RC:บทที่ 396 ความเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อได้เห็นผีสาวลงมือฆ่ากรรมการคนนั้น หลิน เฟิงก็ถึงกับชะงัก คาดไม่ถึงด้วยว่าเธอจะกล้ามากถึงขนาดนั้น
ต่อมา ร่างทั้งร่างของนินจาสาวก็เปลี่ยนไปทั้งกางเกงหนังและเสื้อหนังบนร่างของเธอก็หายไป กลายมาเป็นเสื้อนินจา แล้วทันใดนั้นเอง เธอก็จัดการพุ่งเข้ามาจัดการหลิน เฟิงในทันที
“เธอนี่เอง” เมื่อเห็นร่างของผีสาว หลิน เฟิงก็จำได้ในทันที
นี่คือนินจาคนที่อยู่ในหมู่บ้านไกลปืนเที่ยงที่หลิน เฟิงไปทำภารกิจกับผู้รักษาประเทศนั่นเอง
หลิน เฟิงยังจำได้เลยว่าในตอนนั้นเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส และนินจา SS ก็เป็นคนเอาตัวไป
ส่วนตอนนี้ นินจาคนดังกล่าวก็ได้พุ่งเข้ามาหาหลิน เฟิงอีกครั้ง แล้วทันใดนั้นเอง แสงในลานประลองทั้งลานก็ดับวูบลง
“เกิดอะไรขึ้น นี่มันเกิดอะไรขึ้น” เกิดความโกลาหลและเสียงดังลั่นไปมา
ในตอนนั้นเอง หลิน เฟิงก็รู้สึกได้ถึงลมหายใจที่แข็งแกร่งมากมายกำลังจะเข้ามาโจมตีเขา ด้วยความเร็วที่น่าตกใจ
หลิน เฟิงปลดปล่อยมังกรดำออกมาในตอนแรก ก่อนจะรวมร่างเข้ากับมัน
ในตอนนี้เอง ลมหายใจที่เย็นยะเยือกก็ได้เสียดแทงเข้าที่ตัวของหลิน เฟิง ซึ่งเขารู้ได้ในทันทีว่านั่นคือผีสาวนั่นเองที่โจมตี
หลังจากรวมร่างกับมังกรดำแล้วนั้น หลิน เฟิงก็กลายเป็นผู้มีพลังระดับ SS ได้ทั้งความคล่องแคล่ว รวมถึงหลบหลีกการโจมตีจากผีสาวได้ในทันที
หลิน เฟิงผ่านร่างของผีสาวไปอย่างรวดเร็ว มือขนาดใหญ่ของเขาคว้าเข้าที่ลำคอของผีสาวจากทางด้านหลังก่อนจะชูสูงขึ้น
เมื่อเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจของหลิน เฟิง ก็ถึงกับสั่นสะท้าน เพราะก่อนหน้านี้ ก็เป็นเพราะหลิน เฟิง เธอจึงได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก จนต้องรักษาตัวเป็นเวลาอยู่หนึ่งสัปดาห์
และเธอก็คาดไม่ถึงว่าหลิน เฟิงจะกลายเป็นคู่ต่อสู้ให้เธอในวันนี้อีก
และกว่าที่เธอจะตั้งตัวได้ ก็ดูจะสายเกินไปเสียแล้ว
และในตอนนี้เองที่ถูกคว้าคอเอาไว้ ทำให้ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวไปไหนเลย เพราะถ้าหลิน เฟิงออกแรงอีกนิดล่ะก็ เธอต้องโดนฆ่าทันทีแน่
แต่ทว่าในตอนนี้ ลมหายใจที่น่ากลัวอีกหนึ่งก็พุ่งเป้ามาที่ร่างหลิน เฟิงในทันทีจนทำเอาเขาต้องเคลื่อนไหวบ้าง
และด้วยการรับรู้ของเขา หลิน เฟิงก็ยังสัมผัสได้อีกว่าลมหายใจดังกล่าวนั้นคุ้นเคยเอามากๆอีกด้วย และเขาก็จำได้ในทันทีว่าลมหายใจที่ว่านั้นเป็นของคุณยามามูระอะไรนั่น
เมื่อหลิน เฟิงเห็นมีดที่เงื้อลงมา เขาก็ยื่นมืออีกข้างที่ปกคลุมด้วยกรงเล็บแหลมคม ก่อนจะจับมีดยาวนั่นด้วยมือเปล่า จนในตอนนี้กรงเล็บสีดำก็ได้เข้าปะทะกับคมมีดยาวแหลมจนเสียดสีกันเป็นรังสีที่มืดมิดรายล้อม
“ฮึ่ม”
หลิน เฟิงส่งเสียงในลำคอที่ฟังดูเย็นยะเยือดออกมา ก่อนจะออกแรงที่มือจนร่างของผีสาวที่ดิ้นไปมาในมือนั้นหมดลมหายใจไปในที่สุด
“อะไรนี่”
หลิน เฟิงได้ยินเสียงร้องแปลกๆนั่นดังขึ้น จากนั้น ยามามูระตรงหน้าก็จับมือหลิน เฟิงมาก่อนจะคว้ามีดไป แล้วจึงโจมตีใส่หลิน เฟิงอย่างโหดเหี้ยม
ในตอนนี้เอง หลิน เฟิงไม่มีอาวุธแล้ว แถมยังถูกเขาจัดการ แต่ทว่า เมื่อหลิน เฟิงหยิบเอาดาบเล่มสีทองออกมา ชายคนนั้นก็ถึงกับถอยกรูดไปในทันที
เพราะเขานั้นรู้ดีมากๆเลยว่าดาบเล่มใหญ่ในมือของหลิน เฟิงนั้นน่าสะพรึงกลัวแค่ไหน
“พวกแก จะอยู่หรือตาย คงไม่มีใครได้คิดแล้วล่ะ ลงมือเลย” แล้วร่างของชายคนนั้นก็ถอยไป จากนั้นก็เกิดเสียงกรีดร้องระงมขึ้นทุกหนแห่งในสถานที่มืดๆที่ไม่เห็นแม้กระทั่งนิ้วตัวเอง
แล้วการต่อสู้ก็ได้เกิดขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ” หลิน เฟิงถึงกับตกใจ
และในตอนนี้ ผู้คนที่มีอยู่มากมายที่นี่อีก แล้วเสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆ จนหลิน เฟิงเองฟังไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไรเลย
อีกทั้งตอนนี้ยังมืดสนิท แถมเสียงต่อสู้ก็เกิดขึ้นไปทุกหนแห่ง หลิน เฟิงกำลังตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว จากนั้นก็ตะโกนขึ้น “มังกรแสง ออกมา”
ภายใต้ความโกรธเกรี้ยวของหลิน เฟิง สัตว์ร่างสีขาวอย่างมังกรแสงก็ได้บินออกมาจากคิ้วของเขา
โดยที่หลิน เฟิงยังไม่ทันพูดอะไร มังกรแสงก็เข้าใจได้ในทันที และต่อมา มันก็บินขึ้นไปบนฟ้า อีกทั้งร่างของมันก็ได้ปล่อยแสงระยิบระยับสีขาวออกมาซึ่งทำให้ทั้งสนามแข่งสว่างไปทั้งสนาม
จากนั้นหลิน เฟิงก็ได้เห็นคนมากมายในชุดดำกำลังมองการสังหารหมู่อย่างบ้าคลั่งของผู้ชมทุกคน
ส่วนตรงอื่นๆ คนเก่งๆบางคนก็กำลังรับมืออยู่กับพวกชุดดำ นั่นคือสาเหตุว่าทำไมเสียงกรีดร้องจากการต่อสู้นั่นจึงดังขึ้นมาให้ได้ยิน
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมังกรแห่งแสงของหลิน เฟิงส่องสว่างไปทั่วทุกที่และสะท้อนคนเก่งๆหลายๆคนในที่นั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจ้าหน้าที่ที่จัดงานนั้นก็ได้เห็นในทันทีว่านี่คือปัญหาใหญ่แล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะที่พวกเขากำลังพยายามรับมือกับปัญหาเหล่านี้อยู่นั่นเอง พวกเขาก็ได้เห็นว่าร่างของเจ้าหน้าที่หลายคนที่เคาน์เตอร์ต่างนอนกองอยู่ตามโต๊ะ ตามเก้าอี้ เลือดเต็มตัว และไร้ลมหายใจมาเป็นเวลานานแล้ว
“ดูไว้ซะ พวกแกทั้งหมดจะต้องตายที่นี่ ขอออกคำสั่ง ให้เคลื่อนย้ายออกไปให้ไวที่สุด” ยามามูระเอ่ยขึ้นก่อนเผยรอยยิ้มชั่วร้าย
ในขณะที่หลิน เฟิงรีบออกไปจากตรงนั้น จู่ๆเขาก็ได้เห็นบางสิ่งบนที่นั่งคนดูขนาดใหญ่ ดูเหมือนจะแค่แวบเดียว แต่กลิ่นของดินปืนกลับคลุ้งไปมาอยู่รอบๆ
“นี่มัน นี่มันกลิ่นดินปืนนี่นา นายจะไม่...วิ่ง ในนั้นมีไดนาไมท์อยู่นะ” เสียงหลิน เฟิงดังขึ้นในสนาม
เมื่อพวกเขาได้ยินแบบนั้น ก็ต่างชลมุนไปหมด
ทันทีที่หลิน เฟิงเห็นว่าสถานการณ์ไม่ปกติ มีคนจำนวนมากกว่า 200000 คนในนั้น เกือบ 300000 คนเลย ฉะนั้นเมื่อโจมตีมาแค่ครั้งเดียว คนในนั้นก็จะตายกันหมดแน่
แต่นี่ไม่มีเวลามาคิดมากแล้ว มีเสียงดังเสียงหนึ่งดังลั่นในใจ
“หลิน เฟิง” ในตอนนี้ ไม่ไกลออกไปมากนัก เสียงของปาเต๋าก็ได้ดังขึ้น เขาก็ได้เห็นว่ามือหนึ่งของปาเต๋านั้นจับหวัง ฉีเอาไว้ ในขณะที่อีกข้างกวักเรียกหลิน เฟิง
“ไม่มีเวลาแล้ว ไปกันเถอะ”
หลิน เฟิงจึงเก็บของสัตว์วิญญาณเข้าไปก่อนที่ร่างของมังกรดำจะปรากฏ จากนั้นจึงพาปาเต๋าและคนอื่นๆมาหามังกรดำ
หลังสิ้นเสียงคำรามของมังกร มังกรดำก็ได้แหวกช่องว่างออกมาก่อนจะเข้าไป
เมื่อพวกเขามาถึงตัวหลิน เฟิง มังกรดำก็ได้แหวกช่องอากาศขึ้นมา หลิน เฟิงก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นและคำรามออกมา ซึ่งแม้แต่ช่องว่างที่พวกเขาเจาะเข้าไปเองนั้นก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ข้างในนั้นเกิดเสียงคำรามขึ้นมาอย่างน่ากลัว และเมื่อได้มาเห็นฉากนองเลือดตรงหน้า หลิน เฟิงก็ถึงกับตัวชาอีกทั้งยังปวดใจ
แต่อย่างไรก็ตาม นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด ในขณะที่ช่องว่างที่มังกรดำบินเข้าไปนั้นกำลังจะปิด หลิน เฟิงจึงก็รู้สึกได้ถึงแรงสั่นไหวรุนแรงที่ไม่เคยมีมาก่อน พลันทางเข้านั้นก็เกิดรอยร้าวขึ้น
โฮก!!
มังกรดำส่งเสียงคำราม มันเองก็ได้รับบาดเจ็บจากแผ่นดินไหวด้วย หลิน เฟิงกับอีกสามคนก็ไม่ได้อยู่ในสภาพดีนัก ก่อนจะแตกกระสานซ่านเซ็นกันออกไป
เมื่อคนพวกนั้นพุ่งตัวมาที่หลิน เฟิง มังกรดำจึงได้แหวกช่องว่างและในที่สุดทุกคนก็ปรากฏตัวขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ทั้งสามคนลงมา คนร้อยกว่าคนในชุดดำก็พุ่งตัวไปยังทางออกทันที
ในขณะที่หลิน เฟิงกำลังจะรีบออกไป ทันใดนั้นเอง ก็เกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ราวๆ 7-8 แมกนิจูด ทำเอาร่างทุกคนสั่นจนยืนไม่อยู่
การสั่นสะเทือนนั้นยังคงสั่นอยู่มากกว่าหนึ่งนาที เมื่อทุกอย่างเงียบสงบ หลิน เฟิงก็ทำอะไรไม่ถูกเลย เพราะพื้นที่ขนาดร้อยกว่าเมตรได้ทลายลงแล้ว
0 ความคิดเห็น