RC:บทที่ 387 บาดเจ็บสาหัส

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

วิธีรับรหัสปลดล็อค

RC:บทที่ 387 บาดเจ็บสาหัส

เมื่อลมหายของหลิน เฟิงกลับมาคงที่ ระดับของเขาก็มาถึงระดับ SS ขั้นกลาง เขายืดแขนออกไป ยกไหล่เล็กน้อย ก่อนที่พลังดังกล่าวจะทำลายแสงที่ตามล่าเขาไม่หยุดจนกระเจิงไป

เมื่อผู้คนได้เห็นแบบนั้น พวกเขาก็ต่างรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากจนพูดอะไรไม่ออก การเคลื่อนไหวของหลิน เฟิงนั้นดูผ่อนคลายมากขึ้นและมีอิสระเหมือนแมลงที่บินไปมา

ในตอนนี้ สายตาที่ผู้คนมองไปที่หลิน เฟิงนั้นต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิว หยา ในความเห็นของเธอ หลิน เฟิงเป็นแค่ผู้ใช้พลังระดับ A เท่านั้น แต่พอบ้าดีเดือดขึ้นมากลับขึ้นไปถึงระดับ S จนตอนนี้มาถึงระดับ SS แล้ว

นี่คือความรู้สึกที่อาจเรียกได้ว่าสุดจะเหลือเชื่อเลยทีเดียว จนกระทั่งเมื่อได้มาประจักษ์ต่อหน้าทุกคน ผู้คนจึงต้องเชื่อ

“ระดับที่แกร่งอย่าง SS งั้นหรือ เป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน” นินจาญี่ปุ่นพวกนั้นรู้สึกตกใจก่อนจะถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

ในตอนนี้ เขากับปาเต๋ากำลังต่อสู้กับชายผู้แข็งแกร่งระดับ S แถมพละกำลังของชายคนนี้ยังแข็งแกร่งเอามากๆ และการจะแยกปาเต๋ากับหลิน เฟิงให้ออกจากกันก็เป็นเรื่องยากเพราะทั้งคู่นั้นแข็งแกร่งเอามากๆ

การโจมตีแต่ละครั้งทำเอาคนทั้งหมดที่อยู่รอบตัวกระเด็นไปเลยทีเดียว

“เคล็ดวิชาดาบปาเต๋า ฉับ!” การได้พบคู่ต่อสู้แบบนี้นั้นเป็นเรื่องยาก ฉะนั้นตอนนี้ ปาเต๋าจึงเริ่มลุยเต็มที่ ด้วยดาบที่ทรงพลังเล่มนี้

เมื่อนินจาพวกนั้นเห็นแบบนี้ เขาก็ตวัดดาบเล่มยาวในมือก่อนจะฟันเข้าที่ร่างของชายสองคนด้วยฉับเดียว ผู้คนต่างตกใจกันเป็นอย่างมาก

ในตอนนี้ จากการโจมตีอย่างเต็มรูปแบบ พลังมหาศาลนั้นตรงเข้าตัดดาบเล่มยาวของนินจานั้น ก่อนจะฟันตรงเข้าที่อกของเขาด้วย

พรรคพวกของนินจาญี่ปุ่นคนดังกล่าวต่างก็อึ้งไปเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่อยากจะเชื่อเลยด้วยว่าระดับชายคนนั้นที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นสามอันดับแรกในการเป็นนินจาจะแพ้กับให้กับปาเต๋า และก็กำลังจะถูกเขาจัดการ

“หึ อย่าดันทุรังไปมากกว่านี้เลย”

ในตอนนี้เอง นินจาระดับ SS ที่ลอยอยู่กลางอากาศก็ได้พ่นลมหายใจอันเย็นยะเยือกออกมาก่อนจะกล่าวขึ้น แล้วก็หายวับไป และเมื่อปรากฏตัวอีกครั้ง เขาก็ยังคงยืนอยู่หน้านินจาระดับ S พลางถือมีดไว้ในมือซึ่งมีดเล่มดังกล่าวก็คือมีดที่ถูกปาเต๋าฟันไปนั่นเอง

เมื่อปาเต๋าเห็นแบบนั้น เขาก็นึกกลัวขึ้นมาทันที พลางอดที่จะถอนใจไม่ได้ “แข็งแกร่งดีจัง”

หลังจากการต่อสู้ที่รุนแรงนั้น เขาก็ดูอยากได้มีดของตัวเองคืน แต่ไม่ว่าจะพยายามอย่างหนักสักแค่ไหน ก็ดูเหมือนกับว่ามีดเล่มนั้นถูกทำให้ชะงักค้างอยู่อย่างนั้น จนขยับมีดเล่มนั้นไม่ได้เลย

“ฮึ่ม”

แกร๊ง

เสียงฮึ่มฮั่มอันเย็นยะเยือกดังขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้น ปาเต๋าก็รู้สึกว่าดาบเล่มใหญ่นั้นจู่ๆก็สั่นขึ้นมา

แล้วรอยร้าวก็กระจายไปทั่วตัวดาบเรื่อยๆ

ต่อมา เสียงแกร๊งก็ดังขึ้น ก่อนที่ดาบของเขาจะสลายเป็นชิ้นๆแล้วร่วงลงกับพื้น

“ไปให้พ้น”

จากนั้นนินจาระดับ SS ก็เตะร่างของปาเต๋ากระเด็นไป จนร่างของเขาเมื่อร่วงหล่นลงกับพื้นก็หล่นไปด้วยระยะไกลมากพร้อมกับรอยเลือดเป็นทาง

ปาเต๋ารู้สึกรวดร้าวบริเวณอกที่ถูกเตะนั้น ไม่รู้ว่าซี่โครงหักไปแล้วกี่ซี่ เขานอนกองลงไปกับพื้น กระอักเลือดออกมาไม่หยุด

เคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว ก็เล่นเอาปาเต๋าบาดเจ็บได้ถึงขนาดนี้ เมื่อผู้คนเห็นแบบนั้นเข้าก็ต่างหวาดกลัว นินจาระดับ SS คนนี้ช่างทรงพลังเหลือเกิน

และสิ่งที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัวยิ่งไปกว่านั้นก็คือชายคนดังกล่าวสามารถทำลายดาบนั้นได้ด้วยมือเปล่า นอกจากนี้ดาบเล่มนั้นยังเป็นอาวุธวิญญาณระดับกลางอีกด้วย พลังของดาบน่ากลัวแค่ไหนใครๆก็รู้ได้

แต่นินจาคนนั้นกลับกล้าที่จะบดขยี้อาวุธวิญญาณนั้นของปาเต๋าเต็มๆเลย ต้องแข็งแกร่งแค่ไหนกัน

จากนั้น ชายระดับ SS คนดังกล่าวก็ดูจะไม่อยากปล่อยปาเต๋าไปง่ายๆ เขาพุ่งเข้ามาต่อในทันที

“ฮึ่ม”

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ลมหายใจอันเย็นยะเยือกก็ดังขึ้นมาอีกครั้งตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ร่างของหลิน เฟิงมาปราฏร่างต่อหน้านินจา ก่อนจะคว้าตัวนินจาสาวนั้นไว้แน่น คว้าคอก่อนจะยกร่างเธอขึ้นมาในทันที

นินจาสาวดิ้นไปมาราวกับจะขอความช่วยเหลือจากคนพวกนั้น โดยเฉพาะอย่างนินจาระดับ SS คนนั้น แต่ทว่าในตอนนี้ นินจาระดับ SS กำลังสาละวนกับการต่อสู้กับปาเต๋าอยู่ จนไม่มีเวลามาสนใจเธอนัก

จากนั้น หลิน เฟิงก็มองไปที่นินจา SS ที่กำลังปะทะกับปาเต๋า ก่อนจะคว้าร่างของนินจาสาวและโยนเธอไปที่นินจาระดับ SS คนนั้นด้วยมือเดียวราวกับโยนขยะจนทำให้ผู้คนถึงกับตกใจสุดๆ

หลิน เฟิงโยนร่างนินจาสาวไปที่นินจาระดับ SS ที่กำลังสู้กับปาเต๋า ในตอนที่เขากำลังจะพุ่งไปที่ปาเต๋านั้นเอง เขาก็ได้เห็นร่างของเธอลอยมา

เมื่อนินจาระดับ SS เห็นแบบนั้นเข้า เขาจึงเลิกตามปาเต๋าไป จากนั้นก็อุ้มร่างของเธอขึ้นมาเพื่อตรวจสภาพร่างกายของเธอ

เมื่อได้ตรวจเขาก็เห็นว่าเธอย่ำแย่เอามากๆ และยังเห็นด้วยว่าทั่วทั้งตัวของเธอบอบช้ำไปหมด

“น่ารังเกียจสิ้นดี”

เมื่อนินจาระดับ SS เห็นแบบนั้น ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ ถึงแม้ปาเต๋าจะโดนเขาจัดการจนได้รับบาดเจ็บอย่างหนักแต่เมื่อเทียบกับนินจาสาวตรงหน้าก็นับว่าเบาไปเลย

ในตอนนี้เธอเองก็ใกล้จะตายเต็มที ลมหายใจของเธออ่อนระโหยลงมาก อีกทั้งเลือดยังไหลย้อยออกมาจากปากและจมูกหยดลงบนมือของนินจาระดับ SS คนนั้น

ในตอนนั้นเอง หลิน เฟิงก็เข้ามาหาปาเต๋าอย่างรวดเร็ว เพื่อเข้ามาช่วยและพาไปหาจิว หยาที่ไม่ได้รับบาดเจ็บหนักอะไรนัก

สมาชิกทุกคนของสมาคมการป้องกันประเทศในตอนนี้ที่เหลืออยู่ ยกเว้นระดับ A,B ต่างก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ส่วนสมาชิกที่แข็งแกร่งอย่างระดับ S นั้นแทบไม่ได้รับบาดเจ็บหนักอะไรเลย

นี่ก็เป็นเพราะความพยายามของคนๆหนึ่งที่สามารถพลิกเกมจนเอาชนะผู้มีพลังระดับ S สุดแกร่งไปได้หลายคนก่อนหน้านี้อย่างปาเต๋าและทำให้พวกตนยังคงหายใจอยู่ตรงนี้ได้ ไม่อย่างงั้นพวกตนคงได้ไปนอนอยู่กับพื้นแน่ๆในตอนนี้

ยิ่งไปกว่านั้น ในกลุ่มนินจาญี่ปุ่นนั้นยังมีชายผู้แข็งแกร่งระดับ S เกือบสิบคนเลยทีเดียว แล้วตอนนี้เหลือแค่หกคน ปาเต๋าก็สามารถจัดการพวกเขาไปได้ตั้งครึ่ง

จิ้วหยาพาปาเต๋ามาก่อนจะดูอาการบาดเจ็บของเขา แล้วทันใดนั้นเอง เธอก็ถึงกับตกใจหนักมาก เพราะอาการบาดเจ็บที่ปาเต๋าได้รับนั้นสาหัสเอาการอยู่ทีเดียว เขาถึงกับต้องประคองสติไว้ไม่ให้ตัวเองเป็นลมไป

ในตอนนี้ ผู้คนจากทั้งสองฝั่งต่างแยกกันออกไป หลิน เฟิงกับผู้คุ้มกันทั้งหลายอยู่ฝั่งขวา ส่วนนินจาญี่ปุ่นอยู่ฝั่งซ้าย ทั้งสองต่างเผชิญหน้ากันแล้วในตอนนี้

บรรยากาศเริ่มจะแปลกมากขึ้นทุกทีและเต็มไปด้วยกลิ่นอายของการต่อสู้

ในตอนนี้ ทั้งสองฝั่งก็เริ่มจะเท่าๆกันแล้ว ไม่มีช่องว่างของพลังอีกต่อไป แต่ละฝ่ายมีผู้ใช้พลังระดับ SS หนึ่งคน ระดับ S อีกหลายคน และยังมีผู้ใช้พลังระดับ A, B อีกหลายคนด้วยอีก

สถานการณ์ของทั้งสองฝั่งไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว