RC:บทที่ 341 พรจากพระพุทธเจ้า

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 341 พรจากพระพุทธเจ้า


สิ่งที่ตงฟางเชาหยางกับฮวงฝูเทียนหนานไม่รู้ก็คือในขณะที่พวกเขาพุ่งไปข้างหน้า ซือหม่าอี้ชาง(ยี่ชาง)​หันไปมองพวกที่ตามหลังพวกเขาไปแล้วกล่าวว่า "หากหนทางข้างหน้าเราได้เจอกับพวกเขาอีก นายจะต้องฆ่าพวกเขาซะ!"


ซือหม่าอี้ชางและซวนหยวนยู่หลงไม่ได้ฆ่าตระกูลฮวงฝูกับตระกูลตงฟางเป็นเพราะตงฟางเชาหยางและฮวงฝูเทียนหนานอยู่ที่นี่ เมื่อไหร่ที่พวกเขาจากไปก็ง่ายที่จะลงมือฆ่าอีกห้าคนที่ยังเหลืออยู่ 


ชายที่แข็งแกร่งที่สุดสี่คนกำลังไล่ตามหลินเฟิง พวกเขาเพิ่มความเร็วมากยิ่งขึ้นจนกระทั่งเข้าไปใกล้หลินเฟิง


"พวกเขากำลังไล่ตามมาแล้ว!" ไร้กังวลกล่าว


"ทำไมเหรอ? พวกเขารวดเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ? " หลินเฟิงประหลาดใจ


"แต่ดูเหมือนจะมีเพียงแค่สี่คนเท่านั้น พลังของแต่ละคนก็แข็งแกร่งมากๆ แข็งแกร่งกว่าท่านกับอาตมาซะอีก!" ไร้กังวลเอ่ย


"สี่? ช่างเถอะ วิ่งต่อไป! " หลินเฟิงเอ่ยแล้ววิ่งไปตามทางมุ่งสู่ทิศตะวันตก!


ถึงกระนั้น ก่อนที่จะวิ่งสักพัก คนทั้งสี่ก็ได้มาอยู่ด้านหลังของเขาแล้ว เมื่อมองเห็นหลินเฟิง พวกเขาก็เริ่มโจมตีอย่างทันที


"ระวัง!" ไร้กังวลเอ่ยเตือน แล้วคนพวกนั้นก็กระโดดมาอยู่รอบๆ พวกเขาแล้วตวัดดาบแสงขนาดใหญ่ตัดลงมา ทิ้งเป็นหลุมลึกสี่ถึงห้าเมตร


"ยังตามมาอีกเหรอ?" หลินเฟิงเอ่ยในใจ


คนทั้งสี่หยุดหลินเฟิงด้วยการยืนขวางทั้งสี่ทิศเรียงกันไปพร้อมกับมองมาด้วยสายตาสนุกสนาน


หลินเฟิงมองดูแล้วเห็นว่ามีอยู่สองคนทางใต้และตะวันออกที่เขาเคยเจอมาก่อน พวกเขาคือตงฟางเชาหยางและฮวงฝูเทียนหนาน!


ส่วนทางทิศเหนือกับตะวันตก หลินเฟิงไม่เคยเห็นหรือรู้จักมาก่อน


"สองคนนี้คือ?" หลินเฟิงถามฮวงฝูเทียนหนาน


"ฮึ่ม!" ฮวงฝูที่อยู่ทางทิศใต้เพิกเฉยอย่างเย็นชาและไม่ได้ตอบคำถามของเขา


แต่ในเวลานั้นหนึ่งในนั้นก็ยืนขึ้นแล้วเอ่ย "เจ้าหนุ่ม ข้าชื่อซือหม่าอี้ชาง นี่คือซวนหยวนยู่หลง พวกเราเป็นผู้นำตระกูลซือหม่าและตระกูลซวนหยวนตามลำดับ ข้าได้ยินมาว่าเจ้าขโมยตราพยัคฆ์ขาวมา โปรดคืนมาโดยเร็วด้วย!"


ฮวงฝูเทียนหนานไม่ได้พูดอะไรออกมา ปล่อยให้ซือหม่าอี้ชางพูดอยู่คนเดียว


"ตระกูลซือหม่าและตระกูลซวนหยวน?" หลังจากที่ได้ยิน หลินเฟิงจึงกล่าวว่า " โอ้ ผมรู้แล้ว คุณคือคนที่ลอบโจมตีตระกูลฮวงฝูกับตระกูลตงฟางตรงนอกถ้ำนั่นเอง" เมื่อหลินเฟิงเอ่ยอย่างนั้นแล้วเขาก็หันมาทางฮวงฝูเทียนหนานและตงฟางเชาหยาง


หลังจากที่ได้ยินคำพูดเรื่องลอบทำร้ายพวกเขาจากหลินเฟิง สีหน้าของฮวงฝูเทียนหนานและตงฟางเชาหยางก็ดูเศร้าหมองมากขึ้น


"เจ้าหนุ่ม เจ้าคงไม่อยากสร้างปัญหาขึ้นที่นี่หรอกนะ ส่งตราพยัคฆ์ขาวมาไม่อย่างนั้นข้าคงต้องขอล่วงเกิน!" ซือหม่าอี้ชางร้องออกมา


"อมิตตาพุทธ! ประสกทั้งสี่ มีบางอย่างจะพูด มีบางอย่างจะพูด!" เวลานั้นไร้กังวลก็ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวอย่างใจเย็น


"แล้ว? เจ้ามาจากไหน? ออกไปจากที่นี่ซะ! ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าเจ้า! " ซือหม่าอี้ชางอารมณ์ไม่ดีนัก เขาทำท่าเหมือนจะเริ่มต่อสู้หากหลินเฟิงไม่ยินยอม


"รอเดี๋ยว!" แต่ในเวลานี้ซวนหยวนยู่หลงกลับมองมาที่คนทั้งสอง ไร้กังวลและไร้เมตตา ทันใดนั้นเขาเขาก็นิ่วหน้าแล้วกล่าว "ข้าคิดว่าพวกเขาคือปรมาจารย์ไร้กังวลและไร้เมตตาแห่งเถียนซิน!"


"อมิตตาพุทธ อาตมาไม่นึกว่าจะมีผู้อื่นรู้จักสองพระตัวน้อยๆ นี้เลย!" ไร้กังวลยิ้มออกมา


"ไม่ว่าพวกเจ้าจะไร้กังวลหรือไร้เมตตา หากไม่จากไป ข้าก็จะเริ่มลงมือละนะ!" ซือหม่าอี้ชางร้องออกมา


เมื่อเห็นอย่างนี้ ซวนหยวนยู่หลงที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่างก็กลับพูดไม่ออก เพราะซือหม่าอี้ชางได้พุ่งเข้าไปโจมตีไร้กังวลด้วยกำปั้นเรียบร้อยแล้ว


แต่ใบหน้าของไร้กังวลกลับไม่ได้แสดงอาการใดๆ ออกมานอกจากรอยยิ้มบางๆ เขาไม่ได้ตื่นตกใจกับการโจมตีของซือหม่าอี้ชางเลย


"คิงคองปราบปีศาจ!"


ในเวลาเดียวกันก็มีเงาคล้ายรูปกำปั้นเกิดขึ้นแล้วกลายมาเป็นหมัดลมลาลาแรงและจากนั้นต่างก็ปล่อยหมัดใส่ฝ่ายตรงข้าม


แต่ครู่ต่อมา กำปั้นขนาดมหึมาทั้งสองที่ต่างก็ปล่อยใส่กันอย่างเงียบๆ นั้น มีเพียงคนผู้เดียวที่กระเด็นออกมาและนั่นก็คือซือหม่าอี้ชางซึ่งทำให้ทุกคนต่างก็ประหลาดใจ


"นี่ เป็นไปได้อย่างไร?" ซือหม่าอี้ชางเอ่ยอย่างตกตะลึง


แม้ว่ากำปั้นจะไม่ได้ทำให้เขาบาดเจ็บแต่มันก็ทำให้แขนของเขาชาและต้องก้าวถอยออกมาเป็นสิบก้าวก่อนที่เขาจะหยุดอยู่กับที่


เมื่อซือหม่าอี้ชางเงยหน้าขึ้น ทันใดนั้นเขาก็เห็นนักบวชคนนี้กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขาโดยเบื้องหลังของนักบวชมีเงาขนาดใหญ่รูปพระพุทธเจ้าอยู่เงาหนึ่ง


นอกจากนี้ เงาของพระพุทธเจ้านั้นดูชั่วร้าย มันน่ากลัวมากซะจนดูไม่คล้ายพระพุทธเจ้าเลยแต่กลับดูเหมือนปีศาจซะมากกว่า


แม้ว่ามันจะดูอัปลักษณ์แต่พลังของมันกลับสูงเป็นอย่างมาก อย่างในตอนนี้ที่ซือหม่าอี้ชางโดนหมัดสวนกลับอย่างไม่ทันตั้งตัวจนทำให้ทุกคนที่ได้เห็นต่างก็ตกตะลึง


"บัดซบชะมัด!" ซือหม่าอี้ชางกล่าวว่าเขาจะพยายามอย่างเต็มที่แต่ก็ถูกซวนหยวนยู่หลงหยุดไว้ซะก่อน


"ปรมาจารย์ทั้งสอง นี่เป็นเรื่องของพวกเรา ข้าหวังว่าพวกท่านจะไม่เข้ามาแทรกแซง!" ซวนหยวนยู่หลงก้าวมาข้างหน้าแล้วกล่าวกับไร้กังวลราวกับว่าเขากำลังเกรงกลัวไร้กังวลอยู่


"อาตมาเกรงว่าจะทำไม่ได้ เพราะอาตมาฉันอาหารของผู้อื่นไปแล้ว อีกอย่างหลินเฟิงก็ยังเป็นกัลยาณมิตรแห่งตระกูลพุทธศาสนาของอาตมาด้วย!" ไร้กังวลยังคงมีท่าทีสงบราวกับไม่มีสิ่งใดมาสั่นคลอนเขาได้


"ถ้าอย่างนั้น ข้าก็ขอคำชี้แนะเรื่องผัสสะทั้งหกแห่งพุทธศาสนาจากปรมาจารย์ไร้กังวลด้วย!" ถือว่าจบการต่อสู้ที่ผ่านมาอย่างตรงไปตรงมา


ในเวลาเดียวกัน คนอื่นๆก็ได้เคลื่อนไหวแล้ว ฮวงฝูเทียนหนานกับตงฟางเชาหยางพุ่งเข้าใส่หลินเฟิง พวกเขาเกลียดชังหลินเฟิงเป็นอย่างมาก แต่ในความคิดของหลินเฟิง ตระกูลทั้งสองก็ไม่ได้สูญเสียอะไรมากนัก


แต่ในขณะที่ทั้งสองกับพุ่งเข้าไป ตู่กังก็ได้มาหยุดอยู่ตรงหน้าตงฟางเชาหยางแล้วปล่อยหมัดใส่ ตงฟางเชาหยางเลยต้องล้มเลิกความตั้งใจเดิมแล้วเผชิญหน้ากับตู๋กังแทน


คนที่เหลืออย่างซือหม่าอี้ชาง เมื่อเห็นว่าคนทั้งหมดต่างก็กระโจนไปหาหลินเฟิง เขาเลยต่อสู้กับนักดาบที่อยู่ใกล้ๆ


ขณะนี้ ฮวงฝูเทียนหนานกำลังประมือกับหลินเฟิง ตงฟางเชาหยางก็รับมือกับตู๋กัง ซือหม่าอี้ชางก็สู้กับปาเต๋า ในขณะที่ซวนหยวนยู่หลงต่อกรกับไร้กังวลและไร้เมตตา


ถึงกระนั้น ไร้กังวลกลับไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร เขาทำเพียงแค่มองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขาเท่านั้น ยังมีอีกหลายวิธีในการใช้วัชระอย่างโหดเหี้ยมเพื่อกำราบปีศาจที่ต่อสู้อยู่กับซวนหยวนยู่หลง


และไร้กังวลก็ยังไม่ได้ลงมือทำอะไรต่อนอกจากขยับปาก เสียงนั้นมีเพียงแค่หลินเฟิงและตู๋กังที่ได้ยิน


มีเพียงไม่กี่คนที่ได้ยินคำพูดของไร้กังวล หลินเฟิงไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร แต่พวกเขากลับรู้สึกช็อคไปทั่วร่างแล้วจากนั้นพลังของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก


พลังวิญญาณในตัวต่างก็ร้อนรุ่ม หลังจากที่ตู๋กังแปลงเป็นร่างสัตว์เขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตงฟางเชาหยางอยู่ดี แต่ทว่าหลังจากที่ได้รับพรของธรรมะจากปากของไร้กังวล เขากลับรู้สึกได้ถึงพลังที่ไร้ที่สิ้นสุด จากที่เขาเคยพ่ายแพ้ให้กับตงฟางเชาหยาง


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น