RC:บทที่ 291 ความแข็งแกร่งของปรมาจารย์เทียนซิน
มังกรดำคำรามขึ้นไปบนฟ้า และมันอึกทึกอยู่ภายในหูของทุกคนที่ได้ยิน
“ไม่ เจ้านี่ก็แค่เหมือน แต่ความแข็งแกร่งยังห่างกันอยู่มาก ราชาทมิฬนั้นอยู่ในระดับ SSS แต่เจ้ามังกรดำนี่น่าจะแค่ SS เท่านั้น”
ชายชราผมขาวจากตระกูลหลงรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ผิดแปลกไปจึงเอ่ยขึ้นมา
“ฮ่าๆๆๆ! ถึงจะแค่ใกล้เคียงกับ SS แต่แค่นี้มันก็เพียงพอที่จะกวาดพวกเจ้าทุกคนให้ลงหลุมได้แล้ว!” มังกรดำพูดอย่างมั่นใจจากนั้นเขาก็คำรามใส่ชายที่แข็งแกร่งระดับ SS ที่อยู่ใกล้เขาที่สุดเลย
เมื่อชายคนนั้นซึ่งมาจากตระกูลฮวงฟู เห็นมังกรดำกำลังพุ่งเข้ามา เขาก็รีบหายไปในทันที
จากนั้นเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นมาอีกที นั่นก็คือจุดที่อยู่ห่างออกไปจากที่เดิมกว่า 100 เมตรแล้ว เขามองกลับไปยังจุดที่เขาจากมา แต่ในตอนนั้นก็ไม่เห็นร่างของมังกรดำตัวดังกล่าวแล้วซึ่งนั่นทำให้เขางุนงงมากๆ
“ไอ้หนู ระวังหลัง!” ในตอนนั้นเอง ชายอีกคนที่มาจากฮวงฟูเช่นกันก็รีบตะโกนและวิ่งเข้าหาเขาในทันที
แต่ทว่า คิดเหรอว่าคุณย่ายี่โหรวจะปล่อยให้เขาไปขัดขวางมังกรดำได้? เขามองเห็นดาบยาวในมือหญิงชรา และทันใดนั้นแสงอาทิตย์ก็สาดส่องลงมาที่เขา ซึ่งมันทำให้เขาหยุดลงไปในทันที
ส่วนอีก 3 คนที่กระจายไปอยู่มุมอื่น 2 คนกำลังต่อสู้กับปรมาจารย์เทียนซิน ส่วนอีก 1 กำลังสู้กับชายชราแห่งไม้เท้าซึ่งไม่ว่าใครก็ต่างกินกันไม่ลง
“หือ? อะไรนะ?” ชายหนุ่มที่อยู่ไกลนั้นไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมตระกูลพูดอะไร
“เจ้าหาข้าอยู่งั้นหรือ?” และในตอนนั้น เสียงที่ฟังดูลึกลับและเก่าแก่ก็ดังขึ้นพร้อมๆกับหัวขนาดใหญ่ที่โผล่มาด้านหลังเขา
ร่างที่มโหฬารของมังกรดำนั้นหมอบให้อยู่ระดับเดียวกับเหล่ของอีกฝ่าย แม้ว่าอีกฝ่ายจะอยากหนีขนาดไหน แต่ในตอนนี้เขากลับทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
“ป-เป็นไปได้ยังไงกัน!?” เขาตกใจสุดๆ ไม่รู้ว่าทำไม และเป็นไปได้อย่างไร มังกรดำถึงมาอยู่ด้านหลังเขาได้
กรร!
ภาพตรงหน้าของเขานั้นคือ มังกรดำกำลังคำรามออกมาพร้อมกับเปล่งแสงสีดำออกมาจากปาก จากนั้นร่างของชายผู้นั้นก็บาดเจ็บอย่างหนักพร้อมกระเด็ดลอยออกมา
“เห้ย พวกแก! เร็วเข้า!” ชายที่แข็งแกร่งที่เหลือบอกกับพวกระดับ S และ A คนอื่นๆ
ทันใดนั้นคนเหล่านั้นก็เข้าโจมตีหลินเฟิงและมู่หรงหลานกันทันที
“อย่ามาขวางทางพวกเราน่า! เป็นพระเป็นเจ้าแท้ๆ! ถ้าพวกฉันเกิดพลั้งมือทำอะไรไปจะมาโทษทีหลังไม่ได้นะ” ทั้งสองคนที่โดนปรมาจารย์เทียนซินหยุดไว้เริ่มโกรธขึ้นมาแล้ว ถ้าพวกเขาไม่รีบออกจากพระรูปนี้ไปล่ะก็ ชายผู้สู้อยู่กับมังกรดำได้ตายแน่ๆ!
ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงนำอาวุธวิญญาณของแต่ละคนออกมาในทันที คนหนึ่งเป็นสิ่งที่เหมือนกับกรงเล็บมังกร - “คมเขี้ยวมังกรสังหาร” อีกคนหนึ่งเป็นปืนยาวที่ประดับด้วยรวดลายมังกรอยู่บนกระบอกปืน - “ปืนยาวพาดมังกร”
ทั้งสองนั้นมีบางสิ่งบางอย่างที่เหมือนกัน นั่นก็คือ มีความเกี่ยวข้องกับมังกรทั้งคู่ ซึ่งนี่เป็นอัตลักษณ์ที่เด่นชัดของผู้ที่มาจากตระกูลหลง
และไม่เพียงเท่านี้ พวกเขายังปลดปล่อยสัตว์วิญญาณที่เลี้ยงไว้ออกมาด้วย ทันใดนั้นเสียงคำรามของมังกร 2 ตัว ก็ดังสนั่นออกมา พร้อมๆกับร่างของมังกรทั้ง 2 ตัว ตัวหนึ่งสีแดง และอีกตัวเป็นสีน้ำเงิน สีแดงคือมังกรไฟ และสีฟ้าคือมังกรน้ำแข็ง
มังกรทั้งสองตนนี้คือสัตว์วิญญาณของจริงที่อยู่ในระดับที่ใช้กันทั้งตระกูล มังกรประจำตระกูลพวกนี้นั้นแข็งแกร่งและค่อนข้างจะมีชาติตระกูล ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอมังกรระดับนี้ถึง 3 ตนในที่แห่งนี้
“สมแล้วที่ได้ชื่อว่าเป็นตระกูลแห่งมังกร และสมแล้วที่พวกท่านได้ชื่อว่าเป็นผู้นำแห่ง 10 ตระกูลใหญ่ อย่างที่คิด แม้แต่สัตว์วิญญาณเองก็ไม่ใช่ธรรมดาสินะ” ปรมาจารย์เทียนซินบ่นเบาๆแต่ใบหน้าของเขาก็ยังคงสงบและมีรอยยิ้มแฝงอยู่
“จงมา สัตว์วิญญาณของข้า! ไอยราสวรรค์และมังกรแห่งเพลิงบริสุทธิ์!” ปรมาจารย์พูดด้วยเสียงเบา และทันใดนั้นเสียงมังกรและเสียงช้างก็ดังกึกก้องขึ้นมาทันที
ร่างของอสูรกายยักษ์ค่อยๆปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับมังกรสีขาวที่บินห้อมล้อม ทั้งสองนั้นมีไฟสีขาวลุกท่วมอยู่จนดูน่ากลัวอีกด้วย
“นี่มัน...มังกรขาวงั้นเหรอ!?” เมื่อทั้งสองเห็นดังนั้น พวกเขาก็รู้สึกยำเกรงขึ้นมา แต่ในเวลานี้ พวกเขาไม่มีทางกลับไปแล้ว ดังนั้นพวกเขาจำต้องเข้าโจมตีปรมาจารย์เทียนซินอย่างบ้าคลั่งแทน
มองไปยังทั้งสองที่บุกเข้ามาโจมตีพร้อมอาวุธ ปรมาจารย์เทียนซินก็ยิ้มและกวาดมือขวาไปในอากาศ ทันใดนั้น ไม้เท้าแห่งเซนก็ปรากฏขึ้นเหมือนกับเมื่อตอนอยู่ในงานประมูลไม่มีผิด
เขาเริ่มใช้งานไม้เท้าดังกล่าว เสียงบดสวดของศาสนาพุทธก็ดังขึ้น คัมภีร์มากมายปรากฏขึ้นมาและพุ่งเข้าโจมตีทั้งสองอย่างนับไม่ถ้วน
อีกฟากหนึ่ง ทางด้านชายชราแห่งไม้เท้าก็สามารถกดคู่ต่อสู้ของเขาได้อยู่หมัดอย่างง่ายดายจนอีกฝ่ายไม่สามารถสู้ได้
ในขณะที่คุณย่ายี่โหรวนั้นไม่สามารถเผด็จคู่ต่อสู้ของเธอได้เสียที แต่กระนั้นเธอก็ยังไม่ได้แพ้
นอกจากนี้ เหล่าคนที่เข้าโจมตีหลินเฟิงและมู่หรงหลาน 1 ในนั้นคือ หลงเฉาเทียน เขานั้นคือนักสู้ระดับ S ที่ซึ่งมีสัตว์เลี้ยงเป็นมังกรเขียว เขาเข้าโจมตีหลินเฟิงอย่างดุดัน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าหลินเฟิงจะอยู่แค่ระดับ A เท่านั้น แต่มังกรแสงและหมานรกนั้นก็เข้าฟัดเหวี่ยงกับมังกรเขียวไว้ ขณะที่หลินเฟิงและต้นไม้ปีศาจนั้นก็ช่วยๆกันกักกันมังกรที่เหลือ
พวกเขาที่เหลือนั้นต้องสู้ด้วยความยากลำบาก
กรร!
มังกรดำคำรามอีกครั้ง กรงเล็บขนาดใหญ่นั้นฉีกโล่ระดับ SS ของชายที่แข็งแกร่งได้อย่างสบายๆแถมยังตบเข้าที่หน้าอกของเขาไปเต็มๆด้วย ร่างของชายหนุ่มกระเด็นลอยออกไปกระแทกเข้ากับกำแพงนับไม่ถ้วนก่อนจะล้มแผละลงไปกับพื้น รอยแผลขนาดใหญ่ทั้ง 5 บนตัวนั้นเป็นจุดที่มีเลือดไหลท่วมไม่หยุดเลย
“หยีบิน!” ในตอนนั้น ชายผู้ที่มาจากตระกูลฮวงฟูเช่นเดียวกัน เขานั้นต้องรับมือกับแม่เฒ่ายี่โหรว และเมื่อเห็นพวกพ้องโดนเล่นงาน เขาก็ตะโกนออกมาพร้อมกัดฟันแน่น
ทางด้านของตระกูลหลงที่กำลังเข้าต่อสู้กับปรมาจารย์เทียนซินเองเมื่อได้เห็นสัตว์วิญญาณของอีกฝ่ายทั้งคู่ก็ถอยออกมาก่อนจะปล่อยคลื่นระเบิดออกไปพร้อมๆกันใส่ปรมาจารย์เทียนซิน
การโจมตีประสานนี้สร้างขึ้นจากอาวุธระดับ SS ที่พวกเขาต่างถือครองอยู่ พลังนั้นมันน่ากลัวจนแม้แต่ประมาจารย์เทียนซินเองก็ไม่สามารถเมินเฉยได้
เขานั่งลงและทันใดนั้นประคำแห่งพระพุทธเจ้าทั้ง 18 ลูกก็ปรากฎขึ้นมาในทันที มันลอยไปลอยมาอยู่รอบๆเขา และในเวลาอันสั้น สายคล้องที่สร้างขึ้นมาจากพลังเวทย์ก็ร้อยนำลูกประคำทั้ง 18 ลูกนั้นไว้ให้เป็นเหมือนสร้อย
และในตอนที่พวกมันร้อยกันเสร็จแล้ว สิ่งที่เปรียบเสมือนเชือกที่ใช้ร้อยก็เปล่งแสงสีทองออกมาจนเห็นได้ชัด ร่างของพระพุทธเจ้าผู้อยู่เหนือทุกสิ่งอย่างก็ปรากฎขึ้นมาในระหว่างที่ตัวปรมาจารย์เทียนซินยังคงนั่งอยู่บนพื้นและสวดอะไรบางอย่างอยู่ ในตอนนี้เขานั้นราวกับเป็น บงการแห่งสวรรค์ไปแล้ว
ในจังหวะต่อมา ร่างของพระพุทธเจ้าและปรมาจารย์เทียนซินก็รวมเข้าด้วยกัน ทำให้ตัวของเทียนซินนั้นเปล่งประกายแสงราวกับเป็นพระพุทธเจ้าที่ยังคงมีชีวิตอยู่
ยามที่เขาโบกมือ การโจมตีทุกสิ่งอย่างที่พุ่งเข้ามาก็หยุดลงก่อนจะวกกลับไปหาต้นทางจนทำให้พวกเขากระอักเลือดไปตามๆกัน
“อั่ก! ข-แข็งแกร่งยิ่งนัก” ทั้งสองพูดขณะที่กำลังกระเด็นและตกลงไปบนพื้นพร้อมกับไอเป็นเลือดไม่หยุด
กรร!
ในตอนนั้น มังกรดำคำรามพร้อมกับปล่อยลำแสงสีดำออกมาอีกรอบ และนั่นมันทำให้ชายผู้มาจากตระกูลฮวงฟูที่ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ของมังกรดำนั้นถูกแผดเผาจนกลายเป็นขี้เถ้าไปในที่สุด จากนั้นแสงสีดำแสนน่ากลัวนั้นก็ค่อยๆจางหายไป
ร่างของอะไรบางอย่างบินออกมาจากร่างที่กลายเป็นขี้เถ้า และนั่นคือกิ้งก่าขนาดใหญ่ที่ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงของเขาเอง เพราะคู่ต่อสู้นั้นเป็นราชาทมิฬที่คืนชีพขึ้นมา ดังนั้นแล้วตัวเขาเองจึงไม่สามารถเปิดโอกาสที่จะเรียกสัตว์เลี้ยงตนนี้ออกมาได้เนื่องจากอีกฝ่ายกำลังเยอะกว่า
และเมื่อเขาตาย สัตว์เลี้ยงของเขาเองก็ตายไปด้วย มันอ่อนเพลียและตกลงมาบนพื้น
“หยีบิน!”
เห็นดังนั้น ชายที่แข็งแกร่งของตระกูลฮวงฟูอีกคนหนึ่งก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ ใบหน้าของเขาเปี่ยมไปด้วยความโกรธ โกรธจนเลือดตาแทบกระเด็นออกมา นั่นก็เพราะความโศกเศร้าที่ต้องเห็นเพื่อร่วมทีมที่แข็งแกร่งระดับ SS ไปต่อหน้าต่อตา
ยิ่งไปกว่านั้น คนๆนั้นก็คือน้องชายของเขา พวกเขาทั้งสองนั้นอยู่ด้วยกันจนเกิดความผูกพันธ์แน่นแฟ้น แต่ในตอนนี้ พวกเขาก็ต้องมาแยกจากกันแบบที่ฝ่ายหนึ่งไม่มีวันหวนคืน
สถานการณ์ในตอนนี้นั้นทำให้เหล่าคนระดับ SS ของตระกูลหลงรีบรวมตัวกันก่อนที่ 1 ในพวกเขาจะพูดขึ้น “พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกนี้เลย ไปกันก่อนดีกว่า!”
จากนั้นคนจากตระกูลหลงก็เริ่มถอยกลับโดย 1 ในนั้นก็ไปแบกเอาหลงเฉาเทียนให้กลับไปด้วย
“ฮวงฟูหยีฉาง ถ้านายเองก็ยังไม่อยากตายก็รีบถอยกลับเร็ว!” คนจากตระกูลหลงเตือนก่อนจะจากไปอย่างรวดเร็ว
“บ้าเอ้ย! ฝากไว้ก่อนเถอะพวกเแก! กลับ!” หลังจากนั้นพวกคนจากตระกูลฮวงฟูทั้งหมดก็รีบถอยกลับทันที
“ฟู่~ ในที่สุดพวกนั้นก็กลับไปซักที!” เมื่อหลินเฟิงเห็นว่าพวกนั้นกลับไปแล้ว เขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก
กรร!
แต่กระนั้น จู่ๆมังกรดำก็รับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง และมันกำลังตกลงมาจากท้องฟ้า
“ออกไปจากที่นี่!” มังกรดำคำรามพร้อมกับฟาดหางไปกลางอากาศด้วย
0 ความคิดเห็น