RC:บทที่ 401 อาการบาดเจ็บของหลิน เฟิง

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 401 อาการบาดเจ็บของหลิน เฟิง


หลังจากนั้นเพียงครู่ ไค ซือจึงหันมามองหลิน เฟิง แม้ร่างกายของเขาจะไม่ได้ดูต่างไปจากเดิมนัก แต่ลมหายใจนั้นกลับอ่อนแรงลงทุกที 


“พ่อหนุ่ม ขอบใจมากจริงๆนะ ถ้าไม่ได้นายหยุดนินจาญี่ปุ่นพวกนั้นไว้ล่ะก็ ฉันได้งานเข้าแน่วันนี้”


ไค ซื่อปาดหน้าผากก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน


ไค ซื่อมองไปที่หลิน เฟิง พลางคิดอะไรไม่ออกอยู่เป็นเวลานาน ก่อนจะเข้าไปนั่งใกล้ๆพลางตรวจสอบร่างกายของหลิน เฟิง ทุกส่วนดูไม่มีปัญหาเลย มีแต่ลมหายใจนี่ล่ะที่รวยรินลงเรื่อยๆ จนดูเหมือนจะตายได้ในทุกขณะ


ในตอนนั้นเอง ไค ซือจึงได้รู้ในทันทีว่าพลังของหลิน เฟิงนั้นอยู่ในระดับ A 


“หืม จะเป็นพลังระดับ A ไปได้ยังไงกัน ไม่ใช่ระดับ SS หรอกงั้นหรือ” ไค ซื่องุนงง


แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาสนใจปัญหาตรงนี้ สิ่งสำคัญคือการช่วยหลิน เฟิงต่างหาก ถึงแม้ไค ซือจะมีพลังระดับ SSS แต่เขาก็ไม่รู้วิธีที่จะรักษาหลิน เฟิงอยู่ดี


อาการบาดเจ็บเองก็ยังทรงๆอยู่ แต่ทว่าอาการบาดเจ็บภายในและส่วนอื่นๆอย่างสภาพจิตใจนั้น เขาไม่รู้วิธีเลย


นินจาญี่ปุ่นคนนั้นอยู่ในระดับ SSS หลิน เฟิงน่าจะถูกจัดการได้เพียงแค่ครั้งเดียว แต่นี่กลับยังมีลมหายใจได้อยู่อย่างน่าอัศจรรย์


แม้จะให้ยาเม็ดวิเศษกับหลิน เฟิงแล้วนั้น ถึงภายนอกเขาจะดูไม่บาดเจ็บหนัก แต่ทว่าจิตวิญญาณภายในของเขานั้นกลับบอบช้ำไม่เบา


เขาเป็นแค่คนธรรมดาๆที่ไม่รู้วิธีการรับมือกับอาการบาดเจ็บ หลังจากคิดอยู่ครู่ใหญ่ ไค ซือเองก็ยังคิดวิธีช่วยหลิน เฟิงไม่ออกเลย และในตอนนี้เขาเองก็ยังไม่ตายด้วย อีกอย่างหลิน เฟิงเองก็เคยช่วยเหลือเขาไว้มาก ถือว่าเป็นผู้มีพระคุณเลยด้วย เขาจึงไม่สามารถปล่อยหลิน เฟิงไปได้


“เอาน่า ไปขอความช่วยเหลือจากผู้เฒ่าไป๋อีกสักครั้งดีกว่า แกน่ะเก่งเรื่องนี้ น่าจะช่วยได้” ไค ซือว่าขึ้น ก่อนจะใช้มือขนาดใหญ่ของตนจนเกิดภาพสีเทาขึ้นมา


 “ใครกันน่ะ” ไม่กี่วินาทีต่อมา รูปสีเทานั้นก็เปลี่ยนไปในทันที ก่อนที่ร่างหัวยุ่งๆจะโผล่ขึ้นมา หลังงองุ้ม และใบหน้านั้นก็ดูไม่สบอารมณ์เลยด้วย


ชายคนดังกล่าวอยู่ในชุดคลุมสีขาว ส่วนผมนั้นก็ดูสกปรก มีหลายสีปนๆกันไป


ในตอนนี้เอง ชายชราคนนั้นก็ดูยุ่งยากใจขึ้นมา แม้จะไม่ได้มองหน้าไค ซือ เพราะไม่พอใจที่เขาติดต่อมานั่นเอง


“ท่าน ท่านผู้เฒ่าครับ เฮ้ย ไม่นะ พี่ไป๋ พอจะมีเวลาไหมครับ” ไค ซือเอ่ยถาม 


 “เกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของนายที่ไม่ได้ไปคลังสมบัตินั่นกันล่ะ บ้าจริง” สิ่งที่อยู่อีกฝั่งชายผมสีดอกนั้นคือความยุ่งเหยิง สีหน้าเขาเป็นตัวบอกได้อย่างดี


“คือว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่กับผม อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บด้วย แต่ว่าเขายังหายใจอยู่ ก็เลยขอพี่ชายให้มาช่วยนี่ล่ะครับ” ไค ซือว่าขึ้น


“เด็กหนุ่ม ลูกชายนายหรือ ไม่สิ นายน่ะมันแก่ปูนนี้แล้ว อายุอานามก็ปาไปหนึ่งร้อย สองร้อยปีแล้ว หลานแกก็น่าจะซักเจ็ดหรือแปดสิบปีแล้วด้วย แล้วว่าแต่นั่นน่ะใครกัน” ชายผมสีดอกเลาเอ่ยถามขึ้น


“คนแปลกหน้าน่ะครับ” ไค ซือว่าขึ้น


“ว่าไงนะ คนแปลกหน้า นี่นายไม่มีอะไรทำนอกจากกินอะไรไปเรื่อยแล้วใช่ไหม คนแปลกหน้าคนหนึ่งเนี่ยนะ ที่นายกล้ามาขอให้ฉันช่วย ทำไมไม่พาไปโรงพยาบาลหรือหาใครแทนล่ะ” ชายชราคนดังกล่าวว่าขึ้นอย่างเหลืออด


“โธ่ พี่เป็นคนมีเมตตาไม่ใช่หรือไงครับ นี่กลายเป็นคนแล้งน้ำใจแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” ชายผมขาวถามกลับไป


“ไม่สิไม่ ผมไม่รู้ว่าวันนี้มีเหตุการณ์ที่พวกนินจาญี่ปุ่นเข้ามา พี่ชาย พี่ได้ยินเรื่องนี้บ้างไหมครับ” ไค ซือเอ่ยถาม


“พวกญี่ปุ่นก่อเรื่องงั้นหรือ อ๋อ เข้าใจแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นที่เขตของนายไม่ใช่หรือไง” ชายชราคนนั้นก็ไม่รู้ว่าเขาต้องทำอะไร และที่ชายคนนั้นอยากจะขอเขาอีก


“ใช่แล้วครับ” ไค ซือเอ่ยอย่างอายๆ


“ฉันก็ไม่รู้นะว่านายไปกินอะไรมา แต่เรื่องที่เกิดขึ้นนี่ต้องเป็นนายสิที่ตัดสินใจ แล้วมีคนเจ็บคนตายกี่คนกันล่ะ มีคนข้างบนมาตามหานายบ้างไหม” ชายที่อยู่อีกฝั่งเอ่ยถามขึ้นก่อนจะนับ


“ก็ประมาณ 300000 คนน่ะครับ พวกคนข้างบนเองก็มาหาผมด้วย แต่สถานการณ์ปกติดีครับ แล้วว่าแต่ พี่จะช่วยผมไหมเนี่ย”


“แล้วชายคนนั้นเป็นใคร ความสามารถระดับไหน” ชายชราที่อยู่อีกฝั่งเอ่ยถามขึ้น


“น่าจะระดับ SS นะครับ แต่ดูเหมือนจะอยู่ที่ระดับ A ขั้นสูงสุด ไม่รู้สิ” ไค ซือว่าขึ้น ก่อนจะปัดมือ แล้วทันใดนั้นเอง หลิน เฟิงก็ปรากฏตัวขึ้นในรูปภาพของชายชราอีกฝั่ง


แต่ชายราที่ฝั่งนั้นไม่ได้นึกสนใจมอง เพราะมัวยุ่งอยู่แต่กับเรื่องของตัวเอง ก่อนจะพูดขึ้น “เรื่องนี้ไงล่ะ ที่นายไม่รู้ ถ้าระดับ SS ช่วยไว้ได้เกือบหมด ส่วนระดับ A ก็อยู่ไม่กี่คนแล้ว ไม่มีใครอยู่ได้ตลอดชีวิตหรอก แล้วนี่นายรู้ไหมว่ามีกี่คนแล้วที่มาหาฉันวันนี้”


“ไม่รู้ครับ” ไค ซือกล่าว


“วันนี้ นายน่ะเป็นคนที่แปดแล้วที่มาหาฉันเนี่ย ส่วนคนอื่นๆที่มาหาก็พาพวกระดับ SS มารักษา พวก SSS ก็ไม่เว้น ฉะนั้นถ้าเป็นระดับ A ให้เป็นนายรักษาน่าจะดีกว่า นี่นายคิดว่าฉันเป็นผู้วิเศษขนาดนั้นเลยหรือไง” ชายชราคนดังกล่าวว่าขึ้นอย่างไม่พอใจ


“แต่พี่ครับ ขอสักครั้งเถอะพี่ ครั้งนี้น่ะ” ไค ซือเอ่ย


“หยุดเลย หยุดๆ นายเป็นหนี้ฉันหลายครั้งเกินไปแล้ว อีกอย่างพวกนั้นก็ไม่โผล่หน้ามาเลยด้วย ความรู้สึกด้านมนุษยธรรมของนายน่ะมันไร้ประโยชน์สิ้นดี” ชายสูงวัยคนดังกล่าวว่าพลางกลอกตาไปมา


“คือพี่จะไม่มาหาผมงั้นหรือ นี่ถ้าพี่ขอร้องให้ผมไปบุกน้ำลุยไฟที่ไหนล่ะก็...” แต่ถึงกระนั้น ก่อนที่จะพูดจบ ผู้เฒ่าไป๋ก็ว่าขัดขึ้นมาเสียก่อน


“นี่ อย่าเพิ่งมาพูดอะไรกับฉันเลย ฉันยุ่งอยู่จริงๆนะ แค่เรื่องพวกนินจาญี่ปุ่นก็เกิดขึ้นถึงห้าที่ในเมืองแถบชายฝั่งนี้แล้ว ไหนจะการเสียชีวิตของผู้มีพลังระดับ SSS อีกสองหรือสามคนอีกนี่ล่ะที่เป็นตัวปัญหาจริงๆ” ชายชราอีกฝั่งเริ่มจะเจียระไนปัญหาออกมามากขึ้นเรื่อยๆ


“งั้นพี่สัญญากับผมได้ไหม คือชายคนนี้ใจดีกับผมมาก แล้วผมเองก็ให้ยาที่พี่ให้ผมมากับเขานี่ล่ะ อาการบาดเจ็บก็ดีขึ้น แต่ผมกลับรักษาอะไรไม่ได้เลย บอกผมหน่อยเถอะว่าจะทำให้เขาฟื้นได้ยังไง” ไค ซือรู้สึกลำบากใจจริงๆเมื่อเห็นผู้เฒ่าไป๋ เขาไม่อยากสร้างความยุ่งยากใจให้อีกต่อไป จึงต้องพูดออกไปแบบนั้น


 “ว่าไงนะ นี่นายให้ยานั่นกับเขาไปงั้นหรือ” เมื่อได้ฟังไค ซือพูดแบบนั้น ผู้เฒ่าไป๋ก็หยุดชะงักในสิ่งที่ตนทำทันที ก่อนจะพูดขึ้นด้วยความตกใจ


“ใช่ครับ ให้ไปแล้ว เก็บยานั้นไว้ก็ไม่มีประโยชน์ ก็เลยให้เขากินน่ะครับ” ไค ซือว่าขึ้นราวกับสูญเสียบางอย่างไปอย่างคาดไม่ถึง


“แล้วหลังจากกินยาเข้าไปแล้ว ตื่นขึ้นมาไหม ตายหรือเปล่า” ชายชราที่อยู่อีกฝั่งถามขึ้น


“ปัดโธ่ ผมจะไปรู้ไหมว่าเขาตายไหม” ไค ซือกลอกตาก่อนจะว่าขึ้น


“โอเค แต่นั่นถือว่าแปลกนะ ยาอายุวัฒนะตัวนี้เป็นตัวยาที่นายขอฉันมาแล้วหลายเดือน แบบนี้ก็เรียกว่ายาวิเศษไม่ได้แล้วสิ เพราะรักษาเขาคนนั้นไม่ได้แล้ว” ชายชราคนดังกล่าวว่าขึ้น


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น