของหยกเจไดท์ที่มีสีสัน เมื่อเธอได้เห็นการตัดหยกของเขา เธอถึงกับโกรธและอยากจะจับอู๋ฮ่าวเหรินมาตีเสียจริงๆ


“ในอนาคตถ้าคุณต้องการที่จะตัดหยกเจไดท์ คุณควรจะให้ช่างผู้ชำนาญการตัดให้จะดีกว่านะ ฉันใจสลายเลยที่ได้เห็นหยกเจไดท์พวกนั้น”


อู๋ฮ่าวเหรินทำได้เพียงแค่ยิ้มและพูดว่า “ดูหยกเจไดท์พวกนั้นสิ ผมจะเอาออกมาให้คุณนะ”


“ฉันจะคอยดูเผื่อว่าฉันจะเปลี่ยนหยกพวกนี้ได้ หยกที่นี่ช่างน่าดึงดูดนัก อนิจจา คุณนี่มันช่างเป็นฮีโร่คนสำคัญเลยนะ คุณกล้าที่จะซื้อหินหยกเจไดท์มากๆ ได้ในคราวเดียว”


อู๋ฮ่าวเหรินคิดว่า เขาไม่ได้ซื้อมาสักหน่อย เขาได้มาฟรีๆ อย่างไรก็ตาม หยกเจไดท์ส่วนใหญ่พวกนี้เขาได้มาจากระบบซองแดง


     

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น