RC:บทที่ 270 ดวงตาสีดำ
ตัดเอาตะเกียงออกมา นักตัดหินสาวที่เป็นคนตัดมันออกมาเองกับมือก็ประหลาดใจ
“ปรมาจารย์ ขอความกรุณาด้วยค่ะ!” หญิงสาวส่งเจ้าสิ่งนี้ให้ชายวัยกลางคนอีกครั้ง
หลังจากที่รับตะเกียงนี่มาแล้ว ผู้เป็นปรมาจารย์ก็ค่อยๆใส่พลังปราณลงไปภายในตะเกียงนั้น และทันใดนั้น ไส้ตะเกียงก็เกิดไฟลุกท่วมขึ้นมา สายลมรอบๆตัวนั้นแปลสภาพเหมือนอสรพิษที่ตัวเป็นไฟและบินอยู่รอบๆ
เขามองปรมาจารย์คนนั้นควบคุมไฟที่เหมือนกับงูตัวใหญ่ก่อนจะปัดให้มันไปอยู่บนโต๊ะไม้ข้างๆ และทันใดนั้นมันก็กลายเป็นขี้เถ้าไป
“เป็นตะเกียงที่แข็งแกร่งอะไรขนาดนี้นะ!” หลินเฟิงมองไปยังฉากตรงหน้าและขยี้ตาด้วยความไม่เชื่อในสายตาตัวเอง
โต๊ะไม้นั้นไม่ได้ถูกเผาแม้แต่นิด แต่ทันทีที่โดนไฟจากตะเกียงมันก็กลายเป็นฝุ่นขี้เถ้าในทันที เห็นได้ชัดเลยว่าไฟนี่มันน่ากลัวขนาดไหน
“ตะเกียงนี่ไม่เคยดับมาตลอด 10000 ปีที่ผ่านมา และเมื่อมันโดนใส่พลังปราณเข้าไป ไฟที่อยู่ภายในนี้ก็จะถูกควบคุมเพื่อใช้ในการต่อสู้ได้ นี่คือระดับ SS มูลค่าของมันอยู่ที่ 180000 หินวิญญาณ!” ชายวัยกลางคนพูด
ทุกคนต่างก็เห็นด้วยกับราคาที่ชายคนนั้นเสนอให้ เพราะพวกเขารู้สึกได้ว่าค่าของตะเกียงนี้มันสูงกว่าโล่ก่อนหน้าเสียอีก
“หา? ยังแพงกว่าฉันอีกตั้ง 30000 เหรอเนี่ย! น่าขยะแขยงชะมัด!”
เมื่อชายที่สวมหน้ากากมังกรสีเขียวได้ยินเรื่องนี้ เขาก็โกรธขึ้นมาเลย เขาคิดว่าราคา 150000 นั้นสูงเอาเสียมากๆ แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าเจ้าหน้ากากแพนด้านี่จะทำได้สูงกว่าเขาเสียอีก!
“เอาล่ะ ถึงตาฉันแล้ว!” ในตอนนี้หญิงสาวที่สวมหน้ากากสุนัขจิ้งจอกก้าวขึ้นไปด้านหน้าและส่งหินของเธอให้คนตัดหิน
พอหลินเฟิงได้มองตาม เขาก็พบว่าหินของจิ้งจอกสาวนั้นเล็กเอาเสียมากๆ เล็กกว่าของเขาสียอีก และมันมีขนาดเพียง 1 ใน 3 ของสองคนก่อนหน้าเท่านั้น แถมยังถูกที่สุดในบรรดาหิน 4 ก้อนด้วย แต่ราคากลับสูงกว่า 30000 หินวิญญาณซะงั้น
หลินเฟิงอยากรู้ว่าทำไมเธอคนนั้นถึงตัดสินใจเลือกหินก้อนนั้น ดังนั้นเขาจึงเปิดระบบตรวจสอบและวิเคราะห์หินก้อนดังกล่าว แต่ตัวเขาเองก็ไม่สามารถเลือกหินก้อนนั้นได้ เหมือนกับว่าบางสิ่งบางอย่างมันเบนการล็อกเป้าของฟังก์ชั่นของเขา
นี่ยิ่งทำให้หลินเฟิงอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นมาอีก เพราะเขาไม่เคยเจอสิ่งใดก็ตามที่สามารถหลีกหนีระบบสแกนนี่ได้เลย
และในตอนนี้ หลินเฟิงรู้สึกได้ว่าระบบเกลียวคลื่นน้ำวนสีดำในโทรศัพท์มือถือของเขานั้นมันหมุนเร็วขึ้นกว่าเดิม เร็วระดับที่เขาไม่สามารถหยุดการสั่นได้ รู้สึกเหมือนว่ามันกำลังโกรธอยู่เลย
“ก-เกิดอะไรขึ้นน่ะ?” เขามึนงง เพราะมันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
ขณะที่หลินเฟิงกำลังมึนงงเกี่ยวกับสิ่งนี้ คนตัดหินสาวสวยก็เริ่มลงมือตัดหินแล้ว และด้วยความที่หินก้อนนี้นั้นมันเล็กมาก ดังนั้นจึงใช้เวลาตัดไม่นาน
แต่เมื่อเธอลงมีดครั้งแรก มันก็ยังไม่เจออะไร เธออดไม่ได้ที่จะมองหน้าเจ้าของหินเหมือนถามว่าจะเอายังไงต่อ
“ตัดต่อไป” หญิงสาวในหน้ากากจิ้งจอกพูดแบบไม่รู้สึกอะไร ไม่มีความลังเล และใจเย็นมากๆ
เมื่อเห็นดังนั้น หญิงสาวนักตัดก็ลงมือตัดต่อไปโดยไม่ได้พูดอะไร เธอตัดมันจนเหลือประมาณไข่ก็ยังไม่มีอะไรออกมา
“ตัดต่อไปอีก!” ดูเหมือนว่าจิ้งจอกสาวจะมั่นใจมากๆว่ามันมีอะไรอยู่ด้านใน เพราะเห็นได้จากอารมณ์ของเธอที่ดูจะคาดหวังในมันเอาเสียมากๆ
ท้ายสุดแล้วภายใต้คำสั่งที่น่าเกรงขามของจิ้งจอกสาว นักตัดสาวก็ต้องลงมือตัดต่อไปทีละนิดๆ จนกระทั่งเจออะไรบางอย่าง
มันดูเหมือนเป็นสิ่งที่ดูดำสนิท พอมองไกลๆมันเหมือนจะเป็นไข่มุกสีดำที่ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร
ตัวหลินเฟิงนั้นไม่ได้อยู่ไกลนัก ยิ่งได้มองเจ้าไข่มุกสีดำนั่น เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าเกลียวคลื่นน้ำวนสีดำของเขามันก็สั่นแรงขึ้นเรื่อยๆ มันดูจะโกรธและเกลียดเจ้าไข่มุกสีดำนี่มากๆเลย
“ไอ้เจ้านั่นมันคืออะไรกันแน่นะ ไอ้สิ่งที่ทำให้เกลียวคลื่นน้ำวนสีดำอยู่ในสภาพนี้ได้!” หลินเฟิงเข้าไปดูช้าๆ เขาอยากจะสังเกตมันให้ได้มากกว่านี้
“อ๊า!”
ทันใดนั้น หญิงสาวนักตัดก็ตะโกนขึ้นมาพร้อมโยนไข่มุกสีดำนั้นลงไปบนพื้น เสียงร้องตะโกนนั้นทำให้ทุกๆคนหันมามองที่เธอ และเมื่อทุกคนมองมาแล้ว พวกเขาก็พบว่าไข่มุกนั้น กำลังกระพริบเหมือนเป็นดวงตาอยู่
ไม่ใช่เหมือน แต่มันคือดวงตาเลย! มันมืดมากๆ และตอนนี้มันกำลังปล่อยควันสีดำออกมาทีละนิด ดวงตานั้นยังคงกลิ้งไปมองและมองคนอื่นๆอยู่ต่อไป ช่างน่ากลัวยิ่งนัก
ยามเมื่อเหล่าฝูงคนไม่ได้ตอบสนองอะไร มันก็ลอยขึ้นและบินหายไป
“มันจะไปไหนน่ะ!”
ในตอนนี้คนที่แสดงท่าทีออกมาเป็นคนแรกก็คือ ปรมาจารย์แห่งการประเมิน ทันทีที่เขายื่นมือออกไป มือขนาดใหญ่ซึ่งเกิดจากพลังปราณก็พุ่งเข้าไปและยึดดวงตาสีดำนั้นไว้แน่นก่อนจะเก็บมันกลับมา
เขามองเห็นดวงตาสีดำนั้นพยายามดิ้นรนอยู่ในมือขนาดใหญ่ ดูมันเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ จากนั้นก็เห็นว่าดวงตานั้นปิดลงก่อนจะลืมขึ้นใหม่ และทันใดนั้นแสงสีดำก็พุ่งตรงเข้าไปยังดวงตาของปรมาจารย์คนนั้นทันที!
*ฟุ่บ!*
ในทันทีทันใด ผู้เชี่ยวชาญก็สำลักเลือดออกมาในทันที และค่อยๆคลายมือที่จับลูกตาสีดำนั้นออกไป
“มันคืออะไรกันแน่น่ะ!? แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!” หลินเฟิงรู้สึกถึงแสงสีดำนั้น และมันดูน่ากลัวมากๆ เขารู้ตัวว่าตัวเขาเองไม่ใช่คู่มือให้กับตาสีดำนั่นได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าไปยุ่ง
และถ้าคุณสามารถแกะหน้ากากจิ้งจอกของหญิงสาวออกได้ในตอนนี้ บางทีคุณอาจจะได้เห็นว่าเธอนั้นกำลังแสยะยิ้มอยู่ภายใต้หน้ากากก็ได้
“ฮึ่ม!” ทุกๆอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากๆ ในตอนนั้นทุกคนต่างมีเสียงที่แสดงออกถึงความกังวลดังขึ้นมาในใจอย่างหนักหน่วง และพวกเขาทุกคนที่กำลังบ่น ต่างพากันถอยออกทีละก้าวสองก้าว
มือขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในอากาศอีกครั้ง ก่อนที่มันจะเข้าจับเจ้าลูกตาสีดำนั่นตรงๆจนทำให้แสงสีดำนั้นหรี่ลงไป จากนั้นลูกตาสีดำก็โดนโยนกลับมาหาตัวปรมาจารย์อีกครั้ง
“คนแข็งแกร่งคนนั้นคือคนที่คอยดูแลที่นี่งั้นเหรอ!? ความแข็งแกร่งนี่ ขั้นต่ำก็ต้องระดับ SS เลยนะ! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมไม่มีใครกล้าก่อปัญหาที่นี่!” หลินเฟิงรู้สึกอัศจรรย์ใจ
“ท่านปรมาจารย์ จะให้ค่าของนัยน์ตาศิลาจากหินโบราณของฉันเท่าไหร่ดีล่ะ?” จิ้งจอกสาวเดินตรงหข้ามาและถามด้วยรอยยิ้มที่ซึ่งไม่มีใครมองเห็นได้
“200000!” ก่อนที่ปรมารจารย์แห่งการประเมินจะได้พูด เสียงก็ดังเข้ามาผ่านอากาศ ชัดเจนเลยว่ามาจากคนที่แข็งแกร่งคนนั้นที่เพิ่งจัดการเจ้าลูกตาไป
ได้ยินคำกล่าวเปิด ปรมาจารย์แห่งการประเมินก็เลิกพูดแล้วมองไปเงียบๆ
“โอเค ขอบคุณมากๆค่ะท่าน ถ้ายังไงช่วยส่งคือมันมาให้ฉันได้หรือเปล่า?” จิ้งจิกสาวยื่นมือไปยังปรมาจารย์แห่งการประเมินก่อนจะพูด
“นี่...” ปรมาจารย์แห่งการประเมินนั้นลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะมองไปหาคนช่วย
“ให้เธอไป กฏต้องเป็นกฏ ห้ามแหก!” ชายที่แข็งแกร่งไม่ได้พูดอะไรมาก แต่ทุกๆคำนั้นกระแทกเข้าไปในใจเต็มๆ
“ครับ นายท่าน!” ท้ายสุดแล้วปรมาจารย์แห่งการประเมินราคาก็ส่งตาสีดำกลับไปให้จิ้งจอกสาวตามเดิม
“ดี ตอนนี้ดูเหมือนว่าหินของฉันจะมีค่าสูงที่สุดเลยนะ เพราะงั้นฉันจะเอาอะไรจากพวกนายดีนะ” จิ้งจอกสาวหันมาพูดกับชายสองคนก่อนหน้าเธอ
“หืม? จะรีบไปไหนน่ะ? ไม่ใช่ว่ามีอีกคนที่ยังไม่ได้ตัดหินหรือไง? บางทีเธออาจจะไม่ใช่คนที่ได้ของมูลค่าเยอะที่สุดก็ได้นะ!” ชายผู้สวมหน้ากากมังกรสีเขียวเอ่ยขึ้น
“ใช่แล้วๆ ฉันยังไม่ได้ชมการตัดหินของฉันเลย เธอจะรีบไปไหน?” ในตอนนี้หลินเฟิงนั้นค่อยๆเดินลงมาและส่งหินของเขาให้กับนักตัดสาว
“ฮ่าๆๆ โอเค งั้นไปตัดมาก่อน! ยังไงก็ตาม ไม่มีใครเชื่อหรอกนะว่านายจะตัดแล้วได้ของที่มูลค่ามากกว่า 200000 หินวิญญาณน่ะ! แล้วว่าแต่ เสียงของนายนี่คุ้นหูฉันจังเลยนะ? น้องชาย พวกเราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า?”
เธอมองหลินเฟิงผ่านหน้ากาก เสน่ห์ในดวงตาของเธอนั้นทำเอาเขาหลงได้ไม่ยากเลย
“ฟู่! ผู้หญิงคนนี้ยังกับปีศาจเลยแฮะ เธอเกือบจะปั่นประสาทฉันได้เพียงแค่มองด้วยซ้ำ! แต่ดูเหมือนพวกเราคงจะเคยเจอกันมาก่อนจริงๆแฮะ!” หลินเฟิงหันหน้าออกจากเธอและคิดอย่างใจเย็น
“มันถูกตัดเสร็จแล้ว ดูสิ มันคืออะไรน่ะ?”
0 ความคิดเห็น