CF:บทที่ 329 นักค้าอัญมณีถูกกดดัน

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 329 นักค้าอัญมณีถูกกดดัน


ตามที่ได้รับแจ้งจากจื่อหยง อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกแปลกใจที่ได้ทราบว่าเบื้องบนตกลงตามความต้องการของเขา เขาคิดว่ามันอาจจะต้องมีการหารือร่วมกับเขา


“คุณต้องการความช่วยเหลือในการสร้างสถาบันหรือไม่ครับ?” เขาถาม


“ไม่นะ ฉันจะแก้ปัญหาด้วยตัวของฉันเอง ในเมื่อมันเป็นสถาบันเอกชน สิ่งของแบบนี้ไม่ได้สร้างประโยชน์ให้แก่รัฐ”


“เอาล่ะ ถ้าคุณต้องการอะไร ก็โทรหาผมได้เลยนะครับ”


หลังจากที่วางสาย อู๋ฮ่าวเหรินคิดเกี่ยวกับมันและเริ่มคำนวนราคาตามแบบก่อสร้าง ในเมื่อเขาไม่ต้องการที่จะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐ เขาก็ต้องซื้อวัสดุด้วยตัวของเขาเอง


การขนส่งวัสดุนั้นเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องได้รับการแก้ไข


“จี้ พวกเรามาเริ่มสร้างหุ่นยนต์เพื่อการขนส่งกันเถอะ รวมถึงหุ่นยนต์ก่อสร้างและหุ่นยนต์ขุดอุโมงค์ใหญ่ๆ ด้วย”


เมื่อเราเริ่มก่อสร้างสถาบันวิจัยในนี้ ถนนก็จะถูกถางออก


วันถัดมา อู๋ฮ่าวเหรินได้เพิ่มปริมาณการสั่งซื้อวัสดุ ซึ่งทำให้ราคาสูงขึ้นเล็กน้อยจากราคาวัสดุในท้องตลาด


ไลน์การผลิตหุ่นยนต์ได้เริ่มขึ้นอย่างเต็มตัว โดยมีการผลิตหุ่นยนต์ที่หลากหลายแบบที่ถูกผลิตขึ้นในครั้งนี้


ในพื้นที่ก่อสร้างหยวนหมิงหยวน นักค้าอัญมณีจากทั่วทุกสารทิศเข้ามาติดต่อช่างแกะสลักที่นี่ และเข้ามาโดยตรงภายในวันนี้


เห็นได้ชัดว่า นักค้าอัญมณีเหล่านี้รู้ว่าผู้คนที่เข้ามาที่นี่ในวันนี้ล้วนแล้วคือคู่แข่ง ดังนั้นพวกเขาจึงเตรียมพร้อมไปด้วยดินปืน


รถสองคันเข้ามาถึงที่จอดรถในเวลาเดียวกัน คนรวยวัยกลางคนสองคนลงมาจากรถ พวกเขาต่างมองกันและกันและกล่าวสวัสดีต่อกันด้วยรอยยิ้ม


“นี่คือประธานเฉินใช่ไหม? ผมได้ยินมาว่าส่วนกลางของบริษัทของคุณค่อนข้างจะผกผันในช่วงนี้นี่ครับ คุณยังมีเวลามาที่นี่ได้อย่างนั้นหรือ?”


คำพูดนี้มีนัยแฝงอยู่ทำให้หน้าของท่านเฉินดูน่าเกลียด


“มาลองดู เผื่อว่าจะโชคดีน่ะ นี่มันประธานหลี่นี่นา ผมได้ยินมาว่า เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทของคุณผลิตสินค้าปลอมและของโหลไม่ใช่หรือ ผมไม่รู้เลยว่าเป็นอย่างไรบ้าง?”


“ฮ่าฮ่า ข่าวลือน่ะครับ ข่าวลือ มีใครบางคนต้องการที่จะทำให้บริษัทของผมเสื่อมเสียชื่อเสียง พวกเราจะขายของปลอมและของที่ด้อยคุณภาพได้อย่างไรกัน?”


เมื่อพวกเขามาถึงห้องประชุมบนพื้นที่ก่อสร้างของหยวนหมิงหยวน พวกเขาพบว่าที่นั่นดูเหมือนจะมีคู่แข่งขันจำนวนมากมารวมตัวกัน ณ เวลานี้


เล่ยจวนเองก็นั่งลงท่ามกลางผู้คนมากมาย


แต่วัตถุประสงค์ของเธอก็ไม่ได้เหมือนเช่นคนอื่นๆ


“เล่ยจวน ทำไมพ่อของเธอ เล่ยลี่ ถึงไม่มาด้วยตัวเองล่ะ และส่งเธอมา เด็กสาวที่มีผมดกหนา ผู้ซึ่งเพิ่งจะติดต่อทำธุรกิจเกี่ยวกับหยกเจไดท์มาเพียงครึ่งปี ให้มาที่นี่โดยไม่เกรงกลัวต่อปัญหาใด?” นักค้าอัญมณีที่มากประสบการณ์กล่าว


เล่ยจวนมองดูเขาและกล่าวว่า “คุณลุงหวังไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้หรอกค่ะ ถ้าฉันสามารถที่จะทำมันได้ดี มันก็ไม่เป็นปัญหา คุณควรจะห่วงตัวเองมากกว่าค่ะ”


“ตัวเล็กแต่ใจไม่เล็กเลยนะ”


เล่ยจวนไม่สนใจเขา บริษัทของทั้งคู่เป็นบริษัทคู่แข่งกัน เธอรู้ดีว่าชายแก่มีเจตนาไม่ดี


เดิมที่ เธอต้องการที่จะนำเอางานวิจัยด้านอาวุธและอุปกรณ์กลับไปด้วยในวันที่ แต่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้รับโทรศัพท์จากชายชราในพื้นที่ก่อสร้างหยวนหมิงหยวนว่ามีนักค้าอัญมณีจำนวนมากที่ต้องการคุยกับอู๋ฮ่าวเหรินเกี่ยวกับหยกเจไดท์


อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้วางแผนที่จะพบคนเหล่านี้มาก่อน เมื่อเขาได้ทราบว่าบางคนมาที่นี่พร้อมกับของโบราณ เขาจึงตกลงที่จะให้พวกเขาเข้าพบ


ห้องประชุมในพื้นที่ก่อสร้างหยวนหมิงหยวนในตอนนี้เต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมาก


“ปรมาจารย์เหยียน เกิดอะไรขึ้นครับ? คนพวกนี้มาทำอะไรที่นี่?”


“แน่นอนว่า ถ้าไม่ใช่เพราะของโบราณที่พวกเขาเหล่านี้นำมาด้วย ผมก็คงจะไม่อนุญาตให้ใครเข้าพบคุณ ผมรู้ว่าคุณชอบของโบราณ และคนพวกนี้ก็นำของโบราณที่หายากมาด้วยมากมาย”


หยกแลกของโบราณอย่างนั้นหรือ?


มันช่างเป็นความคิดที่ดี อู๋ฮ่าวเหรินพบว่ามันมีหลายหัวข้อที่ต้องทำ ดูเหมือนว่าจะเป็นการง่ายที่จะได้ของโบราณพวกนั้นมามากกว่าที่จะซื้อมันด้วยเงิน


มันไม่ใช่แค่หยก แต่ดูเหมือนว่าคุณจะสามารถแลกของโบราณพวกนี้กับสิ่งอื่นได้ด้วย


หลังจากที่พูดคุยกับอาจารย์ทั้งหลาย อู๋ฮ่าวเหรินก็พอจะรู้สึกบางคนที่อยู่ในห้องประชุมอย่างผิวเผิน


เมื่อเห็นว่าอู๋อ่าวเหรินเข้ามา คนพวกนั้นก็พากันลุกขึ้นยืน บางคนก็ก้าวเข้ามาหาและแนะนำตัวเอง


เล่ยจวนไม่เหมือนเช่นในอดีต เธอรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าเธอเป็นเหมือนเช่นในอดีต


ชายคนที่นั่งลงข้างๆ กับเล่ยจวน มองมาที่เล่ยจวนซึ่งไม่ขยับตัวเลยแม้แต่น้อย และเขาก็พูดขึ้นว่า “สาวน้อยเอย สาวน้อย”


เล่ยจวนมองดูเขาและหันไปมองอู๋ฮ่าวเหรินต่อ พลางคิดเกี่ยวกับอะไรบางอย่าง


“วัตถุประสงค์ของคุณที่มาที่นี่ผมทราบแล้ว ถ้าคุณต้องการที่จะแลกเปลี่ยนของโบราณกับหยกเจไดท์ มันก็ไม่เป็นไร ในกรณีนี้เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาของทุกท่าน ผมจะทำเครื่องหมายบนของของคุณและจดหยกเจไดท์ที่คุณต้องการที่จะแลกเปลี่ยน แล้วผมจะให้คำตอบภายในวันพรุ่งนี้”


เมื่อคนพวกนั้นได้ยินดังนั้น พวกเขาต่างพากันดีใจ หนึ่งในนั้นส่งของโบราณ และเซ็นชื่อของเขา พร้อมกับจดหยกเจไดท์ที่เขาต้องการที่จะแลกเปลี่ยน


ไม่มีใครในที่นี้คิดว่าอู๋ฮ่าวเหรินจะหักหลังพวกเขา พวกเขาเข้าใจว่าอู๋ฮ่าวเหรินคงต้องรอให้ใครสักคนมายืนยันว่าของโบราณพวกนั้นเป็นของแท้


เล่ยจวนตามคนอื่นๆ ออกไปข้างนอกห้องประชุม


เธอไม่ได้นำของโบราณอะไรมาด้วย ดังนั้นเธอจึงไม่ได้มีปัญหามากนัก


ประธานที่นามสกุลหวัง มองมาที่เล่ยจวนและพูดว่า “ว่าอย่างไรล่ะ สาวน้อย เธอยังจะกล้าพูดอีกหรือว่าเธอทำได้?”


“แน่นอนค่ะ คุณลุงหวังควรจะต้องให้ความสนใจกับปัญหาของคุณมากกว่านี้นะคะ ฉันคิดว่าต้องมีอะไรผิดปกติกับของโบราณที่คุณนำมาด้วยเป็นแน่ การเอาหยกเจไดท์มาแลกหยกเจไดท์ ถึงแม้ว่าจะเป็นหยกโบราณ แต่ยังไงมันก็ยังเป็นหยกเจไดท์อยู่ดี”


ในตอนนี้ พนักงานก็เดินเข้ามาหาและพูดว่า


“สวัสดีค่ะ คุณเล่ย ท่านประธานของเราเชิญให้คุณเข้าไปพบที่สำนักงานใหญ่ค่ะ คุณพอจะมีเวลาไหมคะ?”


ท่ามกลางสายตาที่ประหลาดใจของผู้คนที่อยู่ถัดจากเธอ เล่ยจวนก็พูดว่า “แน่นอนค่ะ ฉันคิดว่าเขาจะลืมเจ้านายของเขาไปแล้วซะอีก”


กลุ่มคนพากันตกตะลึงมองดูเล่ยจวนที่ตามพนักงานเข้าไปพบอู๋ฮ่าวเหริน


“เกินอะไรขึ้น? นั่นคือลูกสาวของเล่ยลี่ไม่ใช่หรือ? ทำไมเธอถึงได้ถูกเชิญให้เข้าไปพบแค่คนเดียวล่ะ?”


“คงเป็นเพราะรูปร่างหน้าตาของเธอล่ะมั้ง คุณอู๋คงจะคลั่งไคล้ในตัวเธอ?”


“อย่าพูดอย่างนั้นสิ คุณคิดหรือว่าประธานของฟิวเจอร์กรุ๊ป สุภาพบุรษผู้มีพรสวรรค์ต้องการที่แค่หาผู้หญิงสักคน ผู้หญิงแบบนี้หาที่ไหนก็ได้ แต่เธอดูเหมือนมีเรื่องที่จะพูดเกี่ยวกับเจ้านายของเขา มีอะไรที่พวกเราไม่รู้บ้างนะ? “


“มันไม่ง่ายเลย ฉันจะลองสืบดู มันต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกันบนโลกอินเตอรเน็ตที่เกี่ยวข้องกับท่านประธานอู๋”


ไม่นานนักสีหน้าของคนเหล่านั้นก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าแปลกๆ


“เกิดอะไรขึ้น? ผลการค้นหาเป็นอย่างไรบ้าง?”


“ดูตัวเองสิ มันกลายเป็นว่าผู้คนเตรียมตัวมาที่นี่ แต่ไม่น่าแปลกใจที่เล่ยหลี่ไม่ได้มา”


นักค้าอัญมณีเปล่งเสียงอ่านข้อมูล “มันเป็นความบังเอิญที่ชายผู้มีพรสวรรค์คนนี้ได้รับเงินทุนตั้งต้นก้อนแรกจากการค้าขายหยกให้แก่เล่ยหลี่”


“อะไรอีกล่ะ บริษัทที่คนอัจฉริยะเริ่มทำงานด้วยก็คือบริษัทของเล่ยจวน ซึ่งเป็นลูกสาวของเล่ยหลี่ มันดูเหมือนว่าที่พวกเรากำลังวุ่ยวายกันในตอนนี้ แต่ตระกูลเล่ยกับเป็นผู้โชคดีในครั้งนี้”


ประธานหวังผู้ที่เพิ่งพูดกับเล่ยจวน ดูแย่นักในตอนนี้ เขาไม่คิดว่าจะมีอะไรเช่นนี้เกิดขึ้น


“ฉันหวังว่าท่านประธาน เพื่อเห็นแก่ของโบราณจะอนุญาตให้พวกเรานำหยกเจไดท์กลับไปบ้าง มิฉะนั้นตลาดหยกเจไดท์ก็จะเป็นอย่างที่ตะกูลเล่ยได้พูดไว้”


คนพวกนี้ต่างพากันรู้สึกกดดันเล็กน้อย พวกเขาไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นเช่นนี้ ฉันต้องปล่อยให้ตระกูลเล่ยได้ครอบครองหยกเจไดท์เหล่านั้นไป ไม่สิ แค่บางส่วน เพราะสถานการณ์ของพวกเขาก็ไม่ค่อยดีนัก


     

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น