RC:บทที่ 397 ความโกรธเกรี้ยว

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 397 ความโกรธเกรี้ยว


เมื่อเห็นแบบนี้ หลิน เฟิงก็ได้แต่จ้องมอง คนทุกคนกำลังตัวสั่น


ในตอนนี้ มีคนกี่คนกัน สักแสนคน หรือประมาณสองแสนหรือสามแสนกว่าคนที่อยู่ในสนามแข่งในตอนที่หลิน เฟิงสู้อยู่  แต่ใครจะกล้าไปพูดกันในตอนนี้ล่ะ


อย่างที่สอง ที่พื้นดินในตอนนี้นั้นมีแต่เศษซาก และสถานที่ที่หลิน เฟิงอยู่ในตอนนี้ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลาง ภายในรัศมีหนึ่งกิโลเมตร ทุกอย่างพังราบเป็นหน้ากลอง แม้แต่ในตอนนี้ เมื่อพวกเขายืนอยู่ก็ได้เห็นหลุมลึกขนาดใหญ่ในที่แห่งนั้น


สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้นั้นหมายถึงว่าคนทุกคนที่อยู่ที่นี่นั้นได้เสียสละแล้ว ความอยู่รอดของพวกเขานั้นมีอยู่น้อยนิด ใครกันล่ะจะไปรับเรื่องนี้ได้


ยิ่งไปกว่านั้น แม้ครั้งนี้จะใจเย็นลง หลิน เฟิงก็รู้สึกได้ชัดเจนเลยว่าพื้นดินที่พวกเขายืนอยู่นั้นค่อยๆกร่อนลงเรื่อยๆ


หลิน เฟิงเองก็ไม่รู้ว่านินจาญี่ปุ่นพวกนั้นหายไปไหนแล้วในตอนนี้ หรือจุดประสงค์ของพวกนั้นคืออะไร


หรือมาเพื่อฆ่าคนหรือเปล่า


ในตอนนั้นเอง หลิน เฟิงจึงได้แค่มองคนพวกนั้นที่อยู่ตรงหน้าเขา ก่อนจะเห็นว่ามีแสงสีแดงจำนวนนับไม่ถ้วนแวบไปมา


เรื่องแบบไหนกันที่จะกระจ่างชัดที่สุดกับตัวเองในตอนนี้กันนะ


นั่นคือระเบิดที่ผู้คนต่างกลัวสุดขีด และอีกอย่างนั่นก็ไม่ใช่ระเบิดธรรมดาๆด้วย ไม่อย่างงั้นแล้ว มันคงไม่ทำให้เกิดพลังที่น่ากลัวแบบนี้ได้เลย


ในตอนนี้ ภายในรัศมีที่หลิน เฟิงยืนอยู่นั้นภายในหนึ่งกิโลเมตรกลายเป็นซากปรักหักพังเต็มไปหมด แม้ว่าตึกหลายตึกจะยังไม่ถล่ม แต่ทว่ามีรูและรอยร้าวเต็มไปหมด


“เอ่อ นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ” หวัง ฉีมองไปมา ปากสั่นระริก


ดวงตาของปาเต๋าแดงก่ำ คนมากมายและตึกอีกจำนวนมากนั้นได้หายไป ยิ่งไปกว่านั้น เพราะพวกเขาก็ได้เห็นผู้คนนับแสนที่ใต้ดินแห่งนี้ก่อนที่จะออกกันมา


ถ้าไม่ใช่เพราะมังกรดำอยู่ในระดับ SS และมีความสามารถในการแหวกช่องว่างจนหนีออกไปล่ะก็ พวกเขาคงตายที่นี่ไปแล้ว


ในตอนนี้เอง  เสียงกรีดร้องที่น่ากลัวก็ได้ดังขึ้น การต่อสู้เอย เสียงระเบิดเอยก็วาบขึ้นมาในใจ และเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถลืมได้เลย


และในตอนนั้นเอง พวกเขาก็ได้เห็นพวกญี่ปุ่นในชุดดำมากมายโผล่ออกมา แถมยังมีท่าทีกลัวๆเมื่อต้องเดินกันออกมาที่พื้น นอกจากนี้ยังมาจากที่ที่แตกต่างกันออกไปอีก แต่ทว่าพวกเขาเองก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไร


หลิน เฟิงเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะใช้วิธีไหนดี เพื่อจะหลีกเลี่ยงการระเบิดที่น่ากลัวเหล่านั้น


แต่นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาได้นำพาการระเบิดนั้นมา นั่นก็แสดงว่าพวกเขาต้องมีความเข้าใจเรื่องอุปกรณ์ที่ดูดซับพลังนั่นเป็นอย่างดี ช่างเป็นเรื่องลึกลับ แค่พวกเขาใช้มันเท่านั้นเอง


ด้วยเหตุนั้น พวกเขาจึงมีวิธีที่จะหลบหลีกการระเบิดที่น่ากลัวนั่นไปได้ บางทีในขณะที่นินจาในชุดดำพวกนั้นโผล่ออกมา หลิน เฟิงจึงได้เห็นร่างที่คุ้นตามากๆอยู่ร่างหนึ่ง 


ชายคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นนินจาระดับ SS ที่ได้สู้กับหลิน เฟิงนั่นเอง 


ในตอนนี้ ใบหน้าของเขาซีดลงสนิทราวกับได้รับบาดเจ็บอย่างหนักหรือไม่ก็คงใช้พลังมากไป


เมื่อพวกเขาออกมาแล้วได้เห็นหลิน เฟิง ปาเต๋ากับคนอื่นๆ พวกเขาทั้งหมดต่างก็ช็อคไป เพราะคาดไม่ถึงว่าหลิน เฟิงจะมาปรากฏตัวก่อนหน้าพวกเขา


“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน” เมื่อเห็นแบบนั้น ชายนินจาคนนั้นก็ได้ตะโกนขึ้น


แต่อย่างไรก็ตาม หลิน เฟิงก็ไม่ได้ตอบคำถามเขากลับไป ในตอนนี้ มีนินจามากกว่าสิบหรือยี่สิบคนเดินออกมา เมื่อมองไปที่คนพวกนั้น ดวงตาของหลิน เฟิงก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำไปด้วยเลือดซึ่งแสดงให้เห็นว่าหลิน เฟิงในตอนนี้นั้นโกรธมากแค่ไหน


“มังกรดำ ผสานร่าง” หลิน เฟิงเอ่ยขึ้นก่อนจะตะโกนออกไปเสียงลั่น


เสียงนั้นเป็นเหมือนคลื่น แต่มีแรงส่งที่เข้มข้นซึ่งทำเอาสะเทือนคนทุกคนที่อยู่ตรงนั้นจนต้องถอยไปสองสามเมตร แม้แต่หวัง ฉีกับปาเต๋าเองก็ยังสัมผัสได้ถึงความโกรธของหลิน เฟิงเลยทีเดียว


“ไอ้พวกบ้า” ชายนินจาคนดังกล่าวตะโกนเสียงลั่น เพราะนินจาญี่ปุ่นคนอื่นๆที่อยู่รอบๆตัวเขานั้นต่างตกใจกับแรงส่งอันทรงพลังของหลิน เฟิงนั่นเอง


แม้แต่เขาเองก็ยังหวั่นเกรงในพลังของแรงส่งของหลิน เฟิง จนถึงตอนนี้ เขาก็ได้ใช้เคล็ดวิชาลับในแบบญี่ปุ่นออกมาซึ่งต้องใช้พลังวิญญาณสูงเป็นอย่างมากเพื่อที่จะพานินจาญี่ปุ่นทุกคนมา


ดังนั้น พลังของนินจาชายคนดังกล่าวในตอนนี้จึงอ่อนแอเอามากๆ แล้วเสียงคำรามก้องของหลิน เฟิงผนึกกับเสียงกู่ร้องของมังกรดำด้วยนั้น ดูเหมือนว่าตอนนี้หลิน เฟิงจะโกรธเสียแล้ว


เสียงคำรามอันดุดันนั้นข่มขวัญคนทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นทั้งหมด  ในขณะที่ชายนินจายามามูระคนนั้น เนื่องจากใช้พลังเกินขีดจำกัด เขาจึงถูกลมหายใจของหลิน เฟิงเพ่งเล็งเข้ามา ก่อนที่ร่างจะปลิวกระเด็นไป 


เมื่อเขาลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง เขาก็ได้เห็นว่าเสื้อผ้าของหลิน เฟิงนั้นได้หายไปแล้ว จะมีก็แต่ร่างทั้งร่างของเขาที่กลายเป็นสีดำสนิทไปทั่วทุกพื้นผิว ยกเว้นก็แต่ดวงตาของเขาที่เป็นสีทอง


“โฮก”


หลิน เฟิงคำรามออกมา แล้วทันใดนั้นเอง ร่างของเขาก็ได้มาปรากฏต่อหน้าชายคนดังกล่าว และในตอนนี้เอง ร่างทั้งร่างของหลิน เฟิงก็ถูกปกคลุมไปด้วยสีดำ มีสองสิ่งที่เป็นเหมือนหนามแหลมอยู่ข้างตัว พร้อมดาบเล่มยาวบนแขนของเขาที่แหลมคมเอาการ แล้วจากนั้นเขาก็ถือดาบเล่มทองเล่มนั้นไล่ชายนินจาคนนั้นไป ก่อนจะฟันฉับลงที่หัวเขาอย่างไม่ลังเล


ในตอนนี้ ร่างกายของยามามูระนั้นอ่อนแอลง ในขณะที่นินจาชุดดำคนอื่นๆนั้นล้วนแต่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า S กันทั้งนั้น และมีแค่คนเดียวที่เป็นระดับ S จึงไม่มีใครสามารถเอาหลิน เฟิงได้อยู่แล้วในตอนนี้


มีดเล่มหนึ่งผ่าลงมา ดวงตาของชายนินจาคนนั้นก็เปี่ยมไปด้วยความกลัว ดาบญี่ปุ่นในมือของเขาแฉลบออกมากันไว้ เพื่อพยายามที่จะต่อต้านการโจมตีของหลิน เฟิง


แต่อย่างไรก็ตาม พลังของหลิน เฟิงในเวลาที่เขาโกรธนั้นมันน่ากลัวมากเสียจนตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ เมื่อเห็นแบบนั้น เสียงที่เขาได้ยินก็มีแค่ ชิ้ง แล้วดาบเล่มยาวของนินจาญี่ปุ่นคนนั้นก็หักลงมาด้วยดาบๆเดียว


เมื่อเห็นแบบนั้น นินจาคนดังกล่าวก็ถึงกับล่าถอยกลับมาอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม พลังในการเฉือนของดาบในมือหลิน เฟิงนั้นก็เฉียบขาดมากเสียจนไม่ว่าใครก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงได้เลย


พลันดาบทองคำนั้นก็ได้เฉือนผ่านหน้าของนินจาญี่ปุ่นคนนั้นไป การโจมตีที่ทรงพลังนั้นขูดใบหน้าของเขา แต่เพราะยังไม่ใช่ระยะที่เพียงพอ ปลายดาบทองคำเล่มนั้นจึงทิ้งไว้แต่รอยเลือดขนาดใหญ่ไว้บนใบหน้า


พลันชายคนนั้นก็ร้องลั่น รอยเลือดทิ้งไว้อยู่บนใบหน้า ใบหน้านั้นถูกดาบของหลิน เฟิงผ่าครึ่งไป


แต่อย่างไรก็ตาม การตอบกลับของยามามูระ นั้นก็ได้จังหวะพอดี เขาถอยออกมาจากดาบของหลิน เฟิง ที่ทิ้งรอยเลือดเป็นปื้นใหญ่บนใบหน้าของเขา นี่ถ้าไม่นับจมูกของเขาที่ถูกเฉือนเป็นสองซีกแล้วนั้น หัวเขาเขายังคงดีอยู่


แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อหลิน เฟิงเห็นว่าคมดาบดังกล่าวไม่สามารถตัดหัวนินจานั่นได้ขาด เขาก็ตะโกนขึ้นอย่างโกรธจัด ก่อนจะพุ่งตามหลังเขาไป


สายตาที่หลิน เฟิงมองดาบนั้นเต็มไปด้วยความว่างเปล่า และในตอนนั้นเอง ดาบเล่มนั้นก็ได้ใหญ่ขึ้นเป็นรูปวงกลม 


“ช่วยด้วยๆ” แล้วชายคนนั้นก็ร้องครางออกมาเสียงลั่นด้วยความหวาดกลัว


ทิศทางที่เขาตะโกนนั้นอยู่ทางซ้ายมือของหลิน เฟิงนี่เอง และนั่นดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างผ่านหน้าไปด้วยในตอนนี้ พลันลมหายใจที่รุนแรงก็ได้ปรากฏขึ้นบนหน้าของเขานั่นเอง


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น