RC:บทที่ 303 โดนจู่โจม
หลิน เฟิงเองก็คิดไม่ถึงว่าจะได้รับความช่วยเหลือครั้งใหญ่แบบนี้ คนนี้เป็นถึงอัจฉริยะทางด้านชีววิทยาเลยทีเดียว แต่กลับตกหลุมคำพูดของตู๋ กังซะอย่างนั้น ส่วนหลิน เฟิงกลับไม่แสดงท่าทีอะไรออกมาไปชั่วขณะ
มีทั้งเจ้าลิงที่จะเข้ามาร่วมกลุ่มหลิน เฟิง ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถเล่นใหญ่และสร้างคุณค่าของกลุ่มขึ้นได้อีกมาก
หลิน เฟิงรู้ว่าผลไม้บางตัวเองก็มีผลข้างเคียงที่ชัดเจน อีกทั้งยังเป็นผลลัพธ์ที่มีศักยภาพที่ยังไม่ได้ค้นพบอีกด้วย โดยทั้งนี้จำเป็นต้องใช้การทดลองทางวิทยาศาสตร์ในการสำรวจ
วันนี้เป็นวันที่มีความสุขจริงๆ หลิน เฟิงรู้สึกมีความสุขมาก
นอกจากได้ร่วมมือทางธุรกิจกับเอ้อโกวซือแล้ว ก็ยังทำให้เจ้าลิงกลับมาศึกษางานให้พวกตนได้อีกด้วย ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น พวกเขาต่างคิดว่าพวกตนจะไปด้วยกันได้ อีกทั้งยังได้พูดถึงเรื่องความรู้สึก และที่คาดไม่ถึงก็คือเกิดเรื่องดีๆถึงสองเรื่องเลย
ทั้งสี่คนต่างก็พูดคุยกันเป็นเวลานาน พอเริ่มเมาก็เริ่มพูดคุยกันแต่เรื่องไร้สาระ
หลิน เฟิงไม่รู้เลยว่าพวกตนดื่มกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งหมดวัน ต่างก็ผล็อยหลับลงในห้องส่วนตัวนั้น กว่าจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นก็เป็นอีกวันแล้ว
ในเวลาเช้าตรู่ หลิน เฟิงเป็นคนแรกที่ตื่นขึ้น ตรงหน้าเขาเละเทะเต็มไปหมด ทำให้เห็นว่าเมื่อคืนก่อนพวกเขาเมาเละกันไปแค่ไหน แถมยังไม่ได้สติกันอีกด้วย
เมื่อหลิน เฟิงตื่นขึ้นมา เขาก็ไม่ได้ปลุกคนอื่นให้ตื่นด้วย เขาแค่เรียกพนักงานโรงแรมให้หาเตียงปูให้พวกเขาด้วย
จนถึงเที่ยง คนทั้งหมดก็ตื่นขึ้น
“นี่นายตื่นกี่โมงเนี่ย เสี่ยว เฟิง” เอ้อโกวซือลุกขึ้น รู้สึกมึนหัวพลางส่ายหัวไปมาในขณะที่พูด
ในตอนนั้น หลิน เฟิงเองก็ขอให้พนักงานของทางโรงแรมจัดอาหารมาให้พวกเขาด้วย ในขณะที่รอพวกเขาตื่น
“ก็ตื่นก่อนนายไม่นานนี่ล่ะ” หลิน เฟิงกล่าว จากนั้นจึงเรียกทั้งสามให้มากินข้าวเที่ยง
หลังจากกินเรียบร้อยแล้ว เอ้อโกวซือจึงเกริ่นขึ้นมาคนแรกว่าขอตัวกลับ เพราะสิ่งที่สำคัญไปกว่าก็คือการปกป้องประเทศชาติ และวันหยุดของเขาเองก็ใกล้จะหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องกลับไปทำงานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“เจ้าบ้า ตู๋กัง เจ้าลิง ไว้เจอกันคราวหน้านะ ฉันต้องขอตัวกลับก่อนล่ะ” เอ้อโกวซือมองไปที่พี่ชายแสนดีของเขาก่อนจะเอ่ยขึ้น
“นายกลับไป พวกเราคงคิดถึงนายน่าดู ไว้นายมีเวลาเมื่อไหร่ก็ค่อยกลับมาเจอกันนะ พี่ๆของเรารอนายอยู่” เจ้าลิงเดินมาพลางกอดเอ้อโกวซือ
จากนั้น หลิน เฟิงกับตู๋กังก็สวมกอดก่อนจะเอ่ยลาเอ้อโกวซือทีละคน ไม่รู้เลยว่าจะได้มารวมตัวกันแบบนี้อีกเมื่อไหร่
“ฉันไปแล้วนะ แล้วก็ เจ้าบ้า อย่าลืมเรื่องที่ฉันบอกนายเรื่องผลไม้ด้วยล่ะ ฉันจะกลับไปดูผลที่เกิดขึ้น แล้วพูดคุยกับเบื้องบน แล้วค่อยมาคุยกับนาย คอยเปิดโทรศัพท์ไว้ด้วยล่ะ” เอ้อโกวซือกล่าว
“โอเค ไม่ต้องห่วง” หลิน เฟิงว่าพลางตบไหล่ของเขา
“เจ้าบ้า งั้นฉันกลับก่อนล่ะ พอฉันลาออกฉันจะมาหานาย คงไม่นานหรอก ถ้าใช้เวลาสั้นๆก็ไม่กี่วัน แต่ถ้านานหน่อยก็ครึ่งเดือน” ในตอนนั้นเอง เจ้าลิงก็ได้เอ่ยขึ้น
“โอเค พวกเราจะรอ นายสองคนมา” หลิน เฟิงกล่าว
“รอเลย ฉันน่ะ พวกเราสี่พี่น้องจะร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกันไม่ว่าจะเกิดอะไร ฮ่าๆ” ในตอนนั้นเอง ตู๋ กังก็เดินเข้ามากอดทั้งสามพลางกล่าวขึ้น
ไม่นาน ทั้งสี่คนก็ออกมาจากร้านโยวหยี่ หลิน เฟิงขับรถสปอร์ตของตนเพื่อไปส่งทั้งสามที่สถานี
“เอ หลิน เฟิงนายดูดีมากตอนอยู่ในรถคันนี้น่ะ ราคาเท่าไหร่หรือ” เจ้าลิงมองก่อนจะถามขึ้น
“โอเค ก็แค่...” ในขณะที่หลิน เฟิงกำลังจะพูด เสียงของเขาก็หยุดชะงักไปในทันที
แล้วในเวลาต่อมานั้นเอง
โครม!
เกิดเสียงดังสนั่น รถบรรทุกคันใหญ่ปรากฏขึ้นพร้อมกับลำแสงส่องสว่าง ก่อนจะเกี่ยวรถของหลิน เฟิงไปชนกับกำแพงข้างถนน แล้วถ้าชนกำแพงนั่น ก็ต้องแบนแต๊ดแต๋เป็นแน่
“ระวัง” หลิน เฟิงตกใจสุดขีด ในขณะที่หันไปมอง จู่ๆเขาก็เห็นใบหน้าที่ดูแคลนปรากฏบนใบหน้าของคนขับรถบรรทุก ที่เข้ามาทำร้ายเขา
“ไม่นะ เจ้าพวกนี้มันเตรียมการเอาไว้แล้วนี่” หลิน เฟิงว่าเบาๆ
จริงๆแล้ว หลิน เฟิงกับตู๋ กังไม่ได้กลัวอะไรแบบนี้เลยเพราะพวกเขาคือผู้มีพลัง อย่างมากก็แค่บาดเจ็บสาหัส แต่ไม่ใช่กับเจ้าลิง
เอ้อโกวซือน่ะไม่เป็นอะไรหรอก ผู้คนที่ปกป้องประเทศนั้นย่อมมีร่างกายที่แข็งแรงอยู่แล้ว มีพลังลมปราณไหลเวียนไปมาในร่างกาย ยกเว้นแต่เจ้าลิงนี่ล่ะที่เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่ง
“ซวยละ ตู๋กังปกป้องเจ้าลิงที” ในตอนนี้ ไม่ว่าจะมีเท่าไหร่ หลิน เฟิงก็ส่งพลังวิญญาณออกมาในทันทีก่อนจะปลดปล่อยสัตว์คู่ใจออกมา
“โฮก”
ตู๋ กังก็คำราม ทันใดนั้นเองกล้ามเนื้อทั่วร่างกายของเขาก็หนาขึ้น แล้วจู่ๆร่างของเขาก็กลายเป็นหมียักษ์ซึ่งทำเอาเอ้อโกวซือกับเจ้าลิงที่อยู่ในรถถึงกับช็อค
ตู๋ กังกอดเจ้าลิงไว้ด้วยมือข้างเดียว พลางเตะประตูรถของหลิน เฟิงออกไป ก่อนจะกระโดดลงมาพร้อมกับร่างของเจ้าลิง
เมื่อเอ้อโกวซือเห็นแบบนั้น รูปแบบของหมาป่าก็ปรากฏขึ้นตรงระหว่างคิ้ว จากนั้นหมาป่ายักษ์ตัวหนึ่งก็พุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว พลางเห็นว่าเขาก็ร้องคำรามลั่นพร้อมกับหมาป่ายักษ์ตัวนั้น ทั้งสองดูจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
เวลาต่อมา หมาป่ายักษ์ก็หายตัวไปก่อนจะกลายเป็นหนึ่งเดียวกับเอ้อโกวซือ จากนั้นก็เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับร่างของเขา ร่างกายของเขาใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับกรงเล็บขนาดใหญ่ที่งอกขึ้นมาตามมือตามขาที่คมมากเป็นพิเศษ
เอ้อโกวซือมีลักษณะคล้ายกับมนุษย์หมาป่า กรงเล็บแหลมนั้นฉีกหลังคารถของหลิน เฟิง เผยให้เห็นรูขนาดใหญ่ก่อนจะปลิวออกไป
มีเพียงหลิน เฟิงคนเดียวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้และไม่ได้เคลื่อนไหวไปไหน ความเจ็บปวดปรากฏขึ้นบนหน้าของเขา เงินมากกว่าหนึ่งล้านหยวนหายวับไปกับตา แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงคุณค่าของเพื่อนๆที่มีค่ามากกว่าพันล้านหยวนแล้วนั้น ใจเขาก็เบาขึ้นมาในทันที
แต่เมื่อทันทีที่รถถูกทำลาย ความโกรธก็ปะทุขึ้น จากนั้นร่างสีดำขนาดใหญ่ก็พุ่งออกมาจากบริเวณระหว่างคิ้วก่อนจะจ้องไปยังรถบรรทุกคันนั้นด้วยแรงโทสะ
โฮก!!!
เสียงคำรามแห่งความโกรธดังก้องขึ้น หางขนาดใหญ่ของร่างสีดำนั้นโบกสะบัด ก่อนจะตรงไปดึงเอารถบรรทุกคันนั้นออกมาแล้วฟาดมันลงบนทางเดินด้านหนึ่ง
ในตอนนี้ ผู้คนจึงเห็นได้ชัดแล้วว่ามันคืออะไร สิ่งนั้นคือมังกรดำที่มีสีดำเลื่อมไปทั่วทั้งร่าง พร้อมกับบินวนไปมาในท้องฟ้า
ร่างของหลิน เฟิงหายไปจากในรถ ก่อนจะมาปรากฏตัวข้างๆตู๋กังกับเจ้าลิง ในตอนนั้นเอง ร่างของมังกรดำที่มีความยาวถึง 30 หรือ 40 เมตร บินไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็วเป็นวงกลม ล้อมรอบตัวพวกเขาที่อยู่ตรงกลาง
กระโดดขึ้นไปเพียงเล็กน้อย ร่างของหลิน เฟิงก็กระโดดขึ้นไปถึงหัวของมังกรดำ ก่อนจะมองลงมาที่ชายคนดังกล่าวที่หลบหนีออกมาจากในรถ ก่อนจะว่าขึ้น “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายพวกเรา”
“คอยดูเถอะ” ชายคนหนึ่งที่มีเลือดเต็มปากพุ่งลงมาจากรถ โดยที่ไม่พูดอะไร แค่มองหลิน เฟิงอย่างดูถูก
และในตอนนี้ หลิน เฟิงก็สัมผัสได้ว่ามีลมหายใจมากมายกำลังมุ่งหน้ามาที่นี่ น่าจะสักสิบคนได้ ทุกคนล้วนแต่งชุดสีดำหมด
มีสองคนที่มีพลังมาก คนหนึ่งเป็นชายที่ขับรถบรรทุก ส่วนอีกคนเป็นชายที่มาปรากฏตัวทีหลัง
หลังจากนั้น ชายคนดังกล่าวก็ได้ปลดปล่อยบรรยากาศกดดันออกมา แม้แต่มังกรดำเองยังแสดงท่าทีหวาดกลัวออกมาเลย
“พละกำลังแบบไหนกันนะ” หลิน เฟิงถามขึ้น
พละกำลังของตัวเขาดูด้อยไปโขเลย ในขณะที่สัมผัสได้เพียงว่าอีกฝ่ายหนึ่งนั้นมีพลังมากกว่าตัวเขาเยอะเลย
“แข็งแกร่งจริงๆ ระดับ SS สินะ” มังกรดำกล่าวอย่างสงบราวกับว่าไม่ได้นึกกังวลมากนัก
เมื่อเห็นท่าทีของมังกรดำ หลิน เฟิงก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมาทันที ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่คิดไว้
“เดี๋ยวฉันจะจับมังกรดำนั้นมัดไว้ ไปสิ จัดการมันเลยเร็วๆ” ผู้ใช้พลังระดับ SS กล่าวขึ้นในทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น
“ครับ” พวกเขาขานรับเป็นเสียงเดียวกัน
“รอเดี๋ยวนะ นี่แกเป็นใครกัน ทำไมถึงมาสู้กับเรา” หลิน เฟิงถามพลางขมวดคิ้ว
“ฮ่าๆ เห็นหน้าฉันนายน่าจะคิดออกนะ” ชายคนที่ขับรถบรรทุกนั้นดึงผ้าสีดำออกมาจากใบหน้าก่อนที่ใบหน้าอันแสนคุ้นเคยจะปรากฏขึ้นในทันที
“นายคือเย่วเฉียวงั้นหรือ ไม่สิ เย่วเฉียวตายไปแล้วนี่ แล้วพลังของเขาก็ไม่มากเท่านายด้วย” เมื่อเห็นชายตรงหน้า หลิน เฟิงก็คุ้นๆว่านี่คือเย่วเฉียวแต่นี่กลับไม่ใช่เขา
“เป็นแกสินะที่ฆ่าน้องชายของฉัน...”
0 ความคิดเห็น