CF:บทที่ 766 หลบเลี่ยง

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 766 หลบเลี่ยง

 

สาวทั้ง 5 คนนั่งลงอยู่ใต้ร่มไม้ในสวนและมองดูอู๋ฮ่าวเหรินกำลังทำของเล่นให้เด็ก

 

หลิวหมิงเยี่ยชี้ไปที่หุ่นยนต์สมองกลตัวนั้นและพูดขึ้นมา "ดูนั่นสิ, มันต่างกับของเล่นที่พวกเราเตรียมมาแบบสุดๆเลย, เรียกได้ว่าทำด้วยมือทั้งหมดเลยนะ"

 

เซี่ยเสวี่ยก็พูดขึ้นมาบ้าง "ทำไม, เธออยากได้รึไง"

 

"จะบ้าเรอะ, ฉันเนี่ยนะอยากได้, ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ, แต่ว่านะ ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าเป็นเด็กผู้หญิงน่ะ, แล้วทำไมหมอนั่นถึงได้ทำหุ่นยนต์ขึ้นมาล่ะ?"

 

"ผู้ชายก็เป็นแบบนั้นแหละ, คุณหวังให้เขาทำตุ๊กตาขึ้นมารึไง!" โจ้วหลานส่งผลไม้ที่หั่นแล้วให้กับทุกคนและพูดขึ้น

 

"อืม, หรือว่ามันจะเปลี่ยนเป็นร่างตุ๊กตาได้"

 

ในเวลานี้, อู๋ฮ่าวเหรินได้เดินออกมาจากห้องพร้อมกับถือเอาชุดน้ำชาที่สวยงามมาทางพวกเธอ "อะไรที่เปลี่ยนร่างได้รึ?"

 

"ก็หุ่นยนต์ตัวนี้ไง, คุณบอกว่ามันสำหรับเด็กผู้หญิง, คุณคิดที่จะทำอะไรกับหุ่นยนต์ตัวนี้กันแน่?"

 

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นพูดอะไรไม่ออกและถามกลับไป "เป็นหุ่นยนต์ไม่ดีตรงไหน? นี่น่ะเป็นหุ่นยนต์สมองกลที่ล้ำสมัยที่สุดเลยนะ, ผมสร้างมันขึ้นมาให้ลูกสาวของผมโดยเฉพาะ"

 

"หุ่นยนต์ไม่ใช่ปัญหาหรอก, แต่ทำให้ดูน่ารักกว่านี้ไม่ได้รึไง?"

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองดูหัวของมันที่เหมือนกับกระต่าย, และยังมีปีกหุ่นยนต์ทั้งสองข้างที่ด้านหลังของมัน, เขาก็พูดขึ้นมาอย่างจริงจังว่า "ผมคิดว่ามันน่ารักดีออก! ดูนี่สิ, มันเป็นหุ่นยนต์กระต่ายที่สามารถแปลงร่างได้เลยนะ"

 

คนทั้งหมดตรงนั้นต่างก็หัวเราะเมื่อทุกคนได้ยินที่เขาพูด

 

หลิวหมิงเยี่ยจ้องมองมาที่อู๋ฮ่าวเหริน เช่นเดียวกับในตอนที่เธอได้รู้จักกับเขาเป็นครั้งแรก

 

จากนั้นเธอก็ลูบหัวของเขา, แล้วเขาก็หันกลับไปมองเธอ, แล้วเธอกางแขนของเธอออกมา

 

"ก็ได้, ดูเหมือนว่าจะมีอะไรแตกต่างในเรื่องของความสวยงามของพวกเรา, แต่ลองดูที่ฟันใหญ่ๆ2ซี่ของมัน, และดวงตาสีแดง, และร่างกายดูราวกับเป็นกระต่ายโลหะเนี่ยนะ, ที่ว่าน่ารัก!"

 

อู๋ฮ่าวเหรินไม่สนใจเธอและนั่งลงข้างๆเธอ และเริ่มดื่มชา

 

"หลังจากที่เมิ่งเสวี่ยคลอดเด็กแล้ว, พวกเราจะไปที่สหพันธรัฐกัน, พวกคุณจะไปด้วยไหม?"

 

เธอคิดอยู่ซักพักหนึ่ง, แล้วหลิวหมิงเยี่ยก็พูดขึ้นมา "ไปสิ, ทำไมจะไม่ไปล่ะ? คุณจะไปเมื่อไรล่ะ, พวกเราจะได้ตามคุณไปที่นั่นด้วย"

 

เมื่อได้ยินที่หลิวหมิงเยี่ยพูด, สีหน้าของคนอื่นๆก็พลันแดงขึ้นมา, พวกเธอนั้นไม่ใช่สายรุกเหมือนอย่างหลิวหมิงเยี่ย, แต่ทว่าทุกคนก็ผงกหัวและเห็นด้วยกับคำตอบของหลิวหมิงเยี่ย

 

อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกปวดหัว, และมองมาที่หลิวหมิงเยี่ย

 

"คุณกำลังมองอะไรอยู่? บอกไว้ก่อนเลยนะ, อย่าคิดที่จะกำจัดพวกเราเป็นอันขาด"

 

"เธอนี่นะ..., รู้จักยับยั้งคำพูดตัวเองหน่อยมั่งได้มั๊ย?"

 

"แล้วทำไมฉันต้องยับยั้งคำพูดตัวเองด้วย? หืม! ฉันจะบอกอะไรให้นะ, เมิงเสวี่ยเองก็เห็นด้วยแล้ว, คุณจะทำเป็นหลบเลี่ยงไปตลอดไม่ได้หรอก"

 

ทันที่ที่เธอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา, อู๋ฮ่าวเหรินก็หยุดพูดทันที

 

หลิงเมิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆ, เธอก็ยิ้มให้กับหลิวหมิงเยี่ยในเวลานี้, แล้วจากนั้นก็กระพริบตาให้กับเธอ

 

อู๋ฮ่าวเหรินก้มหัวของเขาอยู่ จึงไม่ได้เห็นเมื่อสักครู่, ไม่อย่างนั้นเขาคงรู้สึกได้ถึงอันตราย

 

"วันนี้ฉันจะทำให้คุณพูดออกมาให้ได้"

 

อู๋ฮ่าวเหรินตอบด้วยเสียงอ่อยๆ "ผมก็บอกคุณไปชัดเจนไปเมื่อครั้งก่อนแล้วไม่ใช่รึไง"

 

ทันทีที่เขาพูดเขา, เขาก็เงียบไปทันที, อู๋ฮ่าวเหรินรู้ดีว่าเขากำลังหนักใจ

 

แล้วจู่ๆเขาก็ลุกขึ้นยืนและพูดขึ้น "ผมมีงานบางอย่างต้องทำในห้อง, ผมขอตัวก่อน"

 

มองดูอู๋ฮ่าวเหรินที่หนีเข้าไปในบ้าน, หลิวหมิงเยี่ยก็จ้องมองไปที่เขาที่เดินออกไป

 

ในเวลานั้นเอง, คนอื่นๆก็ได้หัวเราะขึ้นมา

 

"ฉันบอกแล้ว, ว่าวิธีนี้ไม่ได้ผลหรอก"

 

เซี่ยเสวี่ยก็พูดขึ้นมา "หมิงเยี่ย, เมิ่งเสวี่ยก็ไฟเขียวแล้ว, คุณควรที่จะใช้วิธีการที่พวกเราหารือกันเอาไว้นะ"

 

หลิวหมิงเยี่ยเมื่อได้ยินที่เซี่ยเสวี่ยพูด, แล้วเธอก็คิดอะไรบางอย่าง, พร้อมกับพูดขึ้นมาด้วยหน้าที่แดง "มันง่ายสำหรับเธอนี่นาที่จะทำแบบนั้นน่ะ"

 

จากนั้นเธอก็หันหลังกลับไปมองหลิวเม่ยหรูที่กำลังจิบชาแล้วพูดขึ้น "พี่เม่ยหรู, ถ้าพี่ไม่ร่วมด้วย, พี่ก็ช่วยขวางเขาอย่าให้เขาหนีไปได้ทีนะคะ"

 

หลิวเม่ยหรูมองมาที่เธอและดื่มชาของเธอต่อ, แต่ทว่าสีหน้าของเธอก็ได้เปลี่ยนไปในทันที

 

ถ้าเป็นเธอเมื่อก่อนก็คงไม่เห็นด้วย, แต่เวลานี้เธอได้เปลี่ยนไปแล้ว

 

จากสถานการณ์ในปัจจุบัน, รูปร่างของเธอได้กลับไปเป็นสมัยเธออายุ 20, แต่อายุของเธอจริงๆมากกว่านั้นเป็น 2 เท่า, และจะเพิ่มมากขึ้นไปอีกในอนาคต

 

เธอเองก็คิดว่าถึงเวลาที่เธอควรจะมองหาใครซักคนแล้ว,

แต่ในเวลานี้มันยากสำหรับเธอที่จะมองชายคนอื่น, โดยเฉพาะหลังจากที่เธอเข้าใจอู๋ฮ่าวเหรินมากขึ้นเรื่อยๆ, ก็ได้ทำให้สถานการณ์นี้รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน

 

โชคยังดีที่, ครอบครัวของเธอนั้นอ่อนเยาว์ลงเพราะผลของการใช้ตัวปรับปรุงยีนส์, ทำให้ไม่เหมือนกับแต่ก่อน

 

อู๋ฮ่าวเหริน, ผู้ซึ่งหนีเข้าไปในห้อง, นอนลงบนเตียงอย่างหดหู่ และเริ่มรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา

 

มันไม่สามารถพูดได้ว่าเขานั้นไม่เคยมีความคิดเช่นนั้นในหัว, โดยเฉพาะในเรื่องแบบนี้

 

แต่ทว่า, บางครั้งมันก็เป็นเรื่องยากมากที่จะก้าวข้ามสิ่งกีดขวางในใจของเขาได้

 

"ช่างมันเถอะ, ลืมมันเสียจะดีกว่า"

 

แล้วอู๋ฮ่าวเหรินก็เข้ามาในระบบซองแดง, หลังจากที่ในกลุ่มซองแดงนั้นเริ่มมีคนเริ่มกลับมาใช้เพิ่มมากขึ้น, กลุ่มซองแดงก็ได้เริ่มกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง

 

"ดูนั่นสิ, พ่อค้าโบราณออนไลน์แล้ว"

 

"ซองแดงไปได้"

 

"ลุยเลย"

 

ในขณะนั้นเอง, ทั้งจอก็เต็มไปด้วยซองแดง

 

กับสถานการณ์เช่นนี้, อู๋ฮ่าวเหรินนั้นเลิกที่จะตกใจแล้ว

 

ทุกครั้งที่เขาออนไลน์, คนเหล่านี้ก็บ้าส่งซองแดงมาเป็นจำนวนมาก

 

แต่น่าเสียดายที่, เพราะบางเหตุบางอย่างทำใหเขาไม่กล้าที่จะฉกของที่เขาไม่ต้องการได้, ก็เลยกลายเป็นลาภลอยสำหรับคนอื่นๆ

 

อย่างที่รู้, ว่ามีพวกคนจากอารยธรรมระดับล่างที่อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย, และได้ฉกเอาของดีจำนวนมากไป

 

"ผมได้ยินมาในช่วงไม่นานมานี้, ว่ามีอารยธรรมหนึ่งสร้างปัญหาให้พ่อค้าโบราณอยู่, ผมไม่รู้หรอกนะว่าปัญหามันจนแล้วรึยัง? แต่ถ้ายังล่ะก็ผมมียานรบรุ่นล่าสุดอยู่นะ, ผมสามารถเอาให้คุณผ่านซองแดงได้"

 

"ใช่, พวกเรามีป้อมปืนอยู่ด้วยนะ, ผมจะยกให้คุณบ้างก็ได้"

 

ไม่นานนัก, ก็ได้มีกลุ่มที่ออกมาแนะนำอาวุธล้ำสมัยเป็นจำนวนมากให้กับอู๋ฮ่าวเหริน, แต่เขาก็ไม่ได้ฉกมา ได้แต่มองดู

 

"อืม, ขอบคุณมาก ขอบคุณ, แต่มันจบแล้วล่ะครับ, อารยธรรมนั้นได้ล่มสลายไปแล้ว"

 

"อืม, ผมอยากจะรู้ว่าอารยธรรมนั้นที่มาสร้างปัญหาให้พ่อค้าโบราณนั้นเป็นอารยธรรมอะไร?"

 

"เป็นอารยธรรมขนาดเล็ก, ชื่อว่าอารยธรรมคานส์"

 

ส่วนเรื่องตัวตนของอู๋ฮ่าวเหรินนั้น, ผู้คนในกลุ่มนี้รู้กันดีอยู่แล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินจึงไม่คิดที่จะปิดบังอีก

 

"ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยนะ อารยธรรมคานส์"

 

"ดูเหมือนจะเป็นอารยธรรมขนาดเล็กสินะ"

 

"เอ่อ, ผมมาที่นี่เพื่อมาขอโทษพ่อค้าโบราณ, จริงๆแล้วผมเป็นคนของอารยธรรมคานส์, แต่ทว่าอารยธรรมคานส์ในยุคของคุณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรานะ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองดูคนที่จู่ๆก็โผล่ออกมา แล้วรู้สึกอึ้งขึ้นมา

 

เขารู้สึกเสียใจ, เขาไม่คิดว่าจะมีคนจากอารยธรรมคานส์อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย? มันทำให้เขารู้สึกอายขึ้นมา

 

"คุณควรที่จะออกมาให้เร็วกว่านี้นะถ้ามีคนของอารยธรรมคานส์อยู่ในกลุ่มนี้, แล้วก็บอกจุดอ่อนของอารยธรรมคานส์ให้พ่อค้าโบราณฟัง, ปัญหาก็จะได้จบลงไวกว่านี้"

 

"ใช่ๆ มันจะมีประโยชน์อะไรที่ออกมาและขอโทษในตอนนี้? ถ้ามีครั้งหน้าล่ะก็, ไม่คงไม่มีครั้งหน้าแล้ว, เพราะอารยธรรมของพวกคุณล่มสลายไปในยุคนั้นแล้วนี่นา"

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองดูคำพูดของคนพวกนั้นที่อยู่ในกลุ่มแล้ว, ทำเอาเขาพูดอะไรไม่ออก, โดยเฉพาะคนจากอารยธรรมคานส์เองก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้อีกต่างหาก

 

สถานการณ์เช่นนี้, ทำเอาอู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกเลยว่าคนพวกนี้ทำได้ทุกอย่างจริงๆ

 

"พ่อค้าโบราณ, ถ้าเกิดว่ามีอารยธรรมไหนมาสร้างปัญหาให้คุณอีก, ก็บอกมาในกลุ่มได้เลยแล้วพวกเราจะช่วยหาทางให้เอง"

 

"อื้่ม, ใช่แล้ว ถ้าเกิดว่ามีล่ะก็ขอให้บอกมาเท่านั้น"

 

อู๋ฮ่าวเหรินคิดกับตัวเอง, ถ้าเกิดเขาต้องเผชิญกับอารยธรรมที่พวกเขาอยู่ล่ะก็, เขาไม่รู้เลยว่าพวกเขายังจะยังพูดแบบนี้อยู่ได้มั๊ย?



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น