RC:บทที่ 410 สำรวจลึกขึ้น

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 410 สำรวจลึกขึ้น


“เดี๋ยวนะ ตอนนี้เราอยู่ที่นี่ และไม่รู้ว่าจะโดนเจอตัวหรือเปล่า แล้วถ้าเราส่งข่าวไปบอก แล้วถ้าโดนเจอตัวขึ้นมาก็ไม่สามารถออกไปไหนได้น่ะสิ” ในตอนนั้นเอง หลิน เฟิงก็ได้ว่าขึ้น


“แล้วไง” จี่ยี่เอ่ย


“เรามาลองสังเกตการณ์ที่นี่ก่อน ถ้าจะให้ผมคิดอะไรออก สำรวจที่นี่ไปสักพักน่าจะดีกว่า ถ้าเป็นไปได้ เราต้องหานักฆ่าที่อยู่คนเดียว เอาเสื้อผ้าพวกเขามาใส่ แล้วค่อยย่องไปดูเหตุการณ์ข้างในกัน” หลิน เฟิงเอ่ย 


ในตอนนี้ ทั้งสามคนต่างอยู่ในอาการตื่นกลัวและสับสน และเมื่อได้ฟังในสิ่งที่หลิน เฟิงพูด สายตาของพวกเขาก็วาววับก่อนจะพยักหน้าอย่างเห็นด้วยตามๆกัน


“เอ่อ เอางั้นก็ได้” สามคนที่เหลือพยักหน้า


จากนั้นพวกเขาก็มองหลิน เฟิงอยู่ครู่หนึ่ง และในที่สุด ตรงข้างหลังนั้นเอง พวกเขาก็เห็นคนสี่คนสวมชุดแดงเหมือนเลือด หน้ากากด้วย ก่อนจะเดินกันออกมาอย่างช้าๆ


เมื่อเห็นทั้งสี่คนนั้น หลิน เฟิงและคนอื่นๆต่างก็ตกใจ คนพวกนี้เป็นคนจีน แต่ใส่ชุดคชุมสีแดง โดยมีสัญลักษณ์หัวกะโหลกแดงห้อยอยู่บนร่างพวกนั้น


“กะโหลกเลือดงั้นหรือ” เมื่อพวกเขาเห็นแบบนั้น หลิน เฟิงก็ยิ่งตกใจขึ้นไปอีก


พวกองค์กรกะโหลกสีเลือด ต่างเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นพวกลึกลับและทรงพลัง


และที่คาดไม่ถึงก็คือ พวกนั้นมารวมตัวกันกับผู้มีพลังต่างชาติ  เป็นเรื่องยากแล้วเพราะไม่ใช่แค่เรื่องของคนญี่ปุ่นแล้ว คนวางแผนไม่ใช่แค่พวกนั้น แต่เป็นต่างชาติพวกนี้ด้วยงั้นหรือเนี่ย


ยิ่งสำรวจมาไกลเท่าไหร่ หลิน เฟิงและคนที่เหลือก็ยิ่งตกใจมากขึ้นเท่านั้น เห็นเรื่องนี้คงทำใจได้ไม่ง่ายนัก


“อาจารย์ไค ซือ พวกคุณสามคนแน่ใจนะว่าจะฆ่าสี่คนนี้ได้โดยไม่เกิดเสียงน่ะ” หลิน เฟิงถามขึ้น


“ได้สิ พวกเราน่ะเป็นถึงระดับ S ขั้นสูงสุดที่ทรงพลังที่สุด ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” ไค ซือกล่าว


อีกสองคนที่เหลือต่างก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับสิ่งที่ไค ซือกล่าว


“เอาล่ะ งั้นเราก็ลงมือฆ่าสี่คนนั้น แล้วไปเอาเสื้อพวกนั้นมากัน” หลิน เฟิงกล่าวกับทั้งสาม


เมื่อทั้งสามคนได้ยินแบบนั้น ก็ต่างหายตัวไปในทันที และเมื่อปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาก็กลับมาพร้อมร่างของคนสี่คน และที่ข้างหลังของพวกเขาก็มีรอยแยกเกิดขึ้น


มือของทั้งสามคนคว้าเอาร่างของทั้งสี่คนนั้นมาได้ ก่อนจะผลักเข้าไปในช่องว่างช่องดังกล่าว


เมื่อพวกเขาออกมา เขาจึงเห็นชุดคลุมกะโหลกแดงสี่ชุดในมือของทั้งสามคน


“โอเค ทุกคน สวมเสื้อเร็วเข้า ต้องปิดบังตัวเองให้ได้มากที่สุด เราอาจจะไม่รู้เรื่องเสื้อผ้าและความสามารถของชาติอื่นๆมากนัก แต่ปิดบังตัวเองไว้นั่นแหละดี”


การใช้ภาษาของชาติพันธุ์อื่นๆนั้นอาจไม่ดีเท่ากับคนจีน และถ้าหลิน เฟิงและพวกเขาที่เหลือไปใส่ชุดของคนพวกนั้นเข้า ไม่นานพวกหลิน เฟิงกับคนอื่นๆจะต้องโดนจับได้แน่ๆ


ในครั้งนี้ องค์กรกะโหลกเลือดนั้นเป็นองค์กรที่เกิดในประเทศจีน อีกทั้งยังใช้คำโบราณ รวมถึงรูปร่าง ลักษณะที่ดูโบราณด้วย ซึ่งเหมาะจะเป็นคนธรรมดามากกว่า


“พร้อมนะ งั้นเข้าไปในถ้ำกัน” หลิน เฟิงหยิบชุดขององค์กรกะโหลกแดงขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยขึ้นหลังจากที่สวมเสร็จ


ที่เหลืออีกสามคน ที่ตอนนี้สติหลุดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ต่างก็เชื่อฟังหลิน เฟิงไปโดยอัตโนมัติในฐานะคนออกคำสั่งและฟังแผนของเขา


ไม่นาน พวกเขาจึงได้สบโอกาสในการติดตามกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเข้าไปในถ้ำ โดยหลังจากที่เข้าไปแล้วนั้น พวกเขาก็เห็นว่าถ้ำนั้นไม่ได้แคบเลย แต่กลับดูกว้างใหญ่เสียด้วยซ้ำ


ใช้เวลาต่อมาอีกแค่ไม่กี่นาทีที่พวกเขาได้เห็นว่าในถ้ำยังมีอย่างอื่นอีก ในนั้นมีคนอยู่มากมาย ราวกับเป็นตลาดสด เสียงตะโกนลั่นไม่หยุด


นอกจากนี้ ในนั้นยังมีคนอยู่หกกลุ่ม กลุ่มแรกคือกะโหลกเลือด กลุ่มที่สองคือพวกญี่ปุ่น กลุ่มที่สามคือแวมไพร์อังกฤษ กลุ่มสี่คือพวกกลายพันธุ์ชาวอเมริกา ส่วนกลุ่มที่หกคือหมาป่าฝรั่งเศส


ในถ้ำใหญ่แห่งนี้ คนพวกนี้ต่างมารวมตัวกันในพื้นที่ของตัวเอง ดื่มกิน พูดคุยกัน และถ้ำทั้งถ้ำนั้นก็คลุ้งไปด้วยกลิ่นไวน์และเสียงดังอื้ออึง เหมือนเป็นตลาดขนาดใหญ่


ในนั้นทั้งดูวุ่นวายและน่าอึดอัดอยู่เล็กน้อย เหมือนคนทั้งโลกมาเจอกัน และไม่นานก็สงบลง ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพวกเขาเดินเข้ามาข้างใน ก็ดูจะรู้จักกันดีก่อนที่จะจำกันได้เสียอีก


จากนั้น ทั้งสามคนก็มาถึงที่ที่จัดไว้ให้พวกองค์กรกะโหลกนั่งกัน ก่อนจะนั่งลงอย่างตามใจ


ทั้งสามคนต่างมองหน้ากัน ก่อนจะพูดคุยกัน โดยแต่ละคนต่างถามข่าวคราวกันอยู่


โดยทั่วไปนั้นองค์กรกะโหลกเลือดนั้นจะเป็นผู้มีพลังระดับ A และระดับ S และระดับ S เองก็มีอยู่ไม่กี่คน และคนพวกนั้นก็ไม่น่าจะอยู่ที่นี่ด้วย


“นี่ พี่ครับ พวกเราต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนานเท่าไหร่หรือครับ” หลิน เฟิงดูร้อนใจ


ในถ้ำมีอยู่หกส่วน โดยแต่ละส่วนนั้นมีคนอยู่ประมาณ 100 คน โดยทุกคนนั้นต่างอยู่ในถ้ำ แม้ถ้ำนี้จะใหญ่ แต่ก็รู้สึกร้อนสุดๆจนชวนหงุดหงิด


แทนที่จะถามอะไรอย่างอื่น แต่หลิน เฟิงกลับถามคำถามที่ไม่สำคัญ อย่างการบ่นซึ่งจะไม่ไปกระตุ้นความสนใจของชายคนนี้ นอกจากนี้ หลิน เฟิงเองก็เห็นว่าชายคนนี้ดูมีท่าทีกังวลด้วย


คนพวกนี้จะเรียกว่ามีใจตรงกันก็ได้ อย่างน้อยก็ในเวลานี้ ซึ่งหลิน เฟิงทำให้เขารู้สึกว่ามีคนเข้าถึงจิตใจเขาได้


ชายคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เมื่อได้ยินหลิน เฟิงพูดแบบนั้นออกมา เขาก็มองไปที่หลิน เฟิง พลางรู้สึกว่าเสียงหลิน เฟิงฟังดูแปลกเอามากๆ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นว่าหลิน เฟิงนั้นสวมชุดคลุมกะโหลกเลือด เขาก็พูดขึ้นมาทันที “ทนอีกหน่อยน่า โครงการสำเร็จเมื่อไหร่เราก็จะได้ไปเมื่อนั้นแหละ แต่ถ้าไม่ ก็ต้องอยู่ที่นี่ไปตลอดกาลนี่ล่ะ”


“อืม ไม่รู้เหมือนกันเนอะว่ากว่าโครงการวิจัยนี้จะสำเร็จนั้นต้องใช้เวลานานเท่าไหร่”หลิน เฟิงกล่าวขึ้น แสร้งทำเป็นถอนใจ


“ไม่ต้องห่วงไปน่า อีกไม่นานหรอก ตอนนี้ แค่คนมากกว่า 10 ล้านคน เลือดและกระดูกนั้นก็น่าจะเพียงพอที่จะเอื้อให้โครงการขององค์กรสำเร็จอยู่นะ” ชายคนนั้นตอบกลับไป


“ว่าไงนะ” เมื่อได้ยินแบบนั้น หลิน เฟิงก็ถึงกับตกใจสุดขีดจนเกือบจะร้องออกมา


การฆ่าคนไปกว่า 10 ล้านคนเพื่อศึกษาโครงการๆหนึ่งแบบนี้ ช่างไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย


ในตอนนี้เอง หลิน เฟิงจึงได้เห็นว่ามีคนๆหนึ่งจากองค์กรกะโหลกสีเลือดและชาวอังกฤษกำลังทะเลาะกันอยู่


พวกเขาทั้งคู่พูดอะไรบางอย่างที่พวกตนต่างไม่เข้าใจออกมา ทั้งยังตะโกนใส่กันไม่หยุดอีกด้วย


แต่ก็เห็นได้ชัดว่ากำลังตำหนิกันอยู่ 


“นั่นพวกเขาทะเลาะเรื่องอะไรกันน่ะ” หลิน เฟิงถามขึ้น


ชายคนที่อยู่ใกล้ๆกับหลิน เฟิงหันหน้าไปมองคนสองคนนั้นที่กำลังทะเลาะกันอยู่


แล้วเขาก็พูดขึ้นว่า “พวกต่างชาติพวกนี้ ทั้งหมดเลย ชอบวางแผนขัดกันเสมอ และที่ทะเลาะกันเพราะสนใจเรื่องอะไรกันขึ้นมาอีกนั่นล่ะ”


เมื่อได้ฟังแบบนั้น หลิน เฟิงก็พยักหน้าก่อนจะมองพวกญี่ปุ่นที่อยู่อีกฝั่ง โดยเป้าหมายเดิมนั้นก็คือชาวญี่ปุ่น แต่ก็คาดไม่ถึงว่าจะได้มาพบความลับครั้งใหญ่ที่นี่


หลิน เฟิงใช้มือปาดเหงื่อบนร่าง ก่อนจะกล่าวขึ้น “แล้วเรื่องของพี่ชายล่ะครับ พวกเราจัดการเรื่องโครงการวิจัยไปถึงขั้นนั้นแล้ว แล้วเมื่อไหร่จะเสร็จ อยู่ที่นี่ทุกวันก็แทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว...”


แสดงความคิดเห็น

2 ความคิดเห็น

  1. ไม่ระบุชื่อ7:37 หลังเที่ยง GMT+7

    Rc 411​ อ่านไม่ได้ครับ​ รบกวนแก้ให้ทีครับ

    ตอบลบ