RC:บทที่ 412 บ่อเลือดบนพื้น
เขามองเห็นมนุษย์หม่าป่าฝรั่งเศสและแวมไพร์อังกฤษ ไม่รู้ว่าทำไมพวกมันถึงได้สู้กันเองแบบนั้นโดยที่มีคนรอบๆตัวยืนปรบมือเชียร์
ด้วยเสียงคำราม ร่างกายของคนเยอรมันก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้น ร่างกายที่ใหญ่โตขึ้นนั้นทำให้เสื้อผ้าของพวกเขาเริ่มขาดก่อนที่ร่างนั้นจะเปลี่ยนแปลงไป หัวนั้นกลายเป็นหมาป่าและร่างกายก็มีขนยาวนับไม่ถ้วนงอกขึ้นมา
นอกจากนั้น แขนของชายคนนี้เองก็หนาขึ้นมากๆ ไหนจะกรงเล็บที่งอกออกมาจนเเหมือนเล็บหมาป่าอีก ฟันในปากก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นแหลมคนและดูดุร้ายมากขึ้น มันข่มขู่ทุกสายตาที่มองมา ร่างของเขาในตอนนี้ กลายเป็นหมาป่าโหยที่ยืน 2 ขาไปแล้ว นี่คือ มนุษย์หมาป่าเยอรมัน!
อีกฟากหนึ่ง ชายชาวอังกฤษนั้นส่งเสียงคำรามที่แข็งแกร่งออกมา จากนั้นร่างกายของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก หูของเขานั้นเริ่มจะเรียวเล็กมากขึ้น เขี้ยวในปากเองก็ยาวออกมาด้วยเช่นกัน
และในตอนท้ายด้านหลังของเขาก็มีปีกขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมา ความแข็งแกร่งอันมหาศาลถูกปลดปล่อยออกมาจากชาย 2 คนนั้น ทั้งสองมีความแข็งแกร่งแตะระดับ S กันแล้ว
หลินเฟิงมองทั้งสองที่ยังต่อสู้กันอยู่อย่างรวดเร็ว การต่อสู้นั้นดูจะไม่มีคนคอยห้ามทั้งสิ้น หนำซ้ำยังปรบมือและเชียร์อย่างสนุกสนานด้วย
ขณะที่หลินเฟิงกำลังมอง ทันใดนั้นพวกเขาทั้งหมดก็สนใจเหตุการณ์นี้ หลินเฟิงหันไปมองไคซือและพูด “พวกนั้นกำลังสนใจอย่างอื่นอยู่ พวกเราควรจะเข้าไปสำรวจข้างในตอนนี้เลยมั้ย?”
“นี่...” ไคซือลังเล ถึงยังไงมันก็อันตรายเกินไป เพราะมันมีคนที่แข็งแกร่งรวมกันอยู่เป็นจำนวนมาก พวกเขาจะออกจากที่นี่ไม่ได้ถ้าไม่ระวังมากพอ
“เข้าใจแล้ว!” อย่างไรก็ตาม ขณะที่ไคซือกำลังลังเล จี่ยี่ก็เอ่ยขึ้น
“งั้นฉันก็ด้วย!” ในท้ายสุดเขาก็ยอมร่วมมือด้วย
“ถ้างั้น ในเมื่อพวกเราต้องการที่จะเข้าไปสำรวจ งั้นก็เขาไปดูกัน! แต่จำไว้นะ ชีวิตน่ะ สำคัญกว่าทุกสิ่ง ถ้าเจออะไรที่มันไม่น่าเสี่ยงไม่น่าลอง เราต้องรีบออกมาทันทีเลยนะ!” ไคซือย้ำเตือน
“เข้าใจแล้ว!” ทุกคนตอบพร้อมกัน ถึงจะต่างโทนเสียงแต่ก็มีความหมายเดียวกัน
“เอ้อ ยังไงก็เถอะ เราจะเริ่มจากไหนก่อนล่ะ?ที่นี่น่ะมีรูอยู่ตั้ง 7 รูเลยนะ แถมแต่ละรูยังมีกลิ่นแย่ๆโชยออกมาอีกด้วย มันไม่ง่ายเลย!” จี่ยี่พูด
“แยกกันไป พี่ใหญ่ไคซือกับฉันจะไปทางถ้ำตรงด้านหลังองกรณ์กระโหลกโลหิต ส่วนคุณ 2 คนก็ไปตรงนินจาญี่ปุ่น ด้วยวิธีนี้ ต่อให้เกิดปัญหาอะไร เราก็จะได้ไม่ถูกเขี่ยออกหมด!” หลินเฟิงคิดและพูด
“โอเค ตามนั้น! ตอนนี้ยังไม่สาย ถ้ายังไงก็ไปกัันก่อนเถอะ!” จี่ยี่และโม่หยานตอบรับ ก่อนที่ทั้ง 2 จะรีบไปยังทางที่พวกนินจาญี่ปุ่นอยู่อย่างรวดเร็ว
และทางหลินเฟิงและไคซือ พวกเขาเองก็แอบย่องเข้าไปภายในถ้ำที่ซึ่งอยู่ด้านหลังองค์กรณ์นี้ต่อไป
ตอนนี้พวกเขาอยู่ในถ้ำแล้ว และภายในถ้ำก็ยังมีถ้ำซ้อนอยู่อีก จะเรียกว่า ถ้ำในถ้ำ เลยก็ว่าได้
หลินเฟิงและไคซือนั้นรีบจ้ำอ้าวเดินไปด้วยกันเร็วขึ้น เพื่อไม่ให้ใครก็ตามที่เข้ามาจากด้านนอกสามารถตามหาตัวพวกเขาเจอได้ และโชคยังดีที่พวกคนเหล่านั้น กำลังสนใจอยู่กับมนุษย์หมาป่า และแวมไพร์ที่กำลังสู้กันอยู่ เพราะงั้นมันยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่คนพวกนี้จะรู้สึกตัว
ไม่นานนัก หลินเฟิงและไคซือก็สามารถแทรกซึมเข้ามาในถ้ำได้สำเร็จ ส่วนอีกฟากหนึ่งทางจี่ยี่และโม่หยานเองก็สามารถเข้าไปในถ้ำนินจาได้แล้ว
ทางเข้าทางฝั่งหลินเชิงนั้น ยังคงมีกลิ่นคาวเลือดรุนแรงคลุ้งอยู่ และยิ่งเข้าใกล้ กลิ่นนี้มันก็ยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆ
และพอสังเกตดีๆ เขาก็พบเลือดจำนวนมากมายอยู่บนพื้น มันดูเหมือนถูกฉีดเอาไว้เลย เน่าเหม็นสุดๆ
เมื่อพวกเขาเข้ามาได้แล้ว มันก็มีผู้คนบางส่วนออกไป หลินเฟิงและไคซือนั้นรีบเดินเข้าไปในทันทีพร้อมกับซ่อนกลิ่นอายของพวกเขาเองไว้อย่างมิดชิดด้วย เพียงไม่นานนัก พวกเขาก็สามารถเดินผ่านทางเข้ามาได้
ทั้งสองยังคงเดินหน้าต่อไป โดยไม่รู้เลยว่า หลังจากไม่กี่นาทีต่อมา หลินเฟิงจะต้องพบกับภาพที่หน้าสยดสยองตรงหน้า ภาพของสถานที่ที่แดงฉานไปด้วยเลือด!
มันมีบ่อเลือดอยู่ท่ามกลางคราบเลือดที่ทั้งสดบ้างเก่าบ้างปะปนกัน บ่อเลือดมากมายนั้นล้วนเป็นวงกลมทั้งหมด และมีเส้นผ่าศูนย์กลางของแต่ละบ่อราวๆ 2 เมตร ที่นี่มีบ่อเลือดมากมายจนนับไม่ถ้วน หลินเฟิงเองก็ไม่ได้คาดคิดเลยว่าเบื้องหลังถ้ำเล็กๆนั้นจะมีเลือดปริมาณมหาศาลแบบนี้อยู่ด้วย?
“หลินเฟิง! นายคิดว่าพวกนี้คืออะไร?” ในตอนนั้น ไคซือที่ดูเหมือนจะเจออะไรบางอย่างชี้ให้หลินเฟิงดู
เมื่อหลินเฟิงมองตาม เขาก็เกิดความตกตะลึงระลอกใหญ่ขึ้นมาในใจทันที เพราะว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้นคือซากศพกำลังโผล่ขึ้นมาจากบ่อที่เต็มไปด้วยเลือดนั้น
ยิ่งไปกว่านั้น โครงกระดูกของซากศพเหล่านี้ยังดูเหมือนจะใหญ่กว่าคนปกติอยู่ไม่น้อยเลยด้วย เรียกว่าไม่เหมือนกระดูกคนปกติเลยก็ว่าได้
แต่กลิ่นอายของมัน กลับบอกหลินเฟิงว่าซากศพเหล่านี้ ยังไงก็เป็นของมนุษย์ที่ตายแล้ว ทันใดนั้น! จู่ๆหลินเฟิงก็นึกขึ้นได้ ถึงชายที่สวมชุดขององค์กรกระโหลกโลหิตที่ซึ่งได้บอกเขาว่า เขาต้องการเลือดและซากศพจำนวนมากเพื่อที่จะสร้างกองพันกระดูกโลหิต อย่าบอกนะว่าเจ้านี่เองก็เป็นหนึ่งในนั้น?
“ชู่!” ทันใดนั้นจู่ๆไคซือก็เหมือนจะรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง เพราะงั้นแล้วเขาจึงรีบจับหลินเฟิงและพาไปซ่อนตัวทันที
ทันทีีที่ทั้งสองร่างซ่อนตัวเสร็จ ชายคนหนึ่งก็รีบวิ่งเข้ามาในทันที เขามองไปรอบๆและกุมหัวตัวเองไว้อยู่พักใหญ่ๆ “อ้าา แปลกจริง นี่ไม่ใช่ภาพลวงตาใช่มั้ย?”
หลังจากนั้นเขาก็รีบเดินกลับไปทันที
“ตามหมอนั่นไป!” หลินเฟิงบอก
จากนั้นทั้งหลินเฟิงและไคซือก็รีบเดินตามไปยังทางที่ชายคนนั้นออกไปทันที
ครู่ใหญ่ๆ หลังจากเดินตาม ชายคนนั้นก็หยุดลงและมองไปยังบ่อเลือดตรงหน้าเขาและในตอนนี้ข้างๆเขาเองก็มีกล่องขนาดใหญ่ที่ใส่ผงสีขาวเอาไว้ด้วย
หลินเฟิงและชายคนนั้นอยู่ห่างกันในระดับหนึ่ง มันเลยทำให้เขาไม่สามารถมองหรือได้ยินอีกฝ่ายชัดเจนนัก แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ พวกเขาก็ยังสามารถแอบดูได้ว่าชายคนนั้นกำลังทำอะไร
เขาค่อยๆโรยผงสีขาวนั้นไปรอบๆบ่อเลือด จากนั้นบ่อเลือดดังกล่าวก็เกิดฟองอากาศสีเดียวกับเลือดขึ้นมาก่อนจะเริ่มก่อนตัวเป็นรูปเป็นร่างของโครงกระดูกที่ไร้ซึ่งเนื้อหนังใดๆ
“กระดูกโลหิต!” เมื่อหลินเฟิงและไคซือเห็นดังนั้น พวกเขาต่างก็พากันตกตะลึง
นั่นก็เพราะสิ่งที่ชายคนนั้นโรยลงไปในบ่อเลือด หาใช่ผงแป้งไม่ หากแต่เป็นผงกระดูกที่บดมาจากคนตายต่างหาก และผงเหล่านี้ใช้เป็นส่วนประกอบของการสร้างกองพันกระดูกโลหิต!
ในตอนนี้ กระดูกโลหิตได้ปรากฏตัวต่อหน้าเขาแล้ว แต่กระนั้นมันก็ยังไม่มีชีพจรใดๆ ยังคงเหมือนสิ่งที่ตายไปแล้วอยู่
แต่เพียงแค่เหล่ากระดูกพวกนี้จับตัวกันเสร็จ เลือดที่อยู่ในบ่อนั้นก็เปล่งแสงอย่างแปลกประหลาดขึ้นมา ทั้งหลินเฟิงและไคซือต่างรับรู้ได้เหมือนกันว่าเจ้ากระดูกโลหิตตัวนี้กำลังค่อยมีความรู้สึกนึกคิดรวมถึง ชีวิต ขึ้นมาแล้ว
ภาพตรงหน้านี้ยังคงทำให้ทั้งสองตกตะลึงอยู่ พวกเขานั้นได้แต่มองแบบอึ้งๆโดยไม่พูดอะไรอยู่นานเลย
“นี่มัน เกิดอะไรขึ้นน่ะ? มันไม่ควรจะเป็นไปได้ นี่น่ะเหรอความลับของกระดูกโลหิต?” หลินเฟิงหันไปพูดกับไคซือหลังได้สติ
“ไม่รู้ แต่ตอนนี้เหมือนว่าจะมีพวกผู้เชี่ยวชาญกำลังมานะ...”
0 ความคิดเห็น