RC:บทที่ 300 ประธาน
“ฉัน...” หลินเฟิงพูดไม่ถูกอยู่พักใหญ่ๆ ทำไมเขาถึงไม่สามารถเข้าไปในร้านอาหารที่เขาเป็นเจ้าของได้กันน่ะ…
*กริ๊งๆ กริ๊งๆ*
ทันใดนั้น โทรศัพท์ของหลินเฟิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ฮัลโหล หลินเฟิง ทำไมนายยังไม่ขึ้นมาน่ะ? เรารอนายนานแล้วนะ!” ตู๋กังเอ่ยถามเสียงดังผ่านโทรศัพท์
“ไอ้เจ้าโง่เอ้ย! นายอยู่ห้องไหน เอาเลขห้องมาเดี๋ยวนี้เลย!” ขณะที่หลินเฟิงกำลังพูดอยู่ ทันใดนั้นก็มีหญิงสาวภายในชุดสูทลงมาจากด้านบนของร้านอาหาร เธอดูเหมือนพนักงานที่มีประสบการณ์
“เอ๋? นั่นคุณหลินไม่ใช่เหรอ? นั่นใช่บอสหรือเปล่าคะ?” เมื่อหญิงสาวเห็นหลินเฟิงยืนอยู่ด้วยความเกร็ง เธอก็ตกใจมากๆเลย
“เธอ..เธอคือพนักงานต้อนรับคนเก่า!” หลินเฟิงงุนงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเรียกเธอ
“ใช่แล้วค่ะ! ฉันเอง! แล้วบอสมาทำอะไรที่นี่คะเนี่ย?” เมื่อเธอเห็นว่าหลินเฟิงจำเธอได้ เธอก็ดูจะดีใจมากๆเลย
“อ๋อ พอดีฉันไม่มีบัตร VIP ก็เลยขึ้นไปข้างบนไม่ได้...ช่วยบอกเธอคนนี้ให้หน่อยสิว่าเพื่อนฉันรออยู่บ้างบนน่ะ!” เมื่อเห็นหญิงสาวเข้ามา หลินเฟิงก็ดูจะคลายตระหนกในใจมากขึ้น
เขาไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ หลินเฟิงนั้นไม่ได้มายังโรงแรมโหยวหยี่กว่า 3 เดือนแล้ว ถึงแม้ว่าธุรกิจนี้จะอยู่ภายใต้ชื่อของเขาก็ตาม แต่เขาก็ไม่ได้เตรียมวิธีรับมือกับเหตุการณ์แบบนี้ไว้
3 เดือนที่ผ่านมานั้น ทุกสิ่งมันเปลี่ยนไปหมด มันเลยทำให้มีพนักงานหลายๆคนที่ไม่รู้จักหลินเฟิง พวกเขาไม่รู้ว่าหลินเฟิงนั้นไม่ใช่คนทั่วๆไป
“เป็นแบบนั้นไปได้ยังไงกันคะเนี่ย? เธอ! ดูให้ดีๆก่อนสิ! นี่น่ะ บอสแห่งร้านอาหารโหยวหยี่ไง! ประธานแห่งหลินกรุ๊ป! เธออยากได้อยากได้บัตร VIP ประเภทไหนจากเจ้าของร้านอาหารกันน่ะ?”
ในตอนนี้ ความแข็งแกร่งของหญิงสาวมันค่อยๆเพิ่มสูงขึ้น ราวกับเธอพร้อมจะไล่พนักงานคนอื่นออกจากเขตได้ทุกเมื่อเลย
“อ-อะไรนะคะ!?”
บริกรสาวที่ประจำอยู่ชั้น 1 นั้นช็อกกับคำพูดของผู้หญิงตรงหน้าไปเลย พวกเธอตกใจมากๆหลังรู้ตัวว่าพูดอะไรออกมา สีหน้าของพวกเธอทั้งหมดดูแทบไม่อยากจะเชื่อกับเรื่องนี้เลย
“อะไรเล่า? ยังไม่กล่าวทักทายบอสอีกเหรอ!” หญิงสาวเอ่ยย้ำ
“ย-ยินดีต้อนรับครับ/ค่ะ บอส!” ทันทีทันใดเหล่าเด็กเสริฟและบริกรทั้งหลายราวๆ 7-8 คนของชั้น 1 ก็รีบเข้ามาโค้งหัวให้หลินเฟิงด้วยความรู้สึกช็อกและเคารพในเวลาเดียวกัน
“หือ ห้ะ!? ทำอะไรกันน่ะพวกนายยยย!!” หลินเฟิงนั้นตกใจสุดๆ ถึงเขาจะโล่งใจขึ้นแล้วแต่ยังไงซะเขาก็ยังไม่ชิน แม้ว่าตัวเขาจะเป็นถึงบอสและเป็นผู้ก่อตั้งหลินเฟิงกรุ๊ป แต่จริงๆแล้วตัวเขาเองกลับรู้สึกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย เป็นเพียงเจ้าของเท่านั้น
ในตอนนี้ ตอนที่เขาถูกคนมากมายให้ความเคารพที่แตกต่างจากก่อนหน้า มันทำให้เขาได้เข้าใจว่า บางทีสถานะก็ช่วยให้คนเราสามารถอยู่เหนือคนอื่นได้
“แค่กๆ! อ-โอเค โอเค ไม่เป็นไร ทำอะไรอยู่ก็ไปทำต่อเถอะ”
หลินเฟิงไอ 2 ครั้งก่อนจะบอกกับเหล่าพนักงานและบริกรทั้งหลายให้กลับไปทำงานโดยที่เขาเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีที่ดูแบ่งชนชั้นออกมาเหมือนกับบอสคนอื่นๆเลย แถมเขายังสุภาพมากๆซึ่งนี่ทำให้คนอื่นๆต่างเคารพเขาในฐานะประธานมากขึ้นไปอีก
“พวกเธอได้ยินแล้วนี่ว่าบอสบอกให้ไปทำงานต่อ?” หญิงสาวเอ่ยอีกครั้ง คนเหล่านั้นก็รีบไปเลยแม้จะฝืนไปก็ตาม แต่ถึงจะบอกให้ไปทำงานแต่พวกเธอก็ยังหันกลับมามองหลินเฟิงเป็นระยะๆด้วย
“ช่วยพาฉันขึ้นไปทีได้มั้ย? พอดีเพื่อนของฉันรออยู่ข้างบนนานแล้วน่ะ” หลินเฟิงบอกกับหญิงสาวตรงหน้าเขา
“ได้ค่ะบอส” เธอตอบรับด้วยความเคารพก่อนจะนำทางหลินเฟิงไป
“แล้วว่าแต่ พวกคนเก่าๆไปไหนหมดล่ะ? ทำไมเหลือแค่เธอคนเดียว?” หลินเฟิงถามขณะเดินตามไป
เขานั้นจำได้ว่าแต่ก่อนเธอคนนี้นั้นเป็นพนักงานต้อนรับ เขาเจอเธออยู่บ่อยครั้งและมีความประทับใจในตัวเธอไม่น้อย แต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะกลายมาเป็นฝ่ายบริหารของร้านอาหารไปเสียแล้วในวันนี้
“ก่อนอื่นก็ต้องขอบคุณบอร์ดบริหารของบอสนั่นแหละค่ะ พวกเขาช่วยเลื่อนตำแหน่งให้พวกเราเป็นผู้จัดการสาขาย่อยกันแทน แต่ละคนเลยกระจายกันไปตามตำแหน่งของตน เพราะงั้นพนักงานต้อนรับเลยต้องจ้างใหม่ทั้งหมด พวกเขาก็เลยไม่คุ้นเคยกับบอส” หญิงสาวบอก
“พวกเธอโดนเลื่อนขึ้นกันหมดเลยเหรอ? ดีจริงๆเลยแบบนี้!” หลินเฟิงพยักหน้าแบบไม่รู้ตัวเลย
ไม่นานนัก เธอก็พาหลินเฟิงมายังห้องของเพื่อนของเขาที่อยู่ชั้น 3
หลังจากที่หลินเฟิงได้ถามชื่ออีกฝ่ายไปแล้ว เขาก็บอกให้เธอกลับไปทำงานต่อเพื่อจะได้ไม่รบกวนเธอ จากนั้นเขาก็เดินไปยังห้องส่วนตัวที่ตู๋กังพูดไว้ตัวคนเดียว
“ผู้จัดการคะๆ! คนๆนั้นเป็นประธานของหลินกรุ๊ปจริงๆเหรอคะ!” หลังจากที่หญิงสาวกลับลงมาด้านล่างแล้ว เหล่าบริกรทั้งหลายก็วิ่งเข้ามารวมกันที่เธอและเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้นเลย
“ถามอะไรไร้สาระน่า ฉันต้องหลอกพวกเธอด้วยเหรอ?” เธอเอ่ยตอบ
“ว้าว! ฉันได้เจอประธานของหลินกรุ๊ปแล้ว! เขาทั้งหนุ่มแล้วก็หล่อมากๆเลย!” พนักงานสาวเอ่ยด้วยความไร้เดียงสา
“นั่นสิ ยิ่งไปกว่านั้นนะ ฉันไม่คิดเลยว่าเขาจะทำตัวเรียบง่ายแล้วก็เป็นกันเองแบบนี้ เขาน่ะ ดูยังไงก็ไม่เหมือนพวกบอสที่อื่นที่ทำตัวเป็นใหญ่เลย!” หญิงสาวอีกคนเองก็เอ่ยเสริม
“.....”
“ฮ่ะๆๆ พวกเธอเนี่ย ทำเป็นไม่เคยเห็นโลกไปได้” ผู้จัดการสาวนั้นมองลงมายังสาวๆที่เธอดูแลก่อนจะอดไม่ได้ที่จะหัวเราะกับความน่ารักของพวกเธอเหล่านี้
“จริงๆแล้วเมื่อตอนที่ฉันเป็นพนักงานหน้าประตูน่ะ เขายังเป็นเพียงบอสตัวน้อยอยู่เลยนะ แต่ก็เป็นเพราะเขาที่เป็นประธานของหลินกรุ๊ป พวกเราที่เป็นพนักงานกลุ่มแรกจึงเติบโตได้อย่างรวดเร็วและมาเป็นผู้จัดการพวกเธออยู่ ณ ตอนนี้นั่นแหละ ต้องขอบคุณบอสจริงๆเลย” ระหว่างที่พูดเธอก็หันมองขึ้นไปบนบันไดด้วยความซึ้งใจอีกด้วย
“ผู้จัดการคะ บอสเคยทำอะไรให้ประทับใจอีกมั้ยคะ? เราอยากฟังเรื่องของบอสอีก!” กลุ่มของบริกรที่เข้ามาเพิ่มนั้นเหมือนเด็กเล็กๆที่กำลังอยากรู้อยากเห็น พวกเธอถามขึ้นมาในทันที
“โอ้ เอาสิ ฉันจะเล่าให้ฟัง แต่ถ้ามีแขกมาพวกเธอต้องไปรับแขกก่อนนะ...”
ด้านบนชั้น 3 เมื่อหลินเฟิงเดินมาถึงห้องส่วนตัวของตู๋กัง เขาก็ได้ยินเสียงร้องเพลงที่คุ้นหูดังขึ้นมา ซึ่งมันเป็นเพลงที่เขาได้ยินเมื่อตอนอยู่ชั้นมัธยมนู่นเลย นอกจากจะคุ้นหูแล้ว มันยังทำให้เขารู้สึกเหมือนได้รำลึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่เคยชอบ และลืมมันไปนานมากๆ
หลินเฟิงค่อยๆเปิดประตูออกเบาๆ และในตอนนั้น ชายหนุ่มคนหนึ่งก็กำลังร้องเพลงอยู่กับไมโครโฟน เสียงของเขานั้นมันทำให้คนอื่นหลงไหลได้ง่ายๆเพียงแค่ได้ยิน หลินเฟิงเองก็กลัวว่าจะไปขัดการร้องเพลงนี้เพราะงั้นเขาจึงปิดประตูลงไปเหมือนเดิมก่อนและยืนฟังเงียบๆอยู่ที่หน้าประตู
หลังจากที่เพลงจบ ชายหนุ่มผู้เป็นคนขับร้องก็ได้เสียงปรบมือล้นหลามมาจากในห้องส่วนตัวนั้น
“เอ้อโกวซื่อ เสียงนายนี่มันดีขึ้นมากเลยนะเนี่ย! น่าเสียดายจริงๆที่ไม่ไปเป็นนักร้อง” เสียงปรบมือเงียบลงและชายหนุ่มร่างผอมที่สวมแว่นตาก็ยืนขึ้นมาและพูด
“ฮ่าๆๆ งานอดิเรกพอน่า” ชายผู้ที่ถูกเรียกว่าเอ้อโกซื่อตอบด้วยรอยยิ้ม
“อะไรอีกเนี่ย? เจ้าหลินเฟิงยังไม่มาซักที นี่มันนานมากแล้วนะ! ฉันจะลงไปดูข้างล่างหน่อย!” ตู๋กังเริ่มกังวลขึ้นมา
แต่ทันทีที่ตู๋กังพูดจบ เสียงอีกเสียงก็ดังขึ้นมาจากด้านนอก “ไม่ต้อง ฉันมาแล้ว!”
จากนั้นหลินเฟิงก็เดินเข้ามาภายใน เพียงไม่กี่ก้าวเขาก็ได้พบกับทุกๆคนในห้องนั้น
“หลินเฟิง!”
ทุกๆคนต่างชะงักไปครู่หนึ่งก่อนที่คน 2 คนในห้องจะกระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้นและเข้ามากอดหลินเฟิง
ทันใดนั้นทั้งสามก็กอดกันกลมพร้อมหัวเราะไปด้วยด้วยกัน
“ฮ่าๆๆๆ ไม่เจอกันนานนายก็ยังหล่อเหมือนเดิมเลยนะเนี่ย!” เอ้อโกซื่อพูดพร้อมกับกอดหลินเฟิงแน่นเลย
“ฮ่าๆๆ นายก็เปลี่ยนไปเยอะ นี่แข็งแกร่งขึ้นด้วยหรือเปล่าเนี่ย?” หลินเฟิงลูบหลังอีกฝ่ายพร้อมกับพูดไปด้วย
“เห้ยๆ เดี๋ยว--อ่อก---พวกนายจะฆ่าฉันหรือไงน่ะ!” ทันใดนั้นอีกฝ่ายก็พูดขึ้นอีก
คนๆนี้คือ เจ้าลิง ที่หลินเฟิงเรียก เมื่อตอนที่ยังอยู่มัธยมนั้น ครอบครัวของเจ้าลิงค่อนข้างจะอยู่ในสภาวะที่ไม่ดีนัก นั่นทำให้เขากลายเป็นพวกขาดสารอาหารจนผอมแห้ง หลินเฟิงเลยเรียกเขาว่าเจ้าลิง
“ฮ่าๆๆๆ เจ้าลิง ทำไมนายยังเหมือนเดิมเลยเนี่ย? ผอมเกินไปแล้วรู้ไหม!” หลินเฟิงเอ่ยถาม
0 ความคิดเห็น