RC:บทที่ 384 แผนการของพวกญี่ปุ่น
แต่เมื่อมาถึง เขาก็พบว่าหลิน เฟิงไม่ได้อยู่ตรงนี้ตั้งนานแล้ว เมื่อเห็นดังนั้นก็รู้สึกฉงน
“หายไปไหนแล้ว” สายลับคนดังกล่าวถึงกับตกใจ
“หาตัวฉันอยู่หรือ นินจาญี่ปุ่น” หลิน เฟิงเอ่ยขึ้น มือหนึ่งคว้าไหล่ของสายลับคนนั้นเอาไว้ ส่วนอีกมือหนึ่งจับเข้าที่ใบหน้าของนินจาญี่ปุ่นนั่น
ไม่นานที่หลิน เฟิงเอื้อมไปจับใบหน้าของเขา พลันใบหน้าอีกแบบก็ปรากฏขึ้นซึ่งเป็นใบหน้าที่แตกต่างจากคนจีน
“ใช้วิชาเปลี่ยนร่างด้วยผิวหนังจริงๆด้วย ถ้างั้นแกก็ต้องเจอหน่วยสอดแนมตัวจริงแล้วก็ฆ่าเขาไปแล้วงั้นสินะ” หลิน เฟิงถามว่าเสียงเบา
ชายคนดังกล่าวคาดไม่ถึงว่าหลิน เฟิงจะจับได้ว่าเขาเป็นตัวปลอม มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้สิ ทักษะวิชาการเปลี่ยนใบหน้าของเขาออกจะแนบเนียนมากเสียจนคนที่คุ้นเคยกันยังดูไม่ออกเสียด้วยซ้ำ
หมอนั่นเริ่มมีท่าทีตุกติกไปมาและดูต้องการที่จะกำจัดมือของหลิน เฟิงที่เกาะกุมอยู่ออกไป แต่เรี่ยวแรงของหลิน เฟิงนั้นมีมากเสียจนเวลากดไหล่เขาลง แล้วเขาปล่อยพลังใส่ไป แต่กลับไม่ทำให้หลิน เฟิงสะดุ้งสะเทือนเลยแม้แต่น้อย
“บ้าจริง นายเห็นหมดแล้วสินะ แต่แล้วยังไงล่ะ ฮ่าๆๆ” สายลับคนดังกล่าวพลางเอานิ้วทั้งสองค้ำจมูกไว้ ก่อนที่ควันก้อนใหญ่จะปรากฏขึ้น แล้วหายตัวไป
เมื่อเขามาปรากฏตัวอีกครั้ง ก็ห่างออกมาได้สิบเมตรแล้ว เสื้อผ้าของเขาเปลี่ยนไป กลายมาเป็นเสื้อแบบนินจาญี่ปุ่นแล้ว
แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาอึ้งสุดขีดก็คือมือของหลิน เฟิงที่ยังเกาะไหล่เขาไม่ปล่อย ไม่ไปไหนนี่ล่ะ
“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน” ว่าพลางก็ใช้มือขึ้นมาบังอีกครั้ง แล้วร่างก็หายไปอีก
ในตอนนี้ ร่างของเขามาโผล่ที่ยอดเขาแล้ว แต่ทว่าหลิน เฟิงก็มาปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีก แถมมือก็ยังเกาะไหล่อยู่เหมือนเดิม
“เป็นไปไม่ได้ๆ ซ่อนตัวสิ ต้องซ่อน” จากนั้นนินจาคนดังกล่าวก็หายตัวไปอีกครั้ง
ในตอนนี้ ร่างของเขาก็โผล่ขึ้นในกลุ่มฝูงชน พร้อมด้วยหลิน เฟิงที่ยังเกาะไหล่เขาอยู่ เหมือนขวานเล็กๆที่ทุบเข้าที่กลางหัวเข้าอย่างจัง
“ทำเรื่องชั่วๆไว้แบบนั้น ฉันจะไม่มามัวเล่นกับนายหรอกนะ” หลิน เฟิงเอ่ยขึ้น ก่อนจะออกแรงบีบ จนนินจาคนนั้นร้องเสียงหลง
เกิดเสียงดังกร๊อบ กระดูกของหมอนั่นหักทันที จากนั้นเขาก็ยื่นขาข้างหนึ่งออกมา ก่อนจะเตะนินจานั่นจนกระเด็นไปไกลสองสามเมตรจนกระแทกเข้ากับประตูไม้ของบ้านกระเบื้อง แล้วทันใดนั้นเองทั้งอิฐและกระเบื้องบนชายคาบ้านก็ร่วงลงมาใส่หัวของเขา
“แข็งแกร่งอะไรขนาดนี้” นินจาญี่ปุ่นคนดังกล่าวจ้องมาที่หลิน เฟิงพลางว่าขึ้นอย่างไม่นึกเชื่อ
หลิน เฟิงขยับตัวแค่สองครั้ง ก็เล่นเอากระดูกเขาหักไปสองท่อน ซี่โครงอีกสองซี่จนตัวเขาขยับไม่ได้เลย
ในตอนนี้ นินจาที่ล้มลงไปก็เงยหน้ามองคนที่อยู่รอบตัวเขา คนจากสมาคมป้องกันประเทศหลายคนถูกจัดการจนล้มไป บางคนก็พิการไปเลย แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้พลังระดับ S ที่ยังคงรวมตัวกันต่อสู้ต่างก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บใดๆ อีกทั้งยังคอยคุ้มกันผู้ใช้พลังระดับ A และ B อีกด้วย
เมื่อเห็นแบบนั้น เขาก็ไม่รู้จะไปไหนแล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าหลิน เฟิงนั้นรู้แผนการของเขาตรงนี้มาตั้งนานแล้วด้วย
“เวรเอ้ย มองออกได้ยังไงวะ” ชายชาวญี่ปุ่นที่ล้มลงไปนั้นก่นด่า
“หึ แม้นายจะเก่งเรื่องการสับเปลี่ยนหน้าจนยากที่จะแยกออกไปครู่หนึ่งแล้วนั้น แต่มันก็ยังมีเรื่องหลายๆเรื่องที่เรียนรู้ได้ยากในเวลาสั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นลมหายใจ เสียง และท่าทางการเดินยังไงล่ะ” หลิน เฟิงมองไปที่เขาพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงดูถูก
“ไอ้สารเลว แต่ถึงแกจะรู้ แกก็ต้องตาย ไม่อย่างงั้นคนที่อยู่บนเขาก็ต้องตามมาล้างแค้นฉัน มาสิ” เมื่อพูดจบ ชายชาวญี่ปุ่นคนนั้นก็ลุกขึ้นยืนอย่างไม่คาดคิด ก่อนจะตรงเข้าไปโจมตีหลิน เฟิงในทันที
แต่สุดท้าย เขาก็ต้องพ่ายแห้ให้กับหลิน เฟิง โดยที่หลิน เฟิงใช้แค่มือเท่านั้นก็เล่นเอาเขาเกือบตาย
แต่อย่างไรก็ตาม แทนที่จะฆ่าเลย หลิน เฟิงกลับถามขึ้น “จุดประสงค์ของพวกนินจาญี่ปุ่นในตอนนี้คืออะไร”
“เฮ้ยๆ ถึงตายฉันก็ไม่บอกแกหรอก” พลันนินจาคนนั้นก็หัวเราะลั่นเหมือนคนบ้าและเย่อหยิ่ง
เมื่อเขาเห็นแบบนั้น หลิน เฟิงก็โกรธจัดเป็นอย่างมาก ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างดูถูก “ถ้างั้นก็ตายซะเถอะ”
หลิน เฟิงตัดสินใจที่จะไม่ปล่อยให้ชายคนนี้มีชีวิตรอด
ในค่ำคืนที่มืดมิด บนต้นไม้ใหญ่ถัดจากสวนข้างหลังบ้านไปนั้น ได้ปรากฏร่างนินจาผู้ทรงพลังที่ใช้นิ้วเท้าเหยียบบนใบไม้เอาไว้ พวกเขามองสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องล่างด้วยแววตาเรียบเฉย แม้จะเห็นว่ามีนินจาพวกตนบางส่วนถูกฆ่าตายไป แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจ
“ไปฆ่าเจ้านั่นซะ แล้วก็ฆ่าคนที่อยู่ข้างล่างทั้งหมดนี่ด้วย ตราบใดที่เราทำลายสมาคมป้องกันประเทศนี้ลงได้ และเปลี่ยนคนอื่นๆมาแทนที่คนของเราไป แล้วเพื่อให้พวกทหารญี่ปุ่นมาที่ดินแดนแห่งนี้ที่มีพลังวิญญาณที่อุดมสมบูรณ์แห่งนี้” อีกคนว่าขึ้น พลางชูมือเหมือนกับจะให้กำลังใจ
“ได้” นินจาที่อยู่ข้างๆเขาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่สิ้นหวังและเย็นยะเยือก เห็นได้ชัดว่าเป็นเสียงผู้หญิง
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวตอบรับกลับมา ร่างของเธอก็หายไปจากตรงนั้น
เมื่อร่างของนินจาหนุ่มปรากฏขึ้นอีกครั้ง เขาก็เข้ามาที่ร่างของหลิน เฟิง ก่อนจะเงื้อมมือเพื่อฟันลงที่ร่างของหลิน เฟิง
แต่ทันทีที่มีดเงื้อมลงมา หลิน เฟิงก็รู้สึกได้ถึงอันตรายก่อนจะรีบซ่อนตัว
จนเมื่อปรากฏร่างขึ้นมาอีก ร่างของหลิน เฟิงก็ได้ห่างออกไปหลายเมตรแล้ว ก่อนจะใช้มือจับตัวนินจาคนนั้นไว้
“ก็ถ้าอยากช่วย ก็มาเอาไปสิ” หลิน เฟิงเอ่ย ก่อนจะโยนร่างชายคนนี้ไปยังคนที่เพิ่งโผล่ออกมา
“ฮึ่ม อ่อนหัดแบบนี้ แถมยังทำงานออกมาได้ห่วยอีก จริงๆแล้วเขาจะควรปลิดชีพตัวเองเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิเสียด้วยซ้ำ แต่ในเมื่อตอนนี้ตัวเขาไม่สามารถทำได้แล้วล่ะก็ ฉันจะช่วยเอง” นินจาคนนั้นว่าขึ้น ก่อนจะตวัดมีดแล้วฟันร่างของนินจาคนนั้นแยกเป็นสองส่วน
เมื่อเห็นแบบนั้น หลิน เฟิงก็แทบจะอ้วก
คนญี่ปุ่นพวกนี้ช่างมีใจคอโหดร้าย ไร้ความเมตตาและฆ่าได้แม้กระทั่งพวกของตัวเอง
แล้วนินจานั่นก็เข้าจัดการหลิน เฟิง และเข้ามาด้วยความเร็วสูงสุดจนหลิน เฟิงไม่ทันตั้งตัวอีกทั้งยังไม่มีสัตว์วิญญาณอยู่ด้วยอีก
“ฮึ่ม มังกรแสง ร่างแปลงสัตว์” หลินเฟิงเอ่ยเสียงเยียบเย็น
ทันใดนั้นเอง แสงสีเงินระยิบระยับก็เปล่งประกายไปทั่วร่างของหลิน เฟิง แล้วร่างทั้งร่างของเขาก็กลายเป็นสีเงินทั่วทั้งร่างอีกทั้งยังเปล่งแสงและทำให้บริเวณรอบๆนั้นสว่างขึ้นด้วย
หลังจากหลิน เฟิงและมังกรแสงปลี่ยนเป็นร่างสัตว์ ลมหายใจก็ขึ้นไปถึงระดับ S เพราะเดิมทีทั้งคู่นั้นอยู่แค่ระดับ A ขั้นสูงสุดเท่านั้น แต่เมื่อกลายร่างร่วมกัน พลังของทั้งคู่ก็ประสานจากหนึ่งเป็นสอง
เมื่อเห็นร่างที่เปลี่ยนไปของหลิน เฟิง นินจาญี่ปุ่นคนนั้นก็ถึงกับประหลาดใจ เพราะไม่เคยเห็นความสามารถของสัตว์วิญญาณแบบนี้มาก่อน
ร่างทั้งร่างของหลิน เฟิงปกคลุมไปด้วยสีเงิน จากหัวจรดเท้า จากมือมาจนถึงใบหน้า ยิ่งไปกว่านั้น ก็ยังมีปีกคู่ใหญ่คู่หนึ่งปรากฏขึ้นที่หลังของเขาด้วย
“ฆ่ามัน”
0 ความคิดเห็น