CF:บทที่ 752 การล่มสลายของอารยธรรมโครน่า
ในขณะที่โหยวเชียนฉีกำลังเดินทางกลับไปที่เขตดาวบลูอยู่นั้น, อารยธรรมพานตู๋ก็ได้เข้าทำการควบคุมเขตดาวแห่งนี้เอาไว้, และได้ทำการประกาศข่าวออกไป
หมายความว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนดาวแห่งนี้นั้นจะอยู่ภายใต้การดูแลของพวกเขา
ยิ่งไปกว่านั้น, เหล่าคนที่ถูกเรียกว่าชาวพาลอสนั้นก็ได้ตายหมดแล้วด้วย
เพราะการตายของคนเหล่านี้, ทำให้ยากต่อการที่จะตัดสินใจได้ว่าข่าวในอินเตอร์เน็ทข่าวนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่
อย่างไรก็ตาม, พวกเขาก็ได้ทำการเก็บหลักฐานที่น่าสงสัยจากสถานที่ที่คนพวกนี้อาศัยอยู่และได้นำไปมีวินิจฉัย
นอกจากนี้, อารยธรรมพานตู๋เองก็ได้ทำการสืบสวนเรื่องของกลุ่มคนชาวพาลอสด้วย
3 วันต่อมา, เมื่ออารยธรรมบ้านตู้ได้ปล่อยข่าวเรื่องของการสืบสวนออกมา, ทั้งสหพันธรัฐก็ได้ตกอยู่ในสภาวะวุ่นวายทันที
"มันเป็นเรื่องจริง, มันเป็นเรื่องจริง, มันช่างไม่น่าเชื่อ!"
"บ้าเอ๊ย, มีจักรวาลอื่นๆนอกเหนือจากจักรวาลของเราอีกเหรอเนี่ย? ข้าจะต้องฝันไปแน่ๆ"
"จริงๆแล้ว ทันทีที่ข่าวนี้ปรากฏออกมา, ผมก็รู้ได้ทันทีเลยว่านี่เป็นเรื่องจริง, ในฐานะที่เป็นนักโบราณคดีจากอารยธรรมชั้นสูงแล้ว, ผมเองก็ได้เห็นข้อมูลนี้มาจากในโบราณสถานแห่งหนึ่ง"
"เชอะ, แล้วคุณเพิ่งมาพูดอะไรเอาป่านนี้เล่า?"
"จริงๆนะ, มีการบันทึกข้อมูลเรื่องนี้ในอารยธรรมชั้นสูงและกองกำลังที่ทรงพลัง,เพรียงแต่พวกเขายังไม่สามารถที่จะทำการยืนยันข้อเท็จจริงของข่าวนี้ได้,
ในเวลานี้ดูเหมือนว่าเรื่องที่มีจักรวาลมากกว่า 1 นั้นเป็นเรื่องจริงเสียแล้ว"
ขณะที่กำลังหารือเรื่องนี้กันอยู่, ก็ได้มีนักวิชาการบางคนที่ได้ทำการศึกษาด้านนี้อยู่นั้นก็ได้เริ่มออกมาเผยแพร่เรื่องของงานวิจัยที่เกี่ยวข้องของพวกเขา
ในอดีตนั้น, พวกเขานั้นกลัวที่จะเผยแพร่เรื่องนี้ออกไปเพราะอาจจะทำให้ช็อคจักรวาลได้
แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน, พวกเขาไม่ต้องกังวลเรื่องของงานวิจัยของพวกเขาอีกแล้ว, ว่าจะไม่เป็นที่ยอมรับของคนอื่น
ด้วยงานวิจัยที่ออกมามากมาย, เช่นเดียวกับหลักฐานใหม่ๆที่ออกมา, จะพบได้ว่าเรื่องของข่าวนี้นั้นเป็นที่รู้กันมานานมาแล้ว
"เห็นว่าตัวตนของเจ้าตัวทำลายล้างนั้นเกี่ยวของกับพวกเขาด้วยนะ"
"ถ้าข่าวนี้เป็นเรื่องจริง, พวกเราคงจะต้องให้ความสนใจเรื่องนี้หน่อยแล้ว, พวกคนเหล่านี้ที่มาจากจักรวาลอื่นนั้น, มีเจตนาร้ายอย่างแน่นอน"
"มันคงจะดีกว่าถ้าเริ่มการค้นหาครั้งใหญ่, บางทีอาจจะมีคนจากอารยธรรมพาลอสอาศัยอยู่ในสหพันธรัฐอีกก็ได้"
----------------------------------------------------------------------------
ทางสภาของสหพันธรัฐจักรวาล, กำลังเผชิญกับข้อมูลที่ปรากฏขึ้นมาในโลกออนไลน์อยู่ในเวลานี้, และด้วยหลักฐานต่างๆที่พวกเขามีนั้น, มันเป็นการยืนยันได้ว่าชาวพาลอสนั้นมาจากจักรวาลอื่นจริงๆ
เมื่อเผชิญเข้ากับสถานการณ์เช่นนี้, พวกเขาต่างก็เริ่มกระวนกระวาย
ในห้องประชุมขนาดมหึมา, สมาชิกส่วนใหญ่ของสภาสูงนั้นต่างก็นั่งลงที่เก้าอี้แล้ว
และเหล่าคนที่ไม่สามารถมาเข้าร่วมได้ก็จะใช้เครื่องฉายภาพจากระยะไกลมาเข้าร่วมการประชุมนี้แทน
"ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าใครที่เป็นคนปล่อยข้อมูลนี้ออกมา"
"ไม่หรอก, จากการสืบสวนของพวกเรา, พบว่าคนที่ฆ่าคนเหล่านี้นั้นเป็นคนมาจากโลกมืด"
"โลกมืดอย่างงั้นเหรอ, ช่างน่าปวดหัวจริงๆ"
"ตัวตนของคนเหล่านี้นั้นตอนนี้ระบุตัวตนได้แล้ว, ดังนั้นพวกเราน่าจะออกค้นหาครั้งใหญ่และดูว่ายังมีชาวพาลอสหลงเหลืออยู่ในสหพันธรัฐอีกหรือไม่?"
"ค้นหาไปก็เปล่าประโยชน์, ต่อให้พวกเขายังอยู่ในสหพันธรัฐ แต่ป่านนี้ก็คงหลบซ่อนตัวหมดแล้ว"
--------------------------------------------------------------
อู๋ฮ่าวเหริน, ผู้ซึ่งอยู่บนโลกที่ห่างไกล, ก็รู้สึกพูดอะไรไม่ออกหลังจากที่ได้ทราบสถานการณ์เข้า
เขาไม่รู้ว่าเลยว่ามันเป็นเรื่องดีหรือร้ายที่ปล่อยข้อมูลของอารยธรรมพาลอสออกไปในเวลานี้
แต่ในเมื่อเขาได้ทำลงไปแล้วนั้น, เขาก็ได้ขอให้ลู่เปงเฟยทำการรวบรวมข้อมูล และไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีก
โม่เก๋อนั้นได้แจ้งข่าวเขาในวันนี้, ซึ่งทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา, เมื่อปัญหาของชาวโครน่าที่เขาได้กังวลมาอย่างยาวนั้นในที่สุดก็สะสางได้เสียที
พวกเขาได้ทราบข่าวมาว่ากองทัพร่วมของทั้ง 6 อารยธรรมนั้นได้จัดการทำลายอารยธรรมโครน่าจนหมดสิ้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม, ผู้นำของอารยธรรมโครน่าพร้อมด้วยทรัพยากรมากมายและของมีค่า, ได้หลบหนีออกมาก่อน, ซึ่งได้ทำให้อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกทึ่งขึ้นมา
เขาไม่คิดว่าคนที่เป็นถึงผู้นำของอารยธรรมโครน่านั้นจะทำเช่นนี้
จากข่าวที่เขาได้รับมานั้น, มันได้แสดงให้เห็นว่าผู้นำของอารยธรรมโครน่านั้นได้เลือกที่จะหลบหนีก่อนที่สงครามจะเริ่มเสียอีก, ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่เฉียบคมมาก
"อืม, เอาข่าวนี้ไปแจ้งยังชาวโครน่าที่พวกเราจับมาให้ทีสิ"
"เข้าใจแล้วครับ"
เมื่อชาวโครน่าที่อยู่ในคุกดาวเคราะห์น้อยนั้นได้ทราบข่าวนี้, พวกเขาก็ไม่เชื่อ
"นี่จะต้องเป็นข่าวที่พวกมนุษย์โลกต้องการให้พวกเรายอมแพ้ใช้เพื่อหลอกพวกเราแน่ๆ"
"ใช่แล้ว, นี่ต้องไม่ใช่ของจริงแน่นอน, อารยธรรมโครน่าที่แข็งแกร่งของพวกเรานั้นไม่มีทางสูญสิ้นหรอก"
"พวกมนุษย์โลกนั้นช่างโง่เขลาจริงๆที่ใช้วิธีการนี้หลอกให้พวกเรายอมแพ้, คอยก่อนเถอะ คอยวันที่กองทัพของพวกเราจะมาเพื่อฆ่าพวกมัน, แล้วพวกมันจะต้องนึกเสียใจ"
มีเพียงชาวโครน่าไม่กี่คนที่ยังสงบอยู่และอยู่ในอารมณ์เซื่องซึม
โดยเฉพาะชาวโครน่าที่มากับยานสำรวจ, ในตอนที่พวกเขาเดินทางมานั้น, พวกเขาได้ทราบข่าวว่าทางกองทัพนั้นไม่สามารถทำอะไรกับเหล่ายานรบที่มาบุกโจมตีได้เลย
และถ้าเป็นผู้รุกรานเหล่านี้เป็นคนที่โจมตีอารยธรรมโครน่าล่ะก็, มันก็ยากที่จะพูดแล้ว
อย่างไรก็ตาม, ต่อให้เป็นผู้รุกรานพวกนั้นเป็นคนที่บุกอารยธรรมโครน่าจริง, พวกเขาก็ไม่น่าที่จะทำลายอารยธรรมโครน่าเร็วขนาดนี้
แน่นอนว่า, กลุ่มคนเหล่านี้เองก็ไม่คิดเช่นกันว่าเหล่าผู้นำของชาวโครน่านั้นกลับไม่ร่วมต่อสู้และเลือกที่จะหนี
ในขณะที่ข่าวนี้ได้แพร่กระจายออกไปนั้น, มันก็ได้ทำให้ทางกองทัพของชาวโครน่านั้นเกิดความแตกแถวมากขึ้นไปอีกและได้ทำให้แนวหน้านั้นล้มทั้งแถว
และผลคือทั้งกองทัพนั้นไม่สามารถรวมทัพและไม่สามารถต่อต้านได้เลย ทำให้ง่ายต่อการจับกุมโดยกองยานร่วมทั้ง 6
อู๋ฮ่าวเหรินที่พอจะเดาท่าทีของชาวโครน่าที่ถูกจับมาได้นั้น
คนพวกนี้, ตอนแรกเขาก็คิดที่จะทำให้พวกเขาหุบปาก, แต่คิดว่ารออีกสักพักดีกว่า, แล้วค่อยให้พวกเขาดูหลังจากที่มีข้อมูลจำเพาะออกมา
ในช่วงเวลานี้, นอกจากการอัพเกรดในด้านของวิทยาการและเทคโนโลยีแล้ว
อู๋ฮ่าวเหรินยังได้สร้างฐานทัพผลิตยานอวกาศล้ำสมัยขึ้นมาเพิ่มอีกมากมาย
นอกจากนี้, สืบเนื่องจากการขาดแคลนบุคลากรด้านยานรบ, อู๋ฮ่าวเหรินจึงได้สร้างป้อมปราการขนาดใหญ่จำนวนมากเอาไว้ในทางช้างเผือก
ในเวลานี้, ระดับการป้องกันของทั้งระบบสุริยะนั้น, ต่อให้เป็นกองยานที่ทันสมัยที่สุดของสหพันธรัฐเข้ามาโจมตีก็ตาม, อู๋ฮ่าวเหรินก็สามารถที่จะทำให้พวกเขากลายเป็นฝุ่นธุลีดาวไปได้
และส่วนพวกคนที่เข้ายานอวกาศบินยังดวงดาวต่างๆนั้นต่างก็ประสบผลลัพธ์ที่ดีกลับมาในช่วงเวลานี้
ซึ่งอาจจะพูดได้ว่าการพัฒนาของมนุษยชาตินั้นได้ดำเนินในเส้นทางที่ถูกที่ควรแล้ว, ต่อจากนี้หากพวกเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่อะไรอีก, มันก็อีกไม่นานแล้วที่พวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นมา
----------------------------------------------
ที่บ้านของอู๋ฮ่าวเหริน, หลิงเมิงเสวี่ยนั้นกำลังนอนอยู่ที่โซฟาและกำลังทานผลไม้
หลิวหมิงเยี่ย, โจ้วหลาน, หลิวเม่ยหรู(เหม่ยหรู)และเซี่ยเสวี่ยต่างก็มาคุยกับเธอ
ตั้งแต่ตอนที่หลิงเมิ่งเสวี่ยตั้งท้องนั้น, บ้านของเขาก็มีเหล่าสาวๆมาเยี่ยมทุกวัน
เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินกลับมาจากบริษัท, เขาก็ถูกเรียกโดยสาวๆเหล่านั้นราวกับเขาเป็นคนใช้
"อ้าวๆ, คนๆนี้แข็งท่อกลายเป็นตอไม้ไปซะแล้ว" หลิวหมิ่งเยี่ยพูดขึ้นมา
เซี่ยเสวี่ยก็พูดขึ้นข้างๆเขา "ทำไมคุณไปเข้าไปหาเจ้านายและก้มหัวคำนับซะหน่อยล่ะ"
"ครับ ครับ จะไปเดี๋ยวนี้ละครับฝ่าบาท"
หลิงเมิ่งเสวี่ยที่ได้ยินที่พวกเธอพูดนั้นก็กรอกตาไปหาพวกเธอแล้วพูดขึ้น "ทั้งสองคน, อยู่ต่อหน้าภรรยาของเขา, พวกเธอยังจะพูดเล่นแบบนี้อีกนะ?"
จริงๆแล้วหลิงเมิ่งเสวี่ยเองก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก, เพราะในเวลานี้โลกไม่ได้เป็นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
"อื้ม, ฉันรู้แล้วน่า จริงๆฉันคิดว่าเราควรจะเริ่มตั้งแต่ตอนนั้นแล้วนะ, จะว่าไป, พี่เม่ยหรูคิดว่ายังไงบ้างคะ?"
หลิวเม่ยหรู, ผู้ที่ฟังพวกเธอพูดกันอยู่เงียบๆมานาน, พอถูกถามขึ้นมาเธอก็ตกใจและใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นมา
"เด็กบ้า, เธอพูดเรื่องอะไรน่ะ? ฉันกับเขาจะเป็นไปได้อย่างไรกัน?"
"อย่าคิดว่าพวกเราตาบอดสิ, เมิ่งเสวี่ย เธอก็พูดอะไรบ้างสิ"
หลิงเมิ่งเสวี่ยส่ายหัวและไม่พูดอะไรออก, เพราะเธอไม่สนใจเรื่องนี้หรือคิดจะช่วยพวกเธอด้วย, พวกเธอนั้นจะสามารถได้อยู่ร่วมกันเธอได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกเธอแล้ว
0 ความคิดเห็น