RC:บทที่ 274 ของทั้ง 3 ชิ้น

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

RC:บทที่ 274 ของทั้ง 3 ชิ้น


 


หลินเฟิงเดินเข้าไปกับมู่หรงหลาน ในตอนแรก เขานึกว่าพวกเขาจะต้องเดินตามคิวเข้าไปเพื่อจ่ายค่าเข้าแต่มู่หรงหลานนั้นกลับพาพวกเขาเข้าไปยังทางเข้าด้านอื่นแทน 


 


เธอยื่นโทเคนนั้นออกไปโดยที่หลินเฟิงเองก็ไม่รู้ว่าโทเคนนั้นคืออะไร การกระทำของเธอมันรวดเร็วมาก และนั่นทำให้เธอไม่ต้องใช้หินวิญญาณอะไรเลย 


 


“เข้าไปได้เลยเหรอ?” หลินเฟิงมองพนักงานจากนั้นก็มองไปยังมู่หรงหลาน เขาไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้ 


 


“ตัวตนของท่านหญิงมู่หรงหลานน่ะ ไม่ต้องจ่ายหินวิญญาณหรอก!” หวังฮ่าวหมิงขยิบตาให้หลินเฟิงและพูด 


 


“ทำไมล่ะ?” หลินเฟิงยังคงไม่เข้าใจ ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่ามู่หรงหลานนั้นมาจากตระกูลใหญ่ก็จริงแต่มันไม่มีเหตุผลเลยที่เธอจะไม่ต้องจ่ายค่าเข้าด้วยหินวิญญานแบบนี้ 


 


“กลับไปแล้วจะบอกนะ” หวังฮ่าวหมิงกระซิบ


 


“โอ้!” เมื่อเห็นว่าหวังฮ่าวหมิงไม่ตอบ หลินเฟิงก็ไม่ได้ถามต่อก่อนที่พวกเขาจะรีบๆเดินเข้าไปภายในหอประมูลนั้น 


 


ไม่นานนักหลังจากที่พวกเขาเข้ามาภายในหอประมูลแล้ว ด้วยขนาดของที่นี่ มันสามารถจุคนได้กว่าหมื่นคนเลย หนำซ้ำที่นี่ยังแบ่งออกเป็น 3 ขั้นด้วย ยิ่งชั้นสูงขึ้นราคาของสินค้าก็จะยิ่งแพงขึ้นไปเรื่อยๆ 


 


ในชั้นแรกนั้นจะจุคนได้ราวๆหนึ่งหมื่นคน ที่นั่งภายในนี้นั้นฟรี ใครมาก่อนได้ก่อน ส่วนของชั้นที่ 2 จะมีห้องส่วนตัวอยู่ 100 ห้อง และภายในแต่ละห้องนั้นต้องใช้หินวิญญาณกว่า 10000 ก้อนทั้งนั้น ในชั้นที่ 3 คือชั้นที่แพงที่สุด ของแต่ละอย่างนั้นมีราคาสูงกว่า 50000 หินวิญญาณทั้งหมด 


 


เดินไปตามทาง มู่หรงหลานนั้นกำลังเดินตรงไปยังด้านหน้าเรื่อยๆ โดยที่มีหลินเฟิงและพรรคพวกเดินตามหลังไปติดๆ หลินเฟิงนั้นคิดว่าพวกเขาควรจะหาที่นั่งรอที่ด้านล่างนี้เพื่อที่จะรอให้การประมูลเริ่มขึ้น 


 


แต่มู่หรงหลานนั้นพาพวกเขาขึ้นไปยังชั้น 2 เลย ที่ๆซึ่งเหมือนจะเป็นส่วนกลางที่เราสามารถมองเห็นทุกๆสิ่งที่อยู่ด้านล่างได้อย่างชัดเจนรวมถึงโต๊ะประมูลด้วย


 


พวกเขาดูเหมือนจะมาเร็วเกินไป เพราะแม้แต่คนที่ชั้น 1 เองก็ยังมีแค่ 1 ใน 3 ของที่นั่งทั้งหมดเท่านั้น และพวกที่อยู่ชั้นสูงๆขึ้นมาก็ยิ่งน้อยลงไปอีก พวกเขาเห็นคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น 


 


หลังจากที่ขึ้นมาแล้ว มู่หรงหลานก็พาหลินเฟิงและพวกหวังฮ่าวหมิงไปยังห้องส่วนตัวที่ซึ่งมีชาและผลไม้ถูกเสิร์ฟไว้อยู่แล้ว โดยไม่ต้องพูดอะไร ทั้งสามก็หยิบเอาของพวกนั้นมากินในทันที 


 


“หลินเฟิง ช่วงนี้นายทำอะไรอยู่? ไม่เจอกันพักเดียวเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ” ขณะที่หลายๆคนกำลังนั่งรอด้วยความเบื่อหน่าย มู่หรงหลานก็เอ่ยถามขึ้นมา 


 


“เผอิญโชคดีก็เลยเจอแต่วันดีๆน่ะ แล้วเธอล่ะ?” หลินเฟิงถามกลับเรื่อยเปื่อย 


 


“ก็ดี แล้วนายกับหว่านเอ๋อเป็นยังไงกันบ้าง? ทำไมฉันไม่เห็นนายมากับเธอซะงั้น?” มู่หรงหลานถามอีกครั้ง


 


“เอ่อ ก็...” ครั้งนี้หลินเฟิงชะงักไป และเขาไม่รู้จะตอบเธอไปแบบไหนดี 


 


นั่นเพราะว่าซูหว่อนเอ๋อและเขานั้นไม่ได้เจอกันมานานมากๆแล้ว และหลินเฟิงก็คิดถึงเธอมากๆมาโดยตลอด เขาโทรหาเธอหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่ได้เจอกันอยู่ดี หลังจากกาลเวลามันข้ามผ่านมานาน ความฝังใจต่างๆมันก็ค่อยๆจืดจางลงไป 


 


ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้หลินเฟิงเองก็มีแฟนใหม่อย่างมู่ซินซินแล้ว เขาเองก็ไม่ได้อยากจะทำให้มู่ซินซินกังวลด้วยเพราะงั้นจึงไม่ได้พูดถึงซู่หว่านเอ๋ออีก 


 


ในตอนนี้พอมู่หรงหลานเอ่ยถามขึ้นมา ความทรงจำต่างๆที่เคยเป็นฝุ่นไปแล้วก็กลับมาก่อตัวขึ้นใหม่อีกครั้ง หลินเฟิงนั้นช็อกไปครู่ใหญ่เลย 


 


“เกิดอะไรขึ้นหรือไง?” มู่หรงหลานเมื่อเห็นหลินเฟิงนิ่งไปทั้งตัวเธอก็ประหลาดใจ 


 


“ประกาศ การประมูลจะเริ่มในอีก 1 ชั่วโมง และงานแสดงสินค้าเองก็จะเริ่มในอีก 1 ชั่วโมงเช่นกัน ขอให้ท่านที่สนใจจะเข้าร่วม เข้ามารวมตัวกันที่หอประมูลตามเวลาที่กำหนดด้วย! นอกจากนั้น แขกท่านไหนที่ต้องการนำสิ่งของมาประมูล ช่วยนำสิ่งของของท่านมาส่งที่ห้องตรวจสอบสิ่งของให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเราจะเลือกของจากในห้องนั้นมาเพียง 20 ชิ้นเท่านั้นสำหรับการประมูล”


 


ขณะที่มู่หรงหลานถามอยู่นั้น เสียงประกาศจากลำโพงก็ดังขึ้น


 


“โอ้ ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่นึกได้ว่ามีอะไรที่อยากจะเอามาประมูลน่ะ ถ้ายังไงจะเอามันไปประเมินราคาก่อนแล้วกันนะ!” หลินเฟิงไม่รู้ว่าจะตอบสนองมู่หรงหลานยังไง แต่เมื่อได้ยินเสียงประกาศนั้น เขาก็เอ่ยขอตัวและรีบออกมาจากจุดนั้นก่อนเลย 


 


“ฟู่!” หลังจากที่ออกมาได้แล้ว หลินเฟิงก็พักหายใจเฮือกใหญ่


 


“ถ้าหว่านเอ๋อกับซินซินโผล่มาพร้อมๆกัน ฉันจะทำยังไงดีนะ...แล้วจะมองหน้ากันติดหรือเปล่า...” หลินเฟิงครุ่นคิดถึงปัญหานั้นในทันทีที่พักหายใจแล้ว


 


“อ๊าาา ลืมมันไปก่อนดีกว่า ค่อยเป็นค่อยไป หว่านเอ๋อเองก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ไหน เธอไม่สนใจอะไรเลย!” คิดได้ดังนั้นหลินเฟิงก็เดินไปยังห้องตรวจสอบและประเมินราคาทันที


 


ในเวลาไม่นาน หลินเฟิงก็ไปถึงห้องตรวจสอบที่ที่ซึ่งมีคนมากมายกำลังยืนเข้าแถวรอกันอยู่ พวกเขามาพร้อมกับบางสิ่งบางอย่างที่เขาอยากจะประมูลมัน 


 


ของแต่ละอย่างที่อยู่ในมือพวกเขานั้นทั้งแปลกและระบุได้ไม่ชัดว่าคืออะไรกันบ้าง 


 


“คนเยอะจังแฮะ ของดีๆพวกนี้ อีก 1 ชั่วโมงก็จะถูกนำไปประมูลสินะ!” หลินเฟิงกระซิบกับตัวเองขณะยืนอยู่ด้านหลังสุดของแถว 


 


อย่างไรก็ตาม พักใหญ่ๆต่อมา หลินเฟิงก็พบว่ากระบวนการตรวจสอบสิ่งของนั้นเร็วกว่าที่เขาคาดไว้มากๆ นั่นเพราะว่ากระบวนการนี้ถูกแบ่งออกไปเป็น 3 ส่วน


 


มีคนอยู่ 3 กลุ่มที่จะคอยตรวจสอบสิ่งของเหล่านี้ กลุ่มแรกนั้นมีมากที่สุดคือ 10 คน อยู่ด้านนอก จากนั้นก็ 3 อยู่ตรงกลาง และ 1 คนอยู่ด้านในสุด 


 


ในกรณีนี้ เพียงแค่ 2 กลุ่มก็พอจะตรวจสอบได้แล้วว่าอะไรบ้างที่สามารถส่งเข้าประมูลได้ 


 


90% ของคนที่มาต่อแถวกันอยู่นี้ถูกกำจัดออกไปตั้งแต่การตรวจสอบโดยกลุ่มแรก ที่เหลือก็จะถูกกำจัดออกไปโดยกลุ่มที่ 2 และท้ายสุดก็จะไปอยู่ในมือของคนๆเดียวที่อยู่ด้านในสุด 


 


สิ่งที่หลินเฟิงนำมาประมูลนั้นมี 3 อย่าง อย่างแรกก็คือเกราะสงคราม สิ่งนี้มันต่างจากเกราะที่เขานำมันไปแลกด้วยหินวิญญาณ เพราะระดับมันสูงกว่ามากๆ ราวๆ 2 ระดับ แต่เท่านี้ก็มากพอที่จะสร้างความแตกต่างอย่างมากในแง่ของมูลค่าและการใช้งานแล้ว


 


ชิ้นที่ 2 นั้นเป็นผลไม้วิญญาณ ที่ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในด้านศิลปะการต่อสู้


 


สิ่งที่ 3 คือนัยน์ตาทมิฬ เขารู้ว่าของสิ่งนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ และถ้ามันยังอยู่กับเขาเหมือนกับตอนจิตวิญญาณแห่งไฟ มันคงจะไม่ปลอดภัยสำหรับเขานัก เพราะงั้นทางที่ดีที่สุดคือนำมันมาประมูลเนี่ยแหละ


 


ไม่นานนักก็ถึงเวลาของหลินเฟิง ทุกๆอย่างนั้นผ่านการตรวจสอบขั้นที่ 1 และ 2 ได้อย่างง่ายดาย และแน่นอนว่ามันอยู่ในการคาดการณ์ของหลินเฟิงอยู่แล้ว 


 


เพียงเวลาสั้นๆ หลินเฟิงก็เข้าสู่การตรวจสอบขั้นสุดท้าย ที่แห่งนั้น มีชายชราที่มีเครายาวสีขาวยืนอยู่ ดวงตาของเขานั้นมีแสงสว่างจ้าไปทั้งดวง มันให้ความรู้สึกว่าเขานั้นเป็นคนเฉลียวฉลาดแทนที่จะรู้สึกงุนงง 


 


“ท่านผู้อาวุโส นี่เป็นสิ่งของ 3 สิ่งที่ฉันต้องการจะนำมาประมูล!” หลินเฟิงยื่นสิ่งเหล่านั้นไปให้ชายชราตรงหน้า 


 


“สามเลยงั้นหรือ?” ชายชราตกใจในทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น นั่นเพราะว่าคนธรรมดาทั่วๆไป มีของชิ้นเดียวมาถึงเขาได้ก็นับว่ามากแล้ว ไม่คิดเลยว่าหลินเฟิงจะนำมาได้ถึง 3 ชิ้น 


 


เขาเลือกหยิบเอาผลไม้วิญญาณขึ้นมาเป็นชิ้นแรกและมองไปยังสิ่งนั้น จากนั้นก็ค่อยๆใช้เข็มแหลมแทงไปที่ผลไม้จิตวิญญาณ และใช้เข็มนั้นแตะปากตัวเองไปเพื่อลิ้มรสชาติซ้ำแล้วซ้ำอีก และทันใดนั้นร่างกายของเขาก็สั่นเทาขึ้นมาก่อนจะพูด “ผลไม้นี้ช่วยเพิ่มพลังวิญญาณงั้นหรือ!?”


 


“ใช่เลยท่านผู้อาวุโส มันดีมากๆเลยนะ!” หลินเฟิงพยักหน้า 


 


“ดี ประมูล!” ชายชราพูดหลังจากเงียบมาครู่หนึ่ง จากนั้นก็มองไปยังเกราะที่อยู่ในมือของหลินเฟิง 


 


“เกราะนี่ ดูใหม่มากๆ ดูเหมือนว่ามันเพิ่งจะสร้างขึ้นมาเลย...”


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น