RC:บทที่ 390 ระฆังลานประลองดังขึ้นอีกครั้ง
ของพวกนี้นั้นไม่ได้มีค่าอะไรนักในสายตาของหลิน เฟิง เพราะเขาเองก็ไม่ได้ขาดแคลนหินวิญญาณและศิลปะการต่อสู้แต่อย่างใด เพราะเขาก็ได้แลกเปลี่ยนศิลปะการต่อสู้มาอย่างมากมายที่การต่อสู้ใต้ดินแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ถึงหลิน เฟิงจะไม่ได้ขาดแคลนของพวกนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าปาเต๋าจะไม่ได้ขาดแคลนไปด้วย ไม่นาน ปาเต๋าก็คว้าเอาข้าวของพวกนี้เก็บเข้ามา ส่วนหลิน เฟิงก็ไม่ได้พูดอะไร และยังแบ่งส่วนของตนให้ไปด้วย
“เอ่อ ขอบใจนะ ยังไงอาการบาดเจ็บก็เกือบจะหายแล้ว วันนี้เราจะออกไปได้หรือยังครับ” หลิน เฟิงถามขึ้น
“ได้สิ แต่ก่อนอื่น ฉันมีเรื่องที่จะบอกพวกนายด้วย คือทางคนเบื้องบนต้องการที่เจอกับพวกนายทั้งสองคน ฉันเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาคิดยังไงกับเรื่องนี้” จิวหยาว่าขึ้น
“คนเบื้องบนอยากจะพบเรางั้นหรือครับ” หลิน เฟิงถึงกับตกใจมากเมื่อได้ยินแบบนั้น
“ใช่แล้วล่ะ” เธอตอบ
หลิน เฟิงถึงกับย่นคิ้วก่อนจะกลอกตาไปมา “พวกเราเองก็เพิ่งได้รับบาดเจ็บ ไว้เดี๋ยวค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลังเถอะครับ แล้วพวกเราเองก็ยังไม่อยากเจอใครในตอนนี้ด้วย”
จิว หยามองไปที่หลิน เฟิงก่อนจะถอนหายใจออกมา “โอเคจ้ะ”
ไม่นาน หลิน เฟิงกับปาเต๋าจึงได้เดินทางกลับ
ในระหว่างทาง หลิน เฟิงกับปาเต๋ากำลังเดินกันไปอย่างช้าๆ ปาเต๋านั้นได้หยิบเอามีดที่เป็นอาวุธวิญญาณระดับกลางขึ้นมา พลางมอง สัมผัสตัวมีด ก่อนที่สีหน้าของความผิดหวังจะฉายออกมา
“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ” หลิน เฟิงถามขึ้น
ปาเต๋าถอนหายใจ “ซวยจริงๆที่มีดของฉันเยินไปมากขนาดนั้น”
หลังจากได้ยินคำพูดแบบนั้น หลิน เฟิงก็เอ่ยขึ้น “นี่ไม่ใช่ว่านายได้ของอันอื่นชดเชยไปแล้วหรือ”
แต่ท่าทีที่ปาเต๋าแสดงออกมานั้นกลับเป็นสีหน้าดูถูกก่อนจะว่าขึ้น “มีดเนี่ย ยังไม่ได้ครึ่งของมีดฉันเลย”
หลิน เฟิงมองไปที่ดาบที่เขาได้มา มันก็ดูเป็นอาวุธวิญญาณระดับกลางธรรมดาๆ ไม่ได้ดีเด่อะไรนัก แถมยังอาจจะดูแย่กว่าอันก่อนของเขาไปอีกโขด้วย
หลังจากดูอยู่สองสามครั้ง หลิน เฟิงก็ได้พูดขึ้น “นี่เป็นอุปกรณ์วิญญาณไม่ใช่หรือ ทีหลัง ฉันสามารถเอาให้นายมากเท่าที่นายต้องการได้เลยนะ แล้วนายจะมาเอาแค่ไหนก็เอาไปได้ด้วย”
“อย่ามาโม้หน่อยเลย ก็นายมีอยู่ตั้งเยอะแล้วนี่” เห็นได้ชัดว่าปาเต๋าไม่เชื่อในสิ่งที่หลิน เฟิงพูด
แต่ทว่า เขากลับไม่รู้เลยว่าที่หลิน เฟิงพูดนั้นเป็นเรื่องจริง ขยะที่เป็นเหล็กกับโลหะที่หลิน เฟิงมีนั้น รวมถึงวัตถุวิญญาณที่เขาสกัดนั้นมีอยู่ในทุกรูปแบบ และมีทั้งแบบระดับต่ำและระดับสูงนับไม่ถ้วนอีกด้วย แม้แต่วัตถุวิญญาณอย่างระดับ S ด้วยก็เช่นกัน
หลังจากสกัดวัตถุวิญญาณพวกนั้นแล้วนั้น หลิน เฟิงก็นำไปให้หวัง หาน ก่อนจะขายให้คนที่อยากได้ในตลาดมืดของผู้ใช้พลัง
อย่างครั้งล่าสุด อุปกรณ์วิญญาณที่หลิน เฟิงสกัดและผ่านกระบวนการต่างๆเองก็ยังคงอยู่ในช่องเก็บในแหวนของเขา และไม่ได้มีมากนัก มีแค่อุปกรณืวิญญาณระดับสูงเพียงสิบอันเท่านั้น
หลังจากมาถึงร้านอาหารโหยวหยี่ หวัง ฉีก็ได้เข้ามาทักทายเขาในทันที และเมื่อกลับไปถึงห้องพักของตน หลิน เฟิงก็ได้หยิบอุปกรณ์วิญญาณระดับสูงออกมามากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่มีอยู่จริงทั้งนั้น
ในบรรดาของพวกนั้น ก็มีดาบเล่มใหญ่อยู่หลายรูปแบบ และมีอยู่สามเล่ม ปาเต๋าหยิบทั้งสามเล่มนั้นขึ้นมา ก่อนจะมองไปมองมา เพราะเลือกไม่ได้ว่าจะเอาอันไหนดี เป็นเวลาครู่ใหญ่จนในที่สุด หลิน เฟิงจึงเอาให้เขาหมดเลย
ณ ลานประลองเถื่อนใต้ดิน
“ท่านหยุน เชาขอรับ ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้ว แต่หน้ากากหมาป่ากระหายเลือดกับหน้ากากวัวยังไม่โผล่มาให้เห็นเลยขอรับ หรือว่าพวกมันนึกกลัวกัน” คนรับใช้ที่อยู่ใกล้ๆกันว่าขึ้น
“อืม ในเมื่อยังไม่มาก็ยังไม่มา เพราะฉันเองก็ได้ยินมาเหมือนกันว่าผีสาวน่ะไม่รู้ไปรับภารกิจอะไรมาเมื่อไม่กี่วันก่อน และก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนออกไปไหนไม่ได้เลย มาจนถึงวันนี้ที่เธอมีอาการดีขึ้นนี่ล่ะ” หยุน เชาเอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ
ในขณะที่หยุน เชากำลังพูดคุยอยู่กับคนรับใช้ของเขานั่นเอง ชายที่สวมหน้ากากคนหนึ่งก็ค่อยๆเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง
“หยุน เชา ผมได้ยินมาว่าครั้งก่อนคุณได้ขอให้เรากำจัดคนๆหนึ่งใช่ไหม อีกฝ่ายนั้นชื่ออะไร” เสียงที่ฟังดูแหบแห้งจากชายวัยกลางคนภายใต้หน้ากากเอ่ยถามขึ้น
“คุณยามาโนะ คุณผีสาวนี่เอง อีกฝั่งน่ะเป็นพวกหน้าใหม่ที่เพิ่งลงทะเบียนมา ฉายาของมันก็คือหมาป่ากระหายเลือด ตั้งแต่มันมายังไม่มีใครสามารถเอาชนะมันได้สักคนเลย แถมยังได้รับคะแนนนิยมไปเพียบเลยด้วย เราเชิญพวกนั้นให้เข้าร่วมด้วยหลายครั้งก็ไม่สำเร็จ เราก็เลยเรียกผีสาวมาเพื่อกำจัดเขาโดยตรงนี่ล่ะ และอีกอย่างเพื่อไม่ให้ใครคนอื่นได้ติดต่อเจ้าพวกนั้นไปร่วมงานด้วยได้อีก”
“ได้เลย ไม่ต้องห่วงไปนะ หยุน เชา อีกฝั่งจะต้องเสร็จเราแน่ๆ” เสียงของผีสาวดังขึ้น
“เอ่อ แต่ปัญหาก็คืออีกฝ่ายน่ะไม่โผล่หัวมาให้เห็นเลยตั้งสัปดาห์หนึ่งแล้ว ถ้าเจ้านั่นโผล่มาเมื่อไหร่ ฉันจะจัดเตรียมการต่อสู้ให้พวกนายเลย” หยุน เชาว่าขึ้น
“ได้” หลังจากตอบกลับไป ชายผู้สวมหน้ากากกับผีสาวก็ได้ถอยออกมาอย่างเงียบๆ
หลังจากพักร่างกายไปถึงสองวัน และกินอาหารที่ร้านโหยวหยี่เสียเต็มคราบ หลิน เฟิงกับปาเต๋าก็ได้รับการฟื้นฟูร่างกายมาจนถึงขีดสุด
และในวันนี้เองที่หลิน เฟิงได้เรียกปาเต๋าและหวัง ฉีไปที่การประลองเถื่อนใต้ดิน
โดยหลังจากที่เข้ามาแล้วนั้น คนหลายคนก็ได้มองไปที่หลิน เฟิงที่เดินเข้ามาในระยะทางสั้นๆก่อนจะหายตัวไปในทันที
หนึ่งในนั้นก็ได้มาปรากฏตัวข้างหยุน เชา พลางกระซิบ “ท่านหยุน เชา หมาป่ากระหายเลือดกำลังมาขอรับ”
“กำลังมางั้นหรือ ดีเลย ในที่สุดก็มาสักที ไป ไปเรียกผีสาวมา” หยุน เชาสั่งกลับไป
ส่วนอีกฝั่งหนึ่งนั้น ได้ปรากฏร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนม้านั่งพร้อมกับแก้วไวน์ในมือ พร้อมด้วยหญิงสาวสวยอีกสองคนที่แต่งตัววับๆแวมๆ
ชายหนุ่มคนนั้นกำลังหยอกล้อกับพวกเธออย่างมีความสุข แล้วในตอนนั้นเอง คนรับใช้คนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาเขาก่อนจะกระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหู
“หา มาแล้วงั้นหรือ” ชายคนนั้นเผยยิ้มออกมา
“นายน้อย ดูเหมือนว่าหยุน เชาเองก็สนใจหมาป่ากระหายเลือดนั่นด้วยล่ะครับ” คนรับใช้เอ่ยขึ้น
“หยุน เชาน่ะหรือ ฮ่าๆ ดีๆ ไปดูกันหน่อยซิว่าหมาป่ากระหายเลือดนั่นจะคุ้มกับเราไหม” ชายคนนั้นยิ้มๆก่อนจะกระดกไวน์ในมือขึ้นดื่ม แล้วจากนั้นก็เดินตรงไปที่สนามรบ
นอกจากนี้ ภายใต้แท่นประลอง ชายหนุ่มร่างสง่าก็ได้นั่ลงตรงนั้นก่อนจะมองสนามแข่งตรงหน้าอย่างพินิจ แล้วทันใดนั้นเอง คนรับใช้คนหนึ่งก็ได้ปรากฏตัวขึ้นข้างๆเขา ก่อนจะเอ่ยอะไรบางอย่างที่สุภาพข้างๆหู แล้วชายที่มีรูปร่างภูมิฐานคนดังกล่าวก็ยิ้มออกมาพลางพยักหน้า แล้วจากนั้นก็เดินออกจากที่นั่งผู้ชมไป
พวกเขาทั้งสามคนเพิ่งมาถึงที่เคาน์เตอร์ที่พวกเขาได้ลงทะเบียนกันไว้ แล้วจู่ๆก็รู้สึกว่ามีสายตาหลายคู่กำลังจ้องเขม็งมาที่เขา รวมถึงเสียงอีกหลายๆเสียงด้วย
“มาแล้วๆ หมาป่ากระหายเลือด”
“ในที่สุดก็มาแล้วสินะ ฉันเก็บหินวิญญาณไว้หลายชิ้นเพื่อรอเขาให้โชคเลยเชียวนะ”
“คู่ต่อสู้ก็ยังไม่ได้กำหนดเลย แล้วจู่ๆนายก็มาพนันข้างเจ้านั่นเนี่ยนะ ไม่มีเหตุผลเลย”
“...” เสียงแต่ละเสียงดังระงม
แต่หลิน เฟิงไม่ได้นึกสนใจเสียงพวกนั้น ก่อนจะเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ที่เขาได้ลงชื่อเอาไว้
“โอเค เดี๋ยวคุณเดินลงไป แล้วก็รอสักครู่นะ แล้วเดี๋ยวคลื่นแสงนั้นจะแจ้งชื่อคู่ต่อสู้ของคุณ” พนักงานกล่าวขึ้นกับเขาตรงหน้าลานประลอง
หลิน เฟิงกับปาเต๋าเดินตรงไปยังหนึ่งในแท่นลานประลองโดยไม่ได้พูดอะไรกันเลย ก่อนจะนั่งลงอยู่ข้างบนผู้ชมเพื่อรอการแจ้งกลับมา
0 ความคิดเห็น