RC:บทที่ 93 ปรมาจารย์ยาพิษ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลินเฟิงก็ได้รับเงินสองก้อนใหญ่ ก้อนหนึ่งคือค่าองุ่น 500 จินต่อวันจากบอสเติ้งซึ่งคิดเป็นเงิน 300,000 ต่อเดือน
เงินอีกก้อนมาจากไก่วันละยี่สิบตัวของบอสหวังเป็นเงิน 150,000 ซึ่งรวมทั้งหมดเป็น 450,000
ในตอนนี้ หลินเฟิงมีอยู่เดิม 200,000 หยวน เมื่อนำมารวมกันก็จะได้ 650,000 หยวน
หลินเฟิงไม่เคยได้รับเงินมากขนาดนี้มาก่อน ตอนนี้เขาจึงมีความสุขมากซะจนตัวแทบจะลอย
"ฉันควรจะทำอย่างไรกับเงินมากมายขนาดนี้นะ?" หลินเฟิงนึกถึงปัญหาที่เพิ่งเกิดขึ้นมาทันที
เมื่อก่อนในช่วงที่เขายังไม่มีเงิน หลินเฟิงก็อยากจะมีเงินมาก ๆ แต่พอมาตอนนี้เขากลับคิดไม่ออก
"งั้นเอาไปซื้อรถสักคันแล้วกัน ฉันยังขี่แค่มอเตอร์ไซค์พัง ๆ ของพ่อไปไหนมาไหนอยู่เลย น่าอดสูชะมัด!" หลินเฟิงคิดว่าเขายังไม่เคยมีแม้แต่จักยานของตัวเอง
"ลืมไปได้เลย นายสามารถซื้อรถดี ๆ ได้เลยนะถ้านายต้องการ ไว้ค่อยมาซื้อทีหลังก็ได้!" หลินเฟิงไม่ค่อยเห็นว่ารถจำเป็นสักเท่าไหร่ เขายังไม่มีเงินพอที่จะซื้อมันได้ในตอนนี้
อีกทั้งหลินเฟิงก็เพิ่งเริ่มต้น มีอีกหลายที่ที่ยังต้องใช้เงิน มันไม่ค่อยเหมาะหากจะซื้อรถในตอนนี้
"จ้างลูกน้องเพิ่มอีกสักคนแล้วค่อยซื้อรถหลังจากนั้นก็แล้วกัน!" ข้าวของของหลินเฟิงในตอนนี้มีเพียงจื่อเฉิง ลูกพี่ลูกน้องของเขาที่คอยจัดการแค่เพียงลำพัง และจะให้เขางานยุ่งไปตลอดคงไม่ได้
ตอนนี้ร้านของออนไลน์ของหลินเฟิงก็เปิดขึ้นมาแล้ว เขาต้องหาคนมาคอยดูแล อีกทั้งเรายังต้องการคนเก็บองุ่น, จับไก่และปัญหาอื่น ๆ อีก เราคงจะไม่ยุ่งอีกถ้ามีคนมาเพิ่มสักสองสามคน
แล้วเรื่องพวกนี้ก็ต้องใช้เงินจำนวนมากมารองรับ ดังนั้นเงินของหลินเฟิงจึงยังนำมาใช้ตอนนี้ไม่ได้
"งั้นต้องจ้างคนก่อน!" หลังจากนั้นหลินเฟิงจึงกลับบ้าน
เมื่อเขากลับมาถึงบ้าน หลินเฟิงดึงแปรงออกมาแล้วเริ่มเขียนลงบนกระดาษ มีคนงานที่ต้องการงานจ้างด่วนสิบคน ไม่จำกัดเพศ อายุ 18 ถึง 50 ปี เงินเดือน 3000 ต่อเดือน ผู้ติดต่อพวกเขาก็คือหลินเฟิง เบอร์โทรของพวกเขาก็คือ…
ทันใดนั้น ก็ปรากฏใบสมัครขึ้นมาสามใบ
"เอาอย่างนี้ ติดที่ประตูของหมู่บ้านที่มีคนในหมู่บ้านและระแวกใกล้เคียงผ่านไปมา น่าจะสะดวกต่อหลาย ๆ อย่าง ไปดูดีกว่าว่าจะมีใครมาไหม!" หลังจากนั้น หลินเฟิงก็มาถึงทางเข้าของหมู่บ้านแล้วติดใบสมัคร
อีกสองใบที่เหลือ หลิงเฟิงยกให้ลูกพี่ลูกน้องของเขาซึ่งขอให้เขาพาเข้าเมืองมาติดใบสมัครเพราะจะสะดวกกว่า
หลังเสร็จสิ้น หลินเฟิงบิดขี้เกียจและรู้สึกง่วง เขาจึงกลับมาแล้วหลับสักงีบ
โรงพยาบาลในเมือง!
ขณะนี้ ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียงในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล ชายคนนั้นตัวดำ ใบหน้าม่วงคล้ำและมีน้ำลายฟูมปาก
ช่วงเวลานั้น แพทย์หลายต่อหลายคนกำลังพยายามช่วยชีวิตของเขา และยังมีคนอีกกลุ่มที่ยืนรออยู่หน้าประตู หนึ่งในนั้นสวมสูท ผูกไทด์ และมีหัวสีดำขนาดใหญ่ ชายวัยกลางคนที่สวมแว่นตากำลังเดินวนไปวนมา
อารมณ์ของชายวัยกลางคนคนนี้ไม่เหมือนคนทั่วไป แสดงให้เห็นถึงภาวะผู้นำ เมื่อมองแว่บแรกก็จะรู้ว่าเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้ ยังมีหญิงสาวที่สง่างามอีกคนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ตอนนี้เธอกำลังมองดูเด็กหนุ่มที่ยังหมดสติผ่านกระจกใสของห้องฉุกเฉินและร้องไห้อยู่
"นายท่าน ฉันจะทำอย่างไรดีคะ? หากหลงเอ๋อร์เป็นอะไรขึ้นมา ฉันคงอยู่ต่อไปไม่ได้!" หญิงที่ร้องไห้กล่าวออกมา
"นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอจะทำอะไรได้!" ชายหนุ่มตะโกน
แล้วเสียงตะคอกนี้ก็ยิ่งทำให้หญิงสาวร้องไห้หนักกว่าเดิม
"เอ่อ อย่ากังวลไปเลย ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น เด็กคนนั้นจะต้องหาย!" ชายวัยกลางคนเอ่ยปลอบใจ
"ฉันไม่สามารถปกป้องขยะอย่างพวกแกได้อีกต่อไปแล้ว ฉันสูญเงินมหาศาลในทุก ๆ ปีเพื่อจ้างพวกแกมาทำงานที่น่าสะอิดสะเอียนนี้" ชายวัยกลางคนหันหน้ามาและชี้นิ้วไปยังคนทั้งสองที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
หากหลินเฟิงได้มาเห็นสองคนนี้ เขาคงจะต้องประหลาดใจอย่างแน่นอน เพราะสองคนนี้ก็คือลั่วจิวชางและหว่อหยูที่ปะทะกับหลินเฟิงเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
ชายหนุ่มที่อยู่ในห้องฉุกเฉินก็คือจ้าวหลง หลังเข้ารับการรักษามากกว่าหนึ่งสัปดาห์ เขาก็ยังไม่พ้นขีดอันตรายและอาการกลับยิ่งแย่ลงไปทุกที
แพทย์วินิจฉัยว่าวันนี้จ้าวหลงอาจจะไม่รอดหากยังหาวิธีถอนพิษออกไปไม่ได้
"ฉันต้องการให้แกไปหาปรมาจารย์หยาง แกเคยเจอเขารึยัง?" ชายวัยกลางคนตะคอกออกมา
"บอสครับ เราเคยไปหาท่านหยางแล้วครับ แต่ท่านหยางออกไปข้างนอกแล้วเขาจะกลับมาในอีกหนึ่งสัปดาห์ครับ!" หว่อหยูกล่าว
"อีกหนึ่งสัปดาห์? นี่ก็ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้ว แล้วคนอื่น ๆ ล่ะ? ลูกชายของฉันกำลังจะตาย ยังมีไอ้บ้าคนอื่นอีกไหม?" ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างโมโห
"ฉันจ้าวป๋อมีลูกชายแค่เพียงคนเดียว หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา ฉันจะเอาเรื่องกับพวกแก!" จ้าวป๋อกล่าว
"ประธานคะ ประธาน!" ในตอนนั้น หญิงสาวในชุดสูทและสวมแว่นตาคนหนึ่งก็รีบวิ่งเข้ามาอย่างตื่นเต้นและรีบเรียกจ้าวป๋อ
"อะไร? เลขา ฉันกำลังยุ่งมาก เธอยังเห็นฉันยังยุ่งไม่พออีกเหรอ? " จ้าวป๋อตะโกนออกมา
"โอ้ ฉันทราบดีค่ะ แต่มีชายคนหนึ่งที่เรียกตัวเองว่าท่านหยางบอกว่าเขาอยากจะพบท่านค่ะ!" เลขาสาวตอบตกลงไป
"ท่านหยาง? เป็นเขา เข้ามา ได้โปรด เข้ามาเลยครับ! " จ้าวป๋อดีใจที่ได้ยินว่าเป็นท่านหยางที่มา
สักครู่ ชายแก่อายุราวห้าสิบก็เดินเข้ามา เขาถือไม้เท้าและเดินมาอย่างช้า ๆ
"ท่านหยาง, ท่านหยาง ในที่สุดท่านก็มา ได้โปรดช่วยลูกชายผมด้วย ถ้าท่านสามารถช่วยได้ จ้าวป๋อจะทำให้ท่านทุกอย่าง โปรดบอกมาได้เลยครับ " จ้าวป๋อกล่าว
"พูดน่ะพูดง่าย!" ชายชราพยักหน้าแล้วมองไปที่หว่อหยูที่อยู่ติดกับเขา
"คารวะท่านหยาง!" หว่อหยูกล่าวพร้อมกับกำหมัด
"อื้ม!" หลังพูดจบ ผู้อาวุโสหยางก็เดินตรงเข้าไปในห้องฉุกเฉิน
"ท่านหว่อ ท่านหยางคนนี้เป็นใครเหรอ? ดูท่านให้ความเคารพเขามากเลย! " ลั่วจิวชางถาม
ลั่วจิวชางมีพลังแค่ระดับC เขายังไม่เคยพบกับท่านหยางที่ต่างเล่าลือกัน
"ปรมาจารย์หยางมีพลังสูง เป็นปรมาจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านพิษ เขาเป็นเลิศในทักษะการใช้พิษและถอนพิษ และมีคู่แข่งแค่ไม่กี่คน!" หว่อหยูอธิบาย
"โอ้ งั้นเหรอ..."
เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็บ่ายสามกว่า ๆ แล้ว ดูเหมือนเสี่ยวเฮ่ยในจิตของเขาก็เพิ่งตื่นขึ้นมา หลินเฟิงผู้ที่ไม่ได้เรียกมันจึงทำแค่เพียงเดินไปที่สวนหลังบ้าน
เมื่อเขามาถึงสวนหลังบ้าน หลินเฟิงก็พบกับก้อนเล็ก ๆ สีทองที่มีขนาดประมาณเสี่ยวเฮ่ย ที่จริงแล้วมันมีราชาหมาป่าขาวลูกหมาป่าขาวอยู่ตรงนั้นด้วย
เมื่อก้อนเล็ก ๆ เห็นหลินเฟิงเดินเข้ามาใกล้ มันก็วิ่งเข้ามาหาหลินเฟิงมันทำให้เขากลัว
แต่ต่อมา เจ้าก้อนนั้นก็ยื่นลิ้นเข้ามาเลียหน้าผากและแก้มของหลินเฟิงก่อน แล้วจึงค่อย ๆ เอาหัวมาถูเข้ากับตัวของหลินเฟิง
"มันคืออะไรน่ะ!" หลินเฟิงรีบกระโดดออกมา หน้าของเขาเต็มไปด้วยน้ำลายจนเขารู้สึกขยะแขยง
"นายท่าน นี่คือรูปร่างของตัวนิ่ม หลังจากวิวัฒนาการเป็น เกราะมังกรดิน ซานหลง!" เสี่ยวเฮ่ย กล่าว
"นี่ นี่คือตัวนิ่มที่กลายเป็นสัตว์วิญญานแล้ว?" หลินเฟิงกล่าวอย่างประหลาดใจ
"ใช่แล้ว!"
หลินเฟิง เพิ่งสังเกตเห็นว่า มันเหมือนกับเด็กตัวเล็กๆ ที่สูงประมาณ 1เมตร ถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีทอง มันจึงส่องแสงสะท้อนราวกับก้อนทองก้อนหนึ่
0 ความคิดเห็น