RC:บทที่ 388 ท่าทีที่หวาดกลัวของนินจา SS

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 388 ท่าทีที่หวาดกลัวของนินจา SS

แต่ทว่า สภาพการณ์ของทั้งสองฝ่ายก็ได้เปลี่ยนไปแล้ว ฝั่งนินจาญี่ปุ่น มีผู้ใช้พลังระดับ S ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักถึงสี่คนที่คอยช่วยกันอยู่

แม้ผู้ใช้พลังระดับ S จากฝั่งหลิน เฟิงจะมีอยู่ไม่กี่คน แต่ทุกคนล้วนแล้วแต่มีจิตวิญญาณนักสู้อยู่ในตัวอย่างสูงที่สุด

“วันนี้ล่ะ ฉันจะเอาเลือดหัวแกออก” ในตอนนั้นเอง นินจาระดับ SS  ก็จ้องไปยังหลิน เฟิงด้วยสายตาเย็นชาก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแปลกๆ

หลังจากได้ยินแบบนั้นเข้า หลิน เฟิงก็ว่าด้วยน้ำเสียงดูถูก “ก็ขึ้นอยู่กับว่าแกจะมีน้ำยาสักแค่ไหนล่ะนะ ไหนให้คนเก่งๆของนายออกมาสิ”

ชายผู้ใช้พลังระดับ SS จ้องไปที่หลิน เฟิง แต่ก็ไม่ได้โจมตีเขาในทันที และหลังจากได้มองอยู่ครู่หนึ่งแล้ว เขาก็ได้กล่าวขึ้น “จำชื่อของคนที่จะฆ่านายไว้ซะล่ะ ว่าชื่อยามามูระ”

“อึก ฮ่าๆๆ” เมื่อได้ยินชื่อ หลิน เฟิงก็ถึงกับหลุดหัวเราะออกมาในทันทีก่อนจะว่าขึ้น “นี่นายรู้ไหมว่าความหมายชื่อจีนของนายคืออะไร”

หลิน เฟิงรู้มาว่าชื่อของพวกญี่ปุ่นนั้นฟังดูแปลกๆอยู่แล้ว อย่างคอนโด้ ทานากะ คังจิงหรืออะไรทำนองนั้น แต่ถึงกระนั้น หลิน เฟิงก็คาดไม่ถึงว่าชื่อของชายคนนี้จะเป็นชื่อยามามูระ (ซานเยว่ -คนหลังเขา)ซึ่งเกือบทำเอาเขาหัวเราะออกมา 

ในตอนนั้นเอง  คนที่อยู่ฝั่งสมาคมป้องกันประเทศต่างก็ระเบิดหัวเราะออกมา ราวกับว่าพวกตนไม่เคยได้ยินชื่อที่ตลกแบบนี้มาก่อนเลย

นินจาระดับ SS ที่อ้างว่าตนเป็นยามามูระได้ยินพวกนั้นหัวเราะขึ้น ใบหน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นโกรธขึ้ง ขมวดคิ้วด้วยความอับอายเป็นอย่างมาก

ต่อมา ร่างของยามามูระคนดังกล่าวก็หายไปจากตรงนั้น พลันดวงตาของหลิน เฟิงก็ฉายแสงเงาวับ เขารู้เลยว่ายามามูระคนนี้คงจะต่อกรได้ด้วยยาก

ทันทีที่ร่างหายไป หลิน เฟิงก็ไม่รู้สึกถึงลมหายใจของเขาอีก อีกทั้งยังรู้ว่านี่ล่ะคือทักษะของนินจาญี่ปุ่นที่เขาเคยเห็นมานานแล้ว เพียงแต่ตอนนี้ไม่รู้จะจัดการได้อย่างไร

ในขณะเดียวกันนั้นเอง หลิน เฟิงก็ไม่ได้นึกกลัวว่าเขาจะเข้ามาโจมตีอยู่แล้ว แต่ที่เขากลัวก็คือเจ้านั่นจะไปทำร้ายผู้คนจากสมาคมที่อยู่ข้างหลังเขาต่างหาก

“นายท่าน  ใช้พลังของข้าตะโกนก้องให้ตัวของเขาสะเทือนซะ” และในตอนนั้นเอง เสียงของมังกรดำก็ดังขึ้นในใจของหลิน เฟิง

“ดีเลย”

จากนั้นหลิน เฟิงก็อ้าปากก่อนจะคำรามใส่ฝั่งพวกญี่ปุ่น

โฮก!!!

พลันเสียงที่น่ากลัวของมังกรก็ดังขึ้น และเสียงคำรามก้องนั้นก็ทำเอาคนญี่ปุ่นถึงวิ่งไปมาจนล้มหกคะเมน

คนที่มีพลังน้อยยิ่งมีอาการหนักมากกว่าคนอื่นๆ พวกเขาต่างมีเลือดออกมาไม่หยุดจนเป็นลมไปเพราะอาการช็อค

ฮึ่ม!!!

ในตอนนั้นเอง แรงสั่นสะเทือนก็ดังมาจากพื้นที่ตรงหน้าหลิน เฟิง เขาจึงรู้ได้เลยว่านี่คือทักษะลับของนินจาญี่ปุ่นที่เป็นยามามูระ และตกใจกับเสียงคำรามของมังกรดำจากหลิน เฟิง

จากนั้น หลิน เฟิงจึงได้เห็นร่างๆหนึ่งมาปรากฏตรงหน้าเขาในทันที ซึ่งก็คือนินจาญี่ปุ่นระดับ SS นี่เอง

แต่ทว่าในตอนนี้ หลิน เฟิงนั้นไม่ได้อ่อนแอเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว

หลิน เฟิงพ่นลมหายใจอันเย็นยะเยือกออกมา แล้วจากนั้นดาบทองคำก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา

เมื่อดาบเล่มโตปรากฏขึ้น นินจาญี่ปุ่นคนดังกล่าวก็ถึงกับอึ้งไปราวกับว่ากำลังเห็นสิ่งที่เหลือเชื่อ ก่อนจะครางออกมา “บ้าน่ะ เป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน” 

พลันดาบยาวในมือของยามามูระก็จ้วงลงมา แล้วดาบของหลิน เฟิงก็แทงขึ้นไปบนฟ้า

หลิน เฟิงตวัดดาบทองนั้นออกไปในจังหวะที่ฝ่ายตรงข้ามตวัดดาบยาวกลับมาเช่นกัน ทั้งสองต่างเข้าปะทะกัน จนคนทุกคนที่อยู่ตรงนั้นสัมผัสได้ถึงพลังที่น่ากลัว ร่างสั่นไปมา แล้วแต่ละคนก็ร้องลั่น

“ร้ายกาจจริง พลังงานอันทรงอานุภาพล้นทะลักออกมาเลย” จิว หยาถึงกับอึ้งไปจากการต่อสู้ระหว่างหลิน เฟิงและยามามูระ

ในฐานะหัวหน้าของสมาคมป้องกันประเทศ ตัวตนและเซนส์ส่วนลึกของจิว หยานั้นย่อมสูงกว่าคนอื่นๆอยู่แล้ว แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น เธอเองก็ไม่เคยเห็นการต่อสู้ที่ทรงพลังอย่างหลิน เฟิงและยามามูระแบบนี้มาก่อนเลย

หลิน เฟิงร่อนลงมาที่พื้น เท้าทั้งสองข้างครูดกับพื้นเป็นทางยาวและจมลงไปลึก ในขณะเดียวกันร่างของนินจาญี่ปุ่นที่ชื่อยามาโนะ มูมูระนั้นกลับปลิวไปด้านหลัง แล้วกระอักเลือดออกมากลางอากาศแบบนั้นเลย

“เป็นแบบนี้ไปได้ยัง นี่แกมีวัตถุชั้นเลิศที่ทรงพลังอยู่ในมือได้ยังไงกัน” นินจาคนดังกล่าวมองไปที่ดาบทองคำในมือหลิน เฟิงอย่างอึ้งๆ

เมื่อหลิน เฟิงได้ยินแบบนั้น เขาก็ถามขึ้นอย่างงงๆ “วัตถุชั้นเลิศงั้นหรือ”

หลิน เฟิงไม่เข้าใจเรื่องวัตถุชั้นเลิศหรอก แต่ทันใดนั้นเอง มังกรดำก็ได้อธิบายให้เขาฟังว่าแม้แต่อาวุธวิญญาณระดับ SSS ก็สามารถกลายเป็นวัตถุชั้นเลิศได้  โดยที่อาวุธวิญญาณทั้งหมดจะเรียกกันว่าวัตถุเนื่องด้วยความสามารถที่ไม่มีใครรู้และไม่สามารถคาดเดาได้

ดาบทองคำเล่มนี้ หลิน เฟิงได้รับมาจากจักรพรรดิอู๋ชางจากดินแดนเร้นลับนั่นเอง และอีกอย่างสภาพการณ์ขององค์จักรพรรดิอู๋ชางในช่วงยุคที่รุ่งเรืองนั้นก็ดูจะไม่ด้อยไปกว่าระดับ SSS เลย ดังนั้นอาวุธของเขาก็ต้องไม่ธรรมดาไปด้วย

เพียงแค่การโจมตีเดียว ก็เล่นเอายามามูระบาดเจ็บได้เลยทีเดียว ทั้งๆที่หลิน เฟิงไม่ได้โจมตีรุนแรงเลย แต่พลังของดาบกลับมีมากถึงขนาดนี้ นี่จะต้องเป็นเพราะพลังของดาบทองคำเล่มนี้แน่ๆ

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้หลิน เฟิงแปลกใจอีกก็คือ อาวุธวิญญาณจากยามามูระเองก็ไม่ใช่เล่นๆเช่นกันเพราะมันดูไม่ได้รับความเสียหายใดๆเลยหลังจากได้สู้กับหลิน เฟิง นี่ถ้าเป็นอาวุธวิญญาณธรรมดาถูกฟันเข้าแบบนั้นล่ะก็ คงได้แยกออกจากกันไปแล้ว

พลังของหลิน เฟิงในตอนนี้ตามทันเขาแล้ว และหลิน เฟิงก็ใช้ประโยชน์ในขณะที่คู่ต่อสู้ของตนบาดเจ็บ ฉวยโอกาสโจมตีเขาไปในทันที ไม่อย่างงั้นล่ะก็ ถ้าพลังเขาฟื้นกลับขึ้นมาก็คงจะจัดการได้ยาก

ยิ่งไปกว่านั้น เวลาที่หลิน เฟิงจะกลายร่างเป็นสัตว์วิญญาณก็มีจำกัด ถ้าเขาไม่เอาชนะตั้งแต่ตอนนี้ กว่าหลิน เฟิงจะได้กลายร่างอีกที พวกเขาทั้งหมดคงได้กลายเป็นศพนอนฝังอยู่ที่นี่เป็นแน่

ทันทีที่เห็นหลิน เฟิงตวัดดาบทองคำในมือเพื่อฟัน ยามามูระก็เริ่มแสดงออกให้เห็นถึงความกลัว ยิ่งไปกว่านั้น พละกำลังของพวกเขาสองคนก็เป็นถึงระดับ SS ความต่างกันก็ไม่มาก

แต่ทว่า พลังจากดาบทองคำที่หลิน เฟิงถืออยู่นี่สิที่น่ากลัวเอามากๆ พลังที่เพิ่มขึ้นในดาบนั่นทำให้เขาถูกหลิน เฟิงจัดการได้อยู่หมัด

หลิน เฟิงจู่โจมลงในทันที จนนินจาญี่ปุ่นถึงกับถอยหลบไป ไม่กล้าสู้กับหลิน เฟิงอีก

แต่การโจมตีโดยการป้องกันจะดีที่สุด การโจมตีของหลิน เฟิงนั้นดุดันขึ้นเรื่อยๆจนทำเอาคู่ต่อสู้คนดังกล่าวต้องซ่อนตัว หลังจากผ่านไปหลายยก นินจาญี่ปุ่นคนนั้นก็เริ่มพ่ายแพ้

เขาไม่ได้พ่ายแพ้แก่หลิน เฟิงหรอก แต่ที่เขาแพ้ก็คือดาบทองคำในมือของหลิน เฟิงต่างหาก แล้วดาบชั้นยอดของเขาก็มีช่องโหว่เล็กๆขึ้นมา

คนอื่นอาจไม่เจอ แต่หลิน เฟิงกลับกลับมองเห็นได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น